px

เรื่อง : Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 45 มนุษย์กระดาษ


ตอนที่ 45 มนุษย์กระดาษ 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่อี้ ดวงตาทั้งสองของเจี่ยเหรินก็เบิกกว้างและมองไปที่มู่อี้อย่างไม่ละสายตา

 

ในขณะนี้มู่อี้รู้สึกราวกับว่าเขาถูกจ้องมองโดยสัตว์ร้ายและขนทั่วร่างกายของเขาก็ลุกชันขึ้นมาทันที กล้ามเนื้อของเขาเกร็งตัวด้วยสัญชาตญาณ สำหรับเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่อยู่บนหลังของเขาอย่างเงียบๆมาโดยตลอดก็เหมือนกับถูกกระตุ้น ร่างเล็กๆของนางกำลังสั่น มีเขี้ยวสีฟ้าคู่หนึ่งงอกออกมาและพุ่งตัวไปหาเจี่ยเหรินในทันที

 

และมู่อี้ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน ร่างกายของเขาถอยกลับไปข้างทันทีและในเวลาเดียวกันยันต์สายฟ้าก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

 

"ฮ่าฮ่า!"

 

ทันใดนั้นเจี่ยเหรินก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาด เขาค่อยๆขยับมือซ้ายของตนเองซึ่งเดิมทีซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา ทันใดนั้นมือที่ใกล้จะโผล่ออกมาจากแขนเสื้อก็สะบัดไปยังเนี่ยนหนิวเอ้อร์เบาๆ เนี่ยนหนิวเอ้อร์ดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างแรงและร่างกายของนางกระเด็นกลับไปทันที แต่โชคดีที่ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ

 

เมื่อมู่อี้กำลังจะใช้ยันต์สายฟ้าในมือของตนเอง เขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเจี่ยเหรินไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการจู่โจมเนี่ยนหนิวเอ้อร์หรือเขา แต่เจี่ยเหรินสอดมือกลับเข้าไปในแขนเสื้อของตนเองอีกครั้งและจ้องมองมู่อี้ด้วยรอยยิ้ม

 

มู่อี้รู้สึกว่าเขาเพียงแค่มองผ่านไปเท่านั้นและในดวงตาของเจี่ยเหรินไม่มีความลับใดๆที่ซ่อนเอาไว้

 

เขาเพิ่มความระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้นเพราะเจี่ยเหรินแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้

 

"หนิวเอ้อร์กลับมาก่อน"

 

เมื่อเห็นว่าเจี่ยเหรินไม่ได้คิดที่จะโจมตีต่อไป มู่อี้จึงเรียกเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่ยังต้องการโจมตีเจี่ยเหรินให้กลับมา

 

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่อี้เนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็รีบบินกลับไปอยู่บนหลังของมู่อี้ทันทีโดยไม่ลังเลและกลับสู่สถานะเดิม แต่ศีรษะเล็กๆของนางก็โผล่ขึ้นมาจากบริเวณไหล่ของมู่อี้และจ้องมองที่เจี่ยเหรินอย่างดุร้าย

 

"วิญญาณอาฆาตที่มีสติปัญญา? ช่างเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ" เจี่ยเหรินมองเนี่ยนหนิวเอ้อร์และพูดด้วยความประหลาดใจ

 

"เป็นท่านจริงๆด้วย" มู่อี้มองเจี่ยเหรินและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

ในความเป็นจริงเขาเพียงสงสัยเท่านั้นและยังไม่มั่นใจ 100% ว่าเจี่ยเหรินจะเป็นฆาตกร ท้ายที่สุดแล้วมีเรื่องบังเอิญมากมายบนโลกใบนี้ แต่ในตอนนี้เมื่อเห็นการโจมตีของเจี่ยเหรินก็ทำให้มู่อี้มั่นใจในทันทีว่าฆาตกรต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน

 

เพราะแววตาของเจี่ยเหรินในตอนนี้ เขาเคยเห็นมันในภาพนิมิตร

 

"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า? ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น เจ้าไม่เพียงสามารถฝึกฝนจนมาถึงก้าวที่ 3 ได้แต่ยังสามารถเอาชนะวิญญาณอาฆาตที่มีสติปัญญาได้อีกด้วย ถ้าข้าจำไม่ผิดวิญญาณตัวเล็กๆตนนี้เป็นวิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลซูใช่หรือไม่?" เจี่ยเหรินพูดช้าๆโดยไม่รู้สึกละอายใจแม้แต่น้อย

