px

เรื่อง : มเหสียอดนักฆ่า
ตอนที่1 น้องสาวคนสนิท?


ตอนที่1 น้องสาวคนสนิท?

 

เมืองชิงหยุน

ณ ตำหนักเจ้าเมือง

บูม!

ท่ามกลางภูเขาหินเป็นทิวแถว ลำแสงสีขาวไสวพุ่งออกจากคมดาบสว่างวาบขึ้นทันที!

“สำเร็จ!”

เด็กสาวในชุดกระโปรงสีขาวยิ้มมุมปาก รอยยิ้มของนางเผยให้เห็นใบหน้าที่เปี่ยมสุข นางกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจพร้อมกับร้องตะโกนแสดงความยินดีให้กับเด็กสาวในชุดกระโปรงสีฟ้า

“พี่ซิงเฉิน ในที่สุด ท่านก็ฝึกเพลงดาบธารบรรพตได้สำเร็จ! ท่านจักต้องกลายเป็นยอดฝีมือผู้ล้ำเลิศ และมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองชิงหยุนเราเป็นแน่!”

 

หลู่ซิงเฉินยิ้มบางพร้อมตอบกลับไป “เชียนสุ่ย หากมิได้เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ในครั้งนั้น ข้าคงจะไม่สามารถฝึกฝนเพลงดาบธารบรรพตนี้ได้สำเร็จ”

ระหว่างที่เอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา นางก็จ้องมองดวงตาของเด็กสาวชุดขาวที่อยู่ตรงหน้า แววตาของนางผสมปนเปทั้งความสับสนและความอิจฉา ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่จะว่าไปแล้ว ข้าก็ใช้เวลากว่าสี่ปีในการเรียนรู้ฝึกฝนเพลงดาบธารบรรพต ในขณะที่เจ้าใช้เวลาแค่หนึ่งปีกลับสามารถเรียนรู้ฝึกฝนเพลงดาบธารบรรพตรูปแบบที่สามได้อย่างสมบูรณ์แบบ เจ้าต่างหากที่เป็นผู้มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง แต่น่าเสียดาย..”

ขณะที่นางกล่าววาจาออกไปเช่นนั้น ใบหน้าที่ไร้ความสุขของหลู่ซิงเฉินก่อนหน้านี้ก็อันตธานหายไป น้ำเสียงของนางคล้ายสงสารเห็นอกเห็นใจเด็กสาวชุดขาว

“เชียนสุ่ย น่าเสียดายที่ผ่านมาสิบปี เจ้ายังไม่สามารถระดมพลังปราณได้สมบูรณ์เลย ไม่ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ในการฝึกวรยุทธมากเพียงใด แต่ก็ไร้ประโยชน์.. เพราะไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่สามารถกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธได้อย่างแท้จริง”

 

หลู่เชียนสุ่ยหาได้ใส่ใจคำพูดของหลู่ซิงเฉินนัก ริมฝีปากแดงนั้นเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาสีดำทอประกายความมั่นใจอย่างยิ่ง นางยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยพร้อมกับกล่าวตอบไปว่า

“พี่ซิงเฉิน อีกไม่นานเกินรอ ข้าก็จะสามารถระดมพลังปราณได้ จากนั้นข้าจะได้ออกจากจวนเจ้าเมืองไปตามหาท่านแม่”

 

ระหว่างนั้นนางก็ยิ้มให้หลู่ซิงเฉินพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“พี่ซิงเฉิน อย่าได้กังวลเรื่องของข้าไปเลย ท่านมีเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น ก็จะต้องเข้าร่วมการประลองคัดเลือกผู้เยี่ยมยุทธประจำเมืองหลิวหยุน ระหว่างนี้ท่านจะมัวขี้เกียจมิได้ ท่านจะต้องฝึกเพลงดาบธารบรรพตนี้ให้เชี่ยวชาญ ข้าเชื่อว่าครั้งนี้ท่านจะต้องแสดงวรยุทธโดดเด่นจนเป็นที่จับตาของผู้คนเป็นแน่”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลู่ซิงเฉินถึงกับกำกระบี่ในมือแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม ความปรารถนาแรงกล้าปะทุขึ้นในก้นบึ้งของจิตใจจนเปล่งประกายออกมาทางแววตา

“ข้าต้องชนะ! ข้าต้องได้รับชัยชนะ และเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในการประลองอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าให้ได้ ข้าจะทำให้ทุกคนได้ประจักษ์ว่าข้าคือ วิหคเพลิงสยายปีกเก้าวันเก้าคืน!” ”

 

หลู่เชียนสุ่ยยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้า

“ดีมาก! ในเมื่อท่านมุ่งมั่นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่รบกวนการฝึกฝนของท่าน!” กล่าวจบหลู่เชียนสุ่ยก็หันหลังเดินจากไปทันที

ทางดานหลู่ซิงเฉินก็ได้แต่ยืนจ้องมองกระบี่ยาวในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แววตาของนางเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในขณะที่จ้องมองร่างของหลู่เชียนสุ่ยที่ค่อยๆลับสายตาไป

 

……..

