
1626 วันที่แล้ว
55555555
ตอนที่ 47 ข้าจะช่วยจ่าย
ฟางเซียงหยู่ได้ยินเสียงผู้หญิงอื่นเรียกพี่ชางของนางว่าพี่หลู่ นางจึงรีบหันหน้าไปทางต้นเสียงทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ นางเห็นฟางฮั่นกำลังยืนอยู่กับชายและหญิงคู่หนึ่งซึ่งนางไม่รู้จักพวกเขา
รอยยิ้มจาง ๆ เผยออกมาจากใบหน้าของฟางฮั่นทันทีที่ถูกจับได้ว่าแอบฟังพวกเขามาสักพักแล้ว
ฟางเซียงหยู่จ้องมองฟางฮั่นและต้องการที่จะดุด่านาง แต่สายตาของนางพลันเหลือบไปมองเด็กหญิงที่ยืนอยู่ด้านข้างฟางฮั่น อายุของเด็กผู้หญิงคนนั้นราว ๆ 12 ปีและมีผิวขาว ใบหน้าของนางสวยมากและทำให้ฟางเซียงหยู่อยากรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
ฟางเซียงหยู่แอบจะสะอึก ใบหน้าของนังเด็กผู้หญิงคนนี้ช่างดูไร้เดียงสาเหลือเกิน เสื้อผ้าสีหวานพร้อมกับมีกิ๊บติดผม แต่ข้อมือของนางมีสร้อยทองและมันจะปรากฏอยู่บนร่างกายของตระกูลที่ร่ำรวยเท่านั้น
ความโกรธปะทุขึ้นมาจากใจของฟางเซียงหยู่หลังจากที่นางเห็นเช่นนั้น เสียงที่แหลมบาดหูของนางดังขึ้นทันที “แกเป็นใคร ? ทำไมกล้าที่จะตะโกนเรียกพี่หลู่อย่างสนิทสนมเช่นนั้น มีความสัมพันธ์อะไรกับเขางั้นหรือ นังหน้าด้าน ? ! ” ถ้อยคำเหยียดหยามแผดออกมาสุดเสียงอย่างไร้มารยาท
แน่นอนว่าฟางเซียงหยู่ไม่ได้รู้สึกอิจฉาอะไรเลยและนางกล้าที่จะพูดจาเช่นนี้เพราะนางเคยไปที่เขตมาก่อน นางเห็นการกระทำของหญิงสาวในตระกูลใหญ่หลายคนที่พยายามจะเข้าหาบุตรชายของตระกูลร่ำรวย คำว่านังหน้าด้านที่พูดออกไปนี้ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อยสำหรับใครก็ตามที่มาทำตัวสนิทสนมกับสามีในอนาคตของนาง
แน่นอนว่าสังคมที่เฉินหลี่ฟางได้สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยบุคคลที่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่ พวกเขาล้วนแต่มีมารยาทและความสุภาพนอบน้อม การพูดจาเช่นนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เป็นเรื่องยากที่นางจะได้สัมผัสกับสิ่งที่น่ารังเกียจและหยาบคายเยี่ยงนี้
พวกเขาไม่ค่อยคลุกคลีกับคนจน แต่สำหรับฟางฮั่นเป็นข้อยกเว้น เรียกได้ว่านี่คือครั้งแรกที่นางได้พบกับสาวชาวบ้านและอีกฝ่ายตะโกนใส่หน้านางอย่างหยาบคายโดยไม่สนใจสถานะของนางแม้แต่น้อย
ตอนนี้เฉินหลีฟางและเฉินหลี่ชิงกำลังตกตะลึงกับคำพูดเมื่อครู่
ฟางเซียงหยู่กำลังเต็มไปด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ ส่วนฟางฮั่นรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เหตุใดจึงกล้ามาพูดจาไร้มารยาทกับเพื่อนของนางอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ ปากของนางเม้มเข้าหากันอย่างโกรธเคืองก่อนจะโต้ตอบ “คำพูดของอาเล็กช่างไร้เหตุผลซะเหลือเกิน มีเพียงท่านงั้นหรือที่สามารถเรียกพี่หลู่ พี่ชางได้ แต่คนอื่นห้ามเรียกงั้นหรือ ? ทำไมคนที่เรียกพี่หลู่จะต้องกลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอาย ? แล้วท่านที่เรียกเขาว่าพี่ชางทุกคำนั้นจะถูกเรียกว่าตัวอะไร ? ”
ใบหน้าที่มุ่ยเล็ก ๆ ของเด็กหญิงคนนั้นช่างทำให้ฟางเซียงหยู่มีความสุขเหลือเกิน ขณะนี้เฉินหลี่ชิงกำลังไม่เข้าใจ ซึ่งเขาค่อนข้างมั่นใจว่าน้องสาวของตนเองเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สุภาพอย่างมาก ทำไมจึงต้องถูกดุด่าแบบนี้ด้วย
ฟางเซียงหยู่โกรธจัดเมื่อได้ฟังคำพูดของฟางฮั่น นางแทบจะทนไม่ไหวและต้องการลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปฉีกปากของเด็กหญิงตรงหน้า “นังจิ้งจอกเพศยา แกเข้าข้างคนนอกงั้นเหรอ อย่ามาเรียกข้าว่าอา ! ข้าไม่มีหลานสาวสารเลวอย่างแก ! นังหน้าด้าน ! ”
ใบหน้าของฟางฮั่นเปลี่ยนไปอย่างไม่แยแสพร้อมแสร้งกล่าว “โอ้ ฟางเซียงหยู่ คิดว่าตัวเจ้าดีนักรึ”
คิดว่าข้าอยากนับถือเป็นอาหรือไง ?
