เรื่อง :
Martial god space ตอนที่ 151 หมายหัว แม่ทัพปีศาจระดับลมปราณมหาเทพ!

Martial god space ตอนที่ 151 หมายหัว แม่ทัพปีศาจระดับลมปราณมหาเทพ!

เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ในช่วงครึ่งเดือนนี้ดินแดนภูตโหยหวน ทั้งหมดอยู่ในความวุ่นวาย เพราะลูกสาวของตระกูล, ลั่ว ฟางหยี หายไปและข่าวนี้ทำให้เกิดความสับสนในดินแดนภูตโหยหวน หลังจาก ลั่ว ยี่ฟาน, ลั่ว ฟางหยี เป็นผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมซึ่งน่าจะตัดผ่านลมปราณมหาเทพของตระกูลลั่วคนต่อไป แต่ตอนนี้เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและไม่แม้แต่ซากศพของเธอ

เรื่องนี้ทำให้ตระกูลลั่วโกรธอย่างยิ่งโดยเฉพาะ ลั่ว ยี่ฟาน เพราะเขาอยู่ในดินแดนภูตโหยหวน เมื่อเธอหายตัวไปและนี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาโกรธอย่างรุนแรง เขากำลังค้นหาที่อยู่ของเย่ ซีหวิน เพราะเขามีลางสังหรณ์ว่านี่คือการกระทำของเย่ ซีหวิน แม้ว่าข่าวลือแพร่สะพัดว่า ลั่ว ฟางหยี ถูกปีศาจฆ่า แต่เขาไม่เชื่อ!

เธอต้องถูกฆ่าตายโดย เย่ ซีหวิน!

เพราะ ลั่ว ฟางหยี แจ้งยันต์สื่อสารมาว่าเธอกำลังจะหยุดเย่ ซีหวิน พร้อมกับคู่หูของเธอ แต่หลังจากนั้นเขาไม่ได้รับข้อความใด ๆ จากคู่หูของเธอ

และสิ่งนี้ทำให้ ลั่ว ยี่ฟาน โกรธมากและเขากำลังค้นหา เย่ ซีหวิน ในทุกแห่งหนเพื่อจะสับเขาให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น แต่การค้นหาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะอาจกล่าวได้ว่าเขายังไม่แน่ใจว่าเป็น เย่ ซีหวิน!

นั่นหมายความว่าในช่วงที่พวกเขาขัดขวาง เย่ ซีหวิน พวกเขากลับเป็นสมาพันธ์ถูกฆ่าตายแทนหรือไม่?

กล่าวได้ว่า?

เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ เย่ ซีหวิน เป็นหัวหน้าของศิษย์ชั้นในและเขาก็ทำลายสถิติเก่าของสำนักยี่ หยวน หลายปีมาแล้วไม่ใช่แค่ว่าหลายคนถือว่าเขาเป็น ฉี เฟ่ยฝาน ของสำนักยี่ หยวน และความพิเศษของเขา พรสวรรค์ก็ดึงดูดความสนใจจากอดีตผู้อาวุโสของนิกาย อย่างไรก็ตามถ้าเขาได้รับการช่วยเหลือลับๆ จากตระกูลลั่วและตราบเท่าที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ชายชราเหล่านี้คงโกรธมากเพราะความตายของอัจฉริยะที่หาได้ยากเช่น เย่ ซีหวิน แต่พวกเขาจะไม่สามารถก้าวก่าย หรือเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนตายได้

(NT: ย่อหน้านี้เป็นเหตุผลแรกที่ ลั่ว ยี่ฟาน กำลังตามหา เย่ ซีหวิน แทนที่จะกล่าวหาว่าเขาเป็นคนฆ่ากับสมาพันธ์ปกครองเขา เขากลัวว่าอดีตผู้อาวุโสจะเข้ามาก้าวก่ายเพื่อช่วยให้เย่ ซีหวิน ดังนั้นจึงเป็นการดีหากฆ่าเขาก่อนโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากอดีตผู้อาวุโสเหล่านั้น)

แต่ถ้าเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้วบางทีความโกรธของพวกอดีตผู้อาวุโสอาจนำไปสู่การล่มสลายของ ตระกูลลั่ว แม้ว่าตระกูลลั่วจะถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่โต แต่ก็ไม่ใหญ่พอที่จะหลอกลวงประชาชนทั้งอณาจักรได้ แม้ตระกูลลั่วจะยิ่งใหญ่แต่ก็มีศัตรูเป็นจำนวนมาก

