px

เรื่อง : ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ
ตอนที่ 5 เจ้าหญิงโกรธ


ตอนที่ 5 เจ้าหญิงโกรธ

 


ในขณะที่การเรียนการสอนดำเนินต่อไปนักเรียนบางคนยังคงไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก บางคนนอนหลับรวมทั้ง อาคาบาเนะ

 

“.....ความสำคัญของ คาถาแปลงร่าง ไม่ใช่แค่การสอดแนมและพรางตัวเท่านั้น แต่ยังช่วยในการต่อสู้อีกด้วย...”

 

“ ตัวอย่างเช่นการแปลงร่างเป็นสัตว์เพื่อต่อสู้กับศัตรู คาถานี้ตระกูลอินุซึกะมีความโดดเด่นที่สุด”

 

“ นอกจากนี้ยังมี คาถาเงาแยกร่าง, คาถาเปลี่ยนตัว..…”

 

ฮิรุเซ็น คอยอธิบายเกี่ยวกับวิชานินจาขั้นพื้นฐานให้ลูกศิษย์ฟัง

 

“ ว้าวนี่น่าสนใจจริงๆ ในที่สุด ครูฮิรุเซ็น ก็ยอมอธิบายเกี่ยวกับคาถานินจาขั้นพื้นฐานให้พวกเราฟัง เจ๋งสุดๆ!”

 

จิไรยะ ตั้งใจฟังมาก

 

โดยปกติเขาไม่อยากฟังทฤษฎีเพราะเขาฟังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้เรียนรู้คาถานินจาขั้นพื้นฐานเพื่อใช้ในการต่อสู้จริงในสงคราม

 

“ ไม่!! มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”

 

โอโรจิมารุ ขมวดคิ้วอย่างสับสน

 

สิ่งที่ ฮิรุเซ็น พูดอธิบายไม่เกี่ยวกับคลาสที่พวกเขาต้องเรียนเลยสักนิดเพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาระดับยังไม่ถึงเกะนินด้วยซ้ำ และคาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 นั้นก็ลึกล้ำเกินไป

 

พูดง่ายๆก็คือคาถานินจาที่ ฮิรุเซ็น พูดถึงแม้แต่ จูนิน ก็ยังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการควบคุม

 

“เข้าใจแล้ว นี่คือภาพลวงตา! มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่!”

 

สีหน้าของ โอโรจิมารุ เปลี่ยนไปสายตาของเขากวาดไปรอบ ๆ และในที่สุดเขาก็จับจ้องไปที่ อาคาบาเนะ ด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

“ฝีมือ อาคาบาเนะคุง อย่างงั้นเหรอ?”

 

โอโรจิมารุ ขมวดคิ้วพร้อมกับแปลกใจเล็กน้อย

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือภาพลวงตาอย่างแน่นอน

 

"ดังนั้นตลอดเวลาที่ ครูฮิรุเซ็น สอนและอธิบายกับพวกเราเป็นคำพูดของ อาคาบาเนะคุง ทั้งหมด!

 

“ภาพลวงตาส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคนได้อย่างไร? แม้ว่าเขาจะเรียนรู้มาจากผู้ใช้คาถาลวงตาที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถ .. ”

 

โอโรจิมารุ ยิ่งคิดยิ่งตกใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

การที่ อาคาบาเนะ สามารถอธิบายคาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 ได้อย่างชัดเจนมันก็แสดงว่าเขามีความเชี่ยวชาญในคาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 อยู่แล้ว

 

โอโรจิมารุ ซึ่งเคยรู้สึกภาคภูมิใจตัวเองมาโดยตลอดเริ่มมองและประเมิน อาคาบาเนะ ใหม่ด้วยความอิจฉา ตั้งแต่เขาเข้าเรียนก็เป็นนักเรียนอัจฉริยะมาโดยตลอด มันทำให้เขารู้สึกรำคาญเมื่อมีคนที่ดีกว่าเขา

 

แต่ในไม่ช้าเขาก็เริ่มฟังอย่างตั้งใจ

 

หลังจากนั้นไม่นาน ชิกาโตะ ก็ตื่นขึ้นมาและมองไปรอบๆ 

 

