px

เรื่อง : เถ้าแก่ขั้นเทพ!
ตอนที่ 17-18


ตอนที่ 17 : เป็นกฎของทางร้าน 

“อวดดีนัก! บังอาจทำร้ายนายน้อย!” 

ชั่วขณะที่ชายหนุ่มส่งเสียงเรียก รัศมีพลังวิญญาณอันชวนสะพรึงจึงทะลักจากร่างฝูปั๋ว พริบตานี้ร่างนั้นพลันเลือนหายในพริบตา 

เมื่อปรากฏขึ้นอีกครั้งก็พบว่าอยู่ข้างกายชายหนุ่มแล้ว 

ที่อีกฝ่ายลงมือก่อนคือคุ้มกันชายหนุ่ม ฝูปั๋วยังคงอาการสงบและเลือกสิ่งที่ควรกระทำก่อนได้อย่างถูกต้อง 

สำหรับเขาแล้ว ชีวิตของชายหนุ่มสำคัญกว่าอื่นใด! 

ฝูปั๋วยื่นมือออกพร้อมคว้าหัวไหล่ของชายหนุ่มผู้นั้นเอาไว้! 

และขณะนี้จึงคิดส่งร่างเด็กหนุ่มออกไปให้พ้นระยะต่อสู้! 

แต่แล้วสีหน้านั้นพลันต้องแปรเปลี่ยน เพราะได้ทราบแล้วว่าเจอปัญหาร้ายแรงเข้า! 

ร่างของชายหนุ่มไม่อาจขยับไปไหนได้! 

แม้เป็นขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่ห้าก็ยังไม่อาจสร้างความสะท้านสะเทือนแก่เถ้าแก่หนุ่มตรงหน้าได้! 

หรืออีกฝ่ายจะมีกำลังเหนือล้ำยิ่งกว่าอย่างมหาศาล? 

ชั่วครู่นี้ความรู้สึกหวาดกลัวพลันเกิดภายในใจของฝูปั๋วอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ทว่าความรู้สึกนั้นไม่อาจเผยออกได้ 

งานของเขาคือปกป้องชายหนุ่มผู้นี้เอาไว้ หากเกิดอันใดผิดพลาดขึ้น เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ได้คือความทรมาน! 

“หัตถ์สีเงิน!” 

ฝูปั๋วแปรเปลี่ยนเป้าหมายส่งหัตถ์เข้าปะทะกับลั่วฉวน 

หากเทียบเปรียบกับชายหนุ่มก่อนหน้า ก็ไม่ทราบแล้วว่าอีกฝ่ายชวนสะพรึงกว่าเพียงใด 

มุมขอบของหัตถ์ที่ส่งออกมานี้เผยรอยปริแตกสีดำเล็กน้อย ทั้งหัตถ์นั้นลุกโชนด้วยแสงสีเงินส่องสว่าง! 

“ช้าไป” 

ด้วยไม่มีผู้ใดคาดคิด น้ำเสียงเบาค่อยของลั่วฉวนได้ดังขึ้นที่ข้างกายชายชรา 

ฝูปั๋วร่างแข็งค้าง 

ตัวตน “ลั่วฉวน” ที่อยู่เมื่อครู่ค่อยกระจายหาย มันคือภาพติดตา! 

ขณะนี้เองที่ฝ่ามือของลั่วฉวนประทับเข้าที่หัวไหล่ของฝูปั๋ว พลังวิญญาณอันชวนสะพรึงจึงทะลักออกอย่างคลุ้มคลั่ง! 

เสียงดังบังเกิด สีหน้าฝูปั๋วแปรเปลี่ยนเป็นแข็งค้าง 

เพียงอึดใจหนึ่ง สายลมเย็นเยือกจึงพัดพาเข้ามาจากภายนอก 

ร่างของฝูปั๋วคล้ายตากอากาศมานานนับปีไม่ถ้วน ร่างนั้นแปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นควันก่อนจะสลายหาย 

“เจ้า! เจ้ากล้าดีอย่างไรสังหารฝูปั๋ว!” 

