ตอนที่ 28 สบู่ดอกเหมย
ฟางฮั่นกลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้าและนางไม่ได้คาดคิดว่าจะสร้างทาสรักไว้มากมายเช่นนั้น
ร่างบางเดินมากับน้อง ๆ พร้อมกับถุงใบใหญ่หลายถุง ทุกคนช่วยกันยกของเข้าบ้านอย่างขะมักเขม้น
ครั้งล่าสุดที่นางกลับบ้านมาพร้อมกับรถม้าคันใหญ่ทำให้เกิดข่าวลือมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้ว่านางใช้ร่างกายของตนเองเพื่อไต่เต้าเข้าไปเป็นอนุภรรยาของผู้พิพากษา บางคนถึงกับพูดว่านางขายตัวเองเพื่อแลกกับเงินไปเสียแล้ว เป็นผลให้สองสามวันที่ผ่านมาเกิดข่าวลือหนาหูไปถึงท่านผู้พิพากษาอย่างช่วยไม่ได้
ผู้คนที่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กหญิงถูกย่าของตนเองใส่ความว่าเป็นผีสางและจ้างแม่หมอมาจัดการกับนาง ผู้พิพากษาแก้ข่าวให้กับนางอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่คนอื่น ๆ ที่รับรู้เหตุการณ์นั้นพูดเกี่ยวกับความชั่วร้ายของฟางเถียนอย่างออกรสออกชาติ การที่นางได้นั่งรถม้าคันใหญ่วันนั้นเป็นเพียงเพราะผู้พิพากษาเห็นใจว่านางนั้นช่างน่าสงสารเหลือเกิน เขาจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กน้อยนี้ให้ ดังนั้นในวันนี้ฟางฮั่นจึงเดินกลับบ้านอย่างสบายใจด้วยรถม้าคันเล็กทั่ว ๆ ไป แม้จะมีข้าวของมากมาย แต่ชาวบ้านก็ไม่กล้าที่จะมายุ่มย่ามกับนาง
มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าสิ่งของเหล่านี้เป็นของผู้พิพากษาทั้งหมด?
ยิ่งผู้คนต่ำต้อยมากเท่าไหร่ เขายิ่งเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ของทางการมากเท่านั้น
ฟางฮั่นเลือกซื้อแต่สิ่งของจำเป็นและค่อนข้างดี หลังจากนางทำอาหารให้กับเด็ก ๆ ทั้งสองคนเสร็จแล้ว นางเดินไปที่บ้านของอาหกเพื่อขอให้เขาหาวัตถุดิบบางอย่างสำหรับการทดลองทำสบู่ครั้งแรก
ในยุคนี้ยังไม่มีโซดาไฟ ดังนั้นนางจึงคิดจะใช้สารอื่นที่มันบริสุทธิ์มากกว่า
ฟางฮั่นในโลกใบเก่านั้นเรียนจบวิทยาศาสตร์ นางได้พบเจอสารเคมีมากมายและได้รับบทเรียนจากพวกมันอย่างท่วมท้น ปัญหาเดียวในขณะนี้ก็คืออุปกรณ์ทุกอย่างไม่สามารถต้านทานความเป็นกรดของมันได้เลย
วัตถุดิบก็เป็นสิ่งที่หายากเช่นกัน ตอนนี้นางกลายเป็นคนที่รู้สึกมืดแปดด้านราวกับว่าไม่เคยรู้อะไรมาก่อน…
เด็กหญิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อย่างไม่ยอมแพ้ นางรู้สึกว่าอุปสรรคพวกนี้ยิ่งทำให้นางมุ่งมั่นที่จะใช้ความพยายามให้มากขึ้นไปอีก
ภายในบ้านของนางมีดอกเหมยป่าอยู่ด้วย เดิมทีนางต้องการจะใช้มันสำหรับชงชา ปริมาณของมันมีไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะสกัดกลิ่นหอมออกมาได้
ฟางฮั่นใช้หม้อใบเล็กที่บ้านและเตรียมที่จะกลั่นมันด้วยพื้นฐานความรู้ที่เรียบง่ายที่สุด