 

"ท่านทราบได้อย่างไรกัน?" มู่อี้มองเจี่ยเหรินด้วยความประหลาดใจ มู่อี้ไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเนี่ยนหนิวเอ้อร์ด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมเขาไม่คิดที่จะจับตัวเนี่ยนหนิวเอ้อร์ล่ะ? ด้วยพลังที่เขาเพิ่งแสดงออกมาก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย แม้ว่านางจะร่วมมือกับมารดาของนางก็ตาม

 

"แน่นอน ในเมืองนี้ไม่มีความลับใดที่ข้าไม่รู้" เจี่ยเหรินพูดด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่มู่อี้อีกครั้งและพูดว่า "เจ้าสงสัยใช่ไหมว่าทำไมข้าถึงไม่จับวิญญาณเด็กหญิงตัวเล็กๆตนนี้?"   

 

"ใช่" มู่อี้พยักหน้าเขาเชื่อว่าเจี่ยเหรินจะต้องรู้ถึงคุณค่าของเนี่ยนหนิวเอ้อร์อย่างแน่นอน แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่สนใจ? แล้วทำไมเขาต้องการฆ่าลูกเขยตระกูลเผิงและถลกหนัง เขากำลังคิดอะไรอยู่? หรือมีบางอย่างที่ข้าไม่รู้?

 

"ทุกคนรู้ว่าวิญญาณอาฆาตเป็นเหมือนของขวัญจากสวรรค์ ตราบใดที่มันโตขึ้นก็จะกลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายแทบจะไม่มีขีดจำกัดของการพัฒนานี้เลย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าวิญญาณอาฆาตที่มีสติปัญญาติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดนั้นจะมีความลับเรื่องหนึ่งด้วยเช่นกัน ผู้คนที่ใกล้ชิดกับนางมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องทุกข์ทรมาณมากขึ้นเท่านั้น มิฉะนั้นเจ้าคิดว่าทำไมพ่อและแม่ของเด็กหญิงตัวน้อยถึงเสียชีวิตอย่างน่าเศร้ากัน?" เจี่ยเหรินมองมู่อี้อย่างมีความสุขราวกับว่ายิ่งเห็นมู่อี้ตกอยู่ในเคราะห์ร้ายยิ่งกว่าเดิมเขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น

 

หลังจากเจี่ยเหรินพูดสิ่งนี้ออกมา มู่อี้ก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่อยู่ด้านหลังมีท่าทีที่เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าร่างกายของนางเริ่มสั่นเทาเพราะคำพูดของเจี่ยเหรินไปกระตุ้นให้นางคิดถึงพ่อและแม่ของนาง

 

โดยเฉพาะแม่ของนางที่วิญญาณสลายไปต่อหน้าต่อตา

 

ตอนนี้นางมีญาติเหลือเพียงคนเดียวนั่นก็คือมู่อี้ หากมู่อี้เป็นอะไรไปเพราะนางอีกครั้ง นางจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองเป็นอันขาด

 

"ไร้สาระ ถ้าหากเป็นของขวัญจากสวรรค์อย่างที่ท่านบอกแล้วจะทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ทุกข์ทรมาณได้ยังไงกัน หากสิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริงตระกูลซูคงถูกทำลายไปนานแล้ว" มู่อี้ตะโกนโต้เถียงกลับมา ไม่อย่างนั้นแล้วถ้าหากปล่อยให้เนี่ยนหนิวเอ้อจมอยู่ในความทุกข์มากกว่านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างคงกลายเป็นปัญหาอย่างแน่นอน 

 

"ข้าบอกไปแล้วว่าพระเจ้ายุติธรรมเสมอ แต่จะเชื่อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้า" เจี่ยเหรินพูด

 

"ไม่ว่าท่านจะพูดอะไรก็ไม่มีวันแยกข้าจากเนี่ยนหนิวเอ้อร์ได้ และท่านคิดว่าการพูดเช่นนั้นข้าจะปล่อยท่านไปอย่างนั้นหรือ?" มู่อี้มองเจี่ยเหรินด้วยความขุ่นเคือง แม้ว่าคำพูดของเจี่ยเหรินจะไม่มีผลต่อมู่อี้แต่เขาก็รู้ว่ามันมีผลต่อเนี่ยนหนิวเอ้อร์อย่างมาก

