px

เรื่อง : ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน
บทที่ 3: ส่งเงินมาซะดี ๆ 1


บทที่ 3: ส่งเงินมาซะดี ๆ 1

 

            ‘ยอดเยี่ยมจริง ๆ’

            จูฮอนเริ่มยิ้มทันทีที่มองไป แต่สารวัตรคิมที่เห็นคนพวกนั้นกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

            “ว่าไงนะ? ไอ้พวกบ้านั่น? โอ้โห งี้ฉันก็จับพวกมันได้แล้วสิ ครั้งที่แล้วพวกนั้นวิ่งหนีไปตอนที่ฉันใช้นายเป็นโล่ป้องกันไง!”

            จูฮอนหยุดสารวัตรคิมไว้ เขาดูพร้อมที่จะจับคนพวกนั้น

            “อ่า ไม่เป็นไรหรอกพี่ เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมต้องการอะไรจากพวกมันอยู่พอดี”

            “อะไรนะ? นายต้องการบางอย่างจากพวกนั้นงั้นเหรอ?”

            “ใช่ โทรเรียกรถพยาบาลไว้เลยก็ดี เผื่อเอาไว้น่ะ เรื่องคงจะยุ่งหน่อยหากพวกบ้านั่นตาย”

            สารวัตรคิมรู้สึกคลางแคลงใจทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

                 ‘อะไรนะ ใครตายกันนะ?’

            “เดี๋ยวก่อน! นี่! จูฮอน แกพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย?”

                ‘วิธีต่อสู้แกยังไม่รู้ด้วยซ้ำ!’ สารวัตรคิมไล่ตามจูฮอนชั่วครู่หนึ่ง ทว่าอีกฝ่ายก็หายเข้าตรอกไปเสียแล้ว

 

            สิ่งแรกที่จูฮอนจำเป็นต้องทำทันทีที่การสะสางปัญหาให้หมด การจัดการกับเรื่องที่ยังค้างคาอาจจะเป็นวิธีที่ดีเกินไปที่จะแบ่งแยกคนพวกนี้…  

            แน่นอนว่าสิ่งที่เขากำลังต่อกรอยู่คือพวกนายหน้างานศิลปะจากองค์กรอาชญากรรม

            เขาเคยทำงานให้กับคนพวกนี้ตอนที่ยังเรียนอยู่มัธยมเพื่อหาเงิน แต่จบลงด้วยการถูกบังคับให้ทำงานตั้งแต่นั้นมา

            จูฮอนเคยทำงานอย่างหนักจนเป็นทาสให้กับพวกแก๊งบ้านี่

                ‘ถ้าจำไม่ผิด เราต้องทำงานให้พวกมันจนถึงอายุยี่สิบกว่า ๆ ก่อนที่จะได้ความสามารถมา‘

            จูฮอนในตอนนี้ต้องขโมยเงินจากคนพวกนี้ และต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยคิดที่จะหนีแม้ว่าจะมีสารวัตรอยู่ข้าง ๆ แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าคนพวกนี้จะเข้าจู่โจมมาด้วยวิธีไหน

            จูฮอนถอนหายใจทันทีที่นึกขึ้นว่าความจริงนั้นดีกว่าทุกสิ่ง

            ในตอนแรก คนพวกนี้วางแผนที่ให้จูฮอนซื้องานศิลปะจนต้องเป็นหนี้ ก่อนที่จะรับมาดูแล ความทรงจำที่ยังคงรบกวนเขาในตอนนี้ค่อนข้างที่จะเป็นประโยชน์

            ตอนนั้นก็เหมือนกับตอนนี้

            “โธ่เว้ย ไอ้ลูกหมาจูฮอน ไอ้เด็กกำพร้า แกต้องก้มหัวให้รุ่นพี่ของแกทันทีที่เห็นสิวะ”

            “ทำงาน ได้เวลาทำงานแล้ว”

            อีกฝ่ายมีกันสี่คน

            ชายร่างใหญ่เทอะทะสี่คนกำลังทำกร่างอยู่ในตรอกเล็ก ๆ พร้อมกับปิดทางหนีของจูฮอน คนหนึ่งถือกล่องไม้เล็ก ๆ ที่มีงานศิลปะอยู่ในเสื้อ พวกนั้นอาจจะกำลังมองหาเขาเพราะสิ่งนี้อยู่ก็ได้

            “เอาล่ะ รีบกันหน่อย เรามีเวลาไม่มาก ไอ้พวกสวะ”

            “แกดูเก่งขึ้นนี่ แกไม่ให้สารวัตรมาขวางทางด้วยซ้ำ”

            “ในที่สุดแกก็รู้สักทีว่าควร?”

            “ฉันหมายความว่างานที่ทำอยู่มันช่างง่ายเหลือเกิน? ใช่ไหม? ขณะที่คนอื่นกำลังมองหางาน แต่เราปล่อยให้แกกลับบ้านตั้งเดือนละสองครั้ง จ่ายเงินให้แม้ว่าจะยังเป็นเด็กฝึกงาน มิหนำซ้ำยังสอนอะไรตั้งหลายอย่าง เราไม่ควรได้รับค่าจ้างแทนแกงั้นเหรอ?”