นางต้มมันอย่างคล่องมือในไฟแรง น้ำเดือดพล่านอยู่ในหม้อไปสักพักหนึ่งจึงเกิดชั้นไขมันด้านบนสุดของผิวน้ำ
ชั้นไขมันนี้คือน้ำมันหอมระเหยของดอกเหมยซึ่งได้มาจากการกลั่นไอน้ำ
เพื่อให้น้ำมันหอมนี้บริสุทธิ์มากที่สุด นางทำมันซ้ำไปมาอยู่สองถึงสามรอบ จนในที่สุดน้ำมันดอกเหมยมีขนาดเล็กดูละเอียด มันส่งกลิ่นหอมยิ่งกว่าน้ำหอมใดในยุคสมัยนี้
ฟางฮั่นหยิบชุดเก่าออกมาและดัดแปลงมันให้กลายเป็นผ้าปิดจมูก
ดวงตาคู่สวยกำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าเตาไฟร้อนแรง ราวกับว่านางกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูธรรมชาติ ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาทำให้ฟางฮั่นจำเป็นต้องหลับตาลงอย่างรวดเร็ว เมื่อควันเหล่านั้นหายไปจนหมดสิ้น นางเริ่มที่จะคนมันอีกครั้งด้วยแท่งไม้ขนาดใหญ่ ตอนนี้ปูนขาวในหม้อกลายเป็นสารละลายตามที่นางต้องการแล้ว ฟางฮั่นนำสารที่มีฤทธิ์เหมือนโซเดียมซัลเฟตในยุคปัจจุบันที่ซื้อมาจากร้านขายยาออกมา นางคำนวนขนาดของมันสักครู่หนึ่งก่อนจะใส่มันลงไปอย่างระมัดระวัง
นางไม่รู้เลยว่าขนาดของมันจะใช้ได้ไหม เพราะยุคนี้ยังไม่มีเครื่องตวงปริมาณที่สามารถระบุน้ำหนักได้แน่ชัด เช่นนี้จึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าสารเหล่านี้จะบริสุทธิ์มากพอหรือไม่ เพราะนางไม่รู้อัตราส่วนที่ถูกต้องเท่าไหร่นัก ตอนนี้สิ่งที่นางกำลังภาวนาคือพึ่งพาโชคลาภของฟางฮั่นผู้นี้เท่านั้น
หลังจากผ่านไปสักพักใหญ่ โซดาไฟก็ถูกสร้างขึ้นโดยการใช้ปูนขาวและเกลือ
ตอนนี้นางเริ่มเข้าใจถึงอัตราส่วนที่จะต้องใช้
โซดาไฟเป็นสิ่งที่มีฤทธิ์กัดกร่อน นางจำเป็นจะต้องระมัดระวังอย่างมากในขั้นตอนนี้ ทุกอย่างจะต้องรัดกุม มิฉะนั้นมันจะเกิดอันตราย
เมื่อคราวที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย มีเรื่องเล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่า มีรุ่นพี่คนหนึ่งที่สวยมากอยู่ในสาขาเคมี ระหว่างการทดลอง นางถูกผู้หญิงจิตใจต่ำทรามผลักจนใบหน้าปะทะเข้ากับสารกัดกร่อนจนเสียโฉม แม้ว่าจะถูกส่งตัวให้แพทย์ได้ทันเวลา แต่ใบหน้าที่เป็นหลุมเป็นบ่อก็ไม่อาจกู้คืนกลับมาได้อีกแล้ว
ฟางฮั่นไม่ต้องการพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนั้น อีกทั้งในสมัยโบราณยังไม่มียาที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงการแพทย์เลยด้วยซ้ำว่าจะย่ำแย่มากแค่ไหน…
สมการพื้นฐานทางเคมีในการทำสบู่คือใช้ไขมันและโซเดียมไฮดรอกไซด์ น้ำ กรีเซอลีน
โซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นโซดาไฟฉบับปรับปรุง ฟางฮั่นกลั่นน้ำมันดอกทานตะวันที่ซื้อมาจากเมืองอย่างต่อเนื่อง นางปิดจมูกและเริ่มกวนมันด้วยความระมัดระวัง หลังจากมันเริ่มข้นได้ที่ นางก็หยิบน้ำมันหอมระเหยจากดอกเหมยที่กลั่นไว้ก่อนหน้านี้หยดลงไปสักสองถึงสามหยดและคนให้เข้ากันอีกครั้ง ท้ายที่สุดถึงเทมันลงในแม่พิมพ์ ซึ่งก็คือโถลายครามที่นางเพิ่งซื้อมาวันนี้