ชายหนุ่มที่รับชมอยู่โดยตลอด เวลานี้ที่ทำได้คือเผยสีหน้าแตกตื่นออกมา 

เพียงสัมผัสเบามือ ฝูปั๋วผู้ซึ่งมีระดับการฝึกฝนสูงส่งถึงกับตกตายในพริบตา เถ้าแก่ร้านผู้นี้แข็งแกร่งเพียงใดกัน? 

หรือจะเป็นทดสอบเต๋าระดับสูงสุด? หรือจะเป็นราชัน? หรือบางที… อาจเป็นถึงนักบุญที่ตำนานกล่าวขาน? 

ชายหนุ่มแทบไม่กล้าคิดอื่นใดอีก ตัวเขาขณะนี้ได้สำนึกเสียใจที่เข้ามาในตรอกแห่งนี้อย่างไม่ทราบดีชั่ว 

อย่างไรแล้ว เมื่อผู้คนตระหนักได้ถึงชีวิตที่เข้าใกล้ความตาย บ่อยครั้งจะตอบสนองอย่างเกินคาดคิด และชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน 

เมื่อได้เห็นลั่วฉวนจับจ้องมองมา ชายหนุ่มจึงสูดลมหายใจเข้าลึกและสงบใจเท่าที่จะทำได้ 

“ผู้อาวุโส ผู้น้อยผิดพลาดไปแล้ว ให้ข้าได้ชดใช้แก่ท่าน…” ชายหนุ่มกล่าวออก 

ลั่วฉวนยังคงไม่เคลื่อนไหว น้ำเสียงราบเรียบกล่าวคำออก “คนเช่นพวกเจ้าคิดทำอะไรมักทำ ร้านของเรามีกฎเกณฑ์ และผู้ที่กล้าสร้างปัญหาในร้านต้องชดใช้ด้วยชีวิต” 

คำกล่าวนี้ มันคือการตัดสินโชคชะตาของชายหนุ่ม 

รับฟังคำแล้วชายหนุ่มจึงไม่อาจสงบใจลงได้อีก สีหน้ายามนี้เผยออกแต่ความหวาดกลัว 

“ไม่ได้! เจ้าไม่อาจสังหารข้า! ไม่ทราบหรือว่าข้าคือใคร? นี่คือนายน้อยแห่งตำหนักจันทราสีเงิน!” 

“หากสังหารข้า เช่นนั้นบิดาข้าจะไม่ละเว้นเจ้า!” 

“ไม่สิ! หากแน่จริงก็จงฆ่า…” 

ลั่วฉวนไม่สนใจฟังจนจบคำ ฝ่ามือซึ่งทอประกายแสงขณะนี้ร่วงหล่นลงประทับที่ชายหนุ่มแล้ว 

“โห?” 

ลั่วฉวนต้องเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย 

ไม่เหมือนดังก่อนหน้า จี้ห้อยคอหยกที่ข้อมือของชายหนุ่มพลันเผยรัศมีแสงเจิดจ้าต้านรับฝ่ามือของลั่วฉวนเอาไว้ 

พร้อมกันนี้ มันยังมาพร้อมลมหายใจอันชวนสะพรึง 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” 

พบเห็นทั้งร่างได้รัศมีแสงคุ้มกันเอาไว้ ชายหนุ่มจึงเผยเสียงหัวเราะดังออก ดวงตาขณะนี้กลายเป็นหยิ่งผยองยามมองที่ลั่วฉวน 

“เศษเสี้ยววิญญาณของบิดาข้าคงอยู่ในจี้ห้อยคอหยกนี้ ดังนั้นเจ้าจึงไม่อาจสังหาร!” 

“บิดาข้าคือขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุด เจ้าจงรับความตาย!” 