            จูฮอนขำเยาะเย้ย และกำลังสงสัยว่าอีกฝ่ายเชื่อในสิ่งที่เพิ่งจะพูดออกไปจริง ๆ หรือไม่

            พวกเขากำลังทำผิดพลาดครั้งร้ายแรง เหตุผลที่จูฮอนหนีจากสารวัตรคิมราวกับว่าหรือหวาดกลัว

            ถ้าอย่างนั้นทำไมล่ะ?

            เหตุผลง่าย ๆ เลย มันจะเป็นเรื่องยุ่งยากมากกว่าเดิมหากสารวัตรต้องมาเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

            ตัวอย่างเช่น

            “เร็วเข้า ตามมาเร็วถ้าหากแกรู้ว่า…

            ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังไปทั่วตรอก มีชายคนหนึ่งถูกต่อยลอยไปพร้อมกับฟัน มันเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่มีใครรู้เลยว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น

            จนกระทั่งจูฮอนเริ่มหัวเราะและพูดออกมา

            “ไอ้พวกโง่”

            “อะไรนะ?!”

            “เหตุผลที่ฉันไม่ต้องการสารวัตรอยู่ที่นี่ ก็เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมารับโทษสำหรับการป้องกันตัวเองเกินกว่าเหตุยังไงล่ะ”

            “อ-ไอ้เจ้าหมอนี่?!”

            “เฮ้ย! ซอจูฮอน! แกน่ะ กล้าดียังไงมาแตะต้องลูกพี่ของพวกเรา!”

            จูฮอนสะบัดมือออกแล้วเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงสงบเงียบหลังจากชกชายคนหนึ่งกระเด็นไป

            “ฉันไม่มีหรอก ไอ้จดหมายลาออกน่ะ กลับไปหาหัวหน้าของพวกแกแล้วฝากบอกด้วยว่า ฉันเลิกทำงานให้มันแล้ว”

            “ก-แกพูดว่าอะไรนะ?”

            พวกนั้นเริ่มสงสัยว่าจูฮอนบ้าไปแล้วหรือเปล่า

            ไอ้เด็กบ้าขี้ประจบประแจงที่คอยแต่เลียแข้งเลียขา ตอนนี้มันเป็นบ้าอะไรไป

            จากนั้นจูฮอนก็เริ่มหักข้อนิ้วและหัวเราะอย่างชั่วร้าย

            “โอ้ แล้วก็ก่อนที่ฉันจะออก”

            “?”

            “พวกแกมีเงินติดตัวกันบ้างรึเปล่า? ฉันคิดว่า

            เขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

            ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะยังคงสับสนอยู่ แต่จูฮอนดูจริงจังไม่น้อย

            ยุคของโบราณวัตถุจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า ตอนนี้เขาไม่มีเวลามากพอ ที่จะเข้าไปในสุสานและไล่เก็บโบราณวัตถุทั้งหมดก่อนคนอื่น อย่าพูดถึงเรื่องที่จะจัดการคนพวกนี้เลยจะดีกว่า

            นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจะต้องจัดการกับพวกตัวปัญหาที่น่ารำคาญให้หมดเสียก่อนที่จะบุกเข้าไปที่สุสาน

            กระนั้นเอง พวกนั้นก็หัวเราะขึ้นมาราวกับว่าไม่เข้าใจท่าทีของจูฮอนเลยสักนิด

            “หือ? เจ้านั่นมันบ้าไปแล้วหรือไง? อะไรกัน? จ่ายค่าจ้างเหรอ? ค่าตอบแทนงั้นเหรอ?”

            “โอ้โห ซอจูฮอน ดูเหมือนว่าพวกเราต้องอบรมแกใหม่ซะแล้วสิ”

            “เหอะ ไอ้ตัวบัดซบที่ไม่รู้วิธีสู้ อย่ามาอวดดีหน่อยเลย!”

            คนพวกนี้เริ่มอารมณ์เสียและตะโกนขึ้นพร้อมกับพุ่งเข้ามาหาจูฮอน

            สำหรับพวกนั้นแล้ว จูฮอนเป็นเพียงแค่ลูกไก่ในกำมือที่คอยช่วยหาผลประโยชน์ กระนั้นเองจูฮอนเดาะลิ้นและจ้องมองไป เขาหวังว่านี่คงจะไม่จบลงเพียงแค่คำพูดเพียงอย่างเดียว

            “ทำฉันไม่มีทางเลือกเองนะ”

            จูฮอนซัดเข้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของชายคนหนึ่ง

            “อ้าก”

            จากนั้นเขาจึงยกศอกขึ้นแล้วกระแทกไปที่คอของอีกคน  ตามมาด้วยคว้าชายคนที่สามแล้วกระแทกด้วยเข่าา

            แครก

            “อ้ากกกกกกกกก!”

           

รีวิวผู้อ่าน