px

เรื่อง : ตำนานงูยักษ์เขมือบโลก
ตอนที่ 20: ทักษะใหม่


ตอนที่ 20: ทักษะใหม่

 

          หลังจากที่ฟ่างหยุนนั้นทิ้งสี่สาวให้อยู่เบื้องหลังแล้ว เขาก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงเรื่องคะแนนทักษะของเขาเพราะการที่ได้รับคะแนนชื่อเสียงมากมายขนาดนั้นทำให้เขาได้รับรางวัลเป็นคะแนนทักษะนั่นเอง บวกกับการวิวัฒนาการครั้งล่าสุดทำให้ตอนนี้เขามีคะแนนทักษะถึง 14 คะแนนแล้ว !

 

          คะแนนทักษะนั้นสำคัญต่อฟ่างหยุนเป็นอย่างมาก เพราะมันจะสามารถทำให้เขาได้รับการพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

          “ ไม่รู้เลยว่าครั้งนี้จะมีทักษะอะไรใหม่ๆโผล่มาไหมนะ ” ฟ่างหยุนคิดอย่างมีความหวังเพราะในการวิวัฒนาการครั้งก่อนนั้นเขาคาดหวังเป็นอย่างมากว่าจะต้องมีทักษะอะไรใหม่ๆ ออกมา แต่เพียงแค่คะแนนทักษะที่เขามีนั้นไม่เพียงพอ จึงทำให้ระบบส่งทักษะมาเพียงแค่สองอย่างนั้นคือทักษะการพรางตัวกับทักษะพิษมรณะนั่นเอง เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้วมันก็ทำให้ฟ่างหยุนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น

 

          “ ระบบ ! เจ้าช่วยแสดงทักษะที่มีอยู่ตอนนี้ที ” ในขณะที่ฟ่างหยุนกำลังใจจดใจจ่อด้วยความประหม่าอยู่นั้น ช่วงเวลาที่เขารอคอยก็มาถึง ม่านแสงปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา ขณะที่ม่านแสงค่อยๆจางลงก็มีข้อความปรากฏขึ้น

 

          “ คะแนนทักษะที่ท่านมีในปัจจุบันนี้สามารถเลือกอัพเกรดได้ถึง 4 ทักษะดังต่อไปนี้ ”

 

“ เปลี่ยนสีพรางตัว: ทักษะประเภทเลือกใช้งาน โดยผลของการใช้ทักษะนี้นั้นจะทำให้ท่านสามารถเปลี่ยนสีบนร่างกายตามสภาวะแวดล้อมได้ตามความต้องการของตัวท่านเอง โดยการอัพเกรดแต่ละครั้งนั้นจะใช้คะแนนทักษะ 3 หน่วย ระดับในปัจจุบัน 0/5 ”

 

“ พิษมรณะ: ทักษะประเภทเลือกใช้งาน ผลของการพัฒนาทักษะนี้จะทำให้เขี้ยวของท่านแหลมคมและทรงพลังมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะส่งผลให้พลังโจมตีนั้นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยการอัพเกรดแต่ละครั้งนั้นจะใช้คะแนนทักษะ 3 หน่วย ระดับในปัจจุบัน 2/5 ”

 

“ การย่อยในพริบตา: ประเภททักษะติดตัว เมื่อเลือกทักษะนี้แล้วท่านจะเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น ตราบใดที่ท่านกลืนเหยื่อลงไปในท้องทักษะนี้จะมีผลทันที โดยการอัพเกรดแต่ละครั้งนั้นจะใช้คะแนนทักษะ 5 หน่วย ระดับในปัจจุบัน 0/5 ”

 

“ ภูมิต้านทาน: ประเภททักษะติดตัว ผลของการเลือกทักษะนี้จะทำให้ร่างกาย ผิวหนัง ของท่านแข็งแกร่งขึ้นและมีความต้านทานต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงความหนาวเหน็บที่มีต่อร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยการอัพเกรดในแต่ละครั้งนั้นจะใช้คะแนนทักษะ 8 หน่วย ระดับในปัจจุบัน 0/5 ”

 

