บทที่ 20 แกว่ามันแค่เรื่องตลกแต่กับฉันไม่
เจียงฮ่าวได้รับกระดาษคำตอบจากมือของโจวหง แต่ในตอนที่กำลังจะหันกลับไปที่นั่งของตน เขานั้นแค่ชำเลืองมองไปแถวหน้าโดยไม่สนใจที่จะมองหลิวหยวนแม้แต่น้อย
เขาเดินกลับที่นั่งของตนโดยมีรอยยิ้มเยาะปรากฎอยู่บนใบหน้าของตน หลังจากนั้นโจวหงจึงได้เริ่มอธิบายคำตอบในข้อสอบที่ทำไป
คาบเรียนนี้สำหรับหลิวหยวนแล้วมันช่างรวดเร็วซะเหลือเกิน
มันไม่ได้สนใจฟังการอธิบายของอาจารย์โจวหงเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่มันคิดอยู่ภายในหัวนั้นมีเพียงการพนันระหว่างมันและเจียงฮ่าวเท่านั้นเอง
“กริ๊งงงงงงงง....”
เมื่อชั้นเรียนจบลง หลิวหยวนราวกับพึ่งตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งเลิกคาบเรียน
หลังจากอาจารย์โจวหงเดินจากไป เสียงหนึ่งได้ดังก้องทั่วห้อง
“หลิวหยวน ถึงเวลาทำตามที่พนันไว้แล้ว”
ทันทีที่เสียงนี้ได้ดังขึ้น ทุกๆคนได้หันไปยังต้นเสียงอยู่ปราดหนึ่งหรือก็คือเจียงฮ่าวนั่นเอง
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้หันไปมองหลิวหยวน
ร่างกายของมันนั้นแข็งทื่อในทันทีที่ได้ยินต่อให้ใจของมันนั้นจะวิ่งออกจากห้องไปแล้วก็ตาม
ในตอนนี้เอง ห้องเรียนแห่งนี้ก็ได้ตกอยู่ในภาวะเงียบงันอย่างที่สุด
เจียงฮ่าวที่นั่งอยู่ที่ที่นั่งของตนได้จ้องมองไปยังหลิวหยวนที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ที่โต๊ะของมันด้วยรอยยิ้มกว้าง
“โอ้....หัวหน้าห้องที่หน้านับถือของพวกเรานั้นดูเหมือนจะลืมอะไรไปบางอย่างนะ”
หลิวหยวนในตอนนี้รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าท่ามกลางการจ้องมองของทุกคนในห้อง
และในตอนนี้เอง หลิวหยวนได้ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วหันหลังมายิ้มแหยๆใส่เจียงฮ่าวที่อยู่หลังห้อง
“คนอย่างแกคงไม่คิดว่าไอ้เรื่องที่คุยกันไว้นั่นมันจริงจังหรอกนะ”
เจียงฮ่าวที่มองไปยังร่างผอมบางของหลิวหยวน ก็ได้ลุกขึ้นมาด้วยรอยยื้ม เขาเดินตรงไปยังหลิวหยวนในทันที
ในตอนนี้เอง คนอื่นๆได้หันมาจ้องเจียงฮ่าวเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวหยวนในทันที ทุกคนต่างก็สนใจขึ้นมาในทันทีว่าเมื่อเจียงฮ่าวได้ยินแบบนี้แล้วจะทำยังไงต่อ
เจียงฮ่าวได้ไปยืนข้างหลิวหยวนพร้อมจ้องมองไปยังหลิวหยวนด้วยรอยยื้มเหี้ยมเกรียม
หลิวหยวนในตอนนี้กำลังจ้องมองไปยังเจียงฮ่าวด้วยรอยยิ้มที่แหยยิ่งกว่าเดิม พร้อมพยายามส่งสายตาอ้อนวอนให้ปล่อยตนเองไป
ทั้งสองจ้องมองหน้ากันอยู่พักหนึ่งโดยไม่พูดอะไรออกมา
