px

เรื่อง : ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 38: ความจริงปรากฏ, คำสั่งประหาร


ตอนที่ 38: ความจริงปรากฏ, คำสั่งประหาร

 

-------------------------

เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบคนที่สี่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่อง  บทความเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้

 

เจี้ยงเฉินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในด้านนี้ เขาสามารถตอบคำถามทั้งสามข้อที่ผู้ตรวจสอบถามมาอย่างง่ายดาย

 

คำถามทั้งสามข้อนี้เป็นอุปสรรคต่อศิลปะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ พวกเขาติดขัดมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว และเขาก็ได้เห็นแสงสว่างทันทีหลังจากคำอธิบายของเจี้ยงเฉิน

 

 ฝ่าบาท ข้าน้อยผู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้กล้าที่จะใช้ศีรษะของข้าเพื่อรับรองขุนนางเจี้ยง ถ้าระดับเขายังไม่สามารถผ่านการสอบพื้นฐานได้ จะไม่มีผู้เยาว์คนไหนที่จะสามารถผ่านได้ 

 

คำเหล่านี้เพิ่มความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

 

ขุนนางแห่งมังกรทะยานมีสีหน้าไม่พอใจเมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้ตรวจสอบที่สี่ นี่เป็นการตบหน้าใช่หรือไม่ ? ลูกสาวของข้าหลงยู่ซือเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่มีฟีนิกซ์สีฟ้า ศักยภาพและประสบการณ์ของนางจะด้อยกว่าเจ้าเด็กเหลือขอคนนี่หรือ? ฮึ. เจ้าเป็นเพียงแค่ผู้ตรวจสอบเพียงอย่างเดียว เจ้ามองเห็นแง่มุมใดของชีวิต? เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงพูดจาโอหังเช่นนี้ ?

 

ขุนนางแห่งมังกรทะยานโกรธมาก

 

ดูหลูไห่กระโดดออกไปทันที  ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นคนดูแลการทดสอบมังกรซ่อนด้วยพระบัญชาของพระองค์. ข้าน้อยได้ทำงานอย่างขยันขันแข็ง, แต่วันนี้ เจ้าหนุ่มอวดดีผู้นี้ดูถูกข้าน้อย. ฝ่าบาท ได้โปรดตัดสินคดีความอย่างรอบคอบและได้โปรดแสดงความเป็นธรรมแก่ข้าน้อย ขุนนางอาวุโสด้วย 

 

 ฝ่าบาท เจี้ยงเฉินเป็นคนไม่เคารพกฎหมาย. แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์บางอย่าง,แต่เขาก็ยังทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้าน้อยเกรงว่าเราไม่ควรยอมเจ้าหนุ่มนี่ต่อไปได้อีก 

 

ในที่สุดขุนนางแห่งมังกรทะยานก็พูดขึ้นมา

 

คำพูดของเขาแสดงถึงทัศนคติในด้านที่เขาเลือกจะมอง

 

อันที่จริง,เหล่าขุนนางข้าราชบริพารหลายคนก็กระโดดออกไปและขอร้องให้องค์ราชาตงฟางหลู่จัดการเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดตามกฎหมายของแผ่นดิน!

 

 ขุนนางเจี้ยงเฉินเป็นหนุ่มที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ เป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะเขียนคำตอบที่เต็มไปด้วยสิ่งไร้สาระ อย่างไรก็ตาม ข้าจะแต่งตั้งขุนนางดูให้สอบสวนสถานการณ์อย่างรวดเร็ว มีใครไม่เห็นชอบกับเรื่องนี้หรือไม่ 

 

องค์ราชาตงฟางหลู่ให้คำแนะนำเชิงรุกเหล่านั้น คำตรัสขององค์ราชาเทียบเท่ากับการปกป้องเจี้ยงเฉินอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน

 

ขุนนางแห่งมังกรทะยานกำลังจะปริปาก แต่แล้วก็มีเสียงฝีเท้าเบาๆเดินทางมาจากด้านนอกห้อง

 

 ไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวน! ข้าได้ค้นพบความจริงแล้ว   ในขณะนี้องหญิงโจวหยู่ซึ่งแต่งกายด้วยชุดเกราะได้เดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย

 

เหล่าทหารนักรบที่ดูคล้ายกับเสือและหมาป่าที่ตามหลังเธอเห็นได้ชัดว่าเป็นองครักษ์พระราชวัง

 

เหล่าทหารรักษาการณ์ได้จับกุมคนบางกลุ่ม

 

ใบหน้าของดูหลูไห่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาเห็นกลุ่มคนที่ถูกจับมัดไว้ ผู้คนเหล่านี้เป็นคนสนิทของเขา! มีคนเหล่านี้มาเพิ่มภายใต้แรงกดดันในช่วงเวลาวิกฤตินี่อีก?

