
1627 วันที่แล้ว
ค้างค่ะ 555
ตอนที่ 43 ตั้งครรภ์
ในที่สุดเฒ่าฟางก็ตัดสินใจได้ “รีบไปเรียกคนขับรถม้ามาดีกว่า ส่งเสี่ยวหยู่ไปที่ร้านของหมอในเมืองเร็วเข้า ! ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟางฉางจวงวิ่งออกไปเมื่อตามหาคนขับรถม้าในหมู่บ้านทันที
ตาเฒ่าฟางไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องฟังเขาอยู่ดี ส่วนฟางเถียนที่กำลังถูกฟางฮั่นยั่วยุ นางกำลังมองกลับเข้าไปในห้องและเห็นว่าฟางเซียงหยู่กำลังอยู่ในสภาวะเวียนหัว หญิงสาวแรกรุ่นคนนั้นดูคล้ายกับซีดเซียวและเลือดค่อย ๆ ไหลออกมาจากกระโปรงของนาง
เวลานี้ใบหน้าของฟางเถียนราวกับถูกตบเสียงดังพร้อมกับร้องออกมาอย่างอดกลั้น “ลูกสาวของข้า ทำไมเจ้าจึงได้โง่เขลานัก เจ้า… เจ้าทำอะไรลงไป เจ้าทำได้ยังไง ! ”
ส่วนเสี่ยวเถียนค่อย ๆ ปลอบใจฟางเถียนอย่างใจเย็น “ท่านแม่ อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ย่อมได้”
“อะไรนะ ? ! เข้าใจผิดบ้าบออะไรกัน ! เจ้าเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านนี้ได้ยังไงจำได้หรือไม่ ! ” ฟางเถียนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับตบหน้าอีกฝ่ายอย่างแรง “เสี่ยวหยู่มีสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นหรือ ! ? ”
ใบหน้าของเสี่ยวเถียนแดงฉานจากแรงตบเมื่อครู่ นางเป็นลูกสะใภ้ของฟางเถียน แต่เมื่อเทียบกับลูกสาวแล้ว ความสำคัญของนางยังด้อยกว่ามากนัก เห็นได้ชัดว่าฟางเซียงหยู่ได้ทำผิดพลาดลงไปแล้ว ซึ่งนางควรต้องสังเกตเห็นมันบ้าง แต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เสี่ยวเถียนกล่าวเสียงต่ำ “เซียงหยูมักจะชอบออกไปข้างนอก ในทุก ๆ วันที่นางไป ข้าจะคอยถามอยู่เสมอแต่นางก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับข้ามากนัก และข้าก็บอกท่านแม่ให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้เสมอ แต่เมื่อพูดไปท่านแม่มักจะตอบกลับมาว่าให้นางเที่ยวเล่นได้ตามสบายก่อนที่จะแต่งงานก็แล้วกัน”
ความหมายในคำพูดนี้ก็คือผู้เป็นแม่ยังไม่สนใจใยดีลูกสาวของตนเองเลยแม้แต่น้อย นางที่เป็นเพียงพี่สะใภ้จะสามารถทำอะไรได้ล่ะ ? !
ฟางเถียนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับอ้าปากต้องการจะต่อว่าอีกฝ่าย แต่ตาเฒ่าฟางกลับไม่พอใจที่พวกเขาทะเลาะกันไม่หยุดหย่อนจึงตะโกนขึ้นมา “หยุด ! ไม่ต้องสนใจว่าตอนนี้เสี่ยวหยู่จะทำอะไรมา ข้าไม่มีอารมณ์จะฟังอะไรทั้งนั้น ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องรอให้เสี่ยวหยู่ตื่นก่อน จึงจะรู้ว่าความจริงคืออะไร ! ”
แต่อย่างไรก็ตามตาเฒ่าฟางก็ยังคงแอบหวังอยู่ลึก ๆ ว่าหมอหลี่คงจะเข้าใจผิด… มันพอจะเป็นไปได้หรือไม่ ?
เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งปวดท้องอย่างหนักซึ่งนางไปทำงานเป็นคนรับใช้ในเมือง หลังจากถูกตรวจชีพจรพบว่านางตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่ในครอบครัวโกรธมากจนแทบจะฆ่าแกงเด็กหญิงและขู่เข็ญถามอยู่นานว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ สาวน้อยเองก็ยังคงบริสุทธิ์และไม่มีการเล่นชู้กับใครที่ไหน นางกลัวและแทบจะกระโดดน้ำตายเพื่อหนีปัญหา แต่ท้ายที่สุดพี่ชายของนางได้คว้าร่างกายน้อย ๆ เอาไว้ทันและส่งนางไปยังร้านหมอในเมือง ซึ่งหมอที่นั่นตรวจจับชีพจรของนางอีกครั้งพร้อมหัวเราะเสียงดังว่ามันเป็นเพราะประจำเดือนของนางนั้นไม่ปกติและมีลิ่มเลือดอุดตันอยู่จึงไม่สามารถขับออกมาได้โดยง่าย นางจึงปวดท้องอย่างหนัก เขาให้ยาและนางต้องไปหาหมออีกสองสามครั้งเท่านั้นเอง
เรื่องราวในคราวนั้นวุ่นวายอย่างมาก แม้แต่ชื่อเสียงของเด็กน้อยก็ไม่อาจกู้คืนกลับมาได้ ชื่อเสียงของนางพังพินาศและไม่มีใครต้องการจะแต่งงานกับนางสักคน แม้ทุกคนจะรู้ความจริงแล้ว แต่ก็ไม่มีใครอยากจะแต่งงานกับนางอยู่ดี เพราะพวกเขาไม่เชื่อถือว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเพียงข้อกล่าวอ้างให้พ้นผิดเท่านั้น
สุดท้ายเด็กหญิงตัวเล็กก็ต้องแต่งงานกับบุคคลที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ่งอีกฝ่ายเป็นพ่อหม้ายอายุ 40 ปี ภรรยาตัวน้อยของเขาอายุห่างจากลูกคนแรกของเขามากโข…
ตาเฒ่าฟางได้แต่นึกย้อนไป…
เขาคาดหวังว่าบุตรสาวของตนเองก็คงจะเป็นเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน
ฟางฉางจวงตามคนขับรถม้ามาได้แล้ว ซึ่งเขาอยู่ไม่ไกลนักจากบ้านตระกูลฟาง เสี่ยวเถียนหยิบผ้าห่มหนา 2 ผืนมาวางบนรถเข็นและฟางฉางจวงอุ้มฟางเซียงหยู่ขึ้นรถเข็นไป ส่วนตาเฒ่าฟางและฟางเถียนต้องการจะตามบุตรสาวของตนเองเข้าไปในเมืองด้วย
ในเวลานี้เสี่ยวเถียนจึงบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ “ฮ่งเอ๋ออยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ ข้าต้องดูแลเขา”
ตอนนี้ร่างกายของฟางเถียนสั่นสะท้านด้วยความโกรธ นางตะคอกกลับอย่างเย็นชา “ข้าก็ไม่ได้จะให้เจ้าไปด้วยสักหน่อย ! ”
จากนั้นฟางเถียนวิ่งเข้าไปในบ้านและหยิบเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในครอบครัวออกมา ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่ามันเพียงพอหรือไม่ นางจำได้ว่าลูกชายคนเล็กขอเงินนางไปนิดหน่อยและบอกว่าเขาจะนำมาคืนในเร็ว ๆ นี้ ฟางเถียนมองไปรอบ ๆ พร้อมบ่นออกมา “ฉางอิงอยู่ไหน ? ”
เสี่ยวเถียนขมวดคิ้วอีกครั้งพร้อมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “น้องสามออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้ามืดและตอนนี้เขายังไม่กลับมา”
ฟางเถียนโกรธจัดจนไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนตาเฒ่าฟางก็หงุดหงิดมากเช่นกัน เขารออยู่บนรถม้านานแล้วและตะโกนกลับเข้ามา “จะไปหรือไม่ ? ข้าจะไปแล้ว ! ”
เมื่อเห็นว่าฟางเซียงหยูิ่กำลังจะถูกส่งตัวเข้าเมือง ฟางฮั่นโล่งใจพร้อมกับหันหลังกลับ ในขณะนั้นฟางเถียนสบตากับนางพอดีและตะโกนเสียงดัง “นังเด็กบ้าขึ้นมานี่ก่อน ! แกจะไปไหน อาเล็กเป็นลมในบ้านของแก ! แกคิดจะหนีงั้นหรือ ! ”
ฟางฮั่นแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ ทั้งแม่ทั้งลูกสาวนั้นถอดแบบกันออกมาราวกับพิมพ์เดียวกันเลยหรือ?