ฟางฮั่นค่อย ๆ ทำทุกขั้นตอนอย่างปราณีตและใส่ใจ การเทพวกมันลงในแม่พิมพ์เป็นสิ่งที่นางก็ยังระมัดระวังด้วยเช่นกัน
แต่นางก็ยังไม่รู้ว่าแบบไหนจึงจะออกมาดี แต่การทดสอบนั้นเป็นสิ่งที่นางจะต้องลองทำดูเพื่อให้รู้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน มันควรจะมีสักสองแบบให้เลือก
เวลาล่วงเลยมาจนดึกดื่น ฟางฉือและฟางหมิงหวยหลับไปแล้ว ส่วนฟางฮั่นที่เหน็ดเหนื่อยกำลังบรรจุทุกอย่างลงในโถลายคราม นางห่อมันไว้ด้วยผ้าฝ้ายและวางมันไว้บนแคร่เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจึงถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก
จากนั้นนางต้มน้ำเพื่ออาบและผล็อยหลับไปด้วยความคาดหวังที่จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีในเช้าวันรุ่งขึ้น
คืนถัดมา เวลาเดินทางผ่านไปกว่า 12 ชั่วยาม ซึ่งนางเฝ้ารอให้มันครบ 12 ชั่วยามและนั่นคือเวลาที่ควรจะแกะสบู่ออกจากแม่พิมพ์แล้ว
ฟางฮั่นหยิบโถลายครามออกมาจากผ้าฝ้ายที่ห่อหุ้ม นางเขย่ามันเล็กน้อยและมันหลุดออกมาจากแม่พิมพ์อย่างง่ายดาย ขนาดของมันน่ารักพอเหมาะมือพร้อมกับมีกลิ่นหอมพุ่งออกมา…
ผู้ที่ไม่เคยทำสบู่จะไม่รู้เลยว่าภาพนี้เป็นสิ่งที่ช่างน่าประทับใจมากเพียงใด ความเหน็ดเหนื่อยหายไปจนหมดสิ้น ฟางฮั่นถอนหายใจอย่างรู้สึกดีกับมัน นางหันหน้าไปหาตะเกียงและจุดมันด้วยไฟอย่างระมัดระวัง
นางรู้สึกได้ว่าสบู่ของนางนั้นดูใสกว่าสบู่อื่น ๆ ที่พบเจอ ฟางฮั่นไม่รู้ว่าสบู่ที่ทำเองเช่นนี้จะมีผลอะไรกับจิตใจหรือไม่ กลิ่นของมันหอมมากและนางถือมันไว้ในมืออย่างไม่ยอมปล่อย
ด้วยเหตุผลเช่นนี้ นางจึงตัดสินใจได้ทันทีว่าจะใช้โซดาไฟเพื่อทำสบู่ !
ใครกันที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าชนิดนี้ ? แน่นอนก็ย่อมต้องเป็นหญิงสาวที่รักสวยรักงาม ความงามกับหญิงสาวนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว
ฟางฮั่นนำสบู่ห่อใส่กล่องที่ทำด้วยกระดาษฟาง ตอนนี้สบู่ของนางยังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก มันต้องใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนกว่าจะกลายเป็นสบู่ที่แข็งตัวพร้อมใช้งานอย่างแท้จริง ฟางฮั่นมองเงินเก็บที่อยู่ในมือซึ่งมีประมาณ 3 ตำลึง มันเพียงพอที่ทั้งสามจะใช้ชีวิตไปได้นานพอสมควร
ในที่สุดฟางฮั่นก็แกะสบู่ออกจากแม่พิมพ์และห่อมันด้วยกระดาษฟางทั้งหมด จากนั้นวางใส่กล่องที่ซื้อมาและซ้อนกันไว้ที่มุมหนึ่งของบ้าน นางต้องรอให้มันควบแน่นและกลายเป็นสบู่ที่สมบูรณ์แบบเสียก่อนที่จะขาย