ขณะเดียวกัน แสงส่องสว่างจากจี้ห้อยคอจึงนำร่างชายหนุ่มเคลื่อนออกสู่นอกร้าน 

เศษเสี้ยววิญญาณภายในจี้ห้อยคอ มันมากพอที่จะทำให้จ้าวตำหนักจันทราสีเงินคุ้มกันชายหนุ่มเอาไว้ได้ 

ชายหนุ่มถึงกับลืมเลือนที่หวาดกลัวลั่วฉวน ภายในขณะนี้เผยซึ่งความยินดี 

เพราะมั่นใจถึงกำลังของบิดาตนเอง ชายหนุ่มจึงลืมเลือนไปว่าอึดใจเมื่อครู่ยังหวาดกลัวลั่วฉวนเป็นล้นพ้น 

กับผู้ที่บาดเจ็บ ยามเมื่อรักษาหายเหลือแต่แผลเป็น บางครั้งก็มักจะลืมความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้น… 

 

 

ตอนที่ 18 : ไร้เทียมทาน  

“น่าสนใจ” 

พบเห็นเช่นนี้ ดวงตาลั่วฉวนจึงเผยความสนใจออกมา 

เขาทราบว่าจี้ห้อยคอหยกไม่อาจทำให้ชายหนุ่มหลบหนี ทว่าก็ยังนำพาสู่สถานที่อันปลอดภัยได้ 

เวลาเดียวกันนี้ จิตของอีกฝ่ายจึงพุ่งเป้ามาที่ลั่วฉวน 

“ผู้ใดกล้าทำร้ายบุตรข้า!” 

เสียงรุนแรงตะโกนดังด้วยโทสะ จี้ห้อยคอหยกที่ข้อมือชายหนุ่ม ขณะนี้มันเผยแสงสุกสว่างสีขาวเงินพุ่งตรงลงจากฟากฟ้า ก่อนที่ลำแสงนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นร่างขนาดนับพันเมตร! 

โลกหล้าถึงกับต้องแปรเปลี่ยนสีสัน! 

สภาวะนี้เข้าปกคลุมทั้งนครจิ่วเหยาแทบจะในทันที บรรดาสามัญชนนับไม่ถ้วน รวมถึงผู้ฝึกตนทั้งหลายต่างมองตัวตนบนฟากฟ้า สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนอย่างมหาศาล 

“ออร่าชวนสะพรึงนัก ผู้อาวุโสท่านใดมาเยือนนครจิ่วเหยา?” 

“ข้ายามนี้อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณ แต่แล้วภายใต้แรงกดดันนี้ยังแทบไม่อาจหายใจออกได้! ตัวตนใดกันที่เผยตัวออกเช่นนี้!” 

“ไม่ต้องกังวลไป นครจิ่วเหยาคือนครหลวง ด้วยอาคมป้องกัน แม้เป็นปรมาจารย์ก็ไม่อาจทำลายได้…” 

เวลาเดียวกันนี้เอง 

ที่พระราชวังหลวงนครจิ่วเหยา 

คิ้วเรียวคมประดุจดาบขององค์จักรพรรดิพลันเลิกขึ้น ชายในชุดมังกรสีเหลืองพลันเบิกตากว้าง 

ผู้นี้คือจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเทียนชิง จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นามว่าจี้อู๋ฮุย! 

ระดับการฝึกฝนของอีกฝ่ายคือขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า! 

จี้อู๋ฮุยรับชมภาพลวงตาบนฟากฟ้าจากระยะไกลห่าง สีหน้าเผยออกซึ่งความเคร่งเครียด 

“ฉู่หยางผิง? ไฉนภาพฉายจิตวิญญาณชายผู้นั้นมาที่นี่?” 

