px

เรื่อง : การกลับมาของฮีโร่
ตอนที่ 5


ตอนที่ 5

 

ชาติที่แล้วของซูฮยอน เขาใช้อาวุธเป็นเกือบทุกชนิด

ไม่ใช้แค่นั้น สเตตัส ของเขาก็ดูโดดเด่น 

เหตุคงเป็นเพราะแม่ของเขาบังคับให้ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน

ด้วยความรู้ที่มีจากอดีต มันเลยทำให้ซูฮยอนเข้าใจลักษณะของ มอนสเตอร์ และจุดอ่อนของพวกมันพอสมควร 

เมื่อรู้ว่า มอนสเตอร์ที่เขาเจอคือหมาป่าคลั่ง ซูฮยอนจึงปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา

แผนที่ว่าคือ สร้างบาดแผลบนตัว หมาป่าคลั่ง แล้วใช้ สัญชาตญาณที่ดิบเถื่อนของ หมาป่าแวมไพร์ 

ให้พวกมันมาสู้กันเอง สภาพของพวกมันตอนนี้ดูไม่จืดเลย

โฮกก งับบ

ดูท่าหมาป่าแวมไพร์จะไปต่อไม่ไหวเสียแล้ว

แม้ว่าตามร่างกายของ หมาป่าคลั่งจะมีรอยแผลเต็มไปหมด 

แต่มันก็ยังไม่หมดแรง มันยังคงมองซูฮยอนตาเป็นมันอยู่ดี 

ความหิวกระหาย ทำให้จิตใจของหมาป่าคลั่งสับสน มันไม่มีความคิดที่จะหลบหนีเลยซักนิด 

ถึงแม้ว่าร่างกายของมันจะไม่ไหวแล้วก็ตาม

 “ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้จัดการกับแกง่ายๆหน่อย”

ดูเหมือนมันจะกลัวอาหารมื้อนี้วิ่งหนีไป มันรีบกระโจนเข้าใส่ซูฮยอนทันที

โชคดีที่มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาต่ำ

ฉัวะ

ซูฮยอนแทงดาบออกไปที่ตาของมันจนทะลุกระโหลกศีรษะ

ใช้เวลาไม่นาน หมาป่าคลั่งก็แน่นิ่ง

 [คุณได้รับ 50 คะแนนจากความสำเร็จ]

 [คุณได้ผ่านการทดสอบของชั้นแรกแล้ว ]

 [คุณได้รับคะแนนความสำเร็จอีก 300 คะแนน]

 [ สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5 จุด ]

 “ช่างเป็นค่าเหนื่อยที่คุ้มค่ามาก”

คะแนนความสำเร็จ 300 คะแนน

สเตตัสทัั้งหมดเพิ่มอีก 5

ช่างเป็นรางวัลที่เกินกว่าจิตนาการของเขาไปมากโข

นอกจากคะแนนความสำเร็จแล้ว เขายังได้ค่าสเตตัสที่เพิ่มขึ้นอีก

มันเพิ่มมาตั้ง 5 จุด ซึ่งมันเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ

สมแล้วที่เป็นบททดสอบ ระดับ 10 แค่รางวัลมันก็เกินกับสิ่งที่เขาคิดไปมาก

 “ฉันก็รู้อยู่หรอกนะว่า รางวัล มันขึ้นอยู่กับระดับที่เราเลือกแต่..”

เขาไม่คิดว่ามันจะดีขนาดนี้

ซูฮยอนพอใจกับมันมาก

ถ้าหากเขาได้รางวัลแบบนี้ไปเรื่อยไปไม่ใช่ว่าเขาจะเก่งกว่าชาติที่แล้วหรอกนะ

 [คุณสามารถเปิดร้านค้าในชั้นที่ 1 ได้]

 [คุณต้องการที่จะไปชั้นต่อไปหรือไม่]

ข้อความของระบบปรากฏขึ้น

ซูฮยอนกำลังรออยู่เลย ในที่สุดมันก็มา 

ในร้านค้าคุณสามารถใช้คะแนนความสำเร็จ ซื้อของได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาวุธ เกราะ หรือของ จิปาถะ อีกจำนวนมาก

