px

เรื่อง : Chronicles of Primordial Wars
ตอนที่ 35 : ไม่เลวใช่ไหม ฮึ


ท่ามกลางเสียงเชียร์ เมื่อทีมล่ากลับมาบน“เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์” และร่างกายของพวกเขาทอดเงาร่างตามเส้นทางยามอาทิตย์อัสดง

นักรบที่แข็งแกร่งแบกเกมขนาดใหญ่กว่าตัวเอง และพวกเขาดูเหมือนมดที่กำลังแบกไข่นกกระทา บางส่วนของพวกเขาไม่เพียงแต่แบกเกมไว้บนไหล่ พวกเขาจะสะพายเกมไว้บนหลังหรือลากพวกมันด้วยเชือกฟาง

มันเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ และนักรบแบกเกมค่อนข้างมาก

มันเป็นการบอกว่าระหว่างการปฏิบัติภารกิจนี้ ไม่มีใครถูกฆ่า มีเพียงนักรบสองคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ในสถานที่ของหมอผี และพวกเขาอยู่ในอาการทรงตัว เพราะร่างกายของนักรบนั้นแข็งแรงทนทาน พวกเขาจะฟื้นพลังทั้งหมดอีกครั้งหลังจากได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ

ฉาวซวนยิ่งกว่าเหนื่อยเพราะการลงแรงตลอดในช่วงบ่ายและงานหัตถกรรมหิน เขาหันกลับไปและมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของตัวเองหลังจากที่เขาได้เห็นแลงกา และเมยในฝูงชน เขาไม่ได้วิ่งไปข้างหน้าเพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาเหมือนคนอื่น ๆ เขาหมดแรงแล้ว

ที่ด้านหน้าของทีม เห็นได้ชัดเจนว่าคนตัวเล็กกำลังแบกหมูป่ายักษ์สองตัว นั่นคือเหมาและเขาก็ยินดีมากกับตัวเอง เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการยกย่องของผู้คนและปากของเขาไม่สามารถหุบได้มันเป็นเพราะรอยยิ้มของเขา มันให้ความรู้สึก ... ดีมาก! เขายืดหลังตรงมากขึ้นและมองไปที่ฝูงชน ขณะที่เขาหันศีรษะเพียงแค่นั้นกลับเห็นหลังของฉาวซวนพร้อมกับซีซาร์ที่กำลังเดินจากไปในสายตาของเขา

ฉาวซวนไม่มีชีวิตชีวาเพราะความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และตัดสินใจจากไป มันดูเหมือนว่าเขารู้สึกค่อนข้างพ่ายแพ้

เหมาคิดว่าฉาวซวนต้องรู้สึกอับอายขายหน้าที่เขาแบกหมูป่ายักษ์สองตัว นอกจากนี้ เหมาคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะบดขยี้ศักดิ์ศรีของเขาอีกครั้งเมื่อฉาวซวนเข้าร่วมภารกิจล่าสัตว์

หลังจากที่พักผ่อนในคืนที่ผ่านมา ฉาวซวนรู้สึกว่าเรี่ยวแรงกลับมาอีกครั้ง เต็มไปด้วยพลัง ความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อก็หายไป ราวกับว่าเขาไม่ได้ลงมือทำอะไรมากมายเมื่อวานนี้

หลังจากที่เขาได้ใช้เวลาช่วงเช้าทั้งเก็บรวบรวมแกนหิน ฉาวซวนตามปกติได้วางแผนที่จะไปหาชายชราเค่อในช่วงบ่าย

แต่เค่อบอกฉาวซวนให้หยุดพักสำหรับวันนี้ เพื่อที่เขาจะได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ

มองไปที่งานของเขาทำเสร็จแล้วในวันนี้ ฉาวซวนตัดสินใจที่จะออกไปในขณะที่เขาหยิบบางอย่างออกมา เครื่องมือหินที่เค่อนำออกมาสำหรับการซื้อขายเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของการผลิตจากฉาวซวน อีกครึ่งหนึ่ง, ตาแก่เค่อให้ฉาวซวนเก็บไว้กับตัวเอง ดังนั้นตอนนี้ฉาวซวนยังคงมีเครื่องมือหินอีกเป็นจำนวนมากสำหรับตัวเอง

เขาเลือกเครื่องมือหินลงในถุงตาข่ายที่ทำจากเชือกฟางทั้งสองใบ และเดินไปยังเขตไหล่เขา

ตามเวลาที่ฉาวซวนได้มาถึง แลงกายังคงนอนหลับอยู่ ทุกครั้งเมื่อเขาไม่ได้อยู่ในหน้าที่ แลงกาจะนอนหลับเป็นเวลาสามหรือสี่วันเมื่อเขากลับมาจากการปฏิบัติภารกิจล่าสัตว์