การเรียกชื่อตรง ๆ เช่นนี้ทำให้ฟางเซียงหยู่โกรธจัดอย่างเห็นได้ชัด แก้มของนางแดงฉานพร้อมกับลมหายใจเริ่มติดขัด นางพูดไม่ออกและชี้หน้าของฟางฮั่นอย่างเดือดดาล
ฟางเถียนรีบเข้ามาหยุดยั้งลูกสาวเอาไว้และกล่าวปลอบประโลม “โอ้ ลูกรักของแม่ เจ้าอย่าไปสนใจเห็บหมัดตัวน้อยพวกนั้นเลย จงระลึกไว้เถอะว่าตอนนี้มีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้องของเจ้า ! ”
หลังจากนั้นฟางเซียงหยู่ปวดท้องขึ้นมาทันที
ใบหน้าของนางพลันซีดขาวและเริ่มงอตัว
ฟางเถียนตื่นตระหนกอย่างมากพร้อมกับร้องบอกให้ฟางฉางจวงเรียกหมอโดยเร็ว โชคดีที่ตรงนี้คือโรงหมอ
หมอวิ่งมาอย่างเร่งรีบพร้อมขมวดคิ้วและบ่น “หญิงมีครรภ์ไม่ควรจะโกรธ ตอนนี้เด็กยังไม่แข็งแกร่งและเจ้าก็ควรจะระงับตัวเองให้ได้ด้วย สมาชิกในครอบครัวก็เช่นกัน ถ้าหากพวกเจ้าต้องการให้ทารกแข็งแรงก็ควรจะดูแลจิตใจของผู้เป็นแม่ให้มากกว่านี้”
ความเกลียดชังทั้งหมดที่มีของฟางเถียนถูกส่งผ่านสายตาไปที่ฟางฮั่น “มันเป็นเพราะแกคนเดียว ! ”
ฟางฮั่นรู้สึกเสียใจที่นางปากไวไปหน่อยจนลืมว่าตอนนี้ฟางเซียงหยู่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ตอนนี้นางควรจะปล่อย ๆ อีกฝ่ายไปก่อนจนกว่าอีกฝ่ายจะคลอด
พนักงานกล่าวขึ้นมาสั้น ๆ “ตอนนี้พวกเจ้ามีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 19 ตำลึง”
เพราะว่าเมื่อครู่นี้มีการจ่ายยาต้มแบบเร่งด่วนและก่อให้เกิดความโกลาหลในโรงหมอ
เฉินลี่ฟางเพิ่งฟื้นคืนสติขึ้นมาจับมือของฟางฮั่นอย่างประหลาดใจ “คนพวกนั้นคือครอบครัวของเจ้างั้นหรือ ? ”
ฟางฮั่นยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “อ่า พวกเขาเป็นปู่ย่าและลุงกับอาของข้าเอง ตอนนี้ข้ารู้สึกละอายใจจริง ๆ ที่อาเล็กของข้าอารมณ์เสียเนื่องจากนางกำลังตั้งครรภ์ เป็นเหตุให้เจ้าถูกต่อว่า”
เฉินหลี่ฟางขมวดคิ้วพร้อมกับจับมือฟางฮั่นไว้แน่น “ทำไมครอบครัวของเจ้าจึงได้ใช้ถ้อยคำที่หยาบคายเช่นนี้…”
เฉินหลี่ฟางถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจนนางไม่เข้าใจความหมายของคำว่านังจิ้งจอกได้ แต่นางก็ย่นคิ้วไปมาพร้อมกับถอนหายใจยาว “เฮ้อ ลืมมันไปเถอะ นางก็เป็นเพียงหญิงมีครรภ์ ข้าเคยได้ยินว่าผู้หญิงที่กำลังท้องจะเป็นคนโมโหร้าย ข้าไม่สนใจนางหรอก”
ฟางฮั่นเผยรอยยิ้มเจ็บปวดก่อนที่จะขอบคุณอีกฝ่ายที่ไม่ติดใจ