ปัจจุบัน คะแนนความสำเร็จของ ซูฮยอนมีอยู่ที่ 380 คะแนน

มันเป็นคะแนนที่ถือว่าค่อนข้างมากเมื่อเทียบจากชั้นอื่น ต้องไม่ลืมว่านี้แค่ชั้นแรก

ต้องขอบคุณประสบการณ์และความสามารถของซูมฮยอนที่ทำให้เขาผ่านบททดสอบได้อย่างรวดเร็ว

 “เปิดร้านค้า”

ซูฮยอนไม่รอช้า เขารีบเปิดร้านค้าทันที

หมวดหมู่ต่างๆมากมาย เริ่มแสดงตรงหน้าขอซูฮยอน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวของเครื่องใช้ ยา อาหาร และ จิปาถะ ถ้าคุณมีแต้มความสำเร็จมากพอคุณจะซื้ออะไรก็ได้ในร้านค้านี้

ในหมวดหมู่ทั้งหมด ซูฮอยนกำลังหาสิ่งที่กำลังจะซื้ออยู่

 “นี่ไง เจอแล้ว”

 [ตัวเร่งปฏิกิริยามานาระดับต่ำ 300 คะแนน]

รายการที่ซูฮยอนเลือกคือขวดเล็กๆขวดหนึ่งที่อยู่ในหมวด อุปโภคบริโภค

ขวดขนาดเล็กที่มีสารเคมีบางอย่างสีม่วงๆอยู่ข้างใน มันคือสิ่งที่ซูฮยอนต้องการซื้อมากที่สุด

 “ฉันคิดว่าจะซื้อได้ต้องที่ชั้นสองเท่านั้นซะอีก”

ต้องขอบคุณความฉลาดของเขาที่คิดแผนแบบนั้นขึ้นมาได้ มันเลยทำให้เขามีคะแนนเยอะมาก

 “เอาอันนี้แหละ ซื้อ”

 [คุณได้ใช้คะแนนซื้อมานาระดับต่ำสุด]

 [คุณใช้คะแนนความสำเร็จ 300คะแนน]

ทันทีที่ได้ยืนยันการสั่งซื้อ สารเคมีสีม่วงก็มาปรากฏอยู่ในมือของซูฮยอน

ซูฮยอนจับขวดยาที่มีขนาดเท่ากับหัวแม่โป่ง แล้วก็กระดกมันลูกไปในลำคอทันที

อึก …

รสสัมผัสแรกที่ซูฮยอนรู้สึกได้คือ มันเหมือนกับน้ำเปล่า มันไม่ได้มีรสชาติอะไรเป็นพิเศษ

แต่เมื่อมันไหลลงคอไปเรื่อยๆ ความขมของตัวยาเริ่มตามมา

สาเหตุที่สารเคมีสีม่วงไม่ค่อยมีรสชาติมากนัก เป็นเพราะมันโดนเจือจางในน้ำมาแล้ว 

มันจึงเป็นเหตุให้รสชาติของมันหายไปเยอะพอสมควร

 “เฮ้อ”

ซูฮยอนโดนขวดเปล่าๆที่ไม่เหลืออะไรแล้วทิ้งลงพื้น

เขานั่งลงกับพื้นในท่าขัดสมาธิ

 “เฮ้อ”

ซูฮยอน ยังคงหายใจเข้าออก แล้วตั้งสมาธิไปที่ตัวเร่งปฏิกิริยาที่กำลังแพร่กระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย

ปัจจัยเวทย์มันเปรียบเสมือนมานาในร่างกาย

หากคุณอยากปล่อยพลังเวทย์ที่ทรงพลัง ปัจจัยเวทย์คือตัวแปรสำคัญในการควบคุมพลังเวทย์ 

ถ้าหากปัจจัยเวทย์ของคุณมีนิดเดี่ยว แต่คุณเล่นปล่อยสกิลที่มีพลังเวทย์สูงๆ 

ประสิทธิภาพของสกิลที่ปล่อยออกมาจะมีอานุภาพครึ่งหนึงของสกิลเท่านั้น

เพราะฉะนั้น 'ผู้ตื่นขึ้น' ไม่ควรมองข้าม ทั้ง ปัจจัยเวทย์ และ ระดับเวทย์

“ประการแรก ฉันต้องปลุกมานาให้ได้ก่อน”

