px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 39 : หนี


ตอนที่ 39 : หนี

          เมื่อนึกปลอบใจตัวเองด้วยการที่จะจับลิงน้อยมากินเป็นอาหารอยู่นั้น ฟ่างหยุนก็จ้องมองไปที่มันด้วยสายตาที่มีจิตสังหารออกมา อย่างไรก็ตามตอนนี้ในใจของเขาเองก็เกิดความลังเลขึ้นมา เพราะว่าลิงนั้นมีความว่องไวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนพวกมันอยู่บนต้นไม้ ถ้าหากว่าพวกมันพบเห็นฟ่างหยุนที่เป็นงูเข้าอย่างจัง รับรองได้เลยว่าการไล่จับพวกมันกินในครั้งนี้จะกลายเป็นงานหยาบอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วทางเดียวที่เขาจะสามารถจับพวกมันได้นั่นก็คือการซุ่มโจมตีด้วยไม่ให้พวกมันได้ทันระวังตัว

 

          เมื่อกำลังครุ่นคิดเพื่อหาทางอยู่นั้น ระบบก็ส่งการแจ้งเตือนเข้ามาในหัวของเขาทันที

 

          ตรวจพบเป้าหมาย

ลิงดำที่ยังโตไม่เต็มวัย

ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 120 หน่วย

 

          หลังจากที่ระบบแจ้งเตือนเสร็จสิ้นแล้ว ฟ่างหยุนจึงตัดสินใจค่อยๆเลื้อยเข้าไปหาเจ้าลิงดำตัวน้อย

 

          “ คราวหน้าถ้ามีคะแนนทักษะที่เพียงพอแล้ว ข้าคงจะต้องอัพเกรดทักษะลายพรางสัก 1 ขั้นบ้างแล้วล่ะ ”

 

          ในขณะที่ฟ่างหยุนกำลังคิดอย่างเสียดายเมื่อสายเกินไป แม้ว่าสีสันบนลำตัวของเขานั้นจะช่วยให้เขาพรางตัวได้ในระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เพียงพอ ด้วยขนาดลำตัวที่ใหญ่แบบในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าสีนั้นจะคล้ายกับสภาพแวดล้อมรอบข้างมากเท่าไหร่ มันก็ยังคงเป็นที่สังเกตเห็นได้อย่างง่ายดายขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญในการวิวัฒนาการทุกๆครั้งที่ผ่านมามันก็ยิ่งทำให้สีสันของเขาดูเด่นขึ้นมาเป็นเท่าตัว ดังนั้นแล้วในที่สุดเขาก็ต้องตัดสินใจที่จะเลือกอัพเกรดทักษะลายพรางเอาไว้ใช้งานให้ได้ในครั้งต่อไป

 

          เพราะคำอธิบายของทักษะ “ ลายพราง ” นั้นคือการทำให้สีสันของร่างกายเขาเปลี่ยนไปจนคล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมนั้นๆมากที่สุดเพื่อที่จะดึงประสิทธิภาพของการพรางตัวออกมาใช้ให้ได้ผลดีที่สุด

 

          ถ้าหากว่าเขามีทักษะที่ว่านั้นติดตัวอยู่แล้ว เขาก็จะไม่ต้องกังวลเลยว่าลิงฝูงนี้จะเจอตัวเขาที่ซ่อนอยู่อย่างง่ายดาย

 

          ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นเขาก็เลื้อยไปเรื่อยๆ จนในที่สุดตอนนี้เขาก็เลื้อยไปถึงใต้ต้นไม้ที่มีพวกลิงกำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้นั้นแล้ว

 

          เจ้าลิงตัวน้อยนั่งอยู่ที่ปลายๆแถวของฝูงมันในมือนั้นถือลูกพลับทั้งสองข้าง แม้ว่าตอนที่มันกำลังกัดกินผลไม้ที่อยู่ในมือนั้น ตาของมันก็ไม่ได้จ้องมองสิ่งที่มันกำลังกินอยู่เลยแต่กลับจ้องมองผลไม้ลูกอื่นๆที่ห้อยตามกิ่ง ราวกับว่ามันกำลังคิดที่จะกินลูกไหนต่อดี

