px

เรื่อง : เถ้าแก่ขั้นเทพ!
ตอนที่ 53-54


ตอนที่ 53 : เถ้าแก่เก่งเกินไปแล้ว!

         “นี่หรือเกมภาพเสมือนจริง? ไม่เห็นจะต่างกับความเป็นจริงแม้แต่น้อย!”

         เหยาซือหยานมองทุ่งหญ้าที่อยู่เบื้องหน้า ขณะนี้ใบหน้างดงามเผยซึ่งความตื่นตะลึง

         “ระวังตัวด้วย การโจมตีจะเริ่มในไม่ช้า”

         ลั่วฉวนกล่าวเตือนได้ถูกจังหวะ เป็นผลให้เหยาซือหยานดึงสติกลับคืนมาทันท่วงที

         ขณะนี้เหยาซือหยานคือผู้ไร้ซึ่งระดับการฝึกฝน เป็นเพียงบุคคลธรรมดา

         กระนั้นก็ไม่ใช่เหมือนลั่วฉวน เหยาซือหยานเผยมีดสีขาวเงินปรากฏในมือ

         นางนำมันมาจากร้านค้า

         ตัวมีดโค้งสะท้อนซึ่งแสงสะท้อนดวงตะวันทว่าเย็นเยือก

         ลั่วฉวนจับจ้องใกล้ชิดที่หน้าจอแสดงผล เหยาซือหยานกำลังยืนบนทุ่งหญ้าพร้อมมีดในมือ หากปรับมุมสักเล็กน้อย เช่นนั้นคงเป็นภาพอันงดงามวิจิตร

         “มาแล้ว”

         ริมฝีปากเหยาซือหยานเอ่ยคำออกราวพึมพำ

         พร้อมกันนี้เสียงหอนของหมาป่าจึงดังขึ้น

         หมาป่าร่างยักษ์ขนาดตัวยาวสามเมตรปรากฏพร้อมทะยานเข้าใส่

         สีหน้าเหยาซือหยานยังคงไม่แปรเปลี่ยน ทว่าร่างนั้นเลือนหายประหนึ่งภูตผี

         เอวของนางโค้งในองศาอย่างที่มนุษย์ไม่อาจกระทำหลบเลี่ยงการโจมตีของหมาป่ายักษ์อย่างง่ายดาย

         พร้อมกันนี้ ร่างนั้นจึงพุ่งทะยานผ่านทุ่งหญ้า

         มีดในมือของนางสับฟันออก มันเผยซึ่งเสียงกรีดผ่านอากาศ!

         เหยาซือหยานมุ่งตรง สีหน้ายังคงสงบ เส้นผมสีม่วงนั้นพลิ้วไหวกับสายลม

         ตึง!

         เสียงวัตถุหนักร่วงหล่นกับพื้นดังก้อง

         เวลาเดียวกันนี้เอง ที่ร่างของหมาป่ายักษ์ล้มกับพื้นก่อนจะแยกออกเป็นหลายท่อน!

         เหยาซือหยานไม่คิดหนีแต่แรกแล้ว ทว่าเพียงหลบในชั่วระยะเวลาอันใกล้ชิด จากนั้นจึงลั่นการโจมตีปลิดชีพหมาป่ายักษ์ในพริบตา!

         ขณะนี้เองที่หมาป่ายักษ์อีกสามตัวปรากฏ!

         สีหน้าของเหยาซือหยานยังไม่แปรเปลี่ยน นางกระชับด้ามมีดในมือแน่น

         แม้โจมตีหรือหลบเลี่ยง ความงดงามของนางยังคงเฉิดฉายประหนึ่งผู้สูงศักดิ์

         หากให้กล่าว ยามเมื่อรับชมเหยาซือหยานสังหารหมาป่ายักษ์ตัวแรก หางตาของลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะกระตุก

         หมาป่ายักษ์ที่สังหารเขาได้ ขณะนี้เหยาซือหยานสังหารพวกมันแทนแล้ว

         ความแตกต่างระหว่างกันไฉนจึงกว้างใหญ่?

         ผ่านไปครู่ ลั่วฉวนค่อยรู้สึกถึงความร้อนใจ

         มันเป็นความอึดอัดที่ไม่อาจเก่งกาจกว่าเสมียนประจำร้านได้

         “เถ้าแก่ เจ้านี่วิเศษนัก! ภายในนี่ไม่ใช่โลกจริงหรือ?”

         ขณะนี้เหยาซือหยานถอดหมวกโลหะออกแล้ว ใบหน้างดงามนั้นเผยความตื่นเต้นยินดี

         “ระบบ หอคอยแห่งการทดสอบถือว่าเป็นโลกพิเศษได้หรือไม่?”

         ลั่วฉวนกล่าวถามภายในใจ

         ภาพในเกมนั้นสมจริงเกินไป

         มันถึงกับทำให้ผู้คนต้องสงสัยว่าเป็นเพียงเกมจริงหรือ?