เขาเห็น ซึนาเดะ ตั้งใจเรียนอย่างจริงจังซึ่งผิดปกติวิสัยของเธอ

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วเขาก็เข้าใจในทันทีว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขาน่าจะตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตา

 

“ อาคาบาเนะ นายใช้ภาพลวงตาหรือเปล่า”

 

“ซู่วว! อย่าเสียงดังไป ฉันใช้มันเพื่อช่วยให้ ซึนาเดะ และคนอื่นๆเข้าใจคาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 ให้เร็วขึ้นก็เท่านั้น”

 

อาคาบาเนะ พูดอธิบาย

 

เขาใช้ภาพลวงตากับเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดและคนที่ถูกภาพลวงตาจะเห็น ฮิรุเซ็น อธิบายเกี่ยวกับคาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ฮิรุเซ็น ได้สอนเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 นี้เลย

 

อย่างไรก็ตาม ชิกาโตะ ไม่ได้รับผลกระทบจากภาพลวงตาของเขาซึ่งเกินความคาดหมาย

 

อาคาบาเนะ คิดว่าอาจเป็นเพราะ ชิกาโตะ หลับไปก่อนที่เขาจะใช้ภาพลวงตา

 

ฮิรุเซ็น ในมุมมองของนักเรียนที่ติดอยู่ในภาพลวงตา ยังคงบรรยายต่อไป แต่เนื้อหามีความกว้างมากขึ้น

 

เป็นการยากที่จะสอนทุกอย่างให้กับนักเรียนในคราวเดียว

 

อาคาบาเนะ กำลังจะนอนต่อแต่ทันใดนั้น โอโรจิมารุ ก็พูดขึ้น

 

“ขอบคุณนะ อาคาบาเนะคุง”

 

ดวงตาของเขาเบิกโพลงราวกับว่าตื่นขึ้นจากการหลับใหลประโยคแรกของการตื่นขึ้นคือคำขอบคุณ

 

อาคาบาเนะ ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วตอบด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องเล็กน้อย อย่าได้ใส่ใจ”

 

โอโรจิมารุ ยิ้มจาง ๆ

 

สำหรับ อาคาบาเนะ นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

 

คาถานินจาขั้นพื้นฐานทั้ง 3 นั้นเขาใช้แต้มแลกมันมาอย่างง่ายดาย แต่ในสายตาของอัจฉริยะทั่วไปเช่น โอโรจิมารุ ความรู้นี้มีคุณค่าและไม่สามารถมองข้ามไปได้

 

ความรู้สำหรับนินจาเช่นเขามันเท่ากับชีวิตของเขา

 

……………….

 

ในตอนนี้คนเหล่านี้อาจมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อภาพลวงตา และ อาคาบาเนะ ก็ใช้วิธีนี้มาเป็นเวลานานแล้ว

 

และถ้าหาก ซึนาเดะ หลุดพ้นจากภาพลวงตา เธออาจจะเอากำปั้นทุบหัวเขาทันที แต่ถ้าไม่ยกเลิกภาพลวงตาผลที่ตามมาอาจจะร้ายแรงกว่านี้

 

เมื่อคิดถึงตรงนี้ อาคาบาเนะ ก็ผสานอินอย่างลับ ๆ ร่ายคาถาเงาแยกร่างจากนั้นเดินไปยังอีกด้านหนึ่งของห้องเรียน

 

วินาทีต่อมาหลังจากภาพลวงตาถูกยกเลิก

 

…………....

 

“ อาคาบาเนะ!! เจ้าบ้า!! นายกล้าใช้ภาพลวงตากับฉัน!”

 

แน่นอนว่าเสียงคำรามดังก้องไปทั่วทั้งโรงเรียน

 

จากนั้น…

 

"หยุด เดียวนี้ ซึนาเดะ!"

 

ฮิรุเซ็น พยายามตะโกนหยุดการอาละวาดของเธอ แต่มันก็สายเกินไป

 

ตูมมม!

