px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 25 : จะอยู่หรือตาย !


ตอนที่ 25 : จะอยู่หรือตาย !

 

          เมื่อได้ยินเสียงจากระบบส่งข้อมูลมาให้ดังนั้นแล้ว สายตาที่มองไปยังเจ้างูภูเขาสีดำของฟ่างหยุนก็เปลี่ยนไป โดยเดิมทีแล้วเขาแค่ต้องการที่จะไล่มันไปให้พ้นเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ระบบส่งข้อมูลมาให้แบบนั้นบางทีเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะกินมันเข้าไป

 

          แม้ว่าขนาด รูปร่าง และสี ของเจ้างูภูเขาสีดำนั้นจะค่อนข้างคล้ายกับตัวเขาเอง แต่มันก็ไม่มีพิษ มากไปกว่านั้นความเร็วของมันที่ใช้จู่โจมเหยื่อก็ไม่ได้เร็วเป็นพิเศษอะไร ที่สำคัญในตอนนี้ระยะห่างระหว่างฟ่างหยุนกับงูภูเขาสีดำนั้นก็ไม่ไกลกันมาก ถ้าหากว่ามันคิดที่จะหนี ฟ่างหยุนก็สามารถสังหารมันได้โดยง่าย

 

          “ มีพลังงานทางชีวภาพมาประเคนให้ง่ายๆแบบนี้เลยรึ ? ” เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วฟ่างก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ตอนนี้เขากำลังเล็งอยู่ว่าจะกัดที่ตรงไหนดี ในเวลาเดียวกันนั้นเองเจ้างูภูเขาสีดำนั้นก็พยายามที่จะส่งเสียงขู่เขาให้หนีห่างจากซากกระต่ายที่มันต้องการจะกิน ในขณะที่หัวของเจ้างูดำนั้นคิดถึงเรื่องจะแย่งเหยื่อจากฟ่างหยุน ตัวฟ่างหยุนเองนั้นก็คิดวางแผนที่จะกินมันอยู่เช่นกัน

 

          และพอมองเห็นว่าฟ่างหยุนไม่หนีแต่อย่างใด เจ้างูภูเขาสีดำก็เริ่มที่จะเลื้อยตรงเข้ามาหาเขาดูเหมือนว่าตอนนี้มันพร้อมที่จะโจมตีแล้ว

 

          เมื่อเห็นฉากนี้แล้วฟ่างหยุนก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้เป็นฝ่ายที่คิดจะโจมตีเข้างูตัวนี้มาก่อนเลย แต่งูภูเขาสีดำตัวนี้ดูถูกเขาเป็นอย่างมาก

 

          ขณะที่กำลังประหลาดใจอยู่นั้นฟ่างหยุนก็ไม่ได้อยู่เป็นเป้านิ่ง เขาขยับคลุมพื้นที่เพื่อไม่ให้ฝั่งตรงข้ามสามารถโจมตีเข้ามาที่จุดอ่อนของเขาอย่างง่ายดาย

 

          เพราะส่วนที่อยู่ต่ำลงไปจากท้ายทอยประมาณ 7 นิ้วนั้นเป็นจุดอ่อนของงูส่วนมาก มันคือตำแหน่งของหัวใจ จึงมีคำเปรียบเปรยขึ้นมาว่า ตีงูอย่าตีให้หลังหักเพราะมันจะแว้งมากัดได้ หากจะตีก็ต้องตีที่จุดอ่อนทีเดียวที่หัวใจให้มันตายไปเลยในทันที

 

                  “ นี่แน่ะ ! ” เจ้างูสีดำเปิดฉากโจมตีฟ่างหยุนด้วยการพุ่งเข้ามาฉกอย่างรวดเร็ว แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าฟ่างหยุนนั้นตอนนี้ได้พัฒนาไปเป็นอย่างมาก ความเร็วเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เมื่อเห็นว่าเจ้างูสีดำโจมตีเข้ามาเขาจึงหลบการโจมตีนี้อย่างง่ายดาย พร้อมกับตอบโต้ด้วยการพุ่งกัดคืนบ้าง

