px

เรื่อง : เถ้าแก่ขั้นเทพ!
ตอนที่ 61-62


ตอนที่ 61 : ปู้หลี่เกื๋อที่คลุ้มคลั่ง

         หลังพิจารณาให้ดี เจียงเหวิ่นฉางจึงตัดสินใจเลือกดาบลึกล้ำ และเพิ่มระดับการฝึกฝนพื้นฐานสู่ขอบเขตหลอมกายระดับที่ห้า

         หากต้องใช้พลังมากกว่านี้เพื่อจัดการหมาป่าสีเทาที่แทบจะยังไม่มีสติปัญญา ก็ถือว่าเจียงเหวิ่นฉางใช้เวลาในสถาบันวิญญาณเมฆาอย่างสูญเปล่าแล้ว

         เพื่อจัดการกับหมาป่าสีเทาเหล่านี้ที่ยังไม่มีแม้ปัญญาใด เพียงขอบเขตหลอมกายระดับที่ห้าก็เกินพอ!

         นอกจากนี้ แต่ละชั้นของหอคอยแห่งการทดสอบยังมีข้อจำกัด ในโหมดง่ายของชั้นแรก ระดับการฝึกฝนสูงที่สุดคือขอบเขตหลอมกายระดับที่เก้า

         แน่นอนว่ายังมีเหตุผลอื่นร่วมด้วย

         นั่นก็คือสิ่งของภายในระบบร้านค้ามันแพงจนเกินไป!

         อาวุธระดับแรกเริ่มหนึ่งผลึกวิญญาณ อาวุธลึกล้ำสิบผลึกวิญญาณ และอาวุธโลกาหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ…

         เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับหมายถึงราคาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!

         แม้เจียงเหวิ่นฉางร่ำรวย กระนั้นก็ไม่ใช่หมายถึงใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้

         หากทุ่มเทผลึกวิญญาณมากมายกับเกมอะไรก็ไม่รู้ เช่นนั้นจะต่างอะไรกับเอาทรัพสินที่มีไปโยนทิ้งเล่น?

         สำหรับขอบเขตพลัง ตราบเท่าที่ต่ำกว่ากำลังปัจจุบันนั้นสามารถปรับเปลี่ยนไปมาได้อย่างอิสระ

         อย่างไรแล้วกำลังของเจียงเหวิ่นฉางก็เป็นถึงขอบเขตจิตวิญญาณระดับที่สาม!

         เมื่อเลือกเริ่มอีกครั้ง เจียงเหวิ่นฉางจึงกระชับดาบยาวในมือไว้แน่น

         โฮก!

         เสียงคำรามร้องอันคุ้นเคยดังขึ้น เป็นผลให้ร่างของนางต้องตึงเครียด

         “เข้ามา!”

         เจียงเหวิ่นฉางสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมเผยประกายในดวงตา

         ถัดจากนั้น ร่างของหมาป่ายักษ์จึงปรากฏพร้อมพุ่งทะยานเข้าหา

         เจียงเหวิ่นฉางเผยดวงตาเด็ดเดี่ยว ร่างขยับเคลื่อนออกไปด้านข้าง

         แขนซ้ายนั้นค้ำยันเกื้อหนุนร่างกาย แขนขวาสะบัดข้อมือออกใช้งานดาบอย่างคล่องแคล่ว

         คมดาบเผยประกายแสงอันเย็นเยือกพาดผ่านหน้าท้องของร่างหมาป่ายักษ์

         เจียงเหวิ่นฉางรู้สึกได้กระจ่างถึงแรงต้านที่ตัวดาบยาวส่งผ่านมา

         นี่คือความรู้สึกของดาบที่จมในเลือดและเนื้อเพื่อกรีดผ่าน!

         ร่างหมาป่ายักษ์ส่งเสียงร้องก่อนจะล้มลงกับพื้น

         กระนั้นเจียงเหวิ่นฉางยังไม่กล้าหย่อนความระวัง เพราะนางทราบเรื่องที่ยังมีการโจมตีอีกหนึ่งระลอก!

         พริบตาถัดจากนั้น ร่างหมาป่ายักษ์ถึงสามจึงปรากฏในสายตาเจียงเหวิ่นฉาง

         “ต้องสำเร็จ!”

         เจียงเหวิ่นฉางถูกสังหารในฉากนี้วนเวียนหลายสิบครั้ง โทสะขณะนี้จึงสุมอัดพร้อมระบาย พบเห็นเหยื่อตรงหน้าเช่นตอนนี้นางจึงไม่ปรานี!