 

เสียงดังโครมครามโต๊ะของ อาคาบาเนะ แตกเป็นชิ้น ๆ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างก็ตื่นตระหนก

 

ภายในไม่กี่วินาทีทั้งห้องเรียนก็ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง

 

ในอีกด้านหนึ่งของห้องเรียน อาคาบาเนะ ที่อยู่ในสถานะแปลงร่าง แทบจะไม่สามารถทำให้คาถานินจาคงที่ในรูปแบบเดิมได้

 

“ยัยซึนาเดะ…น่ากลัวเป็นบ้า”

 

แม้แต่ จิไรยะ ก็ยังหน้าซีดราวกับไก่ต้มและกลัวเธอ

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็น ซึนาเดะ โกรธมากถึงเพียงนี้

 

“ อาคาบาเนะ อยู่ที่ไหน? เขาไม่ได้ถูกฆ่าไปแล้วใช่ไหม?”

 

ชิกาโตะ ตะโกนถาม

 

“ไม่นั่นคือร่างแยกเงาของเขา”

 

ซาคุโมะ กล่าว

 

“ อาคาบาเนะ ออกมา! ฉันสัญญาว่าจะทุบตีนายแค่เบาๆ!”

 

เมื่อรู้ว่าตัวเองโจมตีร่างแยกเงา ซึนาเดะ ก็กวาดสายตาค้นหา อาคาบาเนะ

 

“ ซึนาเดะ! หยุดได้แล้ว!”

 

แค่เพียงเสี้ยววินาที ฮิรุเซ็น ก็ปรากฏตัวข้างๆ ซึนาเดะ พร้อมกับห้ามไม่ให้เธอสร้างปัญหามากไปกว่านี้

 

“แต่…เจ้าหมอนั่น!..มัน..”

 

เธอแค่โมโหที่ถูก อาคาบาเนะ ใช้ภาพลวงตากับเธอ

 

ซึ่งมันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอถูกหลอก

 

ฮิรุเซ็น เช็ดเหงื่อของตัวเองจากนั้นมองไปรอบ ๆ เพื่อค้นหา อาคาบาเนะ อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อไม่เจอ อาคาบาเนะ เลย…

 

เขาใช้คาถาแปลงร่าง?

 

เด็กคนนี้สามารถทำได้ถึงเพียงนี้?

 

ฮิรุเซ็น สงสัย นินจาเช่นเขาไม่สามารถตรวจจับการมีอยู่ของนักเรียนคนหนึ่งได้

 

หลังจากตรวจสอบทั่วทั้งห้องเรียนอย่างถี่ถ้วนแล้วเขาก็พบว่ามีอะไรแปลก ๆ มีไม้กวาด 2 อัน อันหนึ่งวางอยู่ใกล้ผนังและอีกอันวางอยู่บนพื้น

 

หนึ่งในนั้นต้องเป็น อาคาบาเนะ!

 

เขารู้สึกผ่อนคลาย โชคดีที่เขาพบความผิดปกติมิฉะนั้นเขาคงจะขายหน้าต่อหน้านักเรียน

 

"อาคาบาเนะ ออกมา!" ฮิรุเซ็น ตะโกนเสียงดุ

 

“ตกลงครับ”

 

อาคาบาเนะ ยกเลิกคาถาแปลงร่างและลุกขึ้นจากพื้น

 

ทันใดนั้น ฮิรุเซ็น ก็ถึงกับผงะ

 

เขาคิดว่าไม้กวาดที่วางข้างผนังเป็น อาคาบาเนะ แต่คำตอบนี้ผิด มันกลับเป็นไม้กวาดที่วางอยู่บนพื้น แต่ปัญหาก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรไม่มีใครรู้อยู่ดีว่าเขาเดาผิด

 

เพราะสุดท้ายแล้ว ฮิรุเซ็น เลือกคำตอบกับตัวเองในใจ

 

“ ครูฮิรุเซ็น ผมยังต้องเข้าทดสอบการแปลงร่างในช่วงบ่ายของวันนี้ด้วยหรือไม่?”

 

อาคาบาเนะ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

อาคาบาเนะ ใช้คาถาแปลงร่างอย่างเร่งรีบเพื่อหลีกเลี่ยง ซึนาเดะ มิฉะนั้น ฮิรุเซ็น คงไม่สามารถสังเกตุเห็นเขาได้เลย

 

“เธอควรเข้าร่วมหรือจะพูดอีกอย่างคือเธอต้องมีส่วนร่วมในการสอบ!”