เพราะปัจจุบันร่างกายของเขายังไม่มีพลังเวทย์เลยสักนิด

ตัวเร่งปฏิกิริยามานามันทำหน้าที่กระตุ้นให้ 'ผู้ตื่นขึ้น' มีพลังเวทย์

แน่นอนถ้าเปลี่ยนให้คนธรรมดามาลองดื่มสักนิด ผลที่ออกมาก็คงไม่ต่างจากการดื่มน้ำเปล่า

หวืด

ซูฮยอน คุ้นเคยกลับพลังเวทย์มานานพอสมควร 

เมื่อรวมกับตัวเร่งปฏิกิริยามานาด้วยแล้ว มันทำให้พลังเวทย์ของเขาตื่นไว้ขึ้น

 “มาแล้วสินะ”

 [ตรวจพบการตอบสนองต่อพลังเวทย์]

 [ ปัจจัยเวทย์ของคุณเพิ่ม 1 จุด ]

 [ตรวจพบการตอบสนองต่อพลังเวทย์]

 [ระดับเวทย์ของคุณเพิ่มขึ้น 1 ระดับ]

***

เมื่อถึงจุดอิ่มตัว

ทุกอย่างก็เงียบสงบ

ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครเลย ที่ปลุก ปัจจัยเวทย์ได้ตั้งแต่ชั้นที่หนึ่ง 

ส่วนใหญ่แล้ว 'ผู้ตื่นขึ้น' จะสามารถปลูก ปัจจัยเวทย์ ได้ที่ชั้น 2-3 เท่านั้น

ในหอคอยแห่งการทดสอบ  10 ชั้นแรก มันเป็นที่สำหรับทดสอบสภาพร่างกายเท่านั้น 

เพราะฉะนั้นเวทย์ยังจึงไม่จำเป็นมากเท่าไหร่

วุป วุป วุป

ซูฮยอนอัดพลังเวทย์ลงไปในดาบของเขา

เขารู้สึกว่าดาบที่ถืออยู่เริ่มมีปฏิกิริยา

ตอนนี้มันยังเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ที่จะคุมพลังเวทย์ให้ปกคลุมทั่วตัวดาบ

 “ตอนนี้ฉันสามารถใช้มันได้แค่แปปเดียวเท่านั้น”

จะดีกว่านี้ ถ้าฉันได้อาวุธกับชุดเกราะดีๆสักชุด แล้วค่อยไปยกระดับ ประจัยเวทย์ กับ ระดับเวทย์ที่หลัง

ซูฮยอนกำลังใช้ความคิด แล้ววางแผนต่อไป

 “ฉันควรจะฝึกความแข็งแกร่งของร่ายกายในชั้นนี้ เพราะมันไม่ยากหรือง่ายเกินไป”

“เพื่อสร้างเส้นทางสู้อนาคต ฉันต้องพยายามอีกมาก”

เมื่อพลังเวทย์ของซูฮยอนหมด ดาบของเขาก็กลับสู่สภาพเดิม

 “ตามที่คาดการณ์ไว้ พลังเวทย์มันสำคัญจริงๆ"

 [คุณต้องการไปชั้นถัดไปเลยหรือไม่]

เมื่อระบบจะรู้ว่า ซูฮยอน ซื้อของจากร้านค้าเสร็จสิ้น มันถึงถามเขาอีกครั้ง 

ไปเลยดีไหม?

หรือเขาควรหยุดอยู่ที่นี่และไปพักผ่อนก่อนดี

หรือ..

 “ไม่ดีกว่า ฉันจะสู้ต่อ”

กร๊ากกก

โฮกก

ซูฮยอนได้ยินเสียงของมอนสเตอร์คำรามทั่วโคลอสเซียมอีกครั้ง

“ฉันยังไม่พร้อมไปชั้นถัดไป แต่ฉันจะต่อสู้ด่านถัดไปแทน”

ไม่มีรอยแผล ชัยชนะไม่เกิด

เมื่อคุณอยากได้รางวัลที่มากขึ้น คุณก็ต้องพยายามด้วยความจริงใจไม่ย่อท้อ

มันเป็นหลักการที่ซูฮยอนนับถือมันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว

ตอนนี้ก็เช่นกัน เขาก็ยังนับถือมันอยู่

แม้ว่ามันจะยากลำบากสักแค่ไหน เขาก็ต่องผ่านมันไปให้ได้

 “ก่อนที่เราจะก้าวเดินไปข้างหน้า เราก็ควรไปให้สุดปรายทาง ไม่แน่เส้นทางข้างหน้าอาจมีโชคของคุณรออยู่”

ใน หอคอยแห่งการทดสอบ มีกฏง่ายๆ 3 ข้อ

1.เลือกระดับที่เหมาะกับตัวเอง

2. ขึ้นไปในถึงชั้นที่สูงที่สุด

3.พยายามให้มากที่สุด

[คุณจะไปชั้นถัดไปเลยหรือไม่]

ระบบถามซูฮยอนอีกครั้ง

คำตอบมันมีแค่ 2 คำตอบเท่านั้น คือ

ใช่และไม่

ถ้าผู้ทดสอบส่วนใหญ่เจอคำถามแบบนี้ พวกเราจะต้องเลือก 'ใช่' อย่างไม่ต้องสงสัย 

เพราะพวกเขาต้องการขึ้นไปที่ชั้นสูงๆให้เร็วที่สุด

แต่บางครั้งก็มีคนบางคนอยู่ต่อ ซูฮยอนก็คือหนึ่งในั้น 

ซูฮยอนจำได้ว่าถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ต่อ มันจะมีมิชชั่นโบนัสให้คุณทำเพื่อรับรางวัลเพิ่มเติม

“ โคลอสเซียมมันจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหนกันนะ”

ที่ผ่านมา เขาต่อสู้กับมอนสเตอร์แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น

ซูฮยอนคิดว่ามันยังน้อยเกินไป เขายังสนุกได้ไม่เต็มที่เลย

ด้วยสเตตัสที่สูงขึ้นบวกกับพลังเวทย์ มันทำให้การต่อสู้ ต่อจากนี้เป็นเรื่องง่ายๆ 

มันน่าเสียดายถ้าเขาจะหยุดอยู่แค่นี้ เพราะนี่คือระดับที่ 10 

ซูฮยอนไม่รอช้า เขาเดินไปทีโคลอสเซียมอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน……

…………………………………………………

 [คุณได้ผ่าน ด่านที่ 10 เป็นที่เรียบร้อย]

 [ต่อไปนี้จะไม่มีอะไรให้ทำอีก]

 [คุณได้เคลียร์ชั้นที่ 1 ได้อย่างสมบูรณ์]

 [คุณจะถูกจัดอันดับตามความสำเร็จของคุณ]

 [ยินดีด้วยคุณอยู่อันดับแรก]

 [คุณได้รับคะแนนความสำเร็จ 1000 คะแนน]

 [สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1 จุด]

 [ปัจจัยเวทย์ของคุณเพิ่มขึ้น 2 จุด]

 [ระดับเวทย์ของคุณเพิ่มขึ้น 1 ระดับ]

ซูฮยอนมองดูหมาป่าที่นอนอยู่กับพื้น มันมีขนาดตัวที่ใหญ่เท่ากับวัว

หมาป่าที่นอนตายอยู่มีชื่อว่า “หมาป่าแห่งการทำลาย” มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีความความเกรี้ยวกราดเป็นที่สุด

แม้แต่ ผู้ตื่นขึ้น ที่ปลุกพลังเวทย์มาเรียบร้อยแล้ว ยังรับมือกับมันอย่างยากลำบาก 

ต้องไม่ลืมว่านี้แค่ชั้นที่ 1 เท่านั้น 

 “สมแล้วที่เป็น ระดับที่ 10 มีเรื่องให้ตกใจเต็มไปหมด”

เขารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เคลียร์ชั้นที่ 1 ให้สมบูรณ์

เแต่เขาก็อดตกใจไม่ได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้ในชั้นที่ 1

 “แต่มันก็คุ้มกับค่าเหนื่อยล่ะนะ”

เพราะของรางวัลที่ซูฮยอนได้ มันเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ

แถมผลการต่อสู้ที่ผ่านมา เขาก็ถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ 1 

ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับซูฮยอน เพราะเมื่อชาติที่แล้ว 

