px

เรื่อง : Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9
ตอนที่ 15 ยืดหยุ่นราวกับสปริง


ตอนที่ 15 ยืดหยุ่นราวกับสปริง

ฉินอวี่ยกแขนขึ้นพร้อมเบี่ยงตัวหลบ

ผัวะ!

ฉินอวี่เหวี่ยงหมัดใส่ชายร่างใหญ่จนเขาเซถอยหลังไปสองก้าว ก่อนยกมือขึ้นเผยท่าทียอมแพ้ “อย่าทำให้เรื่องยุ่งยากไปกว่านี้เลยครับ คนมีอำนาจอย่างคุณอย่าลดตัวลงมายุ่งกับคนต่ำต้อยอย่างผมเลย”

หลังถูกชกจนเซ...ชายร่างใหญ่เบิกตากว้างเพราะความตกใจ “แกรู้วิธีป้องกันตัวดีหนิ!”

“ผมเป็นแค่ตำรวจชั้นน้อย…” ฉินอวี่กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น ก่อนหันไปหาชายชราที่นั่งอยู่พร้อมวิงวอน “คุณหม่า...ผมไม่มีอำนาจในการตัดสินใจจริงๆ ครับ ปล่อยผมไปเถอะ…”

เฒ่าหม่ามองฉินอวี่พร้อมขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ปล่อยเขา”

ชายร่างใหญ่ค่อยๆ ถอยห่าง

“หากนายไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ก็บอกฉันมาว่าคดีนี้ใครมีอำนาจสูงสุด?” เฒ่าหม่าถาม

เมื่อได้ยินคำถาม...ฉินอวี่จึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “มันเป็นคำสั่งจากกองบัญชาการครับ พวกเขาต้องการให้สำนักงานเรากวาดล้างขบวนการค้ายาในตรอกเถ้าธุลี โดยมีผู้กำกับการตำรวจหลี่เป็นผู้บังคับบัญชาส่งต่อคดีนี้ให้กับหน่วยที่หนึ่งจัดการ ซึ่งผู้หมวดหยวนเป็นคนสั่งให้ผมสะสางคดีให้เสร็จโดยเร็วที่สุดครับ”

ทุกคนผงะเมื่อได้ยินคำตอบของฉินอวี่ เขาไม่เพียงแค่พยายามปกป้องผู้บังคับชาเท่านั้น ทว่ายังปกป้องตนเองด้วย

เมื่อเห็นว่าทุกคนตกตะลึง ฉินอวี่จึงสบโอกาสกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว “คุณหม่าครับ...มันจะไม่มีปัญหาเลยหากจ่ายเงินใต้โต๊ะให้ผู้บังคับบัญชาและโน้มน้าวให้พวกเขาปล่อยเรื่องนี้ไป ผมจะแก้ไขทุกอย่างและปล่อยตัวคนของคุณทันที”

“หึ! นายรู้ตัวดีว่าต้องอยู่ข้างใคร!” เฒ่าหม่ามองฉินอวี่ด้วยแววตาเป็นประกาย

ฉินอวี่พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ผมเป็นเพียงตำรวจชั้นน้อย แค่ต้องเอาตัวรอดไปวันๆ ก็ยากพอแล้ว...ผมจะกล้าทำให้ใครขุ่นเคืองใจได้ไงครับ?”

เฒ่าหม่าเงียบไปครู่หนึ่งก่อนโบกมือ “ปล่อยเขาไป”

“หัวหน้า!” ชายร่างใหญ่ตะโกน ขณะเข้าไปขวางฉินอวี่พร้อมมีดในมือ

“ปล่อยเขา!” เฒ่าหม่าย้ำอีกครั้ง 

ชายฉกรรจ์จ้องมองฉีหลินก่อนหลีกทาง

“ไม่ต้องห่วง...ถึงผมไม่สามารถปล่อยตัวคนของคุณได้ ทว่าพวกเขาก็อยู่ภายใต้การดูแลของผม...ดังนั้นผมจะดูแลพวกเขาเป็นการตอบแทน” ฉินอวี่กล่าว

เฒ่าหม่าตกใจกับคำพูดนี้อยู่ชั่วครู่ก่อนตอบด้วยรอยยิ้ม “รบกวนด้วย!”