 

ใบหน้าของ ฮิรุเซ็น ดูเคร่งขรึม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาประทับใจกับ คาถาแปลงร่าง ของ อาคาบาเนะ มันไร้ที่ติ

 

“ อาคาบาเนะคุง ยังมีอะไรที่นายยังปกปิดเอาไว้…”

 

โอโรจิมารุ เอ่ยถาม

 

คนของตระกูลคุรามะ มีร่างกายที่อ่อนแอมันไม่เหมือนกับ เซ็นจู,อุจิวะ, และ ฮิวงะ ที่มีร่างกายแข็งแกร่ง

 

คนอื่น ๆ ก็เงียบลงรวมถึงคนของตระกูลอุจิวะด้วย

 

แม้ว่าการ์ตูนของ อาคาบาเนะ ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมองว่าเขาแข็งแกร่ง ในแง่ของร่างกาย อาคาบาเนะ อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกนักเรียน

 

ในความเป็นจริงก่อนที่ อาคาบาเนะ จะได้สัมผัสกับ "การควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5" และคาถาแปลงร่างที่เกือบสมบูรณ์แบบทุกคนคิดว่า อาคาบาเนะ อาจจะไม่สามารถเป็นนินจาได้เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป

 

แต่ตอนนี้ไม่มีใครคิดว่า อาคาบาเนะ อ่อนแออีกต่อไปแล้ว ในทางตรงกันข้าม คาถาแปลงร่าง คาถาเงาแยกร่าง บวกกับ ขีดจำกัดทางสายเลือดของตระกูลคุรามะที่ถูกปลุกขึ้นมา สิ่งเหล่านี้จะมีบทบาทที่น่ากลัวมากในสนามรบ

 

หาก อาคาบาเนะ ได้เรียนรู้ วิชานินจา และ คาถาลวงตา มากขึ้นในอนาคตเขาจะกลายเป็นเครื่องบดเนื้อในสนามรบอย่างไม่ต้องสงสัย



ตอนที่ 6 การทดสอบวิชานินจา



ในช่วงบ่ายหลังจากเวลาพักเที่ยง

 

“ชั่วโมงนี้จะทดสอบคาถาแปลงร่าง”

 

“ต้องแปลงร่างให้เหมือนครู!!”

 

“ คนแรก อุจิวะ ริวยู”

 

ริวยู ผู้นำในอนาคตของตระกูลอุจิวะ

 

เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นของตระกูลอุจิวะ อย่างไรก็ตามเขามักจะอยู่ในอันดับที่ 2 รองจาก โอโรจิมารุ มาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

 

ริวยู เดินไปหน้าชั้นเรียนอย่างมั่นใจพร้อมกับผสานอิน

 

ในเวลาไม่ถึงวินาที ฮิรุเซ็น อีกคนก็ปรากฏต่อหน้าทุกคนอย่างไร้ที่ติ

 

“ดีมาก! 

 

“คนต่อไป จิไรยะ."

 

คาถาแปลงร่างเคยเป็นจุดอ่อนของ จิไรยะ แต่ตอนนี้เขาเดินไปหน้าชั้นเรียนด้วยความมั่นใจ เขากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า?

 

ฮิรุเซ็น ส่งสัญญาณให้เขาเริ่ม

 

 

“ เอาล่ะ! แปลงร่าง!”

 

บูม !!

 

กลุ่มควันฟุ้งกระจายเต็มห้องเรียน

 

หลังจากที่ควันหายไปอย่างช้าๆหญิงสาวสวยผิวขาวที่มีเพียงเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นในได้ปรากฏตัวขึ้น

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่านี่มันคาถามหารัญจวนของ นารูโตะ ในการ์ตูนไม่ใช่เหรอ? เขาถึงกับเอามาใช้ในการสอบครั้งนี้!” อาคาบาเนะ หัวเราะลั่น

 

“ว๊าว จิไรยะ นายนี่มันสุดยอดจริงๆสามารถสร้างคาถาแบบนี้ขึ้นมาได้ช่างเป็นอัจฉริยะในด้านลามก ฮ่าๆ” เพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ต่างก็หัวเราะ

 

มีความสับสนวุ่นวายในห้องเรียนไปชั่วขณะหนึ่งบางคนหัวเราะและบางคนก็ปิดตาอย่างอับอาย

 

“ไอ้เด็กเวรนี่ !!! อย่าสร้างคาถาเองตามใจชอบซิเฟ้ย!!!”