         “จากความเข้าใจที่เจ้าของร้านมีต่อโลก กล่าวเช่นนั้นก็ได้” ระบบตอบกลับมา

         ลั่วฉวนถึงกับพูดกล่าวไม่ถูกกับคำตอบแบบขอไปที

         ราวกับขณะนี้ระบบเลือกที่จะเย็นชาใส่ตัวเขา

         ลั่วฉวนมองไปทางเหยาซือหยานก่อนพยักหน้าให้ “ใช่ คิดเช่นนั้นก็ได้”

         ได้ทราบคำตอบของลั่วฉวน นางจึงมองที่ดวงตาของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

         เถ้าแก่แข็งแกร่งเพียงใดถึงกับสร้างโลกอีกใบขึ้นมาได้?

         “ตอนนี้ไปซื้ออาหารเช้าก่อนแล้ว ฝากดูแลร้านด้วย”

         กล่าวคำจบลั่วฉวนจึงออกจากร้านไป

         เหยาซือหยานคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเข้าหอคอยแห่งการทดสอบอีกครั้ง

         ที่นางผ่านมาได้เมื่อครู่ มันก็เพียงโหมดง่ายของชั้นแรกเท่านั้น

         นางคิดอยากทดลองเล่นโหมดปกติดูบ้าง

         โหมดง่ายนั้นเป็นเพียงหมาป่า อย่างนั้นโหมดปกติจะเป็นอะไร…

         เพราะข่าวคราวเรื่องโบราณสถานในเทือกเขาจิ่วเหยาถูกเปิดเผยออก ในช่วงวันนี้ในนครจิ่วเหยาจึงมีผู้คนแปลกหน้ามาเยือนมากขึ้น

         ผู้ฝึกตนทั้งหลายต่างมุ่งเน้นไปกันที่นครจิ่วเหยา ส่วนใหญ่ต่างเป็นผู้อหังการอวดดี จึงเป็นผลให้ในเมืองต้องเกิดความขัดแย้งปะทุอย่างไม่ว่างเว้น

 

 

 

ตอนที่ 54 : สถาบันวิญญาณเมฆา

         เพราะเรื่องราวความวุ่นวายภายในเมือง จักรพรรดิเทียนชิงจึงต้องปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างอับจน

         กฎหมายไม่อาจใช้ยับยั้งผู้ฝึกตนเหล่านี้ได้เลยหรือ?

         หากยังควบคุมไม่ได้ ก็เกรงว่าจักรพรรดิจะขาดซึ่งความศักดิ์สิทธิ์แล้ว

         นับเป็นโชคดีที่มีสำนักทรงอำนาจคอยห้ามปราม ไม่เช่นนั้นสถานการณ์คงเลวร้ายกว่านี้

         ที่ประตูเมืองตะวันออก

         ช่วงหลายวันมานี้ผู้ฝึกตนยิ่งมายิ่งเข้าออกเมืองกันหนาแน่น

         กระนั้นวันนี้แตกต่างออกไป

         “ไม่นานมานี้ผู้ฝึกตนมาเยือนนครจิ่วเหยากันมากขึ้น ทั้งสัตว์อสูร ภูตผี รวมถึงอสรพิษทั้งหลายต่างมารวมตัวกัน”

         “ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว นั่นโบราณสถานเชียวนะ! ตราบเท่าที่หยิบฉวยสิ่งที่ฝักฝ่ายใหญ่ไม่ต้องการมาได้ เพียงแค่นั้นก็มากพอทำให้พวกเราทะยานขึ้นฟ้ากันได้แล้ว!”

         “หือ? รับชมด้านบน คล้ายมีอะไรกำลังมาเยือน!”

         “อะไรที่ว่าคืออะไร? ดื่มหนักไปงั้นหรือ?”

         “เร่งรีบรับชม มันเข้ามาใกล้แล้ว!”

……

         ด้วยค้นพบบางสิ่งบางอย่าง บรรดาผู้ฝึกตนที่ประตูเมืองต่างแหงนหน้ามองขึ้นฟ้า เสียงร้องอุทานดังออกจากปากผู้คน

         หากมองตามสายตาผู้ฝึกตนเหล่านี้ ที่พบเห็นคือจุดสีดำซึ่งปรากฏบนฟากฟ้าไกลห่าง

         แต่เพียงชั่วครู่ จุดสีดำเหล่านั้นกลับขยายขนาดใหญ่ขึ้น พวกมันกำลังพุ่งทะยานผ่านอากาศมาทางด้านนี้

         การปรากฏของจุดสีดำเป็นผลให้ผู้ฝึกตนยิ่งมารวมตัวกันรับชม

         เหล่านี้คือวิหคอสูรอัคคีทอง ขนาดตัวพวกมันยาวนับร้อยเมตร

         อัคคีเพลิงสีแดงฉานเผยชัดที่บนร่าง ด้วยเพราะความร้อนสูงจึงเป็นผลให้การมองเห็นต้องบิดเบี้ยว

         “วิหคลึกล้ำอัคคีทอง สัตว์อสูรหายากที่มีกำลังทัดเทียมยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋า กล่าวกันว่าพวกมันครอบครองเลือดหงส์อมตะ!”