 

          เจ้างูภูเขาสีดำหลบการโจมตีของฟ่างหยุนได้อย่างเฉียดฉิว แต่ฟ่างหยุนกลับไม่ได้ตกใจเพราะเขานั้นเตรียมการที่จะโจมตีครั้งที่สองไว้อยู่แล้ว เขากระชับกล้ามเนื้อทุกส่วนพร้อมกับเริ่มโจมตีรอบที่สองออกไปอย่างเต็มที่

 

          ครั้งนี้เป็นผลสำเร็จเจ้างูภูเขาสีดำนั้นไม่สามารถหลบการโจมตีของฟ่างหยุนได้ มันถูกกัดเข้าอย่างจังที่บริเวณเอวของมัน

 

          “ อ้ากกกกก...! ” เจ้างูสีดำกรีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด...ตอนนี้มันหันหัวเข้าใส่ฟ่างหยุนและต้องการที่จะโจมตีตอบโต้อีกเช่นกัน แต่ทางฝั่งของฟ่างหยุนนั้นก็ไม่เปิดโอกาสให้มันได้ทำเช่นนั้น เขารีบปล่อยปากที่กำลังกัดอยู่พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบไปโผล่ด้านหน้าของเจ้างูภูเขาสีดำในพริบตา ตอนนี้มันมองเห็นหน้าของฟ่างหยุนที่มีรอยยิ้มเลือดเย็นบนใบหน้าอย่างชัดเจน

          ตอนนี้เจ้างูภูเขาสีดำล้มลุกคลุกคลานไปบนพื้น มันรีบพยุงตัวกลับขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงขู่ไปที่ฟ่างหยุน และดูเหมือนว่าตอนนี้มันต้องการที่จะสู้ตาย แต่เมื่อคิดได้ดังนั้นก็สายไปแล้วเพราะตอนนี้ร่างกายของมันกระตุกชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวด

 

          เมื่อเวลาผ่านไปสักพักดูเหมือนว่าความเจ็บปวดนั้นจะรุนแรงทวีคูณขึ้นอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตอนนี้เจ้างูภูเขาสีดำกลิ้งเกลือกไปบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง

 

          ในที่สุดก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกจากลำคอของมันออกมา ตอนนี้ร่างของมันหยุดนิ่งนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นอย่างนิ่งสงบพร้อมกับแววตาที่เคยมีชีวิตชีวาตอนนี้ได้จืดจางลงไปแล้ว

 

          เมื่อเห็นชัดแล้วว่าเจ้างูภูเขาสีดำไปสู่สวรรค์แล้ว ฟ่างหยุนก็ไม่รอช้าเขาตัดสินใจคาบหางของมันและลากร่างคู่ต่อสู้ไปซ่อนไว้ในพุ่มไม้ด้านข้าง เพื่อที่เขานั้นจะสามารถกลืนกระต่ายก่อนแล้วค่อยกลับมากินมันทีหลัง

 

          หลังจากที่กลืนเจ้ากระต่ายลงไปในท้องแล้วเขาก็ได้แต่ซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มไม้เพื่อรอให้มันถูกย่อย จะว่าไปอาหารมื้อนี้ค่อนข้างที่จะทำให้เขานั้นรู้สึกอึดอัดแปลกๆ เพราะเล็บของเจ้ากระต่ายนั้นข่วนท้องไส้ของเขาไปหมด

 

          หลังจากผ่านไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ฟ่างหยุนก็สามารถย่อยทุกส่วนของเจ้ากระต่ายได้ เขาไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆ เขารีบกลืนเจ้างูภูเขาสีดำเข้าไปต่อ

 

          เมื่อย่อยร่างของเจ้างูภูเขาสีดำจนเสร็จสิ้นแล้ว ฟ่างหยุนจึงค่อยๆเลื้อยออกมาจากพุ่มไม้ ตอนนี้เขาสังเกตได้ว่าท้องฟ้านั้นเกือบจะมืดแล้ว

