px

เรื่อง : การกลับมาของฮีโร่
ตอนที่ 19


ตอนที่ 19

 

มีข้อสงสัยมากมาย ภายในของเจ้าหน้าที่

แต่ไม่นานเขาก็ส่ายหัวแล้วไล่ความคิดพวกนั้นทิ้งไป

<>

หรือว่าซูฮยอนจะปลอมแปลงเวทย์ของตัวเอง 

แล้วถ่ายเทพลังเวทย์เข้าไปในเครื่องทดสอบที่ละเล็กที่ละน้อย 

ถ้าเขาทำแบบนั้นได้จริงๆ 

มันก็เป็นเรื่องที่หน้าเหลือเชื่อเป็นอย่างยากมาก

แต่ถ้าเขามีปัจจัยเวทย์และระดับเวทย์สูงมากพอ โอกาสที่จะทำได้ก็ง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

แต่เจ้าหน้าทีไม่เชื่อว่าซูฮยอนจะทำแบบนั้นได้ 

เพราะผู้ที่ทำแบบนั้นได้ สามารถนับได้ด้วยปลายนิ้ว 

ที่สำคัญแต่ละคนก็เป็น 'ผู้ตื่นขึ้น' ชั้นแนวหน้าแทบทั้งสิ้น

 <>

อีกอย่างทำไมซูฮยอนถึงต้องซ่อนความสามารถของเขาด้วย?

เจ้าหน้าทีเริ่มจัดการเอกสารต่างๆ

และทำการเชิญ 'ผู้ตื่นขึ้น' ทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนได้

เมื่อฮักจุนเดินออกมาจากสำนักงาน 

เขาก็พบว่ามีรถยนต์สีดำสุดหรูของต่างประเทศจอดรออยู่

ถึงแม้รถยนต์คันนี้จะมีราคาแพง 

แต่สำหรับ 'ผู้ตื่นขึ้น' ชั้นแนวหน้า พวกมันก็เป็นแค่เศษเงิน

ปรึ้น

หน้าต่างด้านหลังของรถยนต์ถูกเลื่อนลง

ผู้ที่นั่งเบาะหลังอยู่คือ จองดงย็อง หัวหน้าของกิลด์เทพสงคราม

 “เสร็จเรียบร้อยแล้ว?”

 “อืม เรียบร้อยแล้ว”

คลิ๊ก

ฮักจูนเปิดประตูด้านหลังแล้วลงไปหน้าข้างๆหัวหน้ากิลด์

จองดงย็อง ส่งสัญญาณให้คนขับออกรถได้

 “เป็นไงบ้างล่ะ”

 “ผมได้แรงค์ B”

 “โห..ทำได้ดีมาก”

แรงค์ B งั้นเหรอ…

มันถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ออกมาดีพอสมควร สำหรับ 'ผู้ตื่นขึ้น' ที่ปีนป่ายหอคอยแต่หนึ่งปีเท่านั้น ซึ่งมันหาได้ยากอย่างมาก

และที่สำคัญแรงค์ B ยังเป็นกำลังสำรองของกิลด์ ที่ทุกกิลด์ต้องการอีกด้วย

 “หัวหน้ากิลด์ แล้ว แรงค์ A ล่ะ มาตรฐานของมันคืออะไร”

ฮักจุนถามเรื่องมาตรฐานของแรงค์ A 

เพื่อเป็นแรงกระตุ้นในการไปให้ถึงแรงค์ A ในอนาคต

จองดงย็อง หัวเราะเบาๆแล้วตอบกลับไป

 “ระดับเวทย์ 6 หรือสูงกว่า ปัจจัยเวทย์ 55 หรือสูงกว่า ถึงจะได้แรงค์ A”

 “ผมต้องมีทั้งสองอย่างเลยใช่ไหมครับหัวหน้า”

 “ใช่แล้ว. เมื่อนายไปถึงแรงค์ A ได้ ทางสำนักงานรัฐบาลจะจับตามองนายเป็นพิเศษ เพราะแรงค์ A เป็นตัวตนที่ทรงพลัง แต่ถ้านายเลื่อนแรงค์ได้มากว่าแรงค์ A ล่ะก็ แม้แต่รัฐบาลยังต้องเกรงใจนายเลย”

 “ทำไมผมถึง รู้สึกว่าหัวหน้ากำลังชมตังเองอยู่ล่ะเนี่ย”