         “เหล่านี้ตัวใหญ่นัก พวกโตเต็มวัยอย่างนั้นหรือ?”

         “ยังไม่ใช่ แต่ก็คล้ายไม่ไกลห่างเท่าใดนัก…”

         “วิหคลึกล้ำอัคคีทองเป็นสัตว์อสูรหายากมากล้ำ ทั้งทวีปเทียนหลันปรากฏตัวนับครั้งได้ ที่ทราบก็เพียงสถาบันวิญญาณเมฆาได้รับไข่วิหคเหล่านี้จากโบราณสถานเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว…”

         เมื่อผู้คนได้ตระหนักว่าเป็นวิหคอสูร สีหน้าพวกเขาต่างเผยซึ่งอาการตื่นตะลึง

         “หรือจะเป็นวิหคลึกล้ำอัคคีทองตัวจริง?”

         “เดี๋ยว! รับชมที่แผ่นหลังพวกมัน มีคนยืนอยู่!”

         “ล้อกันเล่นหรือ? จะเป็น… เดี๋ยวนะ? เรื่องจริงหรือนี่!”

……

         ขณะที่วิหคลึกล้ำอัคคีทองใกล้มาเยือนนครจิ่วเหยา สายลมกระโชกจึงพัดผ่านใบหน้าผู้คนประหนึ่งคมมีดเชือดเฉือน

         พวกเขาทราบกระจ่างชัดถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่พวกมันปลดปล่อยออก ผู้คนยามนี้ต่างได้แต่หวาดกลัว

         ทหารยามคุ้มกันประตูเมืองต่างกระชับอาวุธพร้อมจับจ้องฝูงวิหคที่ใกล้เข้ามา พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนไหว กระทั่งว่าหวาดกลัวด้วยซ้ำ

         กระนั้นที่ต้องตาที่สุด คือร่างกว่าสิบคนที่ยืนอยู่บนแผ่นหลังของวิหคลึกล้ำอัคคีทอง

         เหล่านั้นเป็นสตรียังเยาว์ พวกนางต่างสวมใส่เสื้อผ้าหรูหรางดงาม

         คาดการณ์โดยคร่าว กำลังอ่อนด้อยที่สุดคือขอบเขตโชคชะตาระดับสูงสุด!

         หากต้องใช้คำหนึ่งอธิบายกองกำลังนี้ ก็คงมีเพียงหนึ่งเดียว

         เหนือล้ำยิ่งนัก!

         กลุ่มคนยังเยาว์เหล่านี้มีผู้นำอยู่สองคน

         หนึ่งในนั้นเป็นบุรุษที่เผยใบหน้าเย็นเยือกในชุดสีดำอันแข็งแกร่ง

         อีกหนึ่งเป็นสตรีเยาว์วัยใบหน้าอ่อนโยนในชุดสีม่วง

         ที่อกเสื้อของกลุ่มคนเหล่านี้ต่างมีตราเช่นเดียวกันประดับเอาไว้

         มันคือรูปเมฆสีขาวบริสุทธิ์!

         นี่คือตราของสถาบันวิญญาณเมฆา!

         สถาบันวิญญาณเมฆา ก็เป็นดังชื่อกล่าวไว้ มันคือสถานที่สำหรับฝึกฝนผู้ฝึกตนเยาว์วัย

         สถาบันนั้นแตกต่างจากสำนัก

         เข้าร่วมสำนัก เช่นนั้นต้องทำตามสำนักสั่งการอย่างเข้มงวดเพื่ออนาคต

         ส่วนสถาบัน เมื่อร่ำเรียนจบสิ้นแล้วก็ไม่มีพันธะใดต่อกันอีก

         กระนั้นผู้คนก็ไม่ใช่ไร้ความผูกพันธ์กันเสียดังคำกล่าว

         หากคิดถึงความรู้สึก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยยังคิดกลับบ้านเกิด นำความรู้จากมหาวิทยาลัยพัฒนาสู่ชุมชน

         ในเมื่อเป็นสถาบันที่มีพื้นเพยาวนานถึงนับร้อยหรือพันปี เช่นนั้นเบื้องลึกเบื้องหลังยิ่งต้องชวนสะพรึง…

         สถาบันวิญญาณเมฆาคือหนึ่งในนั้น เป็นตัวตนแข็งแกร่งทรงอำนาจที่ทั้งทวีปเทียนหลันต้องรู้จัก

 

……

 

 ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V

รีวิวผู้อ่าน