จริง ๆ แล้วเฉินหลี่ฟางไม่จำเป็นจะต้องมาวุ่นวายกับเรื่องของตระกูลฟางเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนางสามารถละเลยมันได้แต่กลับไม่ทำเช่นนั้น สิ่งนี้ทำให้ฟางฮั่นรู้สึกละอายใจอย่างมากที่ทำให้ผู้อื่นพลอยลำบากไปด้วย
“แต่...” ท่าทีของเฉินหลี่ฟางเปลี่ยนไปพร้อมกับดึงร่างกายของฟางฮั่นเข้าใกล้ด้วยท่าทีซุบซิบ “อาเล็กของเจ้ามีลูกกับพี่หลู่จริง ๆ เหรอ ตระกูลหลู่แห่งโรงปักจิ่นซิ่วน่ะ ? ”
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยไปแล้วและฟางฮั่นก็ไม่สนใจที่จะรักษาความลับของฟางเซียงหยู่ นางพยักหน้ารับและกระซิบ “อืม อาเล็กของข้าพูดไว้ว่าแบบนั้นนะ”
เฉินหลี่ฟางตบเข่าเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมา “ปกติพวกเรามักพูดขำขันกันว่าคุณชายบ้านไหนยังไม่แต่งหญิงเข้าบ้าน แสดงว่านกเขาของเขาคงใช้การไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพี่หลู่จะมาเหนือเมฆเช่นนี้ เขามีลูกกับภรรยาตั้งแต่ยังไม่แต่งงานเสียอีก…...เฮ้อ…...มันช่าง…….”
เมื่อได้ยินว่าเฉินหลี่ฟางกล่าวเช่นนั้นออกมา ดูเหมือนว่านางจะรู้จักกับนายน้อยหลู่นั้นพอสมควร สิ่งที่นางอยากจะรู้ตอนนี้ก็คือนายน้อยหลู่นั่นมีคนรักอยู่แล้วหรือไม่ หรือมีความสัมพันธ์อะไรหรือเปล่า นางกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ในหัวอย่างถี่ถ้วนพร้อมกับคิดว่าจุดจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
แม้ว่านางจะมีความจริงอยู่ในมือ แต่ฟางเซียงหยู่ย่อมไม่ฟังใคร นางจึงตัดสินใจไม่ถามอีกฝ่ายและปล่อยให้เรื่องราวมันจบเพียงเท่านี้
ทว่าเฉินหลี่ชิงกำลังตัวสั่นเทาเนื่องจากโกรธจัด
ประการแรกคือน้องสาวของเขาถูกต่อว่าโดยใครก็ไม่รู้อย่างไร้เหตุผล ยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวที่เขาหลงรักกำลังถูกครอบครัวทำร้ายดุด่าต่อหน้าคนอื่นอย่างโจ่งแจ้ง ใครเห็นเช่นนี้ก็ย่อมรู้ดีว่าหญิงสาวนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้างในแต่ละวัน
เมื่อทั้งสองสิ่งนี้รวมกันยิ่งทำให้เฉินหลี่ชิงรู้สึกโกรธมากขึ้น ก่อนอื่นเลยเขาต้องการจะถามพี่หลู่ว่าทำไมถึงได้เลือกเอาผู้หญิงเช่นนี้มาเป็นแม่ของลูก !
อย่างไรก็ตามหัวใจของเฉินหลี่ชิงกลับมามีสติอีกครั้ง พี่หลู่เป็นลูกหลานคนรวยและพวกเขามีอำนาจมาก ตอนนี้เขาสามารถมีสัมพันธ์กับหญิงสาวที่หยาบคายขนาดนี้ได้แล้ว ฟางฮั่นที่สวยกว่าและเก่งกว่าคนนี้จะเหลือรอดงั้นหรือ… ถ้าหากเขาได้พบ เขาจะไม่สนใจนางหรือ ?