          “ คงต้องกลับรังแล้วสินะแบบนี้ ! ” ฟ่างหยุนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เพราะตำแหน่งที่เขากำลังอยู่นี้นั้นห่างไกลจากต้นสนยักษ์พอสมควร เขาคาดการว่าถ้าหากกลับไปถึงต้นสนยักษ์แล้วละก็ ฟ้าคงจะมืดมากกว่านี้แน่นอน

 

          ตอนนี้ฟ่างหยุนรีบคลานกลับรังอย่างสุดกำลังของเขาผ่านกิ่งไม้ใบหญ้าจึงทำให้มีเสียงดังกรอบแกรบอยู่เป็นระยะ เวลานี้ท้องของเขานั้นย่อยเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำให้เขานั้นได้รับพลังงานทางชีวภาพเพิ่มขึ้นมาอีก 80 หน่วย

 

          “ ระบบช่วยเปิดฐานข้อมูลของข้าที ” ระหว่างที่กำลังเลื้อยกลับ ฟ่างหยุนก็ขอให้ระบบนั้นช่วยเปิดฐานข้อมูลของเขาขึ้นมาที ฉากเดิมๆกลับมาอีกครั้งปรากฏม่านแสงสลัวขึ้นมาในหัวของเขา

 

          รายการคุณสมบัติของท่านฟ่างหยุน

          ระดับ: 6

          พลังงานทางชีวภาพ: 530/1000

          คะแนนทักษะ: 1

          ความยาวของลำตัว: 1.5 เมตร

          เส้นผ่าศูนย์กลาง: 3.6 เซนติเมตร

          อำนาจ: 3.0

          พลังป้องกัน 5.0

          ความเร็ว: 2.5

          ว่องไว: 3.0

          วิญญาณ: 4.0

          ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 3.8

          ทักษะ: พิษมรณะ 2/5,ภูมิต้านทาน 1/5,ย่อยในพริบตา 2/5

          ค่าชื่อเสียง: 9225/10000000

 

          “ พลังงานชีวภาพตอนนี้มีตั้ง 530 หน่วย ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเพียงแค่ 470 หน่วยเราก็สามารถเข้าสู่การวิวัฒนาการได้แล้วสินะ ”

 

          เมื่อมองเห็นดังนั้นแล้วเขาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเป็นอย่างมาก แม้ว่าพลังงานทางชีวภาพ 1000 หน่วยนั้นจะดูเหมือนเยอะ แต่สำหรับเขาในตอนนี้แล้วไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด

 

          เพราะยิ่งเขามีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นมากเท่าไร เขาก็สามารถล่าและกลืนเหยื่อได้มากขึ้นเท่านั้น นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับพลังงานทางชีวภาพได้เยอะขึ้นไปอีก

 

          ตราบใดที่ฟ่างหยุนเองสามารถจับเหยื่อที่ให้พลังงานทางชีวภาพเยอะๆแบบกระต่ายได้อีก สองสามตัวเขาก็สามารถรวบรวมพลังงานทางชีวภาพได้เพียงพอต่อการวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว

 

          เขาเข้าใจดีว่าโชคอาจจะไม่เข้าข้างเขาแบบนี้ได้เสมอ และส่วนที่ยากที่สุดนั่นก็คือตามหาเหยื่อให้พบและล่ามันมาเป็นอาหารให้จนได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะฟ่างหยุนต้องตระหนักถึงความคุ้มค่าในการล่าเหยื่อทุกๆครั้ง จึงทำให้ตอนนี้เขาเลิกกินแมลงหรือสัตว์ที่มีขนาดเล็กเกินไป เพื่อที่จะไม่ให้ตรงกับสำนวนที่ว่า “ ขี่ช้างจับตั๊กแตน ”

          และระหว่างที่ตรวจสอบฐานข้อมูลตัวเองอยู่นั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมา เพราะตอนนี้เขาได้พบบางสิ่งบางอย่างมีการพัฒนาขึ้นไปเป็นอย่างมาก นอกจากพลังงานชีวภาพแล้ว นั่นก็คือค่าชื่อเสียงนั่นเอง โดยเดิมทีแล้วมันอยู่ที่ 7400 หน่วย แต่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นมามากกว่า 9000 หน่วยแล้ว