นี่เป็นธรรมเนียมในสำนักยี่ หยวน ถ้าจะฆ่าใครสักคนพวกเขาก็ต้องทำอย่างลับๆ มิเช่นนั้นมันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในสำนักยี่ หยวน

ประการที่สองไม่ต้องพูดถึง ถ้าสามศิษย์หลักถูกฆ่าโดย เย่ ซีหวิน จริงๆแล้วมันอาจก่อให้เกิดความโกลาหลมาก แต่ก็ไม่มีหลักฐาน นอกจากนี้ เย่ ซีหวิน ยังเป็นหัวหน้าของศิษย์ชั้นในและมีอดีตผู้อาวุโสหลายคนชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก ถ้าเขาได้ฆ่าศิษย์แกนหลักชั้นนำของสำนักยี่ หยวน จริงๆแล้วความแข็งแกร่งของเขาก็เทียบได้กับความแข็งแกร่งครึ่งขั้นลมปราณมหาเทพ และข่าวนี้จะสร้างความอื้อฉาวทั่วสำนักยี่ หยวน แม้กระทั่งผู้อาวุโสที่น่าเกรงขามหลายคนที่ปิดด่านฝีกตนในส่วนลึกของพื้นที่เมื่อทราบข่าวก็จะออกมา เย่ ซีหวิน เป็นเพียงเด็กที่เข้าร่วมนิกายหลักไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาจะกลายเป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างรวดเร็ว

บางทีเมื่อถึงเวลาที่สมควรแล้วอดีตผู้อาวุโสจะออกมาจากการปิดด่านฝึกตนที่เหล่าอดีตผู้อาวุโสเหล่านี้กำลังเพาะบ่มอย่างสันโดษ และพวกเขาก็จะนำ เย่ ซีหวิน ไปอยู่กับที่ลึกลับของพื้นที่และเวลาและที่นั่น, พวกเขาจะฝึกเขาและให้ทรัพยากรอุดมสุขแก่เขาเพื่อช่วยให้เขาเติบโตได้เร็วขึ้น เมื่อเทียบกับอัจฉริยะดังกล่าวการเสียชีวิตของ ลั่ว ฟางหยี ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยกับอดีตผู้อาวุโสเหล่านี้ การมอบหมายให้ ลั่ว ฟางหยี ขัดขวาง เย่ ซีหวิน นั้นเป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับ

เย่ ซีหวิน เป็นคนชั่วที่ปรากฏตัวครั้งหนึ่งนานมากในโลกวรุยทธ์ที่แท้จริง และคนชั่วดังกล่าวยังได้รับโอกาสในการได้รับการฝึกอบรมและทรัพยากรจำนวนมากจากนั้น ในอนาคตจะไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของเขาซึ่งจะเป็นความประสงค์ของสวรรค์เท่านั้น

(NT: คำว่า 'คนชั่ว' ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนชั่ว แต่เป็นเหมือนพวกคอยขัดลาภ)

ดังนั้นในกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่า เย่ ซีหวิน โดยไม่รบกวนคนอื่น ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ภายในเวลาไม่ถึงเดือนหลายกลุ่มศิษย์เมล็ดพันธุ์หลักและศิษย์เมล็ดพันธุ์ชั้นในกำลังตามหา เย่ ซีหวิน เป็นการหายตัวไปโดยปราศจากร่องรอยเช่นเดียวกับ ลั่ว ฟางหยี

ลั่ว ยี่ฟาน รู้ดีว่าเป็นฝีมือของ เย่ ซีหวิน แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสงสัยโดยปราศจากหลักฐาน แต่การสูญเสียคนสำคัญทำให้ตระกูลลั่วรู้สึกไม่ดีสักระยะหนึ่ง แม้ว่าพวกศิษย์เหล่านี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตลมปราณมหาเทพ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเพาะบ่มให้พวกเขา การฝึกอบรมมูลค่าในทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้บรรลุความแข็งแรงเทียบเท่ากับระดับของลูกศิษย์แกนเมล็ด และทรัพยากรจำนวนมากยังถูกใช้เพื่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของพวกเขา ถ้าพวกเขาเป็นแค่ผู้มีพลังลมปราณเทวะขั้นที่ 9 แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องสูญเสียพวกเขา แต่พวกเขาเป็นชนชั้นสูงที่ได้เรียนรู้วรยุทธที่ยอดเยี่ยมที่สุดและได้ใช้สมบัติล้ำค่าและหายากมากที่สุดดังนั้นวรยุทธของพวกเขาดีกว่าเพื่อนของพวกเขา อาจกล่าวได้ว่าตระกูลลั่วมีการลงทุนมหาศาลกับพวกเขา และพวกเขาทั้งหมดมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีโอกาสตัดผ่านขอบเขตลมปราณมหาเทพในอนาคต แต่มันก็หายไปหมด ทุกคนก็หายตัวไปในช่วงการแข่งขันของลูกศิษย์เมล็ดพันธุ์นี้ ตระกูลลั่วต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างหนัก