“ปังงงงง”
“แกร๊กกกกๆๆๆ”
ในตอนนี้เองก็ได้บังเกิดสียงหนึ่งดังลั่นต่อหน้าผู้คนในห้อง
หลิวหยวนนั้นขวัญกระเจิงในทันทีจนกระโดดโหยงถอยหลังไปจนเกือบล้ม
เขามองโต๊ะของมันด้วยความหวาดกลัว
นั่นก็เพราะตรงที่หมัดของเจียงฮ่าวกระทบโดนโต๊ะของเขานั้นได้บังเกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นมา
นักเรียนคนอื่นที่อยู่ในห้องเองก็จ้องมองไปยังโต๊ะของหลิวหยวนด้วยสายตาตื่นตะลึง
“เฮีอก---”
ทุกคนที่เห็นรูบนโต๊ะถึงกับสะดุ้งเฮือกในทันที
โคตรโหด
ทุกคนในตอนนี้ได้มองเจียงฮ่าวเป็นตาเดียวกัน
ตอนนี้เจียงฮ่าวได้ค่อยๆก้มมองไปยังหมัดของตัวเองที่ไปจรดลงบนโต๊ะของหลิวหยวน หลังจากนั้นจึงค่อยยกมันขึ้นมาจากรูขนาดใหญ่พร้อมพูดในสิ่งที่เตรียมเอาไว้ในใจ
“ไอ๊หยา โต๊ะนายโคตรเปาะเลยนี่หว่า”
หลิวหยวนในตอนนี้กลัวจนเบิกตาโต เขาประมวลผลขึ้นในใจทันทีว่าถ้าหมัดนี้ได้จรดบนร่างของเขาล่ะก็ มันคง....
หลังจากเจียงฮ่าวพูดจบ เขาหันควับไปยังหลิวหยวนในทันทีด้วยรอยยิ้มกว้าง
“โอ้ หัวหน้าห้อง นายมีอะไรจะพูดไม๊”
ในตอนนี้ หลิวหยวนที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความหวาดกลัว ได้กลับมาได้สติในทันที
หลิวหยวนกัดริมฝีปากตัวเองไปหนึ่งที ก่อนจะรีบยิ้มออกมา
“ไม่...ไม่มีอะไรนะ”
“ฉันแค่จะบอกว่าฉันยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ยอมแพ้แล้วจริงๆ”
หลิวหยวนได้รีบอธิบายออกมาอย่างร้อนรน
“โอ้...ดีมากเลย ว่าแต่เราจะเริ่มกันตอนนี้หรือหลังเลิกเรียนดีล่ะ”
ในตอนนี้ หลิวหยวนไม่คิดที่จะถอยหนีหรือขอเลื่อนแม้แต่น้อย มันรีบลงไปคลานสี่ขากัยพื้นในทันที
ในตอนนี้ หลิวหยวนคลานไปรอบห้องด้วยสายตาที่ปราศจากความเกลียดชัง
“ฮ่ง ฮ่ง ฮ่ง ฮ่ง”
หลิวหยวนที่คลานรอบห้องเสร็จแล้วได้หันมายังเจียงฮ่าวพร้อมเห่าออกมาสี่ที
“โอ้....หัวหน้าห้อง ฉันไม่นึกเลยนะเนี่ยว่านายจะทำตัวเป็นหมาได้เหมือนขนาดนี้ นายนี่ทำตัวเป็นหมาได้ดีจริงๆ”
เจียงฮ่าวพูดใส่หลิวหยวนที่ตอนนี้กำลังนั่งมองเขาราวกับสุนัขตัวหนึ่ง
เมื่อพูดจบ เขาได้หันหลังและเดินกลับไปที่นั่งของตน
หน้าของหลิวหยวนได้บังเกิดสีแดงกล่ำทั่วไปทั้งหน้า
เมื่อเห็นเจียงฮ่าวจากไป หลิวหยวนได้รีบลุกขึ้นแล้วนั่งลงที่โต๊ะของตัวเองในทันที มันไม่แม้แต่จะมองคนในห้องด้วยซ้ำว่ากำลังมองมันด้วยสายตาแบบไหน
แต่ในตอนนี้ หัวใจของมันกำลังกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น
“เจียงฮ่าว แกรอก่อนเถอะ ความอับอายในวันนี้ฉันจะไม่ยอมให้จบลงแบบนี้แน่นอน”