"ว่าไง?" แลงกาหาว และดวงตาของเขายังคงปิด

“โอ้ ข้ามาที่นี่เพื่อให้ของบางอย่างกับท่าน ท่านควรจะกลับไปนอน.” ฉาวซวนวางหนึ่งในถุงตาข่ายบนโต๊ะหินในห้องพัก, และเตรียมที่จะจากไป เขาต้องการที่จะได้ยินเรื่องราวระหว่างการปฏิบัติภารกิจการล่าสัตว์ครั้งแรกในเวลานี้ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบัน เขาควรจะรออีกไม่กี่วันสำหรับเรื่องราว

"สำหรับข้า?" แลงกาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ฉาวซวนได้นำมาแม้เขาจะง่วงนอน

แลงกาเปิดถุงตาข่ายและเมื่อเขาเห็นหัวธนูหินที่สำเร็จแล้ว ดวงตาที่เกือบปิดของเขาเบิกกว้างทันที ประกายแสงวาบเข้ามาในดวงตาของเขา และเขาก็นำเอาหัวลูกศรอันหนึ่งมาสังเกตอย่างใกล้ชิด

ขอบทั้งสองบนหัวลูกศรหินถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษตามความต้องการปกติของแลงกา ดังนั้นขนาดและรูปร่างจะแตกต่างกว่าของคนทั่วไปเล็กน้อย และมีเงี่ยงที่ยาวกว่า เพราะแลงกาใช้หินประเภทนี้อยู่แล้ว ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของเขา แลงกาอาจจะไม่พบประโยชน์ของพวกมัน ดังนั้นฉาวซวนไม่ได้เพิ่มเติมความคิดของตัวเองกับพวกมัน

แลงกาจ้องมองไปที่หัวลูกศรหินที่เขามีอยู่ในมือ และยิ่งดูมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น

หัวลูกศรตรงหน้าของเขาที่ได้ขัดเงาและสิ่งที่สำคัญคือขอบทั้งสองข้างสมบูรณ์แบบ! ขอบทั้งสองข้างสามารถรักษาความสมดุลของหัวลูกศร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันพุ่งตัวออกไป เช่นนั้นมันอาจจะเข้าถึงตัวเป้าหมายในมุมที่แม่นยำมากขึ้น เมื่อปีกทั้งสองข้างคำนวณผิดพลาด มันจะส่งผลต่อการปฏิบัติภารกิจล่าสัตว์ทั้งหมด เพื่อเพิ่มพลังทำร้ายล้างของหัวลูกศร แลงกาจะลงมือหัตถกรรมหินของเขาเอง มีขอบยาวและคมชัด และมีเงี่ยงสองคม

แลงการู้สึกเสมอว่ามีเพียงหัวลูกศรที่ทำด้วยมือของเขาเองจะเป็นประโยชน์สำหรับเขา และเขาไม่ชอบการทำงานของผู้อื่น แม้ในขณะที่หัวลูกศรมาจากปู่ของเขา แต่เห็นหัวลูกศรที่อยู่ในมือ แลงกามีอาการที่มากกว่าคำว่าตกใจ เพราะเขาสามารถบอกได้โดยการชั่งน้ำหนักมันในมือ หัวลูกศรเหล่านี้มันสมบูรณ์แบบสำหรับเขาที่จะใช้มัน

หัวลูกศรที่เขามีอยู่ในมือตอนนี้ดูคล้ายกับของที่แลงกาทำด้วยตัวเอง ไม่ ตามจริงพวกมันไม่เหมือนกัน หัวลูกศรเหล่านี้ตรงหน้าของเขาใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ

โดยปกติเมื่อแลงกาลงมือทำหัวลูกศรของตัวเอง เขาจะไม่รำคาญกับการขัดเงาเก็บรายละเอียด เพราะสำหรับเขาที่มีการผลาญหัวลูกศรเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้าของเขามันมากกว่าคำว่าปรับแต่ง

“เฮ้ ขอบใจเจ้านะ อาซวน! ข้าชอบพวกมันมาก! เออ ใช่ ช่วยไปขอบคุณชายชราเค่ออสำหรับการทำหัวลูกศรที่ดีเช่นนี้ให้กับข้า!”

ในสายตาของแลงกา แน่นอนว่าหัวลูกศรหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยเค่อ และเป็นธรรมดาที่ฉาวซวนจะขอพวกมันมาจากเค่อ ให้พวกมันกับเขา

แลงกาใช้นิ้วหัวแม่มือของเขาสัมผัสไปที่ขอบของหัวลูกศรหิน อ้าาาา, ใบมีดคมกริบจึงไม่น่าแปลกใจว่ามันมาจากผู้เชี่ยวชาญ!