จองดงย็อง  เป็นหนึ่งใน 'ผู้ตื่นขึ้น' แรงค์ A ที่มีความสามารถมากๆคนหนึ่งในประเทศเกาหลี

ถึงแม้คำพูดของเขาจะดูโอ้อวด แต่สิ่งที่เขาพูดมาก็เป็นความจริง

ตามจริงหัวหน้ากิลด์ทั้งหมดของเกาหลี เป็นคนที่มีชื่อเสียงแทบทุกคน

 “จริงสิ ได้ยินมาว่าในหมู่ผู้มาประเมิน มีคนที่ชื่อ คิมซูฮยอน มาด้วยใช่ไหม”

 “ใช่ครับ”

 “ฉันได้ยินมาว่าแรงค์ของเขาออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นายคิดว่าเป็นแค่คนชื่อเหมือนกันไหม” ถึงแม้ผลลัพธ์ของคิมซูฮยอนจะดูน่าผิดหวัง

แต่แทบทุกกิลด์ ก็กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก เพื่อชักชวนคิมซูฮยอนมาเข้ารวมกิลด์

 “ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

 “หืม..นายคิดว่ามีโอกาสไหมที่เขาต้องการปกปิดพลังเวทย์ของตัวเอง?”

 “โถ่หัวหน้า คุณก็รู้ว่ามันยากขนาดไหนถึงจะควบคุมพลังเวทย์ได้ตามใจนึก ขนาดผมยังทำไม่ได้เลย” ฮักจุนตอบ

แม้แต่ตัวของ จองดงย็อง ยังควบคุมเวทย์ของเขายังไม่ค่อยเสถียรเลย 

แต่ซูฮยอนพึ่งเขาหอคอยได้แค่ปีเดียว เขาทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ 

ถึงเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ 

แต่เขาก็ไม่น่าควบคุมเวทย์ได้ตามใจนึกได้แน่ๆ

จองดงย็อง ลูปริมฝีปากของตัวเองแล้วขบคิด

ถ้าเทียบระหว่าง ฮักจุน กับ คิมซูฮยอน เขาพนันได้เลยว่า ไม่ว่ายังไง คิมซูฮยอนก็เก่งกว่า ฮันจุน

เหตุผลเป็นเพราะซูฮยอนทำลายสถิติทุกครั้ง ในชั้นที่เขาอยู่

 <>

ซูฮยอนหยิบบัตร ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ออกมาจากในกระเป๋า ตัวอักษร C ที่ดูโดดเด่น ถูกพิมพ์ลงบนบัตร

เมื่อมีเจ้าสิ่งนี้ เขาก็สามารถเข้าสู่ดันเจี้ยนสาธารณะได้แล้ว

<>

ถึงแม้ซูฮยอนจะผิดหวังที่ระดับแรงค์ของเขาน้อยเกินไป

แต่มันก็มีข้อดีเหมือนกัน เขายังไม่อยากเปิดเปิดเผยความสามารถทั้งหมดของเขาตอนนี้ 

เพราะมันจะนำเรื่องปวดหัวมาสู่ตัวเองซะเปล่าๆ

แล้วที่สำคัญตอนนี้ทางสำนักงานก็กำลังจับตาดูซูฮยอนเป็นอีกด้วยพิเศษ

<>

ซูฮยอนในตอนนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการเป็น 'ผู้ตื่นขึ้น' ที่เก่งกาจ 

ฉะนั้นเขาจึงต้องซ่อนความลับของเขาเอาไว้

<>

ซูฮยอนเชื่อว่า ในหมู่ 'ผู้ตื่นขึ้น' เกือบทุกคน 

ไม่มีใครคนไหนเลย ที่จะสามารถควบคุมเวทย์ได้ตามใจนึกเหมือนซูฮยอน

เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก

แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดยังทำแทบไม่ได้

ไม่สิ ต่อให้ในอนาคต ก็ไม่เคยมีใครควบคุมเวทย์แบบซูฮยอนได้เลยสักคน 

ถ้าพูดถึงเรื่องเวทย์ ซูฮยอน นี้แหละที่เชี่ยวชาญที่สุด

<>

เมื่อซูฮยอนกลับมาถึงบ้าน เขาก็โยนกระเป๋าทิ้งแล้วทำการเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนเป็นอันดับแรก 