ฟางฮั่นนึกถึงสิ่งที่ฟางเซียงหยู่ได้พูดในห้องของนาง ซึ่งมันร้ายแรงอย่างมากและนางเกรงว่าเมื่ออีกฝ่ายตื่นขึ้นมาแล้ว ปากของนางจะพ่นเรื่องไร้สาระไม่หยุด การสาดน้ำสกปรกใส่นางนั้นเป็นเรื่องง่ายดายมาก นางควรจะอยู่ชี้แจงเรื่องทั้งหมดนี้ ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่กระจายออกไปจนไม่สามารถควบคุมได้
ความจริงฟางฮั่นไม่ได้สนใจเรื่องข่าวลือเท่าไหร่นัก แต่มีเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในความดูแลของนาง ฟางฉือไม่อาจจะร่วมรับกรรมที่ไม่ได้ก่อเหล่านี้ได้ นางจะต้องปลอดภัยและไร้มลทิน
ฟางฮั่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะขึ้นรถไปด้วย
รถม้าขนาดเล็กกำลังบรรทุกฟางเถียน ตาเฒ่าฟาง ฟางฉางจวง ฟางเซียงหยู่ที่นอนอยู่และฟางฮั่น ผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 1 คน อีกทั้งยังมีคนขับรถอีกหนึ่ง
เมื่อเห็นเช่นนั้น คนขับรถม้าจึงบ่นออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “จำนวนคนมากเกินไป พวกเจ้าต้องเพิ่มเงินในข้าอีกหน่อย”
คิ้วของฟางเถียนเลิกขึ้นมาอย่างน่าเกลียด “นี่เจ้าคิดจะขอเงินตามอำเภอใจงั้นหรือ ? ”
ส่วนฟางฉางจวงรีบตัดบท “ท่านแม่ ! นี่ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจเรื่องนั้น” จากนั้นเขาหันหน้าไปบอกคนขับรถว่าจะเพิ่มเงินให้
ฟางเถียนหงุดหงิดจนรู้สึกว่าสมองของตัวเองกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
สายตาของนางยังคงจับจ้องฟางฮั่นอย่างโกรธแค้น ในสมองของนางคิดเพียงแต่ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คือความโชคร้าย ไม่ว่าใครที่เข้าใกล้ก็จะประสบกับเรื่องราวร้าย ๆ เสมอ !
ฟางฮั่นเงยหน้าขึ้นมาและได้พบกับดวงตาที่ดุร้ายของฟางเถียนจับจ้องอยู่ นางตกใจจนหนังศีรษะชาวูบวาบ แต่ใบหน้าของนางยังคงนิ่งเรียบและแสดงให้เห็นถึงความไม่แยแส
และมันทำให้ฟางเถียนยิ่งโกรธมากขึ้น !
เวลานี้ภายในบ้านหลังใหญ่ ฟางอ้ายบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ ทำไมท่านไม่ให้ข้าตามไปด้วยล่ะ”
ความจริงแล้วนางต้องการจะไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ถูกแม่ดึงเอาไว้และไม่ยอมให้นางไปกับรถม้าคันนั้น
เสี่ยวเถียนมองลูกสาวพร้อมยิ้มเย้ยออกมา “เจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องดีงั้นหรือ ? ”
ไม่ว่าอย่างไรครอบครัวไหนก็ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับการตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน… เด็กหญิงคนนั้นจะแปดเปื้อนไปด้วยมลทินและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ตลอดชีวิต เสี่ยวเถียนตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี บุตรสาวของนางมีชื่อเสียงที่ย่ำแย่อย่างมากในคราวที่ผลักพวกฟางฮั่นตกน้ำ แต่เรื่องเช่นนี้สามารถลืมเลือนได้โดยใช้เวลาไม่กี่ปี ทว่าถ้าหากเกิดเรื่องตั้งครรภ์โดยไม่ได้แต่งงาน คนผู้นั้นจะต้องแบกรับความเจ็บปวดไปตลอดชีวิต!
นางไม่ต้องการให้บุตรสาวของตนเองเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เด็ดขาด !
