px

เรื่อง : แม่สาวชาวสวน **(จบแล้ว)**
ตอนที่ 27 รักแรกพบ


ตอนที่ 27 รักแรกพบ

 

ฟางฮั่นเดินพาน้องทั้งสองไปที่ร้านเครื่องปั้นดินเผาอย่างตื่นเต้น ทันทีที่เดินเข้ามาภายในร้าน ความรู้สึกของนางช่างแตกต่างจากร้านกระจกก่อนหน้านี้อย่างมาก

 

ร้านกระจกเมื่อครู่นั้นค่อนข้างเงียบเหงา แต่ร้านเครื่องปั้นดินเผานี้เรียกได้ว่าค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว ทุกคนที่เข้ามาล้วนแต่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ แต่น้อยนักที่จะมีสายตาหลักแหลมและมองเห็นสิ่งของยอดเยี่ยมในร้าน

 

ทันทีที่เดินเข้ามา ก็มีเด็กคนหนึ่งที่ดูเฉลียวฉลาดเดินเข้ามาหาฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว ฟางฮั่นคิดว่านี่คงเป็นเด็กฝึกงานภายในร้าน

 

นางบอกความต้องการของนางอีกครั้งกับเด็กคนนั้น เด็กชายหันไปคุยกับเจ้าของร้านเพราะเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับสินค้าเช่นนี้มากนัก เจ้าของร้านยิ้มและเรียกเพื่อนอีกคนออกมาพร้อมกับพูดกับเด็กชายคนนั้น “คุณหนู ท่านควรจะกลับได้แล้ว นี่ก็นานมากแล้วที่ท่านออกมาข้างนอก นายใหญ่คงจะกังวลแล้วล่ะ”

 

เด็กชายที่ถูกเรียกว่า ‘คุณหนู’ ดูกังวลพร้อมกับกระซิบกับชายคนนั้น “ลุงหู ! ไหนสัญญาว่าจะให้ข้าเล่นในร้านไง ! ”

 

ทันใดนั้นฟางฮั่นก็เข้าใจทันที นี่ไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่คือคุณหนู… นางไม่ใช่เด็กฝึกงานแต่เป็นคุณหนูที่เข้ามาเล่นในร้านและแสร้งปลอมตัวเป็นผู้ชาย

 

เจ้าของร้านไม่รู้จะทำอย่างไร เขาส่ายศีรษะเบา ๆ พร้อมกับเดินออกไปด้วยมือไพล่หลัง

 

เด็กหญิงที่ปลอมตัวเป็นชายเอนตัวมาด้านหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างพร้อมกับจับจ้องฟางฮั่นด้วยรอยยิ้ม “เจ้าสวยมากเลย ข้าชื่อเฉินหลี่ฟาง เจ้าชื่ออะไรหรือ ? แล้วมาซื้ออะไรที่นี่ล่ะ มันคืออะไรกันภาชนะขนาดเท่า ๆ ลูกพลัม ? สองคนนี้เป็นพี่น้องของเจ้าหรือไม่ ? พวกเขาน่ารักมาก แล้วชื่ออะไรกันงั้นหรือ ? ”

 

เมื่อถูกถาโถมด้วยคำถามมากมาย ศีรษะของฟางฮั่นรู้สึกเวียนหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้นางกำลังอยู่ในจังหวะชุลมุน โถลายครามขนาดเล็กอยู่ตรงหน้านางแล้ว มันสวยงามและเต็มไปด้วยความปราณีต ขนาดเหมาะมือและให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม ฟางฮั่นตกหลุมรักโถใบนี้ตั้งแต่แรกพบ นางจึงไม่ได้ตอบคำถามของเฉินหลี่ฟาง แต่กลับหันไปถามราคาแทน

 

เฉินหลี่ฟางกล่าวขึ้นมาสั้น ๆ “ถ้าเจ้าชอบใบนี้ ข้าจะให้มันกับเจ้า แต่ว่าเจ้าต้องตอบคำถามของข้ามาก่อน”

 

ฟางฮั่นรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย นางตอบอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก “อ่า คุณหนูเฉิน ชื่อของข้าคือฟางฮั่น สองคนนี้คือน้องเล็กของข้า คนนี้ชื่อฟางฉือ อีกคนชื่อฟางหมิงหวย อีกอย่างเจ้าไม่ต้องซื้อโถใบนี้ให้กับข้าหรอก แม้ว่ามันจะราคาถูก แต่จำนวนที่ข้าต้องการมันค่อนข้างมาก”

 

เฉินหลี่ฟางค่อนข้างพอใจกับคำตอบของฟางฮั่นอย่างมาก นางรู้สึกว่าน้องสาวของฟางฮั่นก็น่ารักมากด้วยเช่นกัน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าเอ็นดูอย่างมาก มือของนางเผลอไปจับแก้มของเด็กหญิงโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ท่าทีเขินอายยิ่งทำให้นางรู้สึกปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก

 

ฟางฉือยิ้มออกมาด้วยความเขินอายและวิ่งไปหลบที่ด้านหลังของฟางฮั่น

 

สายตาของเฉินหลี่ฟางเป็นประกายขึ้นมา ความคิดผุดขึ้นมาในศีรษะของนาง ‘น่ารักมากเลย น่ารักเสียจนข้าอยากจะอุ้มกลับบ้าน’

 

คนข้าง ๆ เห็นว่าคุณหนูคนนี้อาจจะสร้างปัญหาได้จึงรีบพูดแทรกขึ้นมาอย่างฉับไว “โถลายครามขนาดเล็กนี้มีคุณภาพดีมาก นอกจากนี้มันยังมีฝาปิดอีกด้วย ขนาดของมันพอเหมาะสำหรับจะใส่ผงหรือสิ่งของต่าง ๆ บนโต๊ะเครื่องแป้งได้ ราคาของมันไม่ได้แพงเลย จ่ายเพียงแค่ 21 อีแปะเท่านั้น ถ้าหากว่าเจ้าต้องการหลายชิ้นข้าสามารถลดให้เป็นชิ้นละ 20 อีแปะได้ เจ้าว่าอย่างนี้ดีหรือไม่ ? ”

 

20 อีแปะ! เมื่อเทียบกับราคาแก้วเมื่อครู่นี้แล้วมันถูกกว่าเป็นสิบเท่า !

 

ข้ารักเครื่องปั้นดินเผาที่สุด !

 

ฟางฮั่นคิดคำนวณอยู่ในใจสักครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเอาพวกมันเป็นจำนวน 50 ชิ้น เฮ้ เงินจำนวนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เลย และจำนวนที่นางต้องการนั้นคือโถขนาดเท่ากับลูกพลัมแทบจะทั้งหมดในร้าน

 

เฉินหลี่ฟางถามออกมาอย่างสงสัย “เจ้าซื้อโถลายครามจำนวนมากนี้ไปเพื่ออะไรกัน ? ”

 

ฟางฮั่นยิ้มกว้างพร้อมตอบกลับอย่างไม่ปิดบัง “ทำสบู่”

 

เฉินหลี่ฟางเบิกตาโพลงพร้อมอุทาน “เจ้าทำสบู่ได้ด้วยงั้นหรือ ? ”

 

ฟางฮั่นไม่ได้กล่าวอะไรต่อ อย่างไรก็ตามวัสดุที่นางต้องการนั้นยังไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ การพูดมากกว่าการกระทำจะกลายเป็นตบหน้านางทีหลังถ้าหากมันผิดพลาด

 

ดูคล้ายกับว่าการค้นพบร้านแห่งนี้เปรียบกับนางได้พบโลกใบใหม่ นางได้เลือกซื้อโถลายครามที่ถูกใจ ในตอนท้ายนางจะต้องใช้ส่วนผสมหลายอย่างซึ่งมันมีฤทธิ์เป็นกรด ภาชนะของนางจะต้องทนต่อการกัดกร่อนนั้นได้

 

ฟางฮั่นรู้สึกปลาบปลื้มอย่างมาก อุปกรณ์ที่นางต้องการทั้งหมดแทบจะอยู่รวมกันในร้านนี้ทั้งสิ้น

อีกอย่างคนขายยังรู้สึกมีความสุขมากด้วยเช่นกัน การขายของได้มาก ๆ ขนาดนี้หมายความว่าเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นตามไปด้วย!

 

มีเพียงเฉินหลี่ฟางเท่านั้นที่ไม่มีความสุข…

 

ดูเหมือนว่าเด็กหญิงตรงหน้าจะไม่ได้สนใจนางสักเท่าไหร่เลย

 

มันช่างขัดใจซะจริง

 

ไม่ว่าใครที่อยู่ในเมืองแห่งนี้แล้วได้พบกับเฉินหลี่ฟาง คนพวกนั้นล้วนแต่ต้องการจะพูดคุยและให้ความสนใจนางอย่างมาก แต่เด็กผู้หญิงคนนี้กลับเฉยเมยงั้นเหรอ?