“ยินดีครับ!” ฉินอวี่พยักหน้าก่อนเดินจากไป

ภายในตรอก

ชายร่างใหญ่ก้าวไปด้านหน้าพร้อมบ่นพึมพำ “ไอ้นั่นอ่อนหัดเกินไป ผมไม่คิดว่ามันจะพูดความจริง และไม่คิดว่ามันจะช่วยเราด้วย!”

เฒ่าหม่าจุดบุหรี่พลางส่ายหัว “เขาไม่ได้อ่อนหัด...เขาเจ้าเล่ห์ต่างหาก”

ชายร่างใหญ่ผงะเล็กน้อย

“คนอ่อนแอมักจนปัญญาเมื่อโดนกดดัน” เฒ่าหม่ากล่าวพลางสูบบุหรี่ “นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เขาพยายามจะสื่อบางอย่างให้เราคิด!”

“สื่อบางอย่าง?” ชายร่างใหญ่งุนงง

“เขาบอกว่าตนเองไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของหยวนเค่อและผู้กำกับการหลี่” เฒ่าหม่ากล่าว “เขาแค่ทำตามหน้าที่และไม่อยากโทษผู้บังคับบัญชาเสียทีเดียว...ทว่ามันเองก็พร้อมจะหักหลังหยวนเค่อโดยไม่ลังเล!”

“นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้ภักดีกับหยวนเค่ออย่างนั้นเหรอ?” ชายร่างใหญ่พึมพำพร้อมครุ่นคิด “และถ้าหยวนเค่อเลื่อนยศให้เขา นั่นหมายความว่า…”

“ถูกต้อง!” เฒ่าหม่าพูดแทรก “การกวาดล้างผู้ลักลอบค้ายาอย่างกะทันหันของเจ้าหน้าที่คนนั้นอาจเกี่ยวข้องกับยาระลอกใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาด เมื่อก่อนหน้ามีเพียงเราที่ผูกขาดยาเถื่อน แต่ตอนนี้เรามีคู่แข่งเพิ่ม...ดังนั้นสาเหตุของการปราบปรามก็คือการกำจัดคู่แข่งทางการค้าอย่างไงล่ะ!”

“แล้วเราจะทำอย่างไร?”

“ไม่มีประโยชน์ถ้าเราจะให้ฉินอวี่จัดการเรื่องนี้” เฒ่าหม่ากล่าว “อย่างแรกต้องหาสาเหตุในการปราบปรามให้ได้ก่อน จะได้รู้ว่าควรช่วยดามินและหม่าเหลาเอ๋ออย่างไร!”

หลังหนีออกมาจากตรอก ฉินอวี่ก็รีบไปยังสำนักงานโดยเร็วที่สุด!

สิ่งที่เฒ่าหม่าวิเคราะห์นั้นถูกต้อง ฉินอวี่ไม่ต้องการหักหลังใคร มันเป็นการดีที่หยวนเค่อสั่งให้เขาจัดการคดีนี้ และถ้าเกิดปัญหา...หยวนเค่อก็ต้องเป็นคนจัดการ!

ฉินอวี่กำลังดิ้นรนสร้างตัวในเขตพิเศษที่เก้า ดังนั้นเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ตัดสินอะไรได้

เมื่อถึงสำนักงานตำรวจ สิ่งแรกที่ฉินอวี่ทำคือตามหาหยวนเค่อและเล่าเรื่องทั้งหมด นั่นก็เพราะเขาต้องการเห็นปฏิกิริยาของหยวนเค่อ

