
182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555

182 วันที่แล้ว
555
ตอนที่ 6 ตลาดมืด
ทุกคนพากันแยกย้ายกลับไป แต่ความฮึกเหิมในใจของพวกเขาไม่ได้สลายไปด้วย
เรื่องนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว คนของโรงเรียนศิลาศักดิ์สิทธิ์ต่างก็พากันพูดถึงเรื่องนี้
แมวบ้านกลับตบหมาป่าตาฟ้าเลเวล 14 ลงได้อย่างรวดเร็วและยังจัดการกับกบระดับเงินเลเวล 10 ได้อีกด้วย
ผลลัพธ์อันน่าเหลือเชื่อนี้ทำให้ทุกคนตะลึง
เพราะความแปลกของเรื่องนี้ทำให้เรื่องนี้เผยแพร่ออกไปทั่วโรงเรียน มันทำให้ทุกคนเกิดการตั้งคำถามในเรื่องนี้ จนทำให้หวังเย่าและจ้าวซวนเป็นที่สนใจมากกว่าเก่า
หลายคนอยากจะรู้ว่าแมวบ้านมีพลังแบบนี้ได้ยังไง รวมไปถึงขึ้นเป็นสัตว์อสูรระดับเงินได้ยังไง ?
อันที่จริงตั้งแต่โลกนี้มีการเปลี่ยนแปลง สัตว์เลี้ยงนั้นยากที่จะกลายเป็นสัตว์อสูรได้
เพราะพวกมันได้สูญเสียสัญชาตญาณของสัตว์ป่าไปภายใต้การเลี้ยงดูของมนุษย์ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีเงินพอไปซื้อสัตว์อสูร ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ทำสัญญากับสัตว์เลี้ยง
มีตัวอย่างนับไม่ถ้วนที่พิสูจน์แล้วว่าสัตว์เลี้ยงที่กลายเป็นสัตว์อสูรนั้นมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่ต่ำและไม่คุ้มค่ากับการฝึกฝนเลย รวมถึงความยากที่จะยกระดับมันให้ขึ้นเป็นระดับเงินด้วย จึงทำให้ผู้คนไม่เลือกที่จะทำแบบนั้น
หากแมวของหวังเย่าอยู่ระดับเงินจริง ๆ งั้นมันก็มีค่าอย่างมาก
แน่นอนว่านักเรียนส่วนมากนั้นไม่คิดอะไรมากในเรื่องนี้
...
หวังเย่าได้ออกจากลานไปด้วยความกังวล
ไม่ใช่เพราะเขาไปหาเรื่องจ้าวซวน แต่เป็นเพราะเขาหิว
เมื่อมองยอดเงินในสายรัดข้อมือประจำตัวที่แทบจะว่างเปล่าไป เขาก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องหาเครดิตเพิ่ม มิฉะนั้น เขาต้องเจอกับปัญหาเรื่องปากท้องของตัวเองแน่
เครดิตนี้เป็นหน่วยเงินที่ใช้อย่างเป็นทางการในทุกเมือง
หวังเย่าพอปรับตัวกับค่าเงินนี้ได้ 1 เครดิตมีค่าไม่ต่างอะไรจาก 1 หยวน
ที่โรงอาหาร
หวังเย่าได้ไปกินมื้อเที่ยงกับโจวอวิ๋นที่เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของเขา
“อาอวิ๋น นายรู้มั้ยว่าจะหาเครดิตได้เร็ว ๆ จากไหน ? ”
ตอนนี้หวังเย่าต้องการเครดิต เขาไม่มีทางเลือกอื่น
“อาเย่า นายไม่มีเงินแล้วหรือ ? ฉันให้ยืมเอาไหม ? ” ฐานะของโจวอวิ๋นพอใช้ได้ ครอบครัวของเขาเปิดร้านอาหาร
“ขอบคุณแต่ฉันต้องการเครดิตจำนวนมาก ฉันต้องซื้ออาหารให้กับการ์ฟีลด์ ไม่งั้นถ้าจ้าวซวนมาหาเรื่องฉันอีก คงต้องเป็นปัญหาแน่ ๆ ” หวังเย่าส่ายหน้า