คอมพิวเตอร์ที่สเปคกากๆ กำลังบู๊ตขึ้น

ซูฮยอนหยิบบัตรแสดงตน 'ผู้ตื่นขึ้น' มาดูอีกครั้ง เพื่อรอคอมพิวเตอร์

<>

หลังจากคอมพิวเตอร์เข้าสูหน้าวินโดวส์ 

สิ่งแรกที่ซูฮยอนทำคือ เขาเข้าเว็บไซต์ อเวจีออนไลน์ แล้วค้นหากระทู้เกี่ยวกับ กิลด์ เทพสงคราม 

มีกระทู้เกี่ยวกับกิลด์เทพสงครามน้อยกว่าที่ซููฮยอนคิดไว้

ดูท่าทางกิลด์เทพสงครามจะไม่ค่อยดังเท่าไหร่

<>

กิลด์เทพสงคราม ไม่ได้ดังเพราะจำนวนสมาชิก แต่ดังเพราะหัวหน้ากิลด์ต่างหาก

 “หัวกิลด์ จองดงย็อง อดีตสมาชิกแก๊งค์ ของ ฟิตไฟเตอร์ ที่เคยก่อความวุ่นวายในจังหวัด คย็องกี ตอนนี้กำลังอยู่ที่ โซล”

จองดงย็อง ได้สร้างผลงานในฐานะ 'ผู้ตื่นขึ้น' มากมายนับไม่ถ้วน

แต่ผลงานที่เลวร้ายของเขาก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การปล่อยเงินกู้ การค้ามนุษย์ และอื่นๆ

เรื่องราวทั้งหมดมันถูกเปิดเผยออกมาจากกิลด์อื่นๆ

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะวางมือจากเรื่องชั่วร้ายเหล่านั้นแล้ว 

แต่บางคนก็เชื่อว่า จองดงย็อง ยังคงอยู่ในมุมมืดของสังคมใต้ดินต่อไป

<>

ไม่สำคัญว่า จองดงย็อง จะเคยเป็นนักเลงก่อนหรือป่าว

เพราะเขาได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคือ 'ผู้ตื่นขึ้น' ที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆของเกาหลี

เพราะ 'ผู้ตื่นขึ้น' ที่แข็งแกร่งกว่า แรงค์ A ไม่ได้มีจำนวนมากมายขนาดนั้น

 “หืม”

สุดท้าย กิลด์เทพสงคราม ที่ ฮักจุนเข้า 

แม้จะไม่ค่อยมีเรื่องอื้อฉาวสักเท่าไหร่ 

แต่มันก็ไม่สามารถลบภาพหัวหน้ากิลด์ที่เคยทำอาชีพใต้ดินและเรื่องเลวร้ายอีกมากมายที่เขาเคยก่อเอาไว้ได้

<>

ซูฮยอนเปลี่ยนกระทู้แล้วหาอ่านบทความยอดนิยมบน อเวจีออนไลน์

<>

กระทู้ในเว็บไซต์ส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของ กิลด์ และ ผู้ตื่นขึ้น ซะมากกว่า

แต่ก็มีเรื่องการเมืองและกฏหมายมาแจมบ้างประปราย

ซูฮยอนเลื่อนอ่านผ่านๆแล้วก็ไปกระทู้ถัดไป

กระทู้พวกนี้ส่วนใหญ่มันจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไร้ประโยชน์

มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ซูฮยอนต้องเสียเวลาอ่านมัน

สิ่งที่ซูฮยอนต้องการคือเรื่องที่น่าเป็นห่วงในอนาคตซะมากกว่า

 [วันที่ 1 มกราคม เรากำลังหากำลังคน ระหว่าง แรงค์ C หรือมากกว่า เพื่อเคลียร์ดันเจี้ยนที่จัดหวัดคย็องกี มันเป็นดันเจี้ยนระดับส้ม ถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม..]