 

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงวัยกลางคนสวมเครื่องประดับทองและเงิน ยังมีอัญมณีอีกมากมายบนตัวนาง ใบหน้าของนางถูกปัดแต่งอย่างมันวาว นี่ไม่ใช่ภรรยาของดูหลูไห่หรือ ?

 

หญิงวัยกลางคนเริ่มแช่งเสียงดังเมื่อเห็นดูหลูไห่  ดูหลูไห่ เจ้าได้กระทำความผิดและถูกลากไปที่เรือนจำหลวงแล้วมิใช่หรือ ? เจ้ามาทำอะไรที่นี่

 

ดูหลูไห่กระโดดขึ้น  ใครบอกเจ้า ว่าข้าถูกลากไปยังเรือนจำหลวง ? นั่นคือข่าวลือ ! เจ้ามันเป็นผู้หญิงงี่เง่า เจ้าพูดอะไรบางอย่างที่เจ้าไม่ควรพูดหรือไม่ ? 

 

ผู้หญิงคนนั้นหน้าซีด  ข้า... ข้าบอกทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขากล่าวว่า ? ข้าจะได้รับการผ่อนผันถ้าหากข้าพูดความจริงทั้งหมด

 

องค์หญิงโจวหยู่หัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อ  พี่น้องแห่งราชวงศ์ ข้าเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับการทุจริตและการละเมิดกฎหมายของดูหลูไห่มานานแล้ว ข้าสังเกตการณ์อย่างลับ ๆ และรวบรวมพยานหลักฐาน การรวบรวมพยานหลักฐานจากทุกเส้นทางส่งผลให้เกิดผลตอบแทน ดูหลูไห่เป็นบุคคลอันตรายน่ารังเกียจ ! นี่คือคำสารภาพของภรรยาของเขาและพยานหลักฐาน มีหลักฐานอย่างละเอียดเกี่ยวกับการโกงของดูหลูไห่ในการทดสอบมังกรซ่อน

 

และนี่ หม่าดาตง ผู้ที่ดูหลูไห่ไว้วางใจมากที่สุด ดูหลูไห่สั่งให้เขาทำทุกอย่าง หม่าดาตงนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าที่จะได้รับการอภัยโทษจากองค์ราชา

 

แม้ว่าหม่าดาตงจะเคยเป็นผู้ที่ดูหลูไห่ไว้วางใจมากที่สุด,นับตั่งแต่ที่ภรรยาของดูหลูไห่ยอมรับความจริง,หากเขายังคงปกปิดเรื่องราวทั้งหมดเขาจะต้องโดนประหารเป็นแน่

 

เขาไม่กล้าที่จะสบตาดูหลูไห่ และเขาก็คุกเข่าลงอย่างสั่นเทา เขาได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่เขาได้เริ่มเปลี่ยนแผ่นกระดาษคำตอบ และวิธีการที่เขาแหกตาคนอื่น ๆ ราวกับถั่วที่ถูกเทออกจากท่อไม้ไผ่

 

พระพักตร์ขององค์ราชาตงฟางหลู่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาฟัง

 

 แล้วแผ่นคำตอบอันเก่าอยู่ที่ไหน ?

 

องค์หญิงโจวหยู่หยิบมันออกมาจากมือขององครักษ์ของพระราชวังและนำมันไปข้างหน้า  มาดาตงคนนี้เป็นคนฉลาดและรู้ว่าจะเก็บอะไรไว้บ้าง เขาแอบเก็บไว้เมื่อดูหลูไห่สั่งให้เขาทำลายมันและพวกเขาก็ทำเหมือนเป็นคนช่วยชีวิตผู้อื่น 

 

พยานและหลักฐานทั้งหมดถูกนำเสนอ

 

ต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่ที่ลอกเลียนแบบลายมือของเจี้ยงเฉินก็สารภาพตรง ๆ

 

อาชญากรรมและหลักฐานทั้งหมดมัดตัวดูหลูไห่โดยไม่มีข้อยกเว้น คนเหล่านี้ถูกดูหลูไห่ข่มขู่ และทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะทำเช่นนั้น

 

ต่อไป คือการนับข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง

 

ดูหลูไห่รู้สึกสับสนโดยสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของเขา และความดันโลหิตของเขาพุ่งสูงขึ้น เขามีสีหน้าเศร้าหมองเมื่อเขากระแทกตัวลงบนพื้นอย่างแรง

 

 มันเป็นได้อย่างไร?

