px

เรื่อง : มเหสียอดนักฆ่า
ตอนที่3 บิดาผู้ไร้หัวใจ


บทที่ 3 : บิดาผู้ไร้หัวใจ

 

“ไม่! เป็นไปไม่ได้!”

หลู่เชียนสุ่ยกรีดร้องออกมาด้วยใบหน้าที่ผิดหวังเศร้าสร้อย คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันขณะที่ก้าวเท้าเดินตรงดิ่งไปที่เรือนของหลู่ซิงเฉิน

“เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่เชื่อว่าพี่ซิงเฉินจะปฏิบัติต่อข้าเยี่ยงนี้!”

 

ระหว่างที่นางเร่งฝีเท้าเดินตรงไปที่สวนภายในเรือนของหลู่ซิงเฉินนั้น พลันหางตาก็เหลือบไปเห็นหลู่ซิงเฉินกับบิดาของตนกำลังสนทนากันอยู่ภายในสวน ใบหน้าของคนทั้งคู่ล้วนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มปิติยินดี ดูราวกับว่าทั้งสองคนคือพ่อลูกกันอย่างแท้จริง

 

หลู่เชียนสุ่ยปวดร้าวจิตใจยิ่งนัก แต่ยังคงก้าวตรงเข้าไปหาคนทั้งคู่พร้อมกับเอ่ยทักทาย “ท่านพ่อ พี่ซิงเฉิน”

 

เมื่อหลู่จิ้งเฟิงพบเห็นบุตรสาวของตน สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที คิ้วสองข้างชนกันอย่างหาความสุขมิได้ เขาจ้องมองบุตรสาวพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ห้วน

“นี่เจ้าเองหรอกรึ? เหตุใดยังอยู่ในตำหนักนี้อีก?”

 

วาจาของผู้เป็นบิดากรีดลึกลงไปในจิตใจของหลู่เชียนสุ่ยอย่างเจ็บปวดรวดร้าว… ชาติก่อนหน้านางก็เป็นเด็กกำพร้า มาในชาตินี้แม้จะมีทั้งบิดามารดา แต่ผู้เป็นแม่กลับต้องระเหเร่ร่อนจากไป ส่วนผู้เป็นพ่อก็...

 

หลู่เชียนสุ่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาของนางจับจ้องอยู่ที่ผู้เป็นบิดาเนิ่นนาน ในที่สุดจึงเอ่ยถามออกไป “ท่านพ่อ ท่านต้องการขับไสไล่ส่งข้าจริงๆงั้นรึ?”

 

ไม่เพียงแววตาของหลู่จิ้งเฟิงจะเย็นชา แต่ท่าทางของเขายังไร้ซึ่งเมตตาต่อบุตรสาว “ข้าไม่มีลูกสาวไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หากเจ้ายังมีสำนึกพอ ก็รีบพาตัวเองออกไปจากตำหนักแห่งนี้ซะ! อย่าได้อยู่ขัดขวางเส้นทางของซิงเฉินอีก”

 

“ขัดขวางเส้นทางของนางงั้นรึ?”

หลู่เชียนสุ่ยพึมพำออกมา นางหวนนึกถึงคำพูดของสาวใช้เมื่อครู่ นางจ้องมองไปทางหลู่ซิงเฉินด้วยแววตาประกายเย็นชาพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เป็นความคิดของนางด้วยใช่หรือไม่ที่ต้องการให้ข้าออกไปจากตำหนักแห่งนี้?”

 

หลู่จิ้งเฟิงขมวดคิ้ว “เจ้าไร้ประโยชน์เอง เหตุใดยังต้องตำหนิผู้อื่นเช่นนี้?”

 

แน่แล้ว! นี่ต้องเป็นความคิดของนาง! หลู่เชียนสุ่ยเจ็บปวดใจขึ้นมาอีกครา เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? นางเห็นหลู่ซิงเฉินเป็นเหมือนพี่สาวร่วมมารดามาโดยตลอด แต่นางกลับ...

 

หลู่ซิงเฉินซึ่งอยู่ข้างๆบิดาของนางก้าวเท้าเดินออกมาด้านหน้า พร้อมเอ่ยวาจาที่เปี่ยมไปด้วยความสงสารและสมเพชในคราวเดียว

“ท่านเจ้าเมือง ขอให้ข้าเป็นผู้เจรจาเรื่องนี้กับนางเอง”

 

หลู่จิ้งเฟิงหันไปมองหลู่ซิงเฉิน แววตาที่ดุดันพลันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที “ซิงเฉิน ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกข้าว่าท่านพ่อ”

 

แก้มของหลู่ซิงเฉินปรากฏสีแดงระเรื่อขึ้นทั้งสองข้าง นางโน้มกายลงเล็กน้อยพร้อมกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ท่านพ่อ”

 

เมื่อได้เห็นภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า สมองของหลู่เชียนสุ่ยพลันพุ่งพล่านพร้อมเอ่ยถามออกมาด้วยความสับสนงุนงง “นางเรียกท่านว่าท่านพ่องั้นรึ? คงไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่เข้าใจอีกแล้ว เพียงแต่ข้าไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง..”

