px

เรื่อง : คัมภีร์มัจจุราช
ตอนที่ 7 สูญสิ้นตระกูลกู๋


ตอนที่ 7 สูญสิ้นตระกูลกู๋

 

กู๋ชินเหวยบีบขาของตนอย่างแรงเพื่อขับไล่ความง่วงนอนออกไป เขาขี่ม้ามาเกือบทั้งคืน เขาเหนื่อยและเวียนหัวมากจนรู้ว่าการขี่ม้ามันยากลำบากแค่ไหน ในครั้งที่เขาย้ายมาจากเมืองหลวงของอาณาจักรเทพหลวง ณ ภาคกลาง เขาเองแทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทะเลทรายโกบีที่รายล้อมอยู่นี้รุนแรงและน่ากลัวเพียงใดเพราะเขาเอาแต่ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของทุกคนในครอบครัว

 

เขาหยุดม้าและมองถนนสองสายด้านหน้าของเขา เส้นหนึ่งมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ และอีกเส้นหนึ่งมุ่งหน้าไปยังทิศใต้ อาจารย์หยางเจิ้งบอกให้เขามุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกและไม่ได้บอกรายละเอียดถึงทิศเหนือและใต้เอาไว้เลย

 

โชคดีที่แถวนั้นมีผู้คนเดินทางอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครที่นี่พูดภาษาจีนกลางสำเนียงอาณาจักรเทพหลวงได้เลย

 

กู๋ชินเหวยรู้สึกกังวลเรื่องภาระกิจที่หยางเจิ้งมอบให้มาก ซึ่งเขาก็ไม่สามารถยืนเสียเวลาอยู่บนท้องถนนนี้ได้ เขาจึงเลือกขึ้นไปทางทิศเหนือ หลังจากขี่ม้าตรงไปไม่นานในที่สุดเขาก็ได้พบกับกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ หนึ่งในคนเลี้ยงสัตว์ผู้ที่พูดภาษาจีนกลางได้บอกกับกู๋ชินเหวยว่าเขามาผิดทาง  เมื่อได้ยินเด็กชายบอกว่ากำลังตามหา “นายพลหยาง” พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ

 

“ไม่มีนายพลหยางอยู่ในเมืองหลวงอาณาจักรชูอิน”

 

“ท่านอาจารย์หยางเจิ้งบอกให้ข้าไปที่นั่นเพราะนายพลหยางอยู่ที่นั่น” กู๋ชินเหวยค่อนข้างมั่นใจว่าคำพูดของหยางเจิ้งนั้นจริงแน่นอนแต่พวกคนเลี้ยงสัตว์อาจไม่รู้จักผู้สูงศักดิ์คนนั้นเอง

 

“ฮ่า! อาจารย์หยางเจิ้งก็คงโกหกหลอกลวงเจ้าหนะสิ ในเมืองหลวงอาณาจักรชูอินนี้ไม่มีนายพลผู้สูงศักดิ์อย่างที่เจ้าว่าหลอก ในเมืองมีแต่ทหารชั้นกลางธรรมดา ๆ เท่านั้น และถ้าหากเมืองของเรามีนายพลทำไมพวกเราต้องเลือกคนที่มาจากอาณาจักรเทพหลวงด้วยเล่า”

 

คนเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นหัวเราะและเดินจากไปทิ้งให้กู๋ชินเหวยยืนงงอยู่คนเดียว

 

กู๋ชินเหวยไม่ใช่คนโง่  เขาเป็นเพียงเด็กไร้เดียงสาที่ไม่เคยมีประสบการณ์ถูกหลอกมาก่อน ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาคือการถูกรังแกโดยพี่ชายคนโตทั้งสองคน นั่นแปลว่าเขามักจะเป็นเด็กที่เชื่อฟังผู้ใหญ่และทำทุกอย่างตามที่พ่อและอาจารย์ของเขาบอกให้ทำ ในขณะนั้นเขาจึงได้คิดทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดและพบว่าทุกอย่างเป็นเรื่องแปลกตั้งแต่ต้นจนจบ

 

ลางสังหรณ์แปลก ๆ ขึ้นในใจของเด็กน้อย

 

กู๋ชินเหวยหันกลับไปมองที่ถนนพร้อมกับทำหน้าโศกเศร้าเพราะเขารู้สึกตัวแล้วว่ากำลังถูกทอดทิ้ง เขาตระหนักแล้วว่าตนเองถูกทอดทิ้งจากครอบครัวและนั่นทำให้เขารู้สึกแย่ เขาสงสัยจริง ๆ ว่าถ้าหากพ่อและหยางเจิ้งเจอกับเขาอีกครั้งหนึ่งเขาจะอธิบายเหตุการณ์นี้ว่าอย่างไร

 

กู๋ชินหวยยืนรอพวกพี่สาวอละอาจารย์ของเขาจนถึงเที่ยงของอีกวันแต่เขากลับไม่พบใครเลย ขบวนพ่อข้าที่เดินทางมาจากทิศตะวันออกทุกคนทำท่าทางลุกลี้ลุกลนราวกับว่าเพิ่งถูกปล้น หนึ่งในนั้นตะโกนบอกเด็กชายที่ขี่ม้ามาด้วยตัวคนเดียวว่า

 

“หันกลับไป!”