 

          ไม่ว่าจะเป็นเจ้าลิงน้อยหรือตัวอื่นๆในฝูงซึ่งตอนนี้พวกมันกำลังเพลิดเพลินกับผลไม้จนทำให้พวกมันไม่รู้ตัวเลยว่าฟ่างหยุนที่เป็นงูนั้นกำลังเลื้อยไกล้เข้ามาแล้ว ทางฟ่างหยุนเองเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบใช้ลำตัวโอบรอบๆ ต้นไม้พร้อมกับเลื้อยไต่ขึ้นไปบนนั้น พอรู้ว่าพวกลิงไม่ได้สังเกตุอะไรเลยสักนิด เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

          ฟ่างหยุนเลื้อยอย่างช้าๆ ด้วยความเงียบราวกับว่าตอนนั้นเขาเลื้อยไปด้วยกลั้นหายใจไปด้วยเพราะกลัวจะเป็นที่ผิดสังเกตุต่อพวกฝูงลิง

 

          อย่างไรก็ตามถึงแม้จะระมัดระวังมากขนาดไหน แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน เพราะเมื่อฟ่างหยุนอยู่ห่างจากเจ้าลิงน้อยราวๆ  5 เมตร ก็ดันมีลิงที่โตเต็มวัยจากต้นไม้ต้นอื่นมาเจอเข้ากับฟ่างหยุนเต็มๆ มันจึงลุกขึ้นส่งเสียงร้อง โดยที่ขนตามลำตัวของมันลุกตั้งชันราวกับว่าเจอผี

 

          “ แอ๊กกกกก ! ” เมื่อเสียงร้องอันแหลมคม ดังขึ้นจากปากของเจ้าลิงตัวที่โตเต็มวัยนี้ สมาชิกของฝูงลิงทั้งหมดก็ต่างหันหน้าไปตามทิศทางที่มันกำลังชี้

 

          ในขณะนั้นเองจึงทำให้เจ้าลิงน้อยที่กำลังตกเป็นเป้าของฟ่างหยุนนั้นเหลียวมองไปข้างหลัง และสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของมันนั้นก็คืองูหลามที่มีขนาดถึง 3 เมตรเลื้อยเข้ามาไกล้มันเต็มทีแล้ว

 

          “ แอ๊กกกกก ! ” ทันทีที่รู้ตัวว่ามีสัตว์ประหลาดอยู่ไม่ห่างมากนักจากตัวเอง เจ้าลิงน้อยก็กระโดดเด้งขึ้นมาด้วยความตกใจเป็นอย่างมากจึงทำให้การกระโดดของมันในครั้งนี้เสียการทรงตัว และร่วงตกลงไป

 

          ถึงแม้ว่ามันจะกำลังตื่นตกหนกอยู่นั้น ในขณะที่มันร่วงลงไปมือทั้งสองข้างของมันก็ได้ไปคว้าเอาไว้กับกิ่งไม้ ทำให้มันห้อยโตงเตงอยู่แบบนั้น

 

          เมื่อฟ่างหยุนเห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้ว เขาจึงรีบกระชับกล้ามเนื้อทุกส่วนพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาเหยื่ออย่างรวดเร็วราวกับลูกธนูที่พุ่งออกมาจากคันศร

 

          ด้วยความรวดเร็วของฟ่างหยุนนั้นทำให้เขาไปปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าลิงน้อยในพริบตาเดียว ด้วยความที่ว่ามันตื่นตระหนกจนเกินไป ทำให้มันคว้ากิ่งไม้มั่วไปหมดจนบางครั้งคว้าพลาดและเกือบจะตกลงไปบนพื้นหลายครั้ง

 

          สำหรับลิงแล้วโดยปกติถึงแม้ว่าจะพบกับภัยคุกคามจากงู แต่พวกมันนั้นก็จะอยู่แต่บนต้นไม้เสมอ เพราะส่วนใหญ่แล้วงูที่พวกมันพบเจอก็จะมีขนาดราวๆแค่ 1 เมตรเท่านั้น

 