เพียงแค่นี้เสี่ยวเถียนก็รู้สึกหัวเสียมากพอแล้ว
หลังจากที่พวกเขาทั้งหมดมาถึงโรงหมอในเมือง ใบหน้าของฟางเซียงหยู่ไม่ต่างอะไรจากผ้าขาวนัก ฟางฉางจวงอุ้มน้องสาวของตนที่ถูกห่ออยู่ในผ้าห่มเข้าไปด้านในอย่างเร่งรีบ
หมอที่นี่ล้วนแต่เห็นเหตุการณ์แบบนี้มานักต่อนัก พวกเขาไม่ได้ตกใจอะไรมากเพียงแต่ให้วางนางลงบนเตียงพร้อมกับจับชีพจรเพื่อตรวจสอบ
หลังจากหมอสัมผัสกับคนไข้อยู่สักพักหนึ่ง เขาบ่นออกมาอย่างเคร่งเครียด “ทารกในครรภ์กำลังแย่ แล้วผู้เป็นแม่จะไม่แย่ตามได้อย่างไรกัน”
คำสรุปของหมอทำให้ตาเฒ่าฟางแทบจะเป็นลมล้มพับในทันที
ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในความสงบมาตลอด เขาเชื่อว่าบุตรสาวของตนเองถูกหมอพิการตัดสินอย่างลวก ๆ และไม่รอบคอบเท่านั้น อย่างไรก็ตามหมอในเมืองกลับวินิจฉัยออกมาเช่นเดียวกับหมอพิการคนนั้น… เขาแทบจะเข่าอ่อนเมื่อได้รับรู้
ฟางเถียนที่ได้ยินว่าบุตรสาวตั้งครรภ์ นางหันกลับมาหาฟางฮั่นอย่างเกรี้ยวกราด “มันเป็นเพราะแกคนเดียว เพราะแกนั่นแหละ ! ”
ฟางฮั่นกรอกตาไปมาอย่างหงุดหงิดในความไร้เหตุผลของย่าคนนี้
หมอบ่นเล็กน้อยหลังจากเห็นฟางฮั่นถูกดุด่า เขาสั่งยาให้ฟางเซียงหยู่พร้อมกับกำชับ “เด็กในท้องนั้นอยู่ในสภาวะเสี่ยงมาก แต่โชคดีที่พวกเจ้าพานางมาที่นี่ทันเวลา อย่างไรข้าก็ไม่สามารถรับประกันได้หรอก พวกเจ้าก็จงดูแลนางให้ดีและเตรียมใจสักหน่อย… สำหรับการแท้ง”
ตาเฒ่าฟางไม่สามารถระงับความโกรธในใจเอาไว้ได้ “รับประกันแบบไหนกัน ! ด้วยยาบ้า ๆ พวกนี้งั้นหรือ แค่นี้เหรอ ! ” ยาสูบในมือของเขาสั่นสะท้านเพราะโกรธจัด
หมอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับสีหน้าประหลาดใจ “อะไรกัน ? พวกเจ้าไม่ใช่ครอบครัวของฝ่ายสามีงั้นหรือ ? ”
นี่คือคำถามที่ตระกูลฟางหวาดกลัวมากที่สุด...
เมื่อได้เห็นเช่นนั้น หมอได้แต่ส่ายหัวอย่างหนักใจ แม้จะบอกว่าเข้าใจสำหรับการตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ หมอถอนหายใจยาวออกมาครั้งหนึ่งก่อนที่จะสั่งให้หมอผู้ช่วยไปหยิบยาเพิ่ม
“จะกลับบ้านหรือจะอยู่รอให้นางตื่นก่อน ? อย่างไรก็ตามร่างกายของนางอ่อนแอมากและครรภ์ก็อ่อนแอเช่นกัน แม้ว่าจะดื่มยาเพื่อขับเด็กออกมา แต่นางก็อาจจะไม่รอด ตอนนี้ควรจะรอให้นางตื่นขึ้นมาก่อน แล้วเรียกข้าหลังจากนั้นแล้วกัน” หมอกล่าวประโยครวบรัดออกมาพร้อมกับรีบไปดูคนไข้อื่นต่อ
ตาเฒ่าฟางโกรธจัดพร้อมตะคอก “จะให้ดื่มกินอะไรอีก ตระกูลของข้าไม่มีผู้หญิงแบบนี้ ! เสื่อมเสีย เสื่อมเสียไปหมดแล้ว ! ”
ดวงตาของฟางเถียนกลายเป็นแดงก่ำเมื่อได้ยินสามีกล่าวเช่นนั้น นางเงยหน้าขึ้นพร้อมตอกกลับ “แล้วทำไมตอนที่เจ้าไปติดพันสาวหม้ายคนนั้นกลับไม่รู้สึกอับอายเช่นนี้บ้าง ! ”