 

ฮิรุเซ็น ได้รับผลกระทบมากที่สุด เขาดุ จิไรยะ ในขณะที่พยายามห้ามเลือดกำเดาไม่ให้ไหลออกมามากไปกว่านี้

 

แม้แต่คนที่มีความสามารถผ่านสนามรบมามากมายอย่างเขายังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้

 

“กลับไปนั่งที่ จิไรยะ หลังจากนี้เธอจะถูกลงโทษ” ฮิรุเซ็น พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองไม่หาย

 

“ทำได้ดีในระดับปานกลาง จิไรยะคุง แต่นายยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกมาก”

 

เหมือนจะชมแต่ไม่ได้ชม ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะไม่ได้รับผลกระทบจากคาถามหารัญจวนของ จิไรยะ

 

“ ขอโทษครับครู แฮ่ๆ”

 

บูม!

 

คาถามหารัญจวนของ จิไรยะ ถูกยกเลิก

 

“หึ! คาถาแบบนั้นมันก็แค่คาถาของเด็กน้อยที่ในหัวมีแต่เรื่องลามก”

 

ริวยู แค่พึมพำกับตัวเอง แต่ จิไรยะ ได้ยินคำพูดของเขา

 

"นี่แก!!!"

 

จิไรยะ มอง ริวยู ด้วยความโกรธ แต่เขารู้ดีว่าในการสอบครั้งนี้ ริวยู ทำได้ดีกว่าเขา

 

แม้ว่าจะทำได้ไม่เลวแต่ยังมีช่องว่างที่ห่างจาก อุจิวะ ริวยู เล็กน้อย

 

ริวยู ยิ้มเยาะ

 

โอโรจิมารุ เลียริมฝีปากดวงตาของเขาเป็นประกาย ดูเหมือนเขาจะสนุกกับการโต้เถียงของคนทั้ง 2

 

"อะแฮ่ม! จิไรยะ เพื่อเป็นการลงโทษพรุ่งนี้เขียนรายงานการสอบของวันนี้มา!”

 

ฮิรุเซ็น ยังคงไม่สามารถรักษาความสงบได้หลังจากภาพนั้นยังติดตา

 

“ ครับครู”

 

เขายังคงจ้องไปที่ ริวยู ในขณะที่เดินไปยังที่นั่ง ดูเหมือนว่าจะมีการแข่งขันกันระหว่างทั้ง 2 คน

 

“เอาล่ะ คนต่อไป คุรามะ อาคาบาเนะ”

 

อาคาบาเนะ เดินไปที่หน้าชั้นเรียนด้วยความมั่นใจ

 

โดยไม่ต้องกังวลใจเขาเริ่มทันที “แปลงร่าง!”

 

อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะแปลงเป็น อุจิวะ ริวยู

 

ใบหน้าที่เย่อหยิ่งเหมือนกันไม่มีผิด. ราวกับว่าเป็นคู่แฝดของ ริวยู จริงๆ

 

เขาพูดคำบางคำที่ ริวยู อาจจะอยากพูด“ ฮ่าฮ่าฮ่า…ฉันคือ อุจิวะ ริวยู นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในนี้ ฮ่าฮ่าฮ่าแน่นอนว่าอ่อนแอกว่า โอโรจิมารุ…”

 

“ อาคาบาเนะ! ไอ้สารเลว!"