          อย่างไรก็ตามในขณะนี้งูหลามยาวขนาด 3 เมตรกำลังไล่ตามพวกมันอย่างไม่ลดละ จึงทำให้ภาพนี้เป็นภาพที่หาชมได้ยากมากสำหรับพวกลิง

 

          เมื่อมองไปยังลิงน้อยที่กำลังวิ่งหนีข้างหน้าเขาแล้ว ฟ่างหยุนก็รู้สึกว่ามันทำอะไรไม่ค่อยถูก เพราะถ้าหากเขาได้เข้าไกล้มันมากกว่านี้อีกสัก 1 เมตรแล้วละก็ มันคงถูกเขากัดและปล่อยพิษใส่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

          แต่น่าเสียดายที่เขานั้นถูกจับได้เสียก่อน แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าจะเป็นยังไงเพราะเขากำลังเลื้อยไปไกล้เจ้าลิงน้อยเรื่อยๆ จนตอนนี้เกือบจะถึงร่างของมันแล้ว
 

          เกือบแล้วอีกนิดเดียวเท่านั้น...ตอนนี้ฟ่างหยุนคำนวณระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าลิงน้อยเพื่อที่จะได้ทำการโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเจ้าพวกลิงตัวอื่นๆในกลุ่มก็พยายามกรีดร้องส่งเสียงขู่บ้าง ไล่บ้างเพื่อให้เขานั้นหนีห่างออกไป

          พวกลิงแก่ๆที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนนั้นก็ยังถึงกับต้องสับสน พวกมันรับรู้ว่านี่เป็นงูนะ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะอยู่มานานแต่ก็ไม่เคยเห็นงูที่ตัวใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลยและที่สำคัญช่วงเวลานี้เป็นเวลาจำศีลของงู  ซึ่งการปรากฏตัวของฟ่างหยุนอย่างนี้จึงทำให้พวกมันแปลกใจจนหาคำตอบไม่ได้

 

          “ ตอนนี้แหละ ! ” หลังจากที่อยู่ห่างจากเหยื่อไม่ถึง 2 เมตร ฟ่างหยุนก็กระชับกล้ามเนื้ออีกครั้งพร้อมที่จะโจมตี แต่แล้วจู่ๆก็มีบางสิ่งบางอย่างลอยมาที่ตัวเขาอย่างรวดเร็ว

 

          “ ปัง ! ” สิ่งที่เพิ่งจะลอยมาหาเขานั้นตกกระทบกับกิ่งไม้จนเกิดเสียงดังขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปบนพื้น

 

          “ เฮ้ย...นี่มันอะไรกันเนี่ย ? ” ฟ่างหยุนมองตามสิ่งที่เพิ่งจะลอยมาหาเขาและตอนนี้มันก็ร่วงหล่นลงไปกองแน่นิ่งอยู่บนพื้น เมื่อมองชัดๆแล้วมันจึงทำให้เขารู้ว่าสิ่งนั้นคือ

 

          “ ลูกพลับนี่หว่า ! ” เสียงดังที่เกิดจากการตกกระทบกับกิ่งไม้ทำให้เขาตกใจแล้วหยุดชะงักการโจมตีในพริบตา  

 

          ทันใดนั้นดูเหมือนว่าฟ่างหยุนพอจะเดาสถานการณ์ออกแล้ว เขามองไปที่ทิศทางของการลอยมาของลูกพลับ จึงทำให้เขาเห็นว่าเจ้าลิงโตเต็มวัยที่ตะโกนส่งสัญญาณ มันได้รับลูกพลับมาจากลิงตัวอื่นๆหลังจากนั้นมันก็ขว้างลูกพลับมาที่ตัวเขาโดยทันที

 

          “ จริงเหรอเนี่ย ? ลิงฉลาดถึงกับสามารถขว้างลูกพลับมาใส่เราได้ขนาดนี้เลยหรือนี่ ”

 

          ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็มีลูกพลับอีกลูกลอยมาโดนที่ลำตัวเขาอย่างจัง

 