ตาเฒ่าฟางถูกแดกดันต่อหน้าลูกชายและหลานสาวด้วยหนี้รักโรแมนติกที่เกิดขึ้นจากจิตวิญญาณในวัยเยาว์ เขาพูดไม่ออกพร้อมกับสวนกลับอย่างไม่มีเหตุผล “เจ้ายังไม่หยุดพูดเรื่องนี้งั้นหรือ ! มันผ่านมากี่ปีแล้ว ! พอสักที ! ถ้าลูกสาวเจ้ามันดีมากนักก็จงดูแลมันเอง ! ” หลังจากกล่าวจบเขานั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความอับอายและพ่นควันออกจากปากอย่างเดือดดาล
ฟางเถียนโกรธจัดเมื่อได้พูดถึงเรื่องราวในอดีต นางก้าวขาเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกระชากยาสูบในมือ “เสี่ยวหยู่ยังไม่ตื่น เจ้าจะมาสูบหาพระแสงอะไรตรงนี้ ! ”
ผู้เฒ่าฟางได้ยินเช่นนั้นก็พลันเดือดดาล เขากระชากยาสูบกลับคืนพร้อมถีบประตูออกไปข้างนอกทันที
บรรยากาศทั้งหมดเต็มไปด้วยความอับอาย
เรื่องราวความรักของผู้เป็นพ่อ ฟางฉางจวงค่อนข้างจะจำมันได้ดี ตอนนั้นเขายังเด็กอยู่ ตอนนี้พ่อกับแม่ทะเลาะกัน เขาจึงต้องเป็นคนที่หันหน้าไปหาฟางฮั่นเพื่อสอบถาม “ทำไมอาเล็กจึงเป็นลมอยู่ในห้องของเจ้าล่ะ ? ”
เฮอะ มาหาข้าเองแล้วยังมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก… ฟางฮั่นรู้สึกอึดอัดและเย้ยหยันตัวเองในใจหลังจากที่ได้ยินคำถามจากฟางฉางจวง
แน่นอนว่าเสียงนั้นดึงดูดฟางเถียนได้เป็นอย่างดี นางหันมาตะคอกอย่างรวดเร็ว “นังตัวดี ! แกทำอะไรอาเล็กห๊ะ ! ” เสียงด่าลอยตามลมมาอย่างน่าหดหู่
ฟางฮั่นรู้สึกเบื่อหน่ายทันที นี่คือวิธีที่พวกเขาใช้ถามคนอื่นงั้นหรือ ? นางตั้งสติพร้อมกับเปล่งเสียงที่ไร้เดียงสาออกไป “ท่านย่า… ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด อาเล็กเข้ามาและบอกว่าข้าแย่งผู้ชายมาจากนางแล้วนางก็พูดเกี่ยวกับการนอนกับผู้ชายด้วย แล้วข้าก็ตอบกลับไปว่าตอนนี้ข้าอายุเพียง 10 ขวบ ! ” นางหยุดครู่หนึ่งเพื่อเปลี่ยนน้ำเสียงให้จริงจังมากขึ้น “หลังจากนั้นอาเล็กก็บอกข้าว่าปวดท้อง… เวียนหัว”
คำพูดเหล่านี้ยืนยันได้อย่างดีว่าฟางเซียงหยู่นั้นมีสัมพันธ์กับใครคนหนึ่ง ฟางเถียนรู้สึกว่าอกของตนเองกำลังจะระเบิดออกมาเสียให้ได้
พลันนางคิดถึงบางอย่างขึ้นได้ บุตรสาวของนางนั้นไม่รู้เรื่องราวโลกภายนอกและอาจจะถูกขืนใจหรือไม่ ?
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องไร้ยางอายที่หญิงสาวกับบุรุษพึงมีต่อกัน !
ฟางฉางจวงรู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้ อีกอย่างฟางเซียงหยู่มีสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ชายคนหนึ่งแต่กลับหึงหวงหลานสาววัย 10 ขวบงั้นหรือ...
ทั้งห้องตกอยู่ในสภาวะเงียบงัน
มุมปากของฟางฮั่นยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย…
หลังจากนั้นไม่นาน หมอเดินเข้ามาพร้อมกับยา ฟางเถียนรู้สึกมึนงงอย่างมากที่ฟางเซียงหยูได้รับยาเพิ่ม
แต่ยาของหมอนั้นได้ผลอย่างแท้จริง ไม่นานนักฟางเซียงหยู่ก็ตื่น…
ค้างค่ะ 555