ลั่ว ยี่ฟาน ไม่โกรธโดยไม่มีเหตุผล

ลั่ว ยี่ฟาน ค้นหาในพื้นที่ห่างไกลของดินแดน ภูตโหยหวน แต่ไม่สามารถหา เย่ ซีหวิน ได้ ราวกับ เย่ ซีหวิน ได้ตายไปแล้ว แต่เขารู้ว่า เย่ ซีหวิน ยังไม่ตายอย่างแน่นอน สัญชาตญาณของ ลั่ว ยี่ฟาน บอกกับเขาว่า เย่ ซีหวิน ยังมีชีวิตอยู่

แต่เขาไม่กล้าเดินลึกเข้าไปในดินแดน ภูตโหยหวน เพราะในดินแดน ภูตโหยหวน เป็นดินแดนที่มีขนาดใหญ่ของปีศาจ และในหมู่พวกมันมีราชาปีศาจที่น่าเกรงขามและมีอสูรระดับลมปราณมหาเทพมากมาย มีเพียงคนที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับระดับของ ฉี เฟ่ยฝาน ถึงจะกล้าเข้าไปในส่วนลึกของดินแดน ภูตโหยหวน คนอื่นไม่กล้าไปไกลเกินไปเพียงท่องไปในขอบรอบนอก

ลั่ว ยี่ฟาน ไม่ยอมแพ้ที่จะค้นหา เย่ ซีหวิน เขาใช้เวลานานในเขตชานเมืองดินแดนภูตโหยหวน แต่ เย่ ซีหวิน อยู่ในเขตดินแดนภูตโหยหวน ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากมันเป็นรังขนาดใหญ่ของปีศาจร้ายมากมาย

สำหรับ เย่ ซีหวิน เป็นกรณียกเว้นเพราะเขาเป็นเจ้านายของกระจกเทียนหยวน และถ้าเขาไม่พบปีศาจระดับลมปราณมหาเทพ ปีศาจอื่น ๆ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาและมันจะถูกหั่นเช่นผักโดย เย่ ซีหวิน เมื่อใดก็ตามที่เขาเจอมัน

ตั้งแต่วันที่ เย่ ซีหวิน ฆ่า ลั่ว ฟางหยี เขาได้ฝึกฝนทักษะของเขาในส่วนลึกของดินแดนภูตโหยหวน ส่วนหนึ่งเพื่อจะหลบหนีจากการค้นหาของ ลั่ว ยี่ฟาน เขารู้ดีว่านี่เป็นสถานที่ที่ ลั่ว ยี่ฟาน คงจะกลัวที่จะมาและเฉพาะผู้มีพลังพิเศษที่ไม่ธรรมดาและแข็งแกร่งเช่น ฉี เฟ่ยฝาน ถึงจะกล้าที่จะมาที่นี่หรือคนที่มีความลับอย่าง เย่ ซีหวิน

ในทางตรงกันข้ามมันเป็นเพราะพวกปีศาจในดินแดนแห่งภูตโหยหวน ไม่เพียงพอสำหรับตัวเขาเพราะแกนอสูรที่ถูกดูดกลืนโดยการตัดหัวเหล่าปีศาจไม่เพียงพอสำหรับ เย่ ซีหวิน และโดยพื้นฐานก็ไม่ได้ช่วยอะไรในการยกระดับการเพาะบ่มของเขา

แม้ว่าเขาจะดูดซับแกนอสูรที่มีอยู่ในร่างของปีศาจแห่งระดับครึ่งขั้นลมปราณมหาเทพ ก็ไม่ได้ส่งผลมากนัก

ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่จะออกจากดินแดน ภูตโหยหวน ตั้งแต่ ลั่ว ยี่ฟาน มาถึงก็ไม่สามารถหาเขาในช่วงเวลานี้ เขาจะรอ เย่ ซีหวิน ออกมาข้างนอกเพื่อจัดการเขา!