 

หลู่จิ้งเฟิงทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ “ซิงเฉินเป็นลูกสาวแท้ๆของข้า เหตุใดนางจึงจะเรียกข้าว่าพ่อไมได้?”

 

“อะไรนะ?!” ดวงตาของหลู่เชียนสุ่ยเบิกกว้าง “ลูกสาวแท้ๆงั้นรึ? จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกัน! นางเป็นเด็กสาวกำพร้าที่ท่านแม่นำกลับมาเลี้ยงดูไม่ใช่รึ?”

 

“หึ! หากไม่ใช่เพราะแม่หัวดื้อของเจ้ายืนกรานไม่ยอมถ่ายทอดวรยุทธลึกล้ำให้กับนาง นางกับแม่คงสามารถเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตนตั้งแต่แต่งเข้าตำหนักได้แล้ว เหตุใดนางยังต้องอดทนเล่นละครพูดคุยกับเจ้าด้วยดีมาตลอดหลายปีด้วยเล่า?” น้ำเสียของหลู่จิ้นเฟิงไม่เพียงเย็นชายิ่งนัก แต่ยังระเบิดโทสะออกมาอย่างมากมาย

 

ร่างทั้งร่างของหลู่เชียนสุ่ยเย็นราวกับน้ำแข็ง ความโกรธแค้นอย่างที่สุดพลันปะทุขึ้นในจิตใจ เพลิงโทสะได้เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะดังก้อง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! น่าขันสิ้นดี! น่าขันสิ้นดี! ข้าเห็นเจ้าเป็นดั่งพี่น้องท้องเดียวกัน ให้ความเคารพเจ้าดังเช่นพี่สาวคนหนึ่ง รักและปกป้องเจ้าดั่งคนในครอบครัว เพียงเพื่อความโลภอยากได้วิชา พวกเจ้าถึงกับร่วมมือกันหลอกหาประโยชน์จากข้า แล้วก็ทรยศข้า มิหนำซ้ำยังโยนความผิดทั้งหมดให้กับข้าด้วย! ข้าหลู่เชียนสุ่ยคิดไม่ถึงจริงๆว่า จะมีคนน่ารังเกียจเยี่ยงนี้ในโลกด้วย!!!”

 

ชั่วช้าสิ้นดี! หากไม่ใช่เพราะหลู่ซิงเฉินเป็นคนเดียวที่แม่ของนางทิ้งไว้เบื้องหลังก่อนจะจากตำหนักนี้ไป มีหรือที่นางจะมองไม่ออกว่าหลู่ซิงเฉินนั้นมีความทะเยอทะยานเช่นใด? มีหรือที่นางจะไว้เนื้อเชื่อใจหลู่ซิงเฉินอย่างสุดหัวใจเช่นนี้?

 

ช่างน่าเศร้านัก! แม่ของนางยอมถ่ายทอดวิชาให้กับหลู่ซิงเฉินเพื่อหวังให้นางใช้วิชาปกป้องลูกสาวของตน แต่หลู่ซิงเฉินกลับเล่นละครหลอกนางกับแม่มาตลอดระยะเวลาหกปีเพียงเพื่อวรยุทธเท่านั้น!

 

“หุบปาก! เจ้ากล่าววาจาสามหาวเช่นนี้กับพ่อตัวเองได้อย่างไรกัน?” หลู่จิ้งเฟิงร้องตะโกนออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มือข้างหนึ่งยกขึ้นหมายทำร้ายหลู่เชียนสุ่ย!

 

“ท่านพ่ออย่า!” หลู่ซิงเฉินร้องห้าม แสร้งทำสีหน้าท่าทางอ่อนโยนและตกอกตกใจ “ท่านพ่อ น้องเชียนสุ่ยยังไม่อาจยอมรับความจริงได้ในตอนนี้ ท่านพ่ออย่าได้โมโหไป ปล่อยให้ข้าเจรจากับนางเองเถิด”

 

“หึ! นังเด็กสารเลวไร้ค่า ครั้งนี้เห็นแก่ซิงเฉินข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!” หลู่ซิงเฉินชักมือกลับแล้วเดินจากไปทันที

 

สารเลวไร้ค่างั้นหรือ?

วาจาดูถูกเหยียดหยันรุนแรงเช่นนี้ ได้ทำให้หลู่เชียนสุ่ยยิ่งเดือดดาลมากขึ้น นางเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกับหางตาจับจ้องไปที่แผ่นหลังของชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดา

 

เมื่อใดที่นางสามารถระดมพลังปราณได้สำเร็จ เมื่อนั้น...

 

นางจะทำให้ชายผู้นี้รู้สึกเสียใจเป็นที่สุด นางจะทำให้เขาต้องเจ็บปวดที่ปฏิบัติกับแม่ของนางเช่นนั้น นางจะทำให้เขาต้องเสียใจที่เอ่ยวาจาทั้งหมดออกมาในวันนี้!

รีวิวผู้อ่าน