         ร่างขยับวูบเกิดเป็นภาพเงาเข้าโจมตีใส่หมาป่ายักษ์ประหนึ่งภูตผี

         ดาบยาวในมือของนางเผยความเหี้ยมโหดครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างของหมาป่ายักษ์เหล่านั้นเกิดบาดแผลจนแทบไม่อาจนับ

         ผ่านไปกว่าสิบชั่วลมหายใจ เสียงร้องอื้ออึงจึงดังขึ้น ร่างของหมาป่ายักษ์ตัวสุดท้ายล้มลงกับพื้นแล้ว

         เจียงเหวิ่นฉางค่อยสูดลมหายใจเข้าลึก รอยยิ้มปรากฏเหยียดชัดที่แก้มของนาง

         “ท่านผ่านชั้นแรกของหอคอยแห่งการทดสอบโหมดง่ายแล้ว ต้องการท้าทายโหมดปกติหรือไม่?”

         แทบจะในทันที ข้อความได้ปรากฏที่ตรงหน้าเจียงเหวิ่นฉาง

         เจียงเหวิ่นฉางไม่คิดปฏิเสธ ขณะนี้ในใจของนางมีแต่จิตวิญญาณการต่อสู้อันร้อนแรง

         เช่นนั้นจึงพยักหน้ารับ “เอาเลย!”

……

         “ระยะเวลาเล่นเกมต่อวันถึงขีดจำกัดแล้ว! เกมจะปิดตัวลง!”

         ปู้หลี่เกื๋อชอกช้ำ ที่ตรงหน้าคือหมาป่ายักษ์ที่ยังจับจ้องตนเองอยู่

         รอบด้านนั้นปรากฏเป็นร่างหมาป่ายักษ์ถึงสี่

         กระนั้นสภาพร่างกายของหมาป่ายักษ์เหล่านี้ไม่ใช่ดี ทั้งร่างมีแต่บาดแผลปกคลุม รวมถึงขายังได้รับบาดเจ็บ

         “ฮึ่ย ตายเสีย!”

         ปู้หลี่เกื๋อคำรามร้องพุ่งทะยานออกพร้อมความคลุ้มคลั่งในสายตา

         ตัวเขาไม่ทราบว่าตกตายไปกี่ครั้งแล้ว ขณะนี้ยังเหลือศัตรูอีกถึงตัวหนึ่ง!

         และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ไขข้อข้องใจ เขาต้องคว้าโอกาสนี้ไว้!

         ปู้หลี่เกื๋อเผยความตั้งใจเด็ดเดียวโดยไม่ทันได้ตระหนักถึงเสียงอื่นใด

         ขณะคิดไปสังหารหมาป่ายักษ์ที่ตรงหน้า ภาพตรงหน้าตัดไปพร้อมตัวเขากลับสู่พื้นที่เริ่มต้น

         ปู้หลี่เกื๋อหันมองรอบด้านก่อนจะนิ่งงันไป ใบหน้านั้นแปรเปลี่ยนจนสุดท้ายกลับกลายเป็นโทสะ

         เขาร้องออกด้วยความโศกศัลย์เสียงดัง “โว้ย! อีกแค่หนึ่งตัวเอง! อีกแค่หนึ่งตัวก็จะผ่านชั้นแรกได้อยู่แล้ว!”

 

 

ตอนที่ 62 : เล่นเกมเพื่อแข็งแกร่ง

         ปู้หลี่เกื๋อถอดหมวกออกพร้อมใบหน้าที่กราดเกรี้ยว

         เรื่องนี้เถ้าแก่ร้านต้องมีคำอธิบาย

         ขณะนี้เองที่ปู้หลี่เกื๋อค่อยได้ตระหนัก ว่าเหยาซือหยานเผยสายตาจับจ้องจากทางด้านหลังโต๊ะ

         ด้วยลมหายใจสูดเข้าลึก เขาค่อยรู้ตัว

         โทสะที่ใบหน้าเลือนหาย ความสงบใจเข้าแทนที่

         ต้องมีคำอธิบายอย่างนั้นหรือ?

         สองผู้ยิ่งใหญ่ประจำร้านแห่งนี้หรือเป็นผู้มีเหตุมีผล?

         ทุบตียิ่งไม่อาจกระทำ เช่นนั้นมีแต่จะทำชีวิตตนเองเลือนหาย

         ความคิดชั่ววูบของปู้หลี่เกื๋อแทบผลักตนเองตกเหวจนตาย

         “พี่ซือหยาน ไฉนเกมถึงปิดตัวเองเช่นนี้?” ปู้หลี่เกื๋อเอ่ยถามด้วยความสงสัย

         “หือ? ไม่ใช่ออกมาด้วยตัวเองหรือ?”