เขาก็เคยได้อันดับที่ 1 เหมือนกัน

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนก็คือ พลังเวทย์ 

ตอนนี้ระดับบพลังเวทย์ของซูฮยอนเพิ่มมาเป็นระดับที่ 2 แล้ว 

ต้องไม่ลืมว่านี่มันแค่ชั้นที่ 1 เท่านั้น

 “สเตตัส”

 [ชื่อ: คิมซูฮยอน]

 [ปัจจัยเวทย์:8] [ระดับเวทย์:2]

 [ความแข็งแกร่ง:28] [ความไว:29]

 [สุขภาพ:28] [สะท้อนกลับ:24]

 [ความเหนื่อยล้า:55]

ภาพรวมของ สเตตัส มันเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจจริงๆ

ถ้าให้ 'ผู้ตื่นขึ้น' คนอื่นมาดูสเตตัสของ ซูฮยอน 

พวกเขาคงไม่เชื่อว่ามันจะเป็น สเตตัส ของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ หน้าใหม่อย่างแน่นอน

สถานการณ์โดยรวมตอนนี้ของซูฮยอนเป็นไปได้ด้วยดี

 “ฉันไปต่อเลยดีไหมนะ”

ไม่นานซูฮยอนก็ไล่ความคิดนั้นออกไป

 “ไม่ดีกว่า วันนี้พอแค่นี้ก่อน”

ระดับความเหนื่อยล้าของเขาเริ่มเพิ่มสูงขึ้น เขาไม่ควรเสี่ยงไปมากกว่านี้

ซูฮยอนต้องการผ่อนร่างกายให้หายเหนื่อย แล้วค่อยกลับมาใช้คะแนนความสำเร็จที่หลัง 

ที่สำคัญเขามีนัดกับแม่ของเขาอยู่ด้วย

 “ผมของพักผ่อนสักหน่อย”

 [คุณสมบัติของคุณผ่านการประเมิน]

 [คุณเคลียร์ชั้นที่ 1 สำเร็จ]

 [คุณกำลังจะออกจาก หอคอยแห่งการทดสอบ]

ไม่นานฉากด้านหน้าของซูยฮอนก็เปลี่นไป

* * *

ฉึก ฉึก ฉึก จิ้ด จิ้ด

เมื่อซูฮยอนกลับมาที่ห้องนอนที่แสบอบอุ่น

เขาก็ได้ยินเสียงน้ำเดือดและเสียงมีดที่กระทบกับเขียง ดังมาจากในห้องครัว

ซูฮยอนลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูห้องนอนออกไป

 “อ่าว ลูกอยู่บ้านเหรอ”

ชินซูย็องที่กำลังทำอาหารอยู่หันหน้ามาทักทายซูฮยอน

ซูฮยอนพยักหัวตอบกลับไป แต่เมื่อมองไปทีโตะอาหารดวงตาของเขาก็เปิดกว้าง

 “สตูซี่โครงหมู ผัดผักรวมมิตร ซุปเต้าเจี้ยว ทำไมแม่ถึงเตรีมอาหารเยอะขนาดนี้”

แม้ว่าบ้านหลังนี้จะแคบ แต่เมนูบนโต๊ะอาหารกลับหรูหรา เพียงแค่ดูด้วยตาป่าวก็รู้ได้เลยว่า 

มันถูกเตรียมมาในโอกาศพิเศษ

 “ก็ลูกชายของแม่พึ่งออกจากโรงพยาบาล แน่นอนพวกเราก็ต้องฉลองกันหน่อยจริงไหม”

 “แม่พึ่งเลิกงานเหรอครับ”

 “อืมใช่แล้ว ซุปเกือบจะได้ทีละ ลูงนั่งรอได้เลย เดียวแม่ไปหยิบจานให้”

 “ไม่ต้องแม่ เดียวผมทำเองดีกว่า”

ซูฮยอนตรวจสอบเวลาจากนาฬิกาที่ติดบนผนังห้อง เวลาขณะนี้คือ 22.00 น.