 

“พี่ซิงเฉินฝึกเพลงกระบี่ธารบรรพตสำเร็จแล้ว ข้าเองก็ต้องพยายามอย่างหนักบ้างเพื่อ ระดมพลังปราณให้สำเร็จโดยเร็วเช่นกัน”

หลังจากที่กลับไปที่บ้านแล้ว หลู่เชียนสุ่ยก็นั่งลงขัดสมาธิบนพื้นพร้อมกับบอกตัวเองอย่างมุ่งมั่น

เมื่อชาติที่แล้ว นางเป็นเด็กกำพร้า และยังเป็นสมาชิกของหน่วยรบพิเศษแห่งชาติ ครั้งนั้นนางเป็นหญิงสาวที่เย็นชาไร้หัวใจ จิตใจของนางมีเพียงแค่การไล่ล่าและสังหาร แต่หลังจากที่เสียชีวิตไปพร้อมกับศัตรูในการปฏิบัติภารกิจครั้งสุดท้ายนั้น เมื่อตื่นขึ้นมานางก็พบว่าตนเองได้เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวนามหลู่เชียนสุ่ยแล้ว

ในชีวิตนี้ นางมีทั้งบิดาและมารดา พ่อของนางเป็นถึงเจ้าเมืองชิงหยุน เขาเป็นเจ้าเมืองที่สนใจเพียงแค่คนที่ทำผลประโยชน์ให้กับตนเท่านั้น หรือคนที่เขาต้องการจะใช้งาน ในเมื่อง และลูกสาวของเขาไม่สามารถระดมพลังปราณได้ เขาจึงเย็นชากับนางยิ่งนัก เขาทำราวกับว่าตนเองไม่มีบุตรสาวคนนี้อยู่

 

มีเพียงมารดาของนางเท่านั้นที่เลี้ยงดูและให้ความรักความอบอุ่นกับนาง นางทั้งให้เกียรติ ปกป้อง และให้ความรักแก่ลูกสาวของนาง ไม่ว่าลูกสาวของนางจะเป็นเช่นใด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ นางทำให้เชียนสุ่ยรู้สึกอบอุ่นซึ่งเป็นความรู้สึกที่นางไม่เคยได้รับในชาติที่แล้วเลย มารดาของนางจึงเป็นผู้ที่นางห่วงใยรักใคร่ที่สุดในโลกนี้

แต่น่าเสียดาย.. ที่เมื่อหกปีก่อนหน้านี้ บิดาของนางได้แต่งหญิงอีกคนเข้าบ้าน (สนม) ทำให้แม่ของนางเสียใจจนหนีออกจากตำหนักไป

ส่วนหลู่ซิงเฉินนั้นเป็นเด็กสาวกำพร้าที่ถูกนำมาเลี้ยงเป็นเพื่อนนางตั้งแต่เมื่อครั้งที่แม่ของนางยังไม่จากไป ไม่เพียงหลู่เซียงเฉินเป็นคนเดียวที่แม่ของนางทิ้งไว้ให้อยู่เป็นเพื่อนหลู่ชิงสุ่ย แต่แม่ของนางยังได้ถ่ายทอดวิชาธารบรรพต ให้กับนางด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายทอดให้กับคนนอกหลู่ซิงเฉิน

 

แม่ของนางให้หลู่ซิงเฉินทำหน้าที่คอยปกป้องหลู่เชียนสุ่ย ด้วยเหตุนี้เชียนสุ่ยจึงปฏิบัติต่อหลู่ซิงเฉินเยี่ยงพี่น้องคลานตามกันมา ไม่ว่าเรื่องใดทั้งสองต่างก็สามารถปรับทุกข์กันได้ทุกเรื่อง

เมื่อหกปีก่อน หลู่เชียนสุ่ยต้องการที่จะติดตามแม่ของตนออกจากตำหนักด้วย แต่แม่ของนางได้บอกกับนางว่า ห้ามไม่ให้เชียนสุ่ยออกนอกจวนผู้ว่าก่อนที่จะโตเป็นหญิงสาวเต็มตัว ตราบที่นางเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ นางจึงจะสามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินด้วยตัวเองได้

 

รีวิวผู้อ่าน