          หลังจากที่ระบบแจ้งเตือนมาอย่างนี้แล้ว มันก็ทำให้ฟ่างหยุนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเพราะเขาได้เห็นทักษะใหม่ๆเกิดขึ้นมาแล้ว และหนึ่งในนั้นก็เป็นทักษะที่เขารอคอยมาตลอด

 

“ การย่อยในพริบตา ” เพราะในขณะที่เขาล่าสัตว์นั้นเขาต้องใช้เวลายาวนานเป็นอย่างมากกว่าที่จะย่อยเหยื่อในท้องจนหมดสิ้น นอกจากมันจะทำให้เสียเวลามากมายแล้ว มันยังทำให้เขาต้องเสี่ยงกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเองอีกด้วย เพราะหลังจากที่กลืนเหยื่อเข้าไป ร่างกายของเขานั้นจะโป่งพองเป็นรูปร่างตามสิ่งที่เขากลืน มันทำให้เขานั้นอืดอาด ยืดยาด ความเร็วและความคล่องตัวที่เคยมีก็ลดลงไปด้วย ดังนั้นทักษะ “ การย่อยในพริบตานี้ ” คือคำตอบที่ดีที่สุดของเขา

          นอกจากนี้เขายังให้ความสนใจกับทักษะใหม่อีกอย่างหนึ่งด้วยนั่นก็คือทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” เพราะทักษะนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาแต่ยังเพิ่มการต้านทานความหนาวให้กับเขาด้วย ดังนั้นทักษะนี้จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวเขาต่ออุณภูมิที่เปลี่ยนไปมา

 

          หลังจากที่คิดอย่างรอบครอบแล้วฟ่างหยุนก็ตัดสินใจ เลือกอัพเกรดทักษะใหม่ทั้งสอง ! ตอนนี้ความอบอุ่นแบบที่คุ้นเคยก็กลับมาในร่างกายและกระแสเลือดของเขาจนลามไปถึงเกล็ดทุกแขนงบนผิวหนัง แต่รอบนี้ใช้เวลาไม่นานนักความรู้สึกแบบนี้ก็หายไป ความเจ็บปวดในครั้งนี้แตกต่างจากตอนวิวัฒนาการอย่างสิ้นเชิง การเลือกที่จะอัพเกรดทักษะพวกนี้ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

 

          “ ตอนนี้เกล็ดของข้ารู้สึกว่ามันหนักขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก ” ตอนนี้ฟ่างหยุนเริ่มที่จะบิดตัวไปมาบนพื้นที่เต็มไปด้วยก้อนกรวดเม็ดเล็กเม็ดน้อย จากแรงเสียดทานนั้นก็ทำให้เขารู้สึกได้เลยว่าเกล็ดของเขานั้นเปลี่ยนไป และเมื่อหลังจากเสร็จกิจแล้วเขาก็ต้องประหลาดใจขึ้นมาอีกเพราะเกล็ดในตอนนี้มันวาว ราวกับว่ามันถูกเช็ดถูด้วยน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ลำตัวของเขาต้องกับแสงแดด มันส่องแสงสะท้อนเป็นประกาย

 

          ในขณะที่แสงแดดร้อนแผดเผาตรงลงมาที่ร่างกายของเขา เขาพยายามจะปล่อยมันไว้อย่างนั้นเพื่อที่จะทดสอบการอดทนของร่างกายว่าเปลี่ยนไปขนาดไหน และแน่นอนว่าแสงแดดที่ร้อนขนาดนี้ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย

 

          เขารู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดจากทักษะของ “ ภูมิต้านทาน ” มันค่อนข้างจะทรงพลังเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าจะอัพเกรดไปแค่ระดับที่หนึ่งเท่านั้น แต่น่าเสียดายทักษะดีๆอย่างนี้ กลับต้องใช้คะแนนในการอัพเกรดถึง 8 คะแนนต่อครั้งเลยทีเดียว

          “ หลังจากการวิวัฒนาการรอบหน้าสำเร็จ ข้าก็จะได้รับคะแนนทักษะถึง 5 หน่วย ” ฟ่างหยุนคิดขึ้นมาในหัวของเขา แม้ว่าการวิวัฒนาการครั้งหน้าจะทำให้เขาได้รับคะแนนทักษะเพิ่มขึ้นมา แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถอัพเกรดทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” ได้แต่ก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยเขาก็จะนำคะแนนนั้นมาอัพเกรดทักษะ “ ย่อยในพริบตา ” แทน