 

ริวยู ลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยความโกรธ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออก

 

เพราะร่างแปลงของ อาคาบาเนะ แทบจะเหมือนกันกับเขาและเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเขาคิดอะไรแบบนั้นจริงๆ

 

“ครูฮิรุเซ็น การแปลงร่างของผมเปรียบเทียบกับเขาเป็นอย่างไร”

 

อาคาบาเนะ ชี้ไปที่ ริวยู

 

“พวกเธอทำได้ดีมาก แต่ฉันจะให้คะแนนเธอเต็ม”

 

เขารู้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า อาคาบาเนะ เข้าใจ คาถาแปลงร่าง ดีกว่านักเรียนคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน

 

ริวยู พูดไม่ออก เขาต้องการเป็นดาวเด่นแต่กลับถูก อาคาบาเนะ แย่งไป

 

“ฉันขอแนะนำอะไรหน่อยคราวหน้าอย่าได้ดูถูกใครเร็วเกินไป พวกเขาอาจจะมีดีกว่าที่นายคิด”

 

อาคาบาเนะ เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มเยาะ

 

ริวยู ยังคงโกรธเป็นอย่างมากในตอนนี้

 

“เหอะ! ฉันยอมรับในความสามารถของนาย แต่ในการต่อสู้จริงนายไม่มีทางเอาชนะพวกเราตระกูลอุจิวะได้

 

อุจิวะอีกคนได้พูดปกป้อง ริวยู ที่เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเขา

 

“ภาพลวงตาของนายไม่มีประโยชน์กับเนตรของเรา ฉันจะพิสูจน์ให้นายได้เห็นในการสอบพรุ่งนี้ว่าอุจิวะนั้นน่ากลัวเพียงใด!”

 

ริวยู ยังคงพูดออกมาด้วยความเย่อหยิ่งเหมือนเดิม

 

“โอ้? น่าเสียดายที่นายเป็นคนของโคโนฮะ แต่ก็เอาเถอะพรุ่งนี้ฉันจะทำให้นายได้รู้ว่าความอับอายนั้นเป็นยังไง”

 

อาคาบาเนะ เหลือบมอง ริวยู แล้วเดินไปยังที่นั่งของเขา

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้จะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง อาคาบาเนะ  และ อุจิวะ แล้ว

 

ริวยู รู้ดีว่า อาคาบาเนะ สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดได้แล้ว แต่เขาคือ อุจิวะ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร

 

“ ฉันจะทำให้นายพ่ายแพ้อยู่ใต้เท้าของฉันคอยดูไปเถอะ อาคาบาเนะ”

 

เขาบอกตัวเองในใจ

 

ในทางกลับกัน อาคาบาเนะ ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

 

แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับใครบางคนจากตระกูลอุจิวะ แต่พวกเขาก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กที่ยังไม่ได้ปลุกพลังเนตร

 

“ ขอบใจนะ อาคาบาเนะ”

 

จิไรยะ บีบกำปั้นเอาไว้แน่น เขารู้ดีว่าเรื่องนี้เขาควรจัดการด้วยตัวเอง แต่ความแข็งแกร่งของเขามีไม่เท่า ริวยู 

 

"ไม่เป็นไร อันที่จริงพรสวรรค์ในการต่อสู้ของนายนั้นดีและอาจจะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคตก็ได้”

 

อาคาบาเนะ หัวเราะ

 

“อืม ฉันจะฝึกฝนตนเองให้หนักขึ้น!”

 

จิไรยะ พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

 

อาคาบาเนะ นั่งลงบนเก้าอี้และเอนหลังพิงพนักพิงจากนั้นเฝ้าดูคนอื่น ๆ ทำการทดสอบต่อไป

 

ในขณะเดียวกันเขาก็เปิดแผงระบบของเขาขึ้นมาดู

 

“ 94 แต้ม อืม เกือบถึงแล้ว”

 

คาถาแยกเงาพันร่าง อยู่ใกล้แค่เอื้อม

 

วิชานินจาระดับ B นี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับเขาไม่เพียงแต่ช่วยในการวาดการ์ตูนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้ภาพลวงตาและเอฟเฟกต์ทางยุทธวิธีอื่น ๆ ด้วย

 

และแน่นอน…

 

แม้ว่าจะไม่มี แยกเงาพันร่าง เขาก็ยังสามารถเอาชนะ ริวยู ได้

 

แต่ด้วยแยกเงาพันร่างนี้ เขาสามารถทำให้ ริวยู พ่ายแพ้ได้ง่ายขึ้น

 

……………

 

ไม่นานหลังจากสอบเสร็จ ฮิรุเซ็น ก็กลับไปที่ห้องทำงานของโฮคาเงะและในขณะเดียวกันหน่วยลับอันบุกำลังรอส่งข้อมูลบางอย่างให้เขา

 

“ อาคาบาเนะ ได้ปลุกการควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5 แล้วหรือ?”