 

แต่... คิ้วของเฉินหลี่ฟางขมวดเข้าหากันแน่น เธอมองใบหน้าที่งดงามหมดจดของเด็กหญิงตรงหน้า สลับกันมองไปที่เด็กหญิงตัวจ้อยที่ยืนอยู่ข้างพี่สาว นางก็เกิดความรู้สึกอยากอุ้มอีกแล้ว คราวนี้ความโกรธก่อนหน้าของนางได้หายไปจนหมดสิ้นทันที

 

อะไรกันที่ทำให้นางดูดีได้มากขนาดนั้น อีกทั้งน้องสาวของนางยังน่ารักน่าเอ็นดูมากอีกด้วย

 

เฉินหลี่ฟางจับแก้มของเด็กน้อยอีกครั้งอย่างเอ็นดูพร้อมกับให้อภัยในความเฉยเมยของพี่สาวนางอย่างว่าง่าย

 

ฟางฮั่นกำลังเลือกซื้อของอย่างตั้งใจจนไม่ทันสังเกตุว่าเฉินหลี่ฟางกำลังหยอกล้อกับน้องสาวของนางอย่างสนุกสนาน ร้านเครื่องปั้นดินเผานั้นห่อสินค้าทุกอย่างและส่งมันให้กับฟางฮั่นอย่างพิถีพิถัน ตอนนี้นางจะพอแค่นี้ก่อนและต้องไปเดินเลือกซื้อของสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงได้แล้ว

 

เฉินหลี่ฟางแสดงน้ำใจช่วยนางถือของและบอกว่าจะไปช่วยนางถือของสำหรับเทศกาลปีใหม่อีกด้วย

ตอนนี้ฟางฮั่นรู้สึกได้ว่านางอาจจะมีรูปลักษณ์บางอย่างที่ดึงดูดเด็ก ๆ…

 

เมื่อนางคิดไตร่ตรองเรื่องนี้สักครู่หนึ่ง ความสัมพันธ์ในวัยเด็กนั้นไร้เดียงสากว่าที่จะคิดมาก นางไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเปรียบในด้านใด เรื่องราวต่าง ๆ จึงถูกตัดสินง่าย ๆ โดยที่นางไม่ได้คัดค้านอะไร

 

เด็กทั้งสี่คนเดินไปรอบ ๆ เป็นเวลานาน แต่ไม่ใกล้ไม่ไกลมีสายตาของคนรับใช้ของตระกูลเฉินคอยมองอยู่ตลอด พวกเขาไม่กล้าที่จะเข้ามาหาคุณหนูของตนเองเพราะเกรงกว่าจะถูกลงโทษ จึงทำได้เพียงแค่มองอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น

 

ในอ้อมแขนฟางฮั่นเต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย เฉินหลี่ฟางพยายามที่จะช่วยเหลือแต่นางก็ปฏิเสธ

ฟางฮั่นคิดว่าแม้แต่นางยังรู้สึกเหนื่อย จึงไม่คิดที่จะโยนงานหนักของตนเองไปให้ใคร ถ้านางยังทำมันได้ด้วยตนเอง นางก็จะทำเอง !

 

เฉินหลี่ฟางรู้สึกว่าฟางฮั่นกำลังปฏิเสธน้ำใจและไม่ยอมรับนางเป็นเพื่อน จิตใจพลันหดหู่ในทันที

 

ส่วนคุณชายใหญ่ตระกูลเฉินและพ้องเพื่อนกำลังนั่งกินเมล็ดแตงโมกับชาในร้านเล็ก ๆ ไม่ไกลนัก ขณะที่เพลงกำลังบรรเลงอย่างแผ่วเบา เขามองผ่านหน้าต่างและเห็นน้องสาวของตนเองกำลังเดินหน้ามุ่ยตามสาวน้อยคนหนึ่ง ใบหน้าของนางคล้ายกับไม่มีความสุขเอาซะเลย

 

คุณชายใหญ่คนนี้มีชื่อว่าเฉินหลี่ชิง เขาอายุประมาณ 13 ปีได้ เป็นผู้ที่มีบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพ เมื่อเห็นว่าน้องสาวกำลังทำหน้าเศร้า เขาจึงเรียกคนรับใช้ที่ติดตามน้องสาวของเขามาเพื่อสอบถามอะไรสักหน่อย

 

ครู่หนึ่งชายรับใช้ที่ถูกเรียกหาเดินมาด้วยสภาพคอตก “คุณชายเฉิน คุณหนูไม่ต้องการให้เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ขอรับ คุณหนูพบกับคนที่ถูกใจและพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับนาง แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับคุณหนูสักเท่าไหร่และไม่ยอมให้คุณหนูได้แสดงความมีน้ำใจเลย”

 

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น บรรดาคนจากตระกูลเฉินปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากออกมาอย่างบ้าคลั่ง อารมณ์ของเด็กน้อยนั้นยากจะคาดเดา พวกเขาคาดหวังอะไรกับความสัมพันธ์ในวัยเช่นนี้กันหรือ? อีกคนกลับพูดขึ้นมาว่าพวกเขาช่างโชคดีที่ได้พบกับคนที่เฉินหลี่ฟางยอมเดินตามต้อย ๆ โดยไม่ปริปากบ่นเข้าซะแล้ว