 

          “ ย่อยในพริบตา ” ก็เป็นหนึ่งในทักษะโปรดของเขา พร้อมกันนี้เขาก็ได้ทำการขอดูข้อมูลของตัวเองจากระบบ

 

          “ ระบบช่วยเปิดฐานข้อมูลของข้าด้วย ” หลังจากเอ่ยปากฉากม่านแสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับข้อความ

 

รายการคุณสมบัติของท่านฟ่างหยุน

ระดับ: 5

พลังงานทางชีวภาพ: 180/250

คะแนนทักษะ: 1

ความยาวลำตัว: 1 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลาง: 2.8 เซนติเมตร

อำนาจ: 2.0

พลังป้องกัน: 4.0

ความเร็ว: 1.5

ความคล่องแคล่ว: 2.0

วิญญาณ: 3.0

ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 2.8

ทักษะ: พิษมรณะ 2/5 , ภูมิต้านทาน 1/5 , ย่อยในพริบตา 1/5

ค่าชื่อเสียง: 7122/10,000,000

 

“ โอ้ ! พลังทางชีวภาพมีถึง 180 คะแนนแล้ว อีกเพียงแค่ 70 คะแนนเราก็จะเข้าสู่การวิวัฒนาการ ”

 

          เมื่อเห็นดังนั้นแล้วตาของฟ่างหยุนก็ใสเป็นประกายขึ้นมา ตอนนี้ตัวของเขานั้นได้รับทักษะ “ ย่อยในพริบตา ” แล้วนั่นแสดงว่าตัวเขานั้นจะสามารถล่าเหยื่อได้เยอะขึ้นอย่างแน่นอน และถ้าหากเขาโชคดีวันนี้เขาอาจจะได้รับการวิวัฒนาการเลยก็เป็นได้

 

          ในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องล่าเหยื่อในวันนี้ สายตาของเขาก็ไปสะดุดตรงบรรทัดที่ว่าด้วยเรื่องพลังป้องกันของเขาที่มีถึง 4.0 เพราะเดิมทีแล้วเขาจำได้ว่ามันมีเพียงแค่ 1.0 เท่านั้นเอง

 

          เมื่อเห็นว่าพลังป้องกันเพิ่มขึ้นมาถึง 4.0 หน่วยแล้ว ฟ่างหยุนเองก็ตกใจอยู่ได้ไม่นานก็คิดได้ว่าการที่พลังป้องกันเพิ่มขึ้นมาเยอะขนาดนี้เนื่องมาจากพลังของทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” อย่างแน่นอน

 

          ตอนนี้ดูเหมือนว่าถ้าหากเขาต้องการเพิ่มค่าพลังป้องกันของตัวเองอีก เขาจะต้องอัพเกรดทักษะ “ ภูมิต้านทาน ” ให้สูงขึ้นไป หลังจากคิดไปต่างๆนานาแล้วสมองก็เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งตอนนี้เขามุ่งหน้าไปที่การตามหาเหยื่อเพื่อล่า

 

          “ นั่นไง ! ” ยังไม่ทันจะไปไหนไกลฟ่างหยุนก็ต้องหยุดเลื้อยทันที เพราะเพียงแค่เขาหันมองไปทางด้านข้างของตัวเอง ไม่ไกลมากนักเขาก็พบกับเจ้ากบตัวหนึ่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 10 เซนติเมตร กำลังนอนหมอบอยู่ สีของลำตัวของมันช่วยปกปิดเร้นกายจากสัตว์อื่นๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่ฟ่างหยุนที่มีสัญชาตญาณในการตรวจจับสิ่งมีชีวิตแล้วละก็ คงเป็นเรื่องยากมากที่จะมองเห็นตัวของมัน

 

ตรวจพบเป้าหมาย

กบมีเขา

ประเภท:สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

สามารถเพิ่มพลังงานทางชีวภาพได้ 10 หน่วย

 