หยวนเค่อตกตะลึงทันทีที่ได้ยิน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “สองสามวันนี้นายต้องระวังตัวให้ดี อย่าเพิ่งปะทะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เองไม่ต้องกังวล...สองถึงสามวันต่อจากนี้ฉันจะให้ตำรวจที่หน่วยทำการกวาดล้างกลุ่มคนลักลอบค้ายาและของเถื่อน! คนพวกนั้นจะได้รู้ว่าปัญหามันเกิดจากฉันคนเดียว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินอวี่คลายความกังขาที่มีต่อหยวนเค่อทันที เขารู้สึกถึงความจริงใจในคำพูด และการที่หยวนเค่อเต็มใจรับผิดชอบนั้นหมายความว่าเขาเป็นผู้บังคับบัญชาที่พึ่งพาได้

เมื่อคุยกับหยวนเค่อเสร็จ...ฉินอวี่มุ่งหน้าไปยังห้องสอบสวนเพื่อพบกับดามินและหม่าเหลาเอ๋อ เขาต้องการข้อมูลลับเพื่อจับกุมเหล่าผู้มีอิทธิพล

เวลาผ่านไปกว่าหกชั่วโมง หม่าเหลาเอ๋อและดามินยังคงปิดปากเงียบและไม่ยอมให้ความร่วมมือ

และแล้วความอดทนของจาบีก็หมดลง เขาลากผู้ต้องหาทั้งสองคนไปยังห้องที่ไม่มีกล้องวงจรปิด และเริ่มใช้วิธีป่าเถื่อนเพื่อบังคับให้ทั้งสองยอมให้การ...ไม่ว่าจะถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยมแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ยอมปริปาก 

ฉินอวี่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากสอบสวนลูกน้องของหม่าเหลาเอ๋อเพื่อรวบรวมเบาะแส แม้ไม่รู้ว่าข้อมูลที่ได้มานั้นจริงหรือเท็จก็ตาม

ภายในห้องสืบสวน

ฉินอวี่สูบบุหรี่ไฟฟ้าพลางมองไปที่ลูกน้องของหม่าเหลาเอ๋อ “บอกข้อมูลมา! เราจะช่วยได้ไงในเมื่อพวกนายไม่ปริปากพูดอะไรเลย?!”

หนึ่งในลูกน้องของหม่าเหลาเอ๋อก้มหน้าพลางตอบ “ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่พวกเราไม่รู้จริงๆ! พวกเขาอาจย้ายของกลางไปซ่อนไว้ที่อื่นแล้วก็ได้! ดังนั้นข้อมูลที่ฉันรู้มามันจึงไร้ประโยชน์!”

“นายไม่รู้เหรอว่าจาบีโหดเหี้ยมแค่ไหน!” ฉินอวี่ลุกขึ้นพลางตอบอย่างเหลืออด “ช่างเถอะ! ฉันไม่อยากรู้แล้ว...ให้จาบีสั่งสอนพวกนายตามสบาย!”

“ยะ...อย่าทำเลย! ขอร้องล่ะ! ให้เวลาฉัน!”

“คิดเร็วๆ สิ! ฉันหิว! จะออกไปกินข้าว!” ฉินอวี่ตะคอกพร้อมเดินไปนั่งบนเก้าอี้

ชายผู้นั้นครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนตบหัวตนเอง “คิดออกแล้ว!”

“อะไร?!” ฉินอวี่ถาม

“ก่อนพวกเราถูกจับ หม่าเหลาเอ๋อคุยโทรศัพท์กับคู่ค้าว่าจะนัดส่งของที่ซ่งเจียงในไม่กี่วันนี้!” ดวงตาของชายผู้นั้นเปล่งประกาย

ฉินอวี่เบิกตาโพลงด้วยความตื่นเต้น “แน่ใจนะ?!”

ณ ชุมชนสลัมในเมืองซ่งเจียง

ชายรูปลักษณ์มอมแมมถือโทรศัพท์แนบหูพลางกล่าว “ข่าวรั่วหรือยัง? ผมเพิ่งรับของมาและต้องจัดการให้เร็วที่สุด”

ที่ปลายสาย...

เฒ่าหม่าครุ่นคิดชั่วขณะก่อนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “มาคุยรายละเอียดกันก่อน”

………………………………….

รีวิวผู้อ่าน