เย่ ซีหวิน รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงเสี่ยงชีวิตเพื่อความปลอดภัยในอนาคตของเขา

ตอนนี้การเพาะบ่มของเจ้าอยู่ที่จุดสุดยอดของขั้นที่ 7 ของลมปราณเทวะ และความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของเจ้าก็เปรียบได้กับครึ่งขั้นลมปราณมหาเทพ แต่ถึงแม้เจ้าจะตัดผ่านขั้นที่ 8 ลมปราณเทวะขึ้นไปอีกครั้ง แต่ความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของเจ้าจะยังคงเทียบเคียงได้ กับผู้เขี่ยวชาญครึ่งขั้นลมปราณมหาเทพ "เย โม่ กล่าว" เจ้ายังไม่ผ่านไปยังขอบเขตลมปราณมหาเทพ และเจ้าไม่สามารถจินตนาการถึงช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างขอบเขตลมปราณมหาเทพ กับขอบเขตลมปราณมหาเทพครึ่งขั้นได้ แต่ในกรณีที่เจ้าตัดผ่านไปถึงขั้นที่เก้าลมปราณเทวะได้ในเวลานั้นความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะเทียบเท่าขอบเขตลมปราณมหาเทพ แล้วเจ้าจะมีพลังมากพอที่จะปกป้องตัวเองได้ "

"ข้ารู้" เย่ ซีหวิน กล่าวว่า "ในปัจจุบันเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อข้าดูดซับหินวิญญาณชั้นยอดจำนวนมากโดยอาศัยการรวบรวมปราณจิตวิญญาณ ซึ่งมันใช้เวลานานกว่าจะข้ามขอบเขตนี้ อาจจะ 8 หรือ10 ปีหรือมากกว่านั้น "

"ว่ากันว่า เจ้าจะไม่ได้อะไรจนกว่าเจ้าจะเข้าไปในถ้ำของเสือ ข้าต้องตรงตัดศีษระปีศาจระดับลมปราณมหาเทพและดูดซับแกนอสูรและจากนั้นในระยะเวลาสั้น ๆ ข้าก็จะตัดผ่านขอบเขตขั้นที่ 9 ลมปราณเทวะได้ "เย่ ซีหวิน แววตาของเขาเป็นประกายแสงที่ไม่อาจอธิบายได้กระพริบอยู่ในดวงตาของเขา

คิดไม่ถึงว่า เย่ ซีหวิน จะเป็นมนุษย์ระดับผู้มีพลังลมปราณมหาเทพ แม้ว่าตัวเขาเองจะอยู่ในกลุ่มผู้มีพลังลมปราณมหาเทพครึ่งขั้น และอาจกล่าวได้ว่าไม่มีผู้มีพลังลมปราณมหาเทพครึ่งขั้นต่อกรกับเขาได้ , แต่ถ้าเขาเจอผู้มีพลังลมปราณมหาเทพแล้วเขาแทบจะไม่มีโอกาส

นี่เป็นเหตุผลที่เขาหลบซ่อนตัวจาก ลั่ว ยี่ฟาน และตอนที่เขาออกเดินทางมาไม่นานก็เห็นได้ชัดว่า ลั่ว ยี่ฟาน บ้าคลั่งอย่างมากที่ เย่ ซีหวิน ฆ่าลูกศิษย์ระดับหลักของเขาหลายคน และคราวนี้เขาคงไม่ไว้ชีวิต เย่ ซีหวิน ต่อหน้าฝูงชนขนาดใหญ่เหมือนครั้งสุดท้ายและอาจฆ่าเขาในทันที

ถ้าหาก เย่ ซีหวิน ไม่หลบหนีออกมา ไม่ต้องสงสัยตระกูลลั่วคงระบายความโกรธของพวกเขากับสมาพันธ์ เฉิน ยู่ หรือตระกูลเย่

ดังนั้นทางเลือกเดียวที่เหลือสำหรับ เย่ ซีหวิน ก็คือการเสี่ยงชีวิตของเขาและเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด

เมื่อความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เย่ ซีหวิน ไม่สามารถต่อกรกับผู้มีพลังลมปราณมหาเทพ แต่ถ้าเป็นปีศาจระดับลมปราณมหาเทพ เย่ ซีหวิน เชื่อว่าหากใช้พลังสะกดปีศาจจากกระจกเทียนหยวนมีความเป็นไปได้ว่า เขาสามารถเอาชนะปีศาจระดับลมปราณมหาเทพได้

เย่ ซีหวิน สังเกตการณ์จากบนยอดเขาเป็นเวลานาน และในเวลาต่อมาเขาเห็นกองคาราวานอันยิ่งใหญ่ในระยะไกลออกมาจากเมืองปีศาจ และประกอบด้วยยามปีศาจจำนวนมาก และอยู่ตรงกลางมี ปีศาจระดับลมปราณมหาเทพ ก่อนหน้านี้ เย่ ซีหวิน ได้แอบแผงตัวเป็นปีศาจและเข้าไปในเมืองเพื่อสอบถาม และได้ค้นพบเกี่ยวกับปีศาจระดับลมปราณมหาเทพนี้เรียกว่าแม่ทัพปีศาจจู่ ฟง เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตลมปราณมหาเทพและราชันย์ปีศาจแห่งอณาจักรปีศาจได้มอบยศแก่แม่ทัพปีศาจจู่ ฟง และให้ดูแลพื้นที่ใกล้เคียง

วันนี้เกือบทุกวันเขาจะออกมาจากเมืองพร้อมกองคาราวานของเขาเพื่อลาดตระเวนอาณาเขตของตัวเองและทุกครั้งเขาจะมาพร้อมกับกลุ่มใหญ่ที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาและทาสหลายคน

เย่ ซีหวิน มองอย่างเย็นชาที่แม่ทัพปีศาจจู่ ฟง เนื่องจากชายคนเดียวที่เขาต้องกังวลคือแม่ทัพปีศาจจู่ ฟง เขาสามารถจัดการกับปีศาจที่เหลืออยู่ในกองคาราวานโดยใช้พลังสะกดของกระจกเทียนหยวน เพราะภายใต้การสะกดพลังพวกเขา จะไม่สามารถใช้พลังได้ครึ่งหนึ่ง ถึงแม้จะมีปีศาจจำนวนมากมาย แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ เป้าหมายหลักของเขาคือแม่ทัพปีศาจ จู่ ฟง เพราะเขาจะเป็นคนที่ยากที่สุดที่จะจัดการกับ

เนื่องจากแม่ทัพปีศาจจู่ ฟง ได้ก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความจริงเมื่อเร็ว ๆ นี้ลมหายใจของเขายังคงไม่เสถียรและออร่าของเขาล้นออกมาอย่างเปิดเผยและเมื่อมองจากระยะไกล ปราณปีศาจของเขาลอยไปบนท้องฟ้าซึ่งเป็นภาพที่ค่อนข้างน่ากลัว

เย่ ซีหวิน ไม่มีทางเลือกอื่น เหล่าปีศาจอาวุโสที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณมหาเทพเป็นเวลานานมาแล้ว เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวมากดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าแม่ทัพปีศาจ จู่ฟง เป็นเป้าหมายที่ง่ายที่สุดในปัจจุบันของ เย่ ซีหวิน

แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ตระหนักดีว่าเขามีโอกาสเพียงครั้งเดียว เพราะถ้าเขาล้มเหลวในเวลานี้ แม่ทัพปีศาจจู่ ฟง จะระมัดระวังในการลาดตระเวนในอนาคตของเขา และในครั้งต่อไปก็จะไม่เป็นเช่นนั้น ไม่ง่ายที่จะฆ่าเขา แม่ทัพปีศาจจู่ ฟง คงออกมาจากเมืองมาพร้อมด้วยยามจำนวนมากและนอกเหนือจากความแข็งแกร่งระดับความเชื่อมั่นที่เหลือเชื่อของตัวเองแม้กระทั่งโดยการพึ่งพาพลังสะกดของกระจกเทียนหยวน เย่ ซีหวิน ก็ไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ

"ไปเถอะ!" เย่ ซีหวิน ตะโกนและขณะที่ทิ้งรอยเท้าไว้บนพื้นร่างของเขาก็ยิงไปข้างหน้าราวกับว่าลูกธนูเพิ่งออกจากคันธนูและรีบวิ่งตรงไปยังกองคาราวานของแม่ทัพปีศาจ จู่ฟง