“กราบทูลองค์เหนือหัว ทหารรักษาการณ์ได้รับรายงานว่าจ้าวตำหนักน้อยฉู่หยุนเฟยแห่งตำหนักจันทราสีเงินมาเยือนนครของเราขอรับ” 

ด้านหลังจี้อู๋ฮุย คือชายชราเส้นผมสีขาวเทาในชุดขาวที่กล่าวคำตอบ 

ชายชราผู้นี้ดูธรรมดา หาได้แปลกอันใดจากสามัญชนทั่วไปไม่ 

แต่หากพิจารณาให้ดี ดวงตานั้นจะเปรียบดังหลุมดำ มันแทบจะกลืนกินจิตใจผู้คนที่จ้องมองได้! 

“ฉู่หยุนเฟย? เหอะเหอะ เหมือนว่าฉู่หยางผิงจะพลาดจากสิ่งนั้นที่เทือกเขาจิ่วเหยาเสียแล้วกระมัง” รอยยิ้มอ่อนจางปรากฏที่ใบหน้าจี้อู๋ฮุย 

“เป็นเรื่องที่ดี เหมือนว่าฉู่หยุนเฟยไปยั่วยุผู้แข็งแกร่งจนดึงดูดความสนใจจากทางด้านเทือกเขาจิ่วเหยาได้ หากถูกสังหารเช่นนี้ พวกเราก็คงไม่อาจรองรับเรื่องราวได้ไหวขอรับ” 

“เหล่าไป่ รบกวนเจ้าแล้ว” 

เหล่าไป่พยักหน้ารับ ร่างนั้นพลันต้องเลือนหายในพริบตา! 

“คนแล้วคนเล่าที่ถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ก่อนก่อการอันใดช่างไม่รู้จักประมาณกำลังตนเอง…” 

ด้วยสายตามองทางนครหลวง น้ำเสียงเบาค่อยของจี้อู๋ฮุยได้กล่าวออก… 

“ภาพฉายจิตวิญญาณงั้นหรือ? ต้องกล่าวเลยว่าอวดโอ่ได้ดีนัก” 

ลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพลางมองร่างใหญ่โตที่ด้านบน 

ลั่วฉวนคือผู้อยู่ใกล้ภาพฉายจิตวิญญาณมากที่สุด และแรงกดดัน ณ ที่แห่งนี้ย่อมเกินผู้ใดคาดคิดได้ถึง 

แต่แล้วขณะนี้ลั่วฉวนกลับยังเผยสีหน้าอันสงบ ความกดดันใดหาได้มีไม่ 

นี่คือผลแห่งบัพไร้เทียมทานที่ระบบมอบให้ 

ลั่วฉวนเชื่อ ว่าตราบเท่าที่อยู่ภายในระยะสิบกิโลเมตรจากร้าน แม้เป็นนักบุญแห่งตำนานก็ไม่อาจต่อยเขาได้แม้สักหมัด 

ไร้เทียมทาน บางครั้งก็เป็นผู้เปล่าเปลี่ยวเดียวดาย… 

“ท่านพ่อ มันไม่เพียงแต่สังหารฝูปั๋ว แต่ยังคิดอยากให้ข้าตาย!” 

ที่อยู่ใกล้เคียง ฉู่หยุนเฟยชี้นิ้วใส่ลั่วฉวนพร้อมตะโกนเสียงดัง ทว่าไม่กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่กระทำไว้จนเกิดเรื่อง 

ฉู่หยางผิงที่เป็นภาพฉายขนาดใหญ่ยักษ์ก้มมองลง ลั่วฉวนที่อยู่ในร้านจึงไม่ต่างอะไรกับมดปลวก 

“ตาย!” 

น้ำเสียงเฉยชากล่าวออก มันเป็นการประกาศถึงโชคชะตาของลั่วฉวน 

ท้องฟ้ากลายเป็นดำมืดปกคลุม ดวงจันทราสุกสว่างเผยตัวออก 

ดวงจันทราสุกสว่างเบียดเบียนดวงตะวันที่อยู่ไกลห่าง จากนั้นสายลมรุนแรงพร้อมพัดพาทำลายล้างจึงกวาดต้อนออกมา!  

 

……

 ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ :https://bit.ly/32ciG6V

รีวิวผู้อ่าน