ทันทีที่ฟ่างหยุนมองเห็นตัวของเจ้ากบหมอบอยู่ ระบบก็เหมือนจะรู้ทันและไม่ให้เสียเวลา จึงส่งสัญญาณแจ้งเตือนมาให้ฟ่างหยุน เมื่อมองเห็นตำแหน่งของมันแน่ชัดแล้ว ฟ่างหยุนก็ค่อยๆเลื้อยเข้าไปหามันอย่างเงียบเชียบ

 

กบชนิดนี้เป็นที่นิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก เพราะในชีวิตที่ผ่านมาของฟ่างหยุนนั้นเขาเคยเห็นและจำมันได้อย่างชัดเจน อาจจะเป็นเพราะว่ามันแปลกประหลาดจากกบชนิดอื่นซึ่งลำตัวของมันนั้นจะสั้นๆ แต่มีปากขนาดมหึมากินพื้นที่ของลำตัวมันไปตั้งครึ่งตัว และที่สำคัญเพื่อนบ้านของฟ่างหยุนเองก็ชื่นชอบกบชนิดนี้เป็นอย่างมาก

 

หลังจากที่ค่อยๆเลื้อยเข้าไปหาเจ้ากบ ตอนนี้ร่างของฟ่างหยุนก็อยู่ห่างจากตัวของมันเพียง 30 เซนติเมตร เขาไม่รอช้าพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายและพุ่งโจมตีเจ้ากบอย่างรวดเร็ว โดยมีปากและเขี้ยวอันแหลมคมงับเข้าเต็มๆที่ลำตัวของเจ้ากบ

แม้ว่าเจ้ากบชนิดนี้จะเป็นที่ชื่นชอบนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง แต่มันเองก็มีนิสัยก้าวร้ายและดุร้าย นอกจากแมลงแล้วมันยังสามารถล่านกหรือหนูที่มีขนาดเล็กกว่ามันมาเป็นอาหารในยามที่มันหิวโหยได้อีกด้วย

 

ในขณะที่เขี้ยวอันแหลมคมของฟ่างหยุนนั้นงับเข้าเต็มลำตัวของมัน มันก็พยายามจะกระโดดหนีดิ้นรนอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะให้ตัวของมันเองนั้นหลุดพ้นจากคมเขี้ยว

 

อย่างไรก็ตามชะตาของเจ้ากบนั้นถูกลิขิตแล้วว่าจะต้องไปเกิดใหม่ แม้ว่ามันจะพยายามดิ้นเท่าไรก็ไม่เป็นผลสุดท้ายแล้วมันก็เป็นได้แค่เพียงอาหารของผู้ล่าตัวอื่นที่แข็งแรงกว่า

 

หลังจากที่ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดราวๆ 2 นาที เจ้ากบก็เริ่มที่จะหมดแรงและสิ้นใจตายไปในที่สุดและท้ายสุดแล้ว ฟ่างหยุนก็ได้กลืนกินร่างของมันลงไปอย่างหมดสิ้น หลังจากที่ฟ่างหยุนกินมันเข้าไปแล้วเขาก็รู้สึกถึงความอิ่มในท้องของเขา เขาเองถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และความรู้สึกตื่นเต้นก็เข้ามาแทนที่

 

“ เพียงแค่เริ่มต้นก็สามารถจับเหยื่อที่ให้พลังงานถึง 10 หน่วย ตอนนี้ขาดเพียงแค่ 60หน่วยเท่านั้นก็จะสามารถเข้าสู่การวิวัฒนาการแล้ว ”

 

ตอนนี้เขาเริ่มเลื้อยต่อไปเพื่อมองหาเหยื่อตัวใหม่ คราวนี้เขาพบเข้ากับรังหนู ! ตอนนี้ฟ่างหยุนเริ่มตวัดลิ้นเข้าออกจากปากของเขาเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต รวมถึงกลิ่นของพวกมัน และทุกชั่วขณะที่เขาเลื้อยเข้าไปไกล้มากเท่าไหร่ กลิ่นของพลังงานชีวภาพที่เขาจะได้รับอย่างมหาศาลนั้นก็ยิ่งทวีคูณความหอมออกมามากเท่านั้น

 

 

รีวิวผู้อ่าน