 

ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เหลือบไปยังขุนนางแห่งมังกรทะยานและดูเหมือนว่าดูหลูไห่ได้เจอคนที่จะช่วยเขาได้  ขุนนางหลง ได้โปรดพูดอะไรบางอย่างแทนข้าด้วย ข้า ดูหลูไห่ได้สร้างผลงานต่าง ๆ ให้กับท่านมาไม่น้อย 

 

ในขณะนี้ ดูหลูไห่เปรียบเหมือนคนพาลที่สามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ใครก็ตามที่ร่วมงานกับคนประเภทนี้ ถือเป็นโชคร้าย ขุนนางหลงขมวดคิ้วดุเดือดขณะที่เขาสาปแช่งดูหลูไห่เงียบ ๆ "ไร้ประโยชน์   พร้อมกับเตะเขาด้วยขาข้างเดียว

 

 ในชีวิตขุนนางเช่นข้า คนที่ที่มีความโลภและอิจฉาในตัวผู้อื่นเช่นเจ้า เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด  เสียงของขุนนางแห่งมังกรทะยานเต็มไปด้วยความรังเกียจราวกับเป็นการดูถูกเหยียดหยามแมลงวันตัวใหญ่ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงดั่งเช่นโรคระบาด

 

 ฝ่าบาท สิ่งที่ข้า หลงซาวเฟิงไม่อาจทนได้มากที่สุดในชีวิตนี้คือคนทรยศเช่นนี้ ข้าน้อยขอร้องให้ ฝ่าบาททรงมีคำสั่งเพื่อให้ข้าตัดศีรษะโจรถ่อยผู้นี้ต่อหน้าธารกำนัลด้วย! 

 

องค์ราชาตงฟางหลู่ยิ้มบาง ๆ คิดชั่วครู่แล้วพยักหน้า  เรารู้สึกยินดีต่อความจงรักภักดีของขุนนางหลง ตกลง !"

 

แม้เจี้ยงเฉินรู้สึกทึ่งกับการพัฒนานี้

 

องค์หญิงโจวหยู่มีรู้สึกสับสน แต่แล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่ราชาตงฟงหลู่ได้ตัดสินใจ

 

ดูหลูไห่รู้สึกกลัวเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น  ขุนนางหลง อย่าฆ่าข้าเลยข้ายังมีประโยชน์ 

 

นอกจากนี้เขายังเริ่มรำพึงรำพันในความหวาดกลัวของเขา เมื่อเขาเห็นว่าขุนนางแห่งมังกรทะยานกำลังละเลยเขา เขาได้คลานไปหาเจี้ยงเฉิน " ขุนนางเจี้ยงข้าผิดไปแล้ว ข้า...มีข้อมูลอื่นจะบอกท่าน ข้าถูกบังคับ นายน้อยเจี้ยง ข้ารู้ว่าท่านเป็นที่ชื่นชอบขององค์ราชา ได้โปรดแก้ต่างให้กับข้าและข้าดูหลูไห่จะยอมเป็นสุนัขรับใช้ให้แก่ท่านนับจากนี้ไป ข้าจะสู้กับใครก็ตามที่ท่านสั่ง ข้ามีข้อมูลลับที่จะรายงาน ข้า........"

 

หลังจากเดินทางมาถึงโลกใบนี้ เจี้ยงเฉินได้เห็นคนเลวร้ายบางคนที่โกหกมดเท็จแต่เขาไม่คิดว่าดูหลูไห่จะทำอะไรที่เกินเลยไปกว่านั้น

 

 ดูหลูไห่ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าจะต้องเสียใจที่เลือกทางผิด แต่ใครจะคิดว่าเจ้าจะตายด้วยน้ำมือของขุนนางหลง มันเป็นอะไรที่น่าเยาะเย้ยมาก 

 

เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างเต็มที่และมองไปยังขุนนางแห่งมังกรทะยานอย่างมีเลศนัย

 

เขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตัวไม่ดีต่อขุนนางแห่งมังกรทะยาน แม้แต่คนโง่ก็สามารถมองเห็นว่าขุนนางแห่งมังกรทะยานอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

 

เหตุผลที่ทำไมราชาตงฟงหลู่ไม่ได้เปิดโปงเรื่องนี้ จึงต้องเป็นเพราะพระองค์ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยขุนนางหลงอย่างโจ่งแจ้งทันที กล่าวคือตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะแสดงไพ่ในมือ

 

ดูหลูไห่ถูกลากออกไปอย่างรวดเร็วและถูกตัดหัวด้วยน้ำมือของขุนนางแห่งมังกรทะยาน !