ฉาวซวนกำลังจะเดินออกไปแต่เขาหันไปรอบ ๆ และยิ้มให้กับคำพูดของแลงกา“ข้าจะส่งผ่านคำพูดของท่านให้ แต่เออนี่ หัวลูกศรเหล่านั้นข้าเป็นคนลงมือเอง ท่านควรจะลองดูว่าพวกมันมีประโยชน์หรือไม่.”

เมื่อฉาวซวนตอบกลับมา แลงกาอึ้ง ขณะที่เขากำลังสัมผัสกับหัวลูกศรหิน เขาเงยหน้าขึ้นมองฉาวซวน รู้สึกประหลาดใจเหมือนที่กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขากระตุกอย่างแรงสองสามครั้ง

"รอแป๊บนึง!"

แลงกาเดินไม่กี่ก้าวและตรงมาที่ด้านหน้าของฉาวซวน เขาถามคำถามด้วยคำพูดที่จริงจังในขณะที่เขาจับหัวลูกศรว่า“นี่คือผลงานของเจ้า ??”

ฉาวซวนพยักหน้า“ใช่ พอจะใช้ได้ไหม ฮึ?”

พอจะ...ใช้ได้ไหม?

แลงกาจ้องไปที่ฉาวซวนพร้อมกับดวงตาสีแดงก่ำและสูดลมหายใจอย่างแรง

หากสิ่งเหล่านี้ถูกตัดสินว่า“ พอจะใช้ได้ ” เช่นนั้นแล้วหัวลูกศรที่ทำด้วยมือของตัวเองควรถูกตัดสินอย่างไร? หินขยะ?

ฉาวซวนไม่ค่อยเข้าใจมากนักว่าแลงกาหมายถึงอะไร เขาได้รับหัวลูกศรหินบางส่วนจากแลงกา. ตั้งแต่หัวลูกศรถูกนำมาใช้เพียงครั้งเดียว แลงกาไม่ได้ตั้งใจที่จะนำพวกมันเข้าร่วมภารกิจล่าสัตว์ในอนาคต แต่มันอาจจะเป็นขยะที่จะโยนออกไป ดังนั้นเขาจึงให้ฉาวซวนสำหรับการฝึกฝนของเขา ณ ตอนนั้น แลงกาและคนอื่น ๆ ทุกคนได้ใช้เครื่องมือหินมือสองในการฝึกฝน ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในเผ่า

ฉาวซวนทำหัวลูกศรหินเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่แลงกาให้กับเขา มีข้อบกพร่องมากขึ้นหรือน้อยลงในหัวลูกศรหิน แต่กล่าวโดยทั่วไปมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานมากนัก ฉาวซวนเคยคิดว่าข้อบกพร่องเหล่านั้นเกิดจากการใช้งาน และเค่อยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นกับของเหล่านั้นเมื่อเขาเห็นพวกมัน แต่สำหรับหัวลูกศรที่สร้างขึ้นโดยฉาวซวน เค่อประเมินพวกมันเป็น“เกือบจะใช้ได้” นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉาวซวนถึงพูดว่า“พอจะใช้ได้ไหม”

แลงกาจ้องไปที่ฉาวซวนด้วยแววตาที่ค่อนข้างซับซ้อน บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าเขามีปู่ซึ่งเป็นช่างผู้ชำนาญเครื่องมือหิน เขาคิดว่าเขามีความสามารถในงานหัตถกรรมหิน เขาทำเครื่องมือหินด้วยตัวเอง และตอนนี้เขามีความสำเร็จบางอย่างในด้านนี้ แม้ว่าทักษะของเขาไม่ได้ดีเท่ากับคุณปู่ของเขา เขาก็มั่นใจว่าหลังจากนี้บางทีอาจจะเป็นสิบปี เขาจะดีกว่าปู่ของเขา ยิ่งกว่านั้น ในหมู่เพื่อนของเขา เขามีทักษะที่โดดเด่นในงานหัตถกรรมหินมากกว่าคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันมาถึงหัวลูกศรหินเกือบจะไม่มีใครสามารถทำได้ดีกว่าเขา!