 

          หลังจากที่เขาพยายามคิดหาสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ฟ่างหยุนก็พอจะเดาออกได้ว่าวีดีโอที่เขาถูกบันทึกจากสตรีมเมอร์ภาคสนามก่อนหน้านี้ ต้องถูกโพสลงไปบนเว็บไซต์อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะวีดีโอคงยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากเท่าไหร่ เพราะค่าชื่อเสียงของเขานั้นไม่ได้เพิ่มพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันคงจะค่อยๆเติบโตอย่างมีขีดจำกัดก็ว่าได้

 

          ฟ่างหยุนเองเข้าใจถึงความเป็นไปได้เช่นนั้น เพราะผู้ที่ทำการโพสวีดีโอของเขาลงไปบนเว็บไซต์ก็ไม่ได้เป็นคนดังอะไรมากมาย จึงทำให้ลำดับการแสดงบนหน้าเว็บไซต์ของวีดีโอนี้นั้นอาจจะอยู่ท้ายๆ

 

          “ แต่ก็นะ...ขอให้มันปังขึ้นมาทีเถอะอย่างน้อยก็เพิ่มค่าชื่อเสียงมาอีกสัก 800 หน่วยก็ยังดี ” ตอนนี้ฟ่างหยุนได้แต่ภาวนาและขอให้ค่าชื่อเสียงของเขานั้นเพิ่มขึ้นมาอีกสักหน่อย เพราะถ้าค่าชื่อเสียงของเขานั้นทะลุขึ้นไปถึง 10000 หน่วยแล้วละก็ ตามที่สังเกตมาก่อนหน้านี้ เขาจะได้รับคะแนนทักษะเพิ่มขึ้นจากที่ค่าชื่อเสียงทะลุไปสิบเท่าของจำนวนเดิม และคะแนนทักษะที่เขาจะได้รับนั่นก็คือ 5 คะแนน

 

          หากฟ่างหยุนได้รับคะแนนทักษะในครั้งนี้ 5 คะแนน รวมถึงที่จะได้หลังจากการวิวัฒนาการขั้นต่อไปอีกนั่นหมายถึงว่าเขาจะมีคะแนนทักษะเพียงพอต่อการอัพเกรดทักษะ “ ภูมิต้านทาน ”

 

          แน่นอนว่าถ้าหากทักษะนี้ถูกอัพเกรดเป็นขั้นที่สองแล้ว ความหนาวเย็นก็ไม่ใช่อุปสรรคอะไรต่อตัวเขาอีกต่อไป และที่สำคัญไปกว่านั้นเขาก็มีโอกาสที่จะไม่ต้องจำศีลที่ค่อนข้างสูงมาก และถึงแม้ว่าอุณภูมิจะยิ่งต่ำลงไปกว่าเดิมอีกเขาก็ไม่ต้องกังวลกับมันอีกเลย

 

          “ จิ้กกกกก ! ” ระหว่างที่ฟ่างหยุนกำลังตกลงไปสู่ภวังค์แห่งความคิด ทันใดนั้นก็มีเสียงสัตว์บางชนิดดังก้องขึ้นมาและที่สำคัญไปกว่านั้นเสียงนี้มันดังมาจากบนฟากฟ้า

 

          และในขณะนั้นเองหางตาฟ่างหยุนก็เหลือบไปเห็นเงาสีดำ ที่กำลังบินพุ่งโฉบแหวกอากาศลงมายังที่ ที่เขากำลังอยู่

 

          “ เฮ้ยยย...นี่มันนกอินทรีย์ ! ”

 

          ทันทีที่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร.....ฟ่างหยุนนั้นก็รู้สึกเสียววาบไปจนถึงกระดูกสันหลังพร้อมกับตัวสั่นด้วยความกลัว

 

รีวิวผู้อ่าน

kasachiro
1169 วันที่แล้ว

Or fuck... อินทรีย์


  แสดงความคิดเห็น