ความคิดนี้ทำให้หัวใจของเฉินหลี่ชิงเต้นไม่เป็นจังหวะ
เขารู้สึกว่าปากของเขาแห้งผากและทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเขาหยิบถุงเงินออกมาพร้อมกับเดินไปหาพนักงานบัญชีด้วยสมองที่ว่างเปล่า ชายหนุ่มหยิบตั๋วแลกเงินออกมา 2 ใบและวางลงบนเคาเตอร์ “ค่าใช้จ่ายของครอบครัวนี้ ข้าจะจ่ายให้เอง”
ฟางฮั่นมองไปที่เฉินหลี่ชิงด้วยความตกตะลึง
เจ้าบ้านั่นกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ?
เมื่อกี้น้องสาวของเจ้าโดนด่าต่อหน้าคนอื่นไม่ใช่หรือ ? แต่ตอนนี้เจ้ากลับเดินไปจ่ายเงินให้พวกเขา ? นี่เป็นคนแบบไหนกัน ?
เมื่อเห็นว่าฟางฮั่นกำลังจับจ้องพี่ชายของตนอย่างไม่เข้าใจ เฉินหลี่ฟางกล่าวขึ้นมาอย่างไม่ค่อยแยแสนัก “ไม่เป็นไรหรอก พี่ชายใหญ่ของข้ามีสัมพันธ์อันดีกับพี่หลู่ เขาก็แค่จ่ายเงินให้ก่อนแล้วค่อยไปตามเก็บกับพี่หลู่ทีหลังก็ได้”
ฟางฮั่นรู้สึกลำบากใจมาก เงินจำนวน 19 ตำลึงถูกจ่ายออกไปโดยไม่มีการลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น แน่นอนว่าโลกของคนรวยย่อมเป็นสิ่งที่ชาวนาอย่างนางไม่เข้าใจ…
ใบหน้าของพนักงานบัญชีเต็มไปด้วยความสุข เขาอดทนกับการโต้เถียงของครอบครัวนี้มาเนิ่นนานและในที่สุดก็มีคนยื่นมือมาจ่ายเสียที เขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนจ่ายเงิน ตราบใดที่ได้รับเงินครบก็เพียงพอ
เขาจัดการกับเงินอย่างรวดเร็วพร้อมตอบกลับ “เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว โปรดรับเงินทอนด้วย”
เฉินหลี่ชิงหยิบเงินพร้อมกับเก็บถุงเงินอย่างเป็นธรรมชาติ เขาหันไปรอบ ๆ และพบว่าเด็กหญิงที่เขาหมายปองกำลังจับจ้องเขาอย่างไม่เข้าใจ ดวงตากลมโตคู่นั้นทำให้หัวใจของเขาพลันสั่นไหวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ในหัวใจของเขากำลังคิดว่าจะใช้เรื่องนี้เพื่อพูดคุยกับพี่หลู่และเขาจะขอคำปรึกษาว่าควรจะเข้าหาฟางฮั่นอย่างไร
อีกอย่างการจ่ายเงินครั้งนี้เป็นการสร้างความประทับใจเพื่อให้ฟางฮั่นจดจำเขาได้อีกด้วย ส่วนเงินเขาจะไปเบิกคืนกับพี่หลู่ในภายหลัง
แต่ฟางฮั่นไม่รู้ว่าเฉินหลี่ชิงกำลังคิดอะไรอยู่…
หลังจากที่ฟางเถียนป้อนยาให้กับฟางเซียงหยู่เสร็จแล้ว อาการของนางค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเห็นว่าอาการดีขึ้นแล้ว นางรีบตะโกนให้หมอส่งคนไปเก็บเงินกับตระกูลหลู่ทันที
แต่พนักงานบัญชีตอบกลับอย่างเรียบง่าย “ผู้ชายคนนั้นจ่ายเงินให้เจ้าแล้ว”
ตระกูลฟางทั้งหมดต่างพากันมึนงงและประหลาดใจเล็กน้อย ชายหนุ่มหล่อเหลาและท่าทีสุภาพยืนอยู่ข้าง ๆ ฟางฮั่น…
นาทีนั้นหัวใจของฟางเซียงหยู่สั่นไหวทันทีพร้อมคิดเข้าข้างตนเองว่า ‘หรือบุรุษตรงหน้าจะอดทนต่อความสวยของข้าไม่ได้ ? เขาไม่สามารถยืนอยู่เฉย ๆ ตอนที่ข้ากำลังเจ็บปวดงั้นหรือ ? ทำไมเขาจึงยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อข้ากันล่ะ ? ’
เงินเกือบยี่สิบตำลึงถูกจ่ายออกไปโดยไม่มีคำพูดจาสักคำ เห็นได้ชัดว่าเขาคงจะร่ำรวยมากเช่นกัน น่าเสียดายจริง ๆ ที่หัวใจของข้ามีพี่ชางอยู่แล้ว… แม้ว่าจะคิดอย่างนี้แต่ฟางเซียงหยู่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้เฉินหลี่ชิง