 

เมื่อขุนนางแห่งมังกรทะยานลากศพที่หัวขาดออกไปเพื่อทำหน้าที่ของเขา แม้แต่เจี้ยงเฉินก็รับรู้ถึงความเหี้ยมโหดของคนคนนี้

 

แม้ว่าดูหลูไห่จะเป็นหนึ่งในสุนัขรับใช้ของเขา แต่เขาก็เป็นสุนัขที่ทำตามคำสั่ง

 

เขาจะตัดหัวดูหลูไห่ออกเหมือนกับที่เขาพูด เขาเป็นคนที่ดุร้ายและไร้ความปรานี

 

ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในการดำเนินการต่อต้านการทุจริต. ราชาตงฟงหลู่โกรธอย่างสุดขีดและเขาได้ออกคำสั่งให้บุกบ้านและประหารชีวิต!

 

ผู้สมรู้ร่วมคิดที่เหลือทั้งหมดถูกเนรเทศไปไกล !

 

สำหรับคำตอบที่แท้จริงของเจี้ยงเฉิน หลังจากการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบทั้งสี่คนพบว่าคำตอบนั้นตรงกับคำตอบใหม่ที่เขาเขียนในวันนั้นโดยไม่มีอักษรใดอักษรหนึ่งที่แตกต่างออกไป

 

ด้วยวิธีนี้ผู้คนประหลาดใจอย่างมากกับความจำที่น่าอัศจรรย์ของเจี้ยงเฉิน

 

ความจริงปรากฏ. ในฐานะผู้จัดงานหลักของการทดสอบมังกรซ่อน องค์หญิงโจวหยู่ได้ประกาศทันทีว่าเจี้ยงเฉินได้ผ่านการทดสอบพื้นฐานสามข้อและมีคุณสมบัติเข้าร่วมการสอบครั้งสุดท้าย

 

 ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านครั้งนี้

 

เมื่อการไต่สวนสิ้นสุดลง เจี้ยงเฉินพยักหน้าต่อองค์หญิงโจวหยู่. เจี้ยงเฉินรู้สึกยินดีกับความช่วยเหลือนี้เป็นอย่างมาก มิฉะนั้นแล้วเขาจะต้องประสบกับปัญหามากไปกว่านี้.

 

 ไม่จำเป็น !  องค์หญิงโจวหยู่โบกมือด้วยแขนเรียวยาวขณะที่นางพูดด้วยท่าทีที่สุภาพ  ข้าเป็นผู้จัดการหลักของการทดสอบมังกรซ่อนและเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ของข้าเพื่อให้แน่ใจว่าทายาทของเหล่าขุนนางได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมและเป็นธรรม

 

เจี้ยงเฉินยิ้มโดยอัตโนมัติ  ทำไมท่านต้องเคร่งขรึมตลอด ?

 

 เจ้าว่าอะไรนะ ...  ดวงตาฟีนิกซ์ขององค์หญิงโจวหยู่ขยับและนางถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

 ผู้หญิงดูไม่สวยเมื่อขมวดคิ้ว  เจี้ยงเฉินยิ้มจาง ๆ  และเมื่อข้าบอกท่านว่า ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านหนึ่งครั้ง ข้าหมายความอย่างนั้นจริง ๆ.