 

“ ใช่ครับ ท่านโฮคาเงะ ไม่เพียงแค่นั้นแต่ อาคาบาเนะ ยังแสดงให้เห็นถึงการควบคุมจักระที่ยอดเยี่ยมและจากสิ่งที่ฉันได้ยินจากตระกูลคุรามะ จักระของเขาอยู่ในระดับจูนิน”

 

ข้อมูลจำนวนหนึ่งดังออกมาจากปากของสมาชิกหน่วยลับอันบุและการแสดงออกของ ฮิรุเซ็น ก็เคร่งขรึมขึ้น“ อืม อยู่ในระดับของจูนินแล้ว...”

 

“ เขาอาจจะเป็นอัจฉริยะด้านภาพลวงตาในยุคนี้”

 

ฮิรุเซ็น ถามอย่างครุ่นคิด“ ตระกูลคุรามะทำอะไรหลังจากรู้เรื่องนี้”

 

สมาชิกหน่วยลับอันบุ ตอบด้วยน้ำเสียงสับสน

 

“เอ่อ .. พวกเขาทำการแจกจ่ายการ์ตูนของ อาคาบาเนะ ภายในตระกูล”

 

“เข้าใจแล้ว นายออกไปได้”

 

ฮิรุเซ็น บอกให้สมาชิกหน่วยลับอันบุออกจากห้องทำงานของเขา

 

จากนั้นเขาก็ใช้ลูกแก้วเวทย์มนต์ดูว่า อาคาบาเนะ กำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้

 

อาคาบาเนะ นั่งอยู่คนเดียวในสวนพร้อมพู่กันและกระดาน ดูเหมือนเขากำลังจะวาดรูป

 

ฮิรุเซ็น ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“ เจ้าหนูนี่….กลายเป็นคนขยันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

 

ด้วยความที่ ฮิรุเซ็น เป็นครูประจำชั้นเขาจึงรู้เกี่ยวกับนิสัยของ อาคาบาเนะ ไม่มากก็น้อย

 

ไม่ใช่นักเรียนขี้เกียจ แต่ก็ไม่ใช่คนขยันเช่นกัน

 

“หรือว่า…”

 

ไม่ไกลจาก อาคาบาเนะ มี อาคาบาเนะ อีกคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าอย่างเกียจคร้าน

 

ฮิรุเซ็น อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ดูเหมือนว่านิสัยของคนเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

 

แต่เขาก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย “ แยกเงาพันร่างอย่างงั้นเหรอ….ตั้งแต่อายุยังน้อยเขากลับเชี่ยวชาญวิชานินจาระดับ B แล้วและยังนำมาใช้งานเช่นนี้ด้วย”

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่าฉันไม่สามารถปฏิเสธพรสวรรค์ของเขาได้เลยจริงๆ”

 

การประเมิน อาคาบาเนะ ของเขาเพิ่มสูงขึ้น แต่นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกปวดหัว

 

ทันใดนั้น…

 

มีเสียงมาจากด้านนอกประตู

 

“ ฮิรุเซ็น มอบ อาคาบาเนะ ให้ฉัน หน่วยรากต้องการอัจฉริยะแบบนั้น”

 

“ ไม่ อาคาบาเนะ ไปที่หน่วยรากไม่ได้”

 

ฮิรุเซ็น กล่าวอย่างแน่วแน่ว่า“ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลคุรามะยังอยู่ในสถานะที่อ่อนแอที่สุดในตอนนี้ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยตัว อาคาบาเนะ ไปได้และเขาก็ยังเป็นเด็กที่ต้องได้รับการฝึกฝน

 

“ถ้า อาคาบาเนะ ไม่ได้ งั้นก็เป็น โอโรจิมารุ…”

รีวิวผู้อ่าน