ฟางเซียงหยู่ไม่รู้วิธีที่จะยิ้มยั่วยวนผู้ชายนัก แต่นางก็เคยเห็นหญิงสาวคนอื่นทำกันและสามารถทำมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ นางรู้ว่าตนเองนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์และสามารถจับพยัคฆ์ได้
ฟางเซียงหยู่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ “ฟางเซียงหยู่จากตระกูลฟางขอขอบคุณพี่ชายที่ช่วยเหลือ”
เฉินหลี่ชิงคิดอยู่ในใจว่าแม้หญิงสาวตรงหน้าของเขาจะหยาบคายมากเพียงใด แต่ท้ายที่สุดแล้วนางก็คงจะเข้าไปอยู่ในบ้านของพี่หลู่ แม้จะเป็นสถานะนางบำเรอก็ตาม อย่างไรนางก็คือพี่สะใภ้ของเขา เขาหันหนีไปทางอื่นพร้อมกล่าวเป็นพิธี “ข้าไม่ได้จ่ายให้เจ้า แต่ข้าจ่ายให้กับสหายของข้าที่เจ้ากล่าวถึงเขาก่อนหน้านี้ อีกอย่างข้าจะไปทวงคืนกับเขาสองเท่า”
ฟางฮั่นมองตาม
ฟางเซียงหยู่มองไปที่ฟางฮั่นราวกับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง นางรู้สึกว่าฟางฮั่นกำลังยั่วยวนผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน แต่ในที่สุดแล้วชายหนุ่มตรงหน้ากลับเลือกที่จะใส่ใจต่อนางมากกว่า เมื่อคิดได้เช่นนี้นางยิ่งรู้สึกภูมิใจในเสน่ห์ของตนเองมากขึ้น
ฟางเถียนมองไปที่เฉินหลี่ชิงด้วยรอยยิ้ม ยิ่งเห็นว่าเขาหล่อเหลาพอสมควรยิ่งรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก นางกำลังคิดว่าเด็กน้อยคนนี้ช่างดูดีและร่ำรวย เหมือนว่าเขาจะยังวัยรุ่นอยู่และน่าจะเข้ากับฟางอ้ายได้เป็นอย่างดี เมื่อคิดเช่นนี้แล้วฟางเถียนรู้สึกต้องการที่จะเข้าไปพูดคุยกับเฉินหลี่ชิงอย่างกระตือรือร้น
เฉินหลี่ชิงรู้สึกมึนงงเมื่อเขาพยายามเหลือบมองปฏิกริยาของฟางฮั่นเป็นครั้งราว นี่คือช่วงเวลาที่เขาได้มองนางใกล้ ๆ อีกครั้งและเขาอยากจะเก็บความทรงจำนี้ไว้ให้นาน
หลังจากนั้นฟางเถียนพยายามจะเข้ามาคุยกับเขาและแน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธ หลังจากพูดคุยกันไปไม่กี่คำทั้งสองก็ได้รู้เรื่องราวกันและกันมากยิ่งขึ้น
ฟางเถียนได้รู้ว่าเขาเป็นนายน้อยแห่งตระกูลเฉินซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองนี้ด้วยเช่นกัน เขาอายุ 14 ปีและยังไม่ได้แต่งงาน
ตอนนี้นางรู้สึกพึงพอใจเฉินหลี่ชิงอย่างมาก
เฉินหลี่ชิงก็พอใจที่ความสัมพันธ์เป็นไปได้ด้วยดีเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายต่างก็หวังผลประโยชน์ต่อกัน
ฟางฮั่นรู้สึกอึดอัดใจกับสถานการณ์ตรงหน้าพร้อมหันไปถามเฉินหลี่ฟางด้วยความลำบากใจ “ข้าขอโทษนะถ้าพูดอะไรไม่ดี แต่ว่านั่นเป็นพี่ชายของเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ ? ”
ฟางฮั่นรู้สึกได้ถึงเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดตรงหน้า
เฉินหลี่ฟางรู้สึกไม่เข้าใจเช่นกันจึงตอบกลับว่า “บางครั้งข้าก็ไม่อยากจะยอมรับว่าเขาเป็นพี่ชาย แต่น่าเสียดายที่เรามีพ่อแม่คนเดียวกัน…”
สาวน้อยทั้งสองมองหน้ากันพร้อมกับถอนหายใจยาว
55555555