นี้ไง

นัตน์ตาของซูฮยอนสว่างขึ้นมาเล็กน้อย

 “ 1 มกราคม 2020”

นี้แหละ คือประวัติศาสตร์ที่เขาต้องเปลี่ยนมันให้ได้

เส้นทางการเปลี่ยนแปลงมันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

เมืองกวางจู จังหวัด คย็องกี

ในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดันเจี้ยนปรากฏขึ้นมากมายแถวภูเขา ย่าชิ ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองสักเท่าไหร่

ระดับความยากของดันเจี้ยนแห่งนี้ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ 

มันยากแค่ระดับปานกลางเท่านั้น

ลีจุนโฮ หัวหน้ากลุ่มโจมตีดันเจี้ยนในครั้งนี้ เขาคือ 'ผู้ตื่นขึ้น' แรงค์ B 

เขานั้งลงบนเก้าอี้แล้วจิบกาแฟไปพลางๆ

 “ทำไมยังไม่มีคนติดต่อมาอีก”

 “ก็ใกล้ช่วงปีใหม่แล้วนี่ คนก็อยากพักผ่อนบางเป็นธรรมดา อีกอย่าง สถานการณ์ของดันเจี้ยนตอนนี้ ก็ดูแย่มาก เพราะดันเจี้ยนมันโผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด คนอื่นก็ต้องกระจายกำลังกันออกไปจัดการกับมันอีก”

คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา คือ คิมบารึม เขาคือหัวหน้าทีมรวมกันกับ ลีจุนโฮ

พวกเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ

ทั้งสองคนต้องการผู้ตื่นขึ้นทั้งหมด 7 คนในการเคลียร์ดันเจี้ยน 

ตอนนี่ สมาชิกในทีมของพวกเขาขาดอีกแค่คนเดียวเท่านั้น

 “ เวณเอ้ย ฉันล่ะเกียจเจ้าดันเจี้ยนบ้าพวกนี้จริงๆ ไม่รู้จะโผล่มาอะไรเยอะแยะราคาหินอีเธอร์ร่วงเป็นน้ำเลย”

 “ฮ่า ฮ่า เพื่อนนายกำลังเล่าเรื่องตลกให้ฉันฟังอยู่เหรอ ถึงราคามันจะตก แต่นายก็หาเงินได้ตั้ง 200-300 ร้อยล้านวอนภายในระยะอันรวดเร็วเนี่ยนะ”

คิมบารึมหัวเราะใส่ลีจุนโฮเหมือนคนบ้า

ลีจุนโฮยิ้มรับและจิบกาแฟ กาเฟอาเมริกาโนไปพลางๆ

 “เพื่อนนายรู้ไหม นอกจากดันเจี้ยนจะมีจำนวนมากขึ้นแล้ว แม้แต่จำนวนการเสียชีวิตของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ก็มากขึ้นเช่นกัน ฉันอยากรู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

 “ไม่มีอะไรมากหรอก ก็คงเป็นพวกมือใหม่ที่คึกคะนอง อยากลองของ จนสู่ท้ายก็ตกม้าตายซะเอง ฉันว่านายคิดมากไปเองแน่ๆ”

 “จะเป็นอย่างงั้นแน่เหรอ”

 “เป็นอย่างนั้นแหละ เมื่อมีคนหน้าเก่าตายไป เดียวคนหน้าใหม่ก็แทนที่เอง นายไม่ต้องกังวลไปหรอก”

ลีจุนโฮดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจคำพูดของ คิมบารึมมากนัก

<>

ลีจุนโฮ ผู้ตื่นขึ้นแรค์ B

เมื่อพลัง ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ของเขาถูกปลุกขึ้น 

เป้าหมายที่เขาตั้งไว้คือ แรงค์ B 

ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จจริงๆ

แม้ 'ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ B จะได้รับรางวัลตอบตอนค่อนข้างน้อย จากการเคลียร์ดันเจี้ยน

แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แรงค์ B มันเป็นกำลังสำคัญที่ทุกกิลด์ต้องการตัว

ต้องขอบคุณความ พยายามของเขา ที่ทำให้ ลีจุนโฮมีวันนี้ได้

รายได้ปีที่ผ่านมาของลีจุนโฮ มันมากมายมหาศาลจนนับไม่ไหว

เขาใช้เงินเหมือนเศษกระดาษ เขาอยากได้อะไรเขาก็ต้องได้

ตอนนี้เขามีบ้านหรูและรถต่างประเทศราคาแพงอีกหลายคัน

<>

ลีจุนโฮคิดว่า เส้นทางในอนาคตของเขาจะต้องโปรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน

ติ้ง

ทันใดนั้นเอง มือถือของ ลีจุนโฮ ก็ดังขึ้น 

เขาหยิบมันขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการแจ้งเตือน

 

 

รีวิวผู้อ่าน