ชินซูย็องเลิกงานเวลา 21.00 เกือบทุกวัน

ถ้าเป็นลูกบ้านอื่น เขาคงกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับครอบครัวของซูฮยอน 

แม่ของเขา ชินซูย็องชอบทำอาหารมากเพราะฉะนั้น 2 คนแม่ลูกจึงกินข้าวเย็นด้วยกันตลอด

เมื่อ ซุปเต้าเจี้ยวเสร็จ ซูฮยอนก็ไปตักข้าวของเขากับของแม่ แล้วไปนั่งกินกันที่โต๊ะอาหารพร้อมเปิด ทีวี ไปด้วย

-ข่าวด่วน เมื่อเร็วๆนี้มีการค้นพบดันเจี้ยนมากมายมหาศาล เมื่อเทียบกับ ปี 2013 แล้ว 

ในปี 2018 มันมีดันเจี้ยนโผล่มามสด ถึง 3 เท่า

มันเป็นเหมือนกับสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ ดันเจี้ยน กับ ‘ผู้ตื่นขึ้น' เริ่มมีการปรากฏออกมาเยอะขึ้น

ซูฮยอนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วเขาเลยไม่สนใจอะไรมาก

 “ดูลูกไม่ค่อยจะสนใจเลยนะ”

 “จะให้ผมสนใจทำไมละครับแม่”

ซูฮยอนสวาปามอาหารฝีมือของ ชินซูย็องอย่างเอร็ดอร่อย

 [มีมอนสเตอร์และมีผู้มีความสามารถพิเศษ มันเหมือนกับหนังชุปเปอร์ฮีโร่หรือการ์ตูนที่พวกเราดูเมื่อสมัยเด็กๆเลยนะครับท่านผู้ชม]

 [ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม มันคือเรื่องจริงเหรอ]

[ใช้แล้ว มันคือเรื่องจริง]

[โดยเฉพาะพลังงานและหินอีเทอร์ที่พบได้ในเฉพาะดันเจี้ยนเท่านั้นราคาของมันพุ่งขึ้นสูงขึ้นมาหลายเท่า 

เนื่องจากมันใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ถึงแม้ในดันเจี้ยนจะอันตรายแต่ก็มีผู้คนมากมายเสี่ยงโชคไปกับมัน 

ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนเริ่มพูดถึง การระบาดของดันเจี้ยนที่ปรากฏขึ้น พวกเขาสันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นความหวังใหม่ของมนุษย์ชาติก็เป็นได้ ไม่แน่ในอนาคตโลกมนุษย์ของเราจะพัฒนาอีกไปก้าวกันแน่ๆ เพราะฉะนั้นพวกเราต้องคอยติดตามกันต่อไป]

ทว่าความจริงมันกลับไม่เหมือนในทีวี ที่อธิบายไว้

“มันไม่ใช่ความหวัง แต่วันคือความสิ้นหวังต่างหาก”

ความสุขของมนุษย์คงอยู่ได้อีกไม่นาน

เมื่อพวกเขาทานข้าวเย็นกันเสร็จ ซูฮยอนไล่แม่ไปที่ห้องนอน วันนี้เขาจะเป็นคนล้างจานเอง

เมื่อซูฮยอนล้างจานเสร็จ เขาก็เดินไปที่ห้องนอนด้วยเช่นกัน

แอ๊ด

 “แม่ผมทำเสร็จแล้วครับ”

แต่เสียงของซูฮยอนค่อยๆเบาลง

สายตาของเขาเห็นว่าชินซูย็องนอนหลับอยู่กลับกองเสื้อผ้า

ดูเหมือนว่าเธอจะเหนื่อยจากการทำงานมากเกินไป ทำให้เธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ซูฮยอนมองดูเธออยู่สักพัก เขาตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นมานอนบนที่เตียงและจัดการห่มผ้าให้เธอ

 “แม่”

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเธอที่กำลังหลับ ภายในใจของเราก็ปั่นป่วน

ถึงแม้ว่าเขาจะจัดสินใจใช้ชีวิตในชื่อของ ซูฮยอน แต่เขาก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กๆในบางครั้ง

ในเมื่อเธอดีกับเขาขนาดนี้ เขาก็ต้องดีกลับไปด้วยเช่นกัน

“ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่ลูกชายจริงๆของแม่”เขาพูดและจับมือของเธอไปด้วย

“แต่ ผมจะทำให้แม่มีความสุขที่สุดในโลก”

"ผมสัญญา"

เขาไม่อยากให้คนสำคัญของเขาต้องจบชีวิตลงอีกต่อไป

 

[ฝากติดตามแฟนเพจด้วยนะครับ >> อ๊ปไปแปล ]

รีวิวผู้อ่าน