          “ ตุ๊บ ! ” เมื่อโดนลูกพลับขว้างใส่เต็มๆแบบนั้นฟ่างหยุนถึงกับสั่นด้วยความเจ็บปวดทันที ถึงแม้เขาจะโกรธเพียงใดก็ทำได้แค่เพียงกัดฟันสู้ เพราะลูกพลับชนิดนี้หากว่ามันยังไม่สุกเนื้อของมันนั้นจะแข็งเป็นอย่างมาก บางลูกถึงกับแข็งกว่าลูกแพรหรือแอปเปิ้ลเสียอีก

 

          หากเป็นงูตัวอื่นที่ถูกลูกพลับขว้างใส่จังๆแบบนี้ มันอาจจะเจ็บหนักถึงขั้นต้องหนีไปแล้ว บางตัวอาจจะหมดสติหลังจากที่โดนและต้องตกลงไปนอนกองอยู่บนพื้นเป็นแน่

 

          อย่างไรก็ตามเป็นเพราะฟ่างหยุนนั้นมีเกล็ดที่แข็งแรง ทำให้ดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ถูกลูกพลับขว้างใส่มาเท่านี้ทำให้เขารู้สึกเจ็บกว่ายุงกัดเพียงเล็กน้อย

 

          ตอนนี้ฟ่างหยุนจ้องมองเจ้าลิงที่โตเต็มวัยด้วยความเกรี้ยวกราด ถึงแม้ว่าจะเจ็บไม่มากแต่มันก็เหมือนกับถูกหยามหน้า ราวกับว่าถูกยุงกัดแม้ไม่เจ็บแต่ก็อดที่จะไม่ตบไม่ได้

 

          และที่สำคัญถ้าไม่ถูกรบกวนจากเจ้าลิงตัวนี้แล้วละก็ การโจมตีของเขาจะต้องสำเร็จไปแล้วเป็นแน่ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วดวงตาของฟ่างหยุนที่มองมันจึงหรี่ลงด้วยความอาฆาต

 

          ครั้งนี้ฟ่างหยุนเปลี่ยนเป้าหมายจากลิงตัวน้อย เป็นเจ้าลิงโตเต็มวัยในทันที

 

          ตรวจพบเป้าหมาย

ลิงดำ ( ขนาดโตเต็มวัย )

ประเภท: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 200 หน่วย

 

          เสียงแจ้งเตือนของระบบส่งข้อมูลมาให้ฟ่างหยุนในใจ แต่เขาก็ทำราวกับว่าไม่ได้ยินเพราะตอนนี้สติที่มีทั้งหมดนั้นเพ่งความสนใจไปที่เจ้าลิงโตเต็มวัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

          ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็เลื้อยพุ่งเข้าไปหามันที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเขามากนัก เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะล่าเจ้าตัวใหญ่นี่เลย อย่างไรก็ตามมันกลับมาทำให้เขาโมโหยิ่งนักดังนั้นแล้วฟ่างหยุนเองก็จึงต้องการจะยื่นรสชาติแห่งความตายให้มันเป็นบทเรียน

 

          ฟ่างหยุนหัวเราะแบบเสียงของผู้ร้าย หึๆๆ ในใจเขา แต่ในเวลาต่อมาเขาก็ต้องหยุดลงพร้อมกับหยุดการเคลื่อนไหวอยู่กับที่ในทันที เพราะหางตาของเขาเหลือบมองไปเห็นฝูงลิงอีกกลุ่มที่อยู่ทางต้นไม้ฝั่งตรงข้าม

 

          ในมือพวกมันทุกตัวนั้นล้วนแต่ถือลูกพลับทั้งสุกทั้งดิบราวกับว่านัดหมายกันมา

 

          “ เอิ่ม...... ” ยังไม่ทันจะได้คิดถึงเรื่องราวขั้นต่อไป ผลไม้ในมือของฝูงลิงก็พร้อมใจบินมาที่ตัวของเขาในทันที

 

          “ ตุ้บ ! ตั้บ ! เผละ ! ” ด้วยเสียงของผลไม้กระทบกับต้นไม้ ดังขึ้นราวกับเป็นบทเพลงบรรเลงของกลองชุด ในที่สุดฟ่างหยุนก็รีบเลื้อยหนีไปอย่างไม่รอช้า

รีวิวผู้อ่าน