เรื่องที่หวังเย่าทำให้จ้าวซวนต้องอับอายขายหน้านั้น โจวอวิ๋นก็พอรู้มาบ้าง เขาอดไม่ได้ที่จะชมหวังเย่า คนตระกูลจ้าวมักทำตัวเย่อหยิ่ง แม้แต่ตัวเขาเองก็อยากจะสั่งสอนจ้าวซวนบ้าง
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กังวลขึ้นมา หวังเย่าไม่มีอำนาจ หากจ้าวซวนคิดจะหาเรื่องจริง ๆ หวังเย่าคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
เงินน่ะสามารถใช้ทำได้หลายอย่าง ตราบใดที่จ้างนักฆ่ามาได้ งั้นหวังเย่าก็อาจจะปกป้องชีวิตของตัวเองไม่ได้
แน่นอนว่าความบาดหมางระหว่างนักเรียน อาจจะไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนั้น แต่ถึงยังไง หวังเย่าก็ต้องเตรียมรับมือเอาไว้บ้าง มีแค่การเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการ์ฟีลด์เท่านั้นที่จะทำให้เขาสบายใจขึ้นมาได้
“การหาอาหารดี ๆ ต้องใช้เงินจำนวนมาก น้ำยาพลังขั้นต้นใช้เงิน 1,000 เครดิต น้ำยาพลังขั้นกลางใช้ 3,000 เครดิต น้ำยาพลังขั้นสูงใช้ 10,000 เครดิต”
โจวอวิ๋นรับรู้ได้ถึงปัญหา อสูรของเขาก็ใช่ว่าจะแข็งแกร่ง เขาเองก็ไม่ได้มีเงินมากพอให้หวังเย่ายืม
“พี่เย่า ฉันรู้จักที่หนึ่ง แต่มันอันตราย มันมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ที่นั่น... ”
หวังเย่าคึกคักขึ้นมาทันที สิ่งที่เรียกว่าความเสี่ยงนั้นมาพร้อมกับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ เขารีบถามขึ้นมาทันที
“ ที่ไหนหรือ ? ”
“ตลาดมืดใต้ดิน” โจวอวิ๋นขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ตลาดมืดใต้ดินทางเหนือของเมือง ที่นั่นจะมีการตั้งภารกิจ รวมถึงการพนันอสูร มันก็เหมือนการต่อสู้นั่นแหละ อีกอย่าง ในตลาดมืดนั้นมีของหายากขายมากมาย เช่น ยากัดกร่อน, ยาอสูรคลั่ง, น้ำยาวิวัฒนาการและอื่น ๆ ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็ตาเป็นประกาย ที่นั่นฟังดูน่ากลัวก็จริงแต่ตอนนี้เขามีระบบอยู่ ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะเสี่ยง
โจวอวิ๋นเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำออกมา “พี่เย่า นายคงไม่ไปจริง ๆ หรอกนะ เรายังเป็นนักเรียนกันอยู่ มันจะดีกว่าที่จะไม่ไปที่นั่น ไม่งั้นแล้วมันจะสร้างปัญหาให้ตัวเราเอง”
หวังเย่าไม่ได้แสดงความรู้สึกจริง ๆ ออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกังวล “อาอวิ๋น นายไม่ต้องห่วงหรอก ฉันแค่พูดเฉย ๆ ” แต่เขาก็ยังคิดในใจว่า ‘ถึงอย่างนั้นก็ต้องเสี่ยง แม้ระบบจะพัฒนาสัตว์อสูรได้...แต่มันก็ต้องใช้เครดิตจำนวนมาก’
หวังเย่ากัดฟันแน่น ตอนนี้เขาเหลือเครดิตแค่ 200 เครดิตสุดท้าย เขาตัดสินใจที่จะเสี่ยง
...