แต่ตอนนี้มีเด็กที่เพิ่งตื่นขึ้นจากพลัง ที่อายุเพียงสิบปี และได้รับการเรียนรู้งานหัตถกรรมหินเพียงแค่สามสิบวัน หัวลูกศรหินทำโดยฉาวซวนดีกว่าผลงานของเขาเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสายตาที่เฉียบคมของเขา เขาสามารถบอกได้โดยธรรมชาติว่าเครื่องมือหินนี้ไม่สามารถทำได้เพียงเพราะว่ามีเวลาและมีความพยายามมากพอ นับประสาอะไรกับความจริงที่ว่าหัวลูกศรหินเหล่านี้มีพื้นผิวที่ค่อนข้างเรียบ และเช่นกันที่ไม่มีจุดสะดุด มีแนวโน้มสูงที่ลูกศรหินเหล่านี้ลงมือได้อย่างรวดเร็วและไหลลื่น!

ทำไมถึงมีความแตกต่างมากนักนับตั้งแต่ที่เขากลับมาจากการปฏิบัติภารกิจล่าสัตว์?

ข้าออกมานานเพียงแค่ยี่สิบวัน, ไม่ใช่สองปี!

ใบหน้าของแลงกาพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง ในขณะที่เขาคิดว่าจะให้ลูกศรหินมือสองที่มีข้อบกพร่องมากมายแก่ฉาวซวนก่อนภารกิจการล่าสัตว์ เขาต้องการที่จะมุดลงรูอยู่ใต้พื้นดิน แม้ว่าเขาจะหนังหนาเป็นปกติ เขามีมาตรฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อมันมาถึงเครื่องมือหิน บางทีเขาอาจจะได้รับผลกระทบจากปู่ของเขา

หายใจลึก ๆ!

แล้วก็อีกครั้ง!

แลงกายื่นนิ้วมือที่สั่นออกมาสามนิ้วและชี้ไปที่ข้างนอก“เจ้าห้ามโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นเป็นเวลาสามวัน!”

ในขณะที่เขาพูดจบประโยค แลงกาปลดม่านลง และเขาไม่สามารถนอนหลับได้อีกต่อไป เขาก้าวไปที่ห้องเล็ก ๆ ที่เขาใช้สำหรับงานหัตถกรรมหินและเริ่มที่จะลงมือทำ

ขณะที่จากบ้านหลังอื่นที่อยู่ใกล้กับห้องของแลงกา ชายชราคนหนึ่งที่มีผมสีเทาเดินออกมา เขามองดูกระชุ่มกระชวยแม้เขาจะอายุเยอะแล้ว ดูเหมือนว่าเขายังคงสามารถแบกหินที่มีน้ำหนักร้อยกิโลกรัมได้อย่างง่ายดาย

นั้นเป็นปู่ของแลงกา ชายชราเพิ่งตื่นจากการพักผ่อนของเขา และตอนนี้เขาตั้งใจที่จะลงจากภูเขากับเพื่อนบางคน ในขณะที่เขาเคี้ยวเนื้อตากแห้งในปากของเขา เขาคิดว่าอาจจะเป็นหนึ่งในบุตรชายของเขาที่กำลังลงมือทำหัตถกรรมหินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจล่าสัตว์ต่อไป เมื่อเขาได้ยินเสียงบดหิน แต่ด้วยการเหลียวมองผ่านหน้าต่าง เขาพบว่ามันเป็นหลานชายของเขา ที่ควรจะนอนหลับอยู่ในห้องพักของตัวเอง ตอนนี้เขากำลังลงมืออยู่ในห้องหัตถกรรมหิน!

ชายชราเกือบสำลักเนื้อตากแห้ง เนื่องจากอาการช็อค ดวงตาของเขาเบิกกว้างเหมือนลูกหิน และเขาจ้องไปที่แลงกาในลักษณะเดียวกับการจ้องมองไปที่สัตว์ดุร้ายในป่าที่มีอยู่ตัวเดียวในรอบสิบปี

อะไรวะ ?!

ไอ้แสบตัวน้อยนี่ใช้เวลาในการนอนหลับ 3-4 วันหลังจากจบภารกิจล่าสัตว์ทุกครั้ง และแม้แต่การทุบตีเขาก็ไม่สามารถลากเขาออกมาจากเตียงได้! มันเกิดอะไรขึ้น?

ในขณะที่กลับกัน , ฉาวซวนค่อนข้างสับสนเมื่อแลงกาบอกว่า“อย่าโผล่หน้าไปให้เขาเห็นเป็นเวลาสามวัน” มีอะไรผิดปกติกับแลงกา? ความดันโลหิตต่ำเพราะง่วงนอน?

ฉาวซวนส่ายหัวในขณะที่เขาถือถุงใบอื่น และยังคงปีนขึ้นไปบนเขาเพราะเมยอาศัยอยู่ที่สูงขึ้นไปบนภูเขา

รีวิวผู้อ่าน