 

ยังไงก็ช่าง องค์หญิงโจวหยู่สะบัดผมหยักและบอกปัด  มีอะไรจะพูดอีกรึเปล่า ? ถ้าไม่มี ข้ามีเรื่องอื่นอีกมากมายที่ต้องดูแล 

 

มีคนกล่าวว่าความคิดของผู้หญิงค่อนข้างแปลกมาก องค์หญิงโจวหยู่รู้สึกเช่นเดียวกันกับเจี้ยงเฉิน

 

ครั้งแรกที่นางได้พบกับเจี้ยงเฉิน นางไม่ค่อยจะประทับใจนัก นางรู้สึกว่านี่เป็นชายหนุ่มที่ไม่เอาจริงเอาจัง

 

ความคิดเหล่านี้เริ่มจริงจังขึ้นเมื่อเขาได้ว่ากล่าวหานางอย่างรุนแรงตอนที่พบกันครั้งแรก

 

หลังจากนั้น เจี้ยงเฉินก็ยิ่งออกคำสั่งกับองค์หญิงโจวหยู่อย่างไม่จำกัดและสั่งการนางเมื่อมีการปรับปรุงวังของเจ้าหญิงจื่อยั่ว

 

ความรู้สึกมหัศจรรย์บางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจขององค์หญิงโจวหยู่ในขณะนั้น เพราะนางยังไม่เคยเจอใครในชีวิตของนางที่กล้าจะพูดกับนางด้วยวิธีนี้

 

และคนนี้อายุน้อยกว่านาง อย่างน้อยหกหรือเจ็ดปี

 

หลังจากนั้น เมื่อองค์หญิงโจวหยู่รู้ว่าความเจ็บป่วยของเจ้าหญิงจื่อยั่วเปลี่ยนไปได้ดีขึ้นหลังจากการวินิจฉัยและการรักษาของเจี้ยงเฉิน, ความคิดเห็นของนางได้เปลี่ยนอย่างน้อย180 องศาโดยที่นางไม่รู้ตัว

 

เมื่อเจี้ยงเฉินก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายที่คฤหาสน์มังกรทะยาน หลังจากนั้นองค์หญิงโจวหยู่ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้นางได้ตัดสินเด็กหนุ่มคนนี้ผิด.

 

และตอนนี้ในช่วงเวลาปัจจุบันองค์หญิงโจวหยู่รู้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าคนอื่นว่าที่จริงแล้วเจี้ยงเฉินไม่ได้เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเขาเคยพรรณนาไว้ก่อนหน้านี้ ที่ผู้คนเรียกเขาว่า ชายเจ้าชู้สำรวย คนที่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้และไม่มีทักษะการต่อสู้เป็นเรื่องหลอกลวงลวง!

 

แต่องค์หญิงโจวหยู่ยังเป็นคนหัวแข็ง. นางไม่ได้ยินยอมที่จะมีสัมพันธไมตรีต่อเจี้ยงเฉินก่อนหน้านี้ และความขวยเขินของผู้หญิงทำให้นางไม่สามารถวางศักดิ์ศรีของนางและพูดคุยกับชายหนุ่มคนนี้อย่างยินดีได้

 

อย่างไรก็ตาม เจี้ยงเฉินไม่คิดว่าความคิดขององค์หญิงโจวหยู่เป็นเช่นนั้น และคิดว่าผู้หญิงคนนี้ยังคงเกลียดเขาเพราะเขาได้พูดจาเสียดสีนางในพระราชวังก่อนหน้านี้

 

ยิ้มอย่างขบขันให้กับรูปลักษณ์ที่ชวนให้วาบหวามขององค์หญิงโจวหยู่, เขายิ้มและเพิ่มระดับเสียงของเขา  ความขัดแย้งของพลังฉีจริงอยู่ที่ก่อให้เกิดปัญหาในการควบคุม ท่านเคยติดอยู่ในวังวนของเส้นชีพจร ฉี ทั้งสิบอย่างน้อยสามปีใช่หรือไม่? ทำไมท่านถึงล้มเหลวในการก้าวหน้าต่อไป ? ในโอกาสนี้ข้าต้องการที่จะตอบแทนน้ำใจของท่าน แต่ลืมไปเสียเถิดในเมื่อท่านไม่ต้องการ 

 

ร่างกายขององค์หญิงโจวหยู่ที่สง่าผ่าเผยดั่งนกฟีนิกซ์, ได้สั่นสะท้านขึ้นมา การเคลื่อนไหวของนางได้หยุดชะงักลง.

รีวิวผู้อ่าน


908 วันที่แล้ว

มั่วมาก พระเอกอายุ 16 บอกว่าห่างจากอายุตนเอง 6_7ปี เท่ากับตัวเอง อายุ 22 ปี แต่หลานตัวเอง อายุ 16เท่ากับพระเอก เท่ากับว่า แม่ของหลาน ตัวเอง ท้องตอนอายุ 4ขวบ_5ขวบ


  แสดงความคิดเห็น