 

ปกติแล้วเฉินหลี่ฟางนั้นไม่ค่อยทำอะไรด้วยตนเอง นางไม่เคยลำบากแม้แต่น้อย

 

ตอนนี้เฉินหลี่ฟางพยายามชวนฟางฮั่นคุยในเรื่องต่าง ๆ นางไปที่หน้าต่างของร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งอยู่ ฟางฮั่นเงยหน้าขึ้นมองตามมือของเธอและพบกับบุคคลที่เด็กหญิงกล่าวว่าเป็น ‘พี่ชายที่แสนน่าเบื่อ’

 

ฟางฮั่นเผยรอยยิ้มสุภาพออกมาเพียงเล็กน้อยให้กับเฉินหลี่ชิงที่อยู่ในร้าน จากนั้นนางก็ก้มศีรษะลงพร้อมกับให้หมิงหวยเลือกถือโถลายครามพวกนี้สักหน่อย

 

หน้าอกของเฉินหลี่ชิงบีบรัดอย่างรุนแรง

 

เฉินหลี่ชิงที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นรู้ได้ทันทีว่ารักแรกพบสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

อย่างไรก็ตามหลังได้เห็นรอยยิ้มนั้น สักครู่หนึ่งเขาฟื้นคืนสติกลับมาได้อีกครั้ง แต่ทว่า… สวรรค์ ! นางหายไปแล้ว นางกับน้อง ๆ เดินหายไปแล้ว

 

เฉินหลี่ชิงนั่งลงด้วยความสิ้นหวัง เขารู้สึกว่าเสียงพูดคุยรอบตัวนั้นกำลังดังก้องอยู่เรื่อย ๆ แต่เสียงกรีดร้องภายในใจของเขากลับดังกว่านั้นมาก

 

เฉินหลี่ชิงไม่รู้ว่าตนเองกลับมาถึงบ้านได้อย่างไร สุดท้ายแล้วเขาอยู่ที่นั่นจนถึงตอนเย็นและไม่ได้เบาะแสอะไรอีกเลย ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านและไม่อาจเก็บกดความปรารถนานั้นเอาไว้ได้ แต่เขาก็ไม่อาจแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งนักเพียงแค่ถามน้องสาวของตนเองอย่างเย็นชาราวกับไม่ได้สนใจอะไรมากนัก “วันนี้ข้าเห็นเจ้าเดินกับเพื่อน ๆ ที่ตลาด แต่ทำไมดูไม่ค่อยมีความสุขเอาซะเลยล่ะ ? ”

 

อารมณ์ของเฉินหลี่ฟางกลับมาตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกพอใจกับฟางฮั่นอย่างมาก อีกทั้งเด็กสองคนนั้นยังน่ารักเหลือเกิน นางรู้สึกลืมความทุกข์ยากก่อนหน้านี้ไปสนิทเมื่อนึกถึงบรรยากาศคราวนั้น มือของนางพลันหยิบชาขึ้นมาจิบพร้อมสายตาที่มองพี่ใหญ่ของตนอย่างแปลกประหลาด “ไม่หนิ ข้ามีความสุขมาก ! ”

 

เฉินหลี่ชิงรู้สึกอึดอัดอยู่สักพักหนึ่ง “เด็กหญิงคนนั้นคือใคร ? ข้าจะสอนอะไรให้เจ้าหนึ่งอย่างนะ นางเป็น…”

 

แต่เขาก็ทำได้แค่คิดมันในใจ

 

อาหารในมื้อนี้ช่างจืดชืดและไม่มีความอร่อยเอาซะเลย

 

เฉินหลี่ชิงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับคิดเรื่องราวของฟางฮั่นอย่างหมกมุ่น รอยยิ้มที่สวยงามนั้นทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายเขาก็รื้อความทรงจำนั้นได้สำเร็จ มองจากเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่คนจากตระกูลใหญ่อะไร นางคงเป็นชาวไร่ชาวนาอยู่ในหมู่บ้านไหนสักแห่ง

 

“เนื้อคู่” คำนี้ถูกสลักขึ้นในใจของเขาในฉับพลัน

 

เขาเคยเรียนและศึกษาแนวคิดนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก คำว่า “เนื้อคู่” นั้นแทรกซึมอยู่ในหัวใจของเขา เด็กหนุ่มคิดเรื่องนี้วนไปมาทั้งคืนจนทำให้เขาพลิกร่างกายอยู่บนเตียงอย่างกระวนกระวาย พลันเขาคิดถึงความรักที่แสนจะเศร้าโศกที่เคยได้อ่านในหนังสือ เขาย้อนกลับมามองตัวเองและรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง มันช่างน่าเสียดายที่เขาจะเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รู้จักนางเลยด้วยซ้ำ…

 

รีวิวผู้อ่าน