         ขณะนี้เองที่ปู้ฉืออีพลันร้องออกอย่างน่าสงสัย

         นางถอดหมวกออกพร้อมหันมองทางเหยาซือหยานด้วยความสับสน

         อย่างไรแล้ว สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ต่างกับเล่นเกมถึงบอสตัวสุดท้ายแล้วกลับโดนชักปลั๊กไฟ

         “กฎคือสามารถเล่นหอคอยแห่งการทดสอบได้สามชั่วโมงต่อวัน” เหยาซือหยานชี้ที่กระดานขาวซึ่งแขวนไว้ด้านบนผนัง

         เดิมนั้นมีกฎเพียงสามข้อ ทว่าเมื่อครู่เหยาซือหยานค่อยไปเสริมเรื่องเกมหอคอยแห่งการทดสอบตามที่ลั่วฉวนบอกกล่าวไว้

         “จ่ายค่าลงทะเบียนหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ และยังมีค่าเล่นรายชั่วโมง และสามารถเล่นได้สามชั่วโมงต่อวัน”

         “ถึงกับมีกฎเช่นนี้ด้วย?” ปู้หลี่เกื๋อยิ้มแหย

         ครั้งลั่วฉวนกล่าวไว้ก่อนหน้าเป็นเขาไม่ได้ฟัง ทว่าตอนนี้คล้ายเพิ่งจำได้

         เหยาซือหยานถอนหายใจอย่างไม่ทราบว่าควรช่วยอย่างไรได้

         นางทราบว่าวันนี้อย่างไรก็ไม่มีทางเล่นได้อีกแล้ว

         กฎของเถ้าแก่ไม่เคยละเมิดได้

         “หือ?” ทันใดนี้เอง เหยาซือหยานจึงรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ท่าทีประหลาดใจพลันต้องเผยที่ใบหน้างดงาม

         “พี่สาวเป็นอะไรไปแล้ว?” ปู้หลี่เกื๋อเผยความสงสัย

         เหยาซือหยานตอบกลับ “ลองสัมผัสถึงพลังวิญญาณในร่างพวกเจ้า”

         ปู้หลี่เกื๋อหยักหน้ารับพร้อมหลับตาลง

         อึดใจถัดมาดวงตานั้นต้องเบิกกว้าง คำร้องอุทานอย่างไม่คิดเชื่อดังออก “เป็นไปได้อย่างไรกัน? พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย นี่มันทัดเทียมกับฝึกฝนถึงหนึ่งวัน!”

         ปู้ฉืออีพยักหน้าเห็นพ้อง นางก็ตรวจพบได้เช่นกัน

         ได้ยินดังนี้ เหยาซือหยานจึงอดไม่ได้ที่จะเผยความประหลาดใจผ่านทางสีหน้า

         หรือว่าเกมที่เถ้าแก่นำมาสามารถเพิ่มพูนการฝึกฝนแก่ผู้คนได้?

         คนทั้งสามอดไม่ได้ที่จะหันสายตามองทางลั่วฉวนที่ประตูร้าน

         ราวกับรับรู้ถึงสายตาคนทั้งสาม น้ำเสียงของลั่วฉวนกล่าวออก “หอคอยแห่งการทดสอบไม่ใช่แค่เกม…”

         ถ้อยคำสั้นเพียงเท่านี้ก็ทำทั้งสามตกอยู่ในภวังค์ได้

         ไม่ใช่แค่เกม…

         หรือก็คือ ประสบการณ์และระดับการฝึกฝนที่ได้รับในเกมสามารถส่งกลับมายังความเป็นจริง!

         ด้วยคิดเช่นนี้ ประกายไฟถึงกับลุกโชนในดวงตาคนทั้งสาม

         “เถ้าแก่ กล่าวถึงตรงนี้ หากได้รับประสบการณ์ภายในเกม เช่นนั้นคือส่งกลับมายังตัวจริงหรือ?” เหยาซือหยานเอ่ยคำถาม

         “ถูกต้อง”

         ได้ยินคำยืนยันจากลั่วฉวน ทั้งสามจึงหอบหายใจแรง

         เกมที่สามารถเพิ่มพูนการฝึกฝน สมควรมีเพียงหนึ่งเดียวในทวีปเทียนหลันแห่งนี้แล้ว

         “ว่าไปแล้ว ผลของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคือเพิ่มความเร็วการฝึกฝน มันใช้ร่วมกับหอคอยแห่งการทดสอบได้” ลั่วฉวนกล่าวต่อ

         “ว่าอะไร…” ปู้หลี่เกื๋อพิจารณาเคร่งเครียด “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มความเร็วการฝึกฝนสิบเท่าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เล่นหอคอยแห่งการทดสอบสามชั่วโมงเทียบเท่าฝึกฝนหนึ่งวัน”

         “เพียงแค่การเล่น ความเร็วฝึกฝนในหอคอยแห่งการทดสอบเทียบได้กับแปดเท่าในความเป็นจริง”

         “แปดเท่า จากนั้นอีกสิบเท่าจนกลายเป็นแปดสิบในหนึ่งชั่วโมง..”

         เพี๊ยะ!

         ทันใดนี้เองที่ปู้หลี่เกื๋อถูกปู้ฉืออีตบเข้าที่ศีรษะ

……

 

 ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V

รีวิวผู้อ่าน

avl0158pass
1635 วันที่แล้ว

555 ใจร้าย เฉลยตอนจบ ร้ายจริงๆเถ้าแก่


  แสดงความคิดเห็น