หวังเย่าหาข้ออ้างเพื่อขอลาครูออกมา
เขานั่งรถไฟจากโรงเรียนไปยังทางเหนือของเมือง เขามองฉากต่าง ๆ ที่ผ่านสายตาเขาไปแล้วพึมพำออกมา
เมืองอรุณคือหนึ่งในเมือง 36 แห่งของภูมิภาคหัวเซี่ย มีประชากรมากกว่า 20 ล้านคนแต่พื้นที่นั้นมีไม่มาก
ในอีกความหมายคือเมืองอรุณนั้นแออัดอย่างมาก
ดาวโลกนั้นเชื่อมต่อกับมิตินับไม่ถ้วน ผลก็คือสัตว์และพืชกลับพัฒนาขึ้นมาหมดยกเว้นแค่มนุษย์ นั่นทำให้ความหลากหลายของมนุษย์ลดลงมาเหลือแค่ 20% เท่านั้น
การจะเกี่ยวข้าวก็ยังต้องใช้รถที่สูงเกือบ 100 เมตรในการเกี่ยวข้าว
ถึงนี่จะเป็นหายนะสำหรับมนุษย์แต่ก็ยังถือว่าเป็นโอกาส คานท์ค้นพบเรื่องที่น่าทึ่งอย่างการที่มนุษย์สามารถทำสัญญากับสัตว์อสูร และสามารถดึงพลังอันโดดเด่นออกมาได้ในฐานะผู้ใช้อสูร
“ฉันอิจฉาพวกที่สู้อยู่นอกเมืองจริง ๆ โชคร้ายที่เมืองอรุณมีกฎว่าต้องอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีสัตว์อสูรที่มีพลังมากว่า 300 หน่วยเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ออกไปนอกเมืองได้”
ผ่านไป 30 นาทีเขาก็ได้มาถึงทางเหนือของเมือง ด้วยการซักถามผู้คนต่าง ๆ มันก็กินเวลาไม่นานก่อนที่เขาจะลงไปที่ชั้นใต้ดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่ง
“ขึ้นไป แกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่” เขาถูกหยุดโดยยามซึ่งสวมชุดเกราะพร้อมกับกระบองในมือ
“ฉันจะไปตลาดมืด” หวังเย่ามองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีกล้องอยู่ด้วย เขาก็กังวลขึ้นมาแต่ก็ยังรวบรวมความกล้าพูดออกมา
ยามมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะพยักหน้า “งั้นก็ตามฉันมา”
หวังเย่าถูกพาไปยังห้องข้าง ๆ ทันที
“มาครั้งแรกงั้นหรือ ? มีใครแนะนำมารึเปล่า ? ” ชายแก่ในชุดม่วงที่นัยน์ตาคมกริบราวกับอินทรีย์ได้ถามขึ้นมา
หวังเย่าส่ายหน้า
ชายแก่ไม่ถามอะไรต่อและพูดขึ้น “เด็กน้อย แกต้องสวมหน้ากาก บอกชื่อมา ค่าธรรมเนียมการเข้า 100 เครดิต”
“แปดเทพ” หวังเย่าไม่อยากใช้ชื่อจริงของตัวเอง เขาได้ยื่นสายรัดข้อมือออกไปเพื่อให้ชายแก่หักเครดิตของเขาออก
แปดเทพคือชื่อของตัวละครจากเกมเดอะคิงออฟไฟท์เตอร์ของโลกเก่า เมื่อเอามาใช้ปกปิดตัวตนแล้ว มันก็ฟังดูเท่ดี
เขาเชื่อว่าคงไม่มีใครคิดว่าเขาเป็นแค่เด็กนักเรียนแน่ ๆ
ชายแก่พยักหน้าก่อนจะเอาหน้ากากเสือออกมาแล้วเขียนชื่อแปดเทพลงไป ก่อนจะส่งให้กับหวังเย่า จากนั้นยามคนเดิมก็พาเขาเดินเข้าไปด้านในต่อ
“นี่คือทางเข้าตลาดมืด แกต้องสวมหน้ากากตอนที่เข้าไปและออกมาด้วย” ยามชี้ไปที่ประตูสีดำตรงหน้า
555
555
555
555
555
555
555
555
555
555