 

เมื่อคิดเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจและคิดว่าไม่ควรพาเนี่ยนหนิวเอ้อร์มาด้วยเลย

 

"อยากจะฆ่าข้า? นี่คือสิ่งที่เจ้าและวิญญาณตัวเล็กๆมาหาข้าที่นี่งั้นหรือ? ด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้บางทีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็อาจจะทำเช่นนั้นได้ แต่ตอนนี้ข้าสามารถพูดได้เต็มปากว่าเจ้าไร้เดียงสามากเกินไป เจ้าคิดว่าการก้าวเข้าสู่ก้าวที่ 3 ของความยากในการฝึกจิตใจขั้นที่ 1 จะสามารถเอาชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ? เจี่ยเหรินมองมู่อี้ด้วยรอยยิ้ม

 

ที่เขาไม่ได้ใช้โอกาสก่อนหน้านี้ในการโจมตีมู่อี้เป็นเพราะเขามั่นใจในพลังของตนเองอย่างมาก แม้ว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์จะเป็นวิญญาณอาฆาตที่มีสติปัญญาแต่เขาก็ไม่สนใจ

 

"ถ้าเช่นนั้นท่านก็ลองดูสิ"  มู่อี้พูดอย่างเคร่งขรึม แต่เขารู้ดีว่ามันต้องเป็นการต่อสู้ที่แสนดุเดือดอย่างแน่นอน

 

"เอาล่ะ แม้ว่าเจ้าจะยังเด็กนัก แต่เจ้าคงมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะตายเช่นนั้นข้าจะให้เจ้าได้เห็นเด็กๆที่น่ารักของข้า" เจี่ยเหรินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย จากนั้นเขาดึงมือออกมาจากแขนเสื้ออีกครั้งและสะบัดมือออกไปทันที ทันใดนั้นหุ่นเล็กๆหลายตัวก็ปรากฏขึ้นในอากาศ จากนั้นร่างก็ขยายใหญ่ขึ้นมาในทันที และเมื่อพวกมันลงมายืนบนพื้นก็กลายเป็นเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง 

 

คนเหล่านี้มีใบหน้าที่นิ่งเฉยไร้อารมณ์ สวมชุดเกราะ และถือดาบที่แหลมคมอยู่ในมือ

 

แม้เขาจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่หุ่นกระดาษ แต่เมื่อมู่อี้เห็นพวกเขาก็มีความรู้สึกราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับคนจริงๆและหัวใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น

 

"หุ่นกระดาษกลายเป็นมนุษย์?" ในขณะที่มู่อี้คิดสิ่งเหล่านี้อยู่ในใจ เขาก็เปลี่ยนยันต์สายฟ้าในมือของเขาเป็นยันต์ปราบปีศาจ

 

หากต้องต่อสู้กับเจี่ยเหรินยันต์ปราบปีศาจอาจไม่มีประโยชน์มากนัก แต่หากเป็นมนุษย์กระดาษเหล่านี้ก็จะใช้ได้ผลอย่างยิ่ง

 

"เด็กๆที่น่ารักของข้า ฆ่าเขาซะ" เจี่ยเหรินออกคำสั่ง จากนั้นมนุษย์กระดาษทั้งห้าตัวก็ขยับตัวพร้อมกัน พวกมันชี้ดาบขนาดใหญ่ในมือไปทางมู่อี้และพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว 

 

เนี่ยนหนิวเอ้อร์ไม่รอให้มู่อี้ออกคำสั่ง นางพุ่งตัวเข้าใส่หนึ่งในพวกมัน มือเล็กๆของนางมีกรงเล็กสีดำงอกยาวออกมา นางเพียงสะบัดกรงเล็บเบาๆดาบขนาดใหญ่ที่ถืออยู่ในมือของมนุษย์กระดาษก็หักในทันที จากนั้นร่างเล็กๆของนางก็พุ่งทะลุตรงกลางร่างของมนุษย์กระดาษ

 

และในตอนนี้มือทั้งสองข้างของมู่อี้ก็ขว้างยันต์ปราบปีศาจออกไป

รีวิวผู้อ่าน