 

กู๋ชินเหวยเมินเฉยต่อคำเตือนนั้นและสะสมความเครียดปั่นป่วนอยู่ในท้อง ม้าของเขาน้ำลายฟูมปากเพราะความเหนื่อยล้าแล้ว ทว่าเขาก็ใช้แส้ตีมันเพื่อให้วิ่งต่อไป

 

จากนั้นเขาขี่มาต่อเนื่องมาอีกครึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เขาก็เห็นหอกตั้งอยู่ข้างถนน มันมีวัตถุบางอย่างโบกสะบัดเหมือนธง

 

เขาเห็นหัวของชายคนหนึ่งปักอยู่ด้านบนปลายหอก ผมสีขาวนั้นโบกสะบัดเหมือนกับธง

 

เมื่อกู๋ชินเหวยเดินเข้าไปใกล้แล้วพบว่าหัวนั่นคือหัวของอาจารย์ของเขา หยางเจิ้ง… ดวงตาของเขาเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเหมือนไม่เชื่อว่าหยางเจิ้งจะตายได้

 

ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าชายหนึ่งคนด้วยการขยับตัวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าตอนนี้เขากลับถูกตัดหัวเสียบประจาน! เป็นไปได้ว่าคนที่ฆ่าเขาต้องการประกาศเกียรติศักดิ์ให้แก่ผู้ที่พบเห็นโดยปักหัวของหยางเจิ้งเอาไว้เช่นนี้

 

กู๋ชินเหวยสังเกตเห็นศพหลายศพนอนอยู่บนพื้นเช่นกัน

 

ส่วนร่างกายของหยางเจิ้งนอนตายโดยไม่มีแผลบาดเจ็บใด ๆ นักฆ่าผู้นั้นตัดหัวออกด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวซึ่งนั่นมันช่างน่าประทับใจ กู๋ชินเหวยไม่สามารถหยุดจินตนาการได้เลยว่านักฆ่ากังฟูที่ทรงพลังคนนี้จะเป็นอย่างไร

 

มีอีกสามศพนอนอยู่บนพื้น หนึ่งในนั้นคือสาวใช้ที่ชื่อชินแซ หน้าอกและใบหน้าของนางเต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อผ้าของนางเป็นสีแดงเพราะเลือดที่ไหล นางไม่มีทักษะในการต่อสู้อะไรเลย ทว่าว่าเมื่อมองจากบาดแผลแล้วนักฆ่าคงใช้ท่าไม้ตายอีกสองสามท่าเพื่อทรมานนาง

 

อีกหนึ่งศพคือหมิงเฉียงซึ่งอยู่ในชุดของนายน้อยตระกูลกู๋ ชินเหวย(กู๋ชินเหวย) สามารถวิเคราะว่าศพร่างนั้นคือหมิงเฉียงเพราะเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ซึ่งหัวของเขาก็หายไปเช่นเดียวกัน ทว่ามันไม่ได้อยู่บนปลายหอกหรือในบริเวณใกล้เคียง

 

ชินเหวยตกจากหลังม้าและคุกเข่าลงในทันที เขาไม่สามารถอาการดีขึ้นได้เลย และก็ไม่สามารถอ้วกออกมาได้เช่นกัน เพราะเขาไม่ได้กินอะไรเลยจึงอ้วกไม่ได้ เขาบังคับสายตาตนเองให้มองไปที่ร่างสุดท้ายเพราะมันแตกต่างจากทุกศพ

 

บางสิ่งทำให้กู๋ชินเหวยมั่นใจว่าศพที่สี่ที่นอนอยู่ไม่ใช่พี่สาวของตนนั่นก็คือ… ศพนั้นคือเด็กวัยรุ่นที่อายุพอ ๆ กันกับเขา เขามีแผลและฟกช้ำพอ ๆ กับชินแซ แต่เขาดูแปลกตามากเพราะชินเหวยไม่เคยพบเขามาก่อน

 

ชินเหวยกระโดดขึ้นหลังม้าและขี่ไปทางตะวันออกต่อไปเรื่อย ๆ  เขาอยากรู้ว่าพี่สาวของเขาอยู่ที่ไหนและอยากกลับไปที่บ้านเพราะคิดว่ากำลังมีบางอย่างเกิดขึ้น

 

เท่าที่เขารู้คือตระกูลกู๋นี้ไม่เคยมีศัตรูทั้งจากอาณาจักรเทพหลวงที่ภาคกลางและอาณาจักรชูอินที่ภาคตะวันตก

 

ในตอนค่ำเขาขี่ม้าจนถึงคฤหาสน์ตระกูลกู๋ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นมากกว่าครึ่งเช่าพื้นที่ของตระกูลกู๋ทำไร่ทำนาอยู่ ปกติแล้วในช่วงเวลานี้ควรจะมีฉากควันไฟคละคลุ้งออกมาจากห้องครัว ทว่าวันนี้ประตูทุกบานถูกปิดโดยไม่มีร่องรอยของควันแม้แต่น้อย

 

เมื่อมองขึ้นไปบนเนินเขาของคฤหาสน์ตระกูลกู๋ มันมีไฟลุกโชนและถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

 

เมื่อเดินมาถึงประตูเขาได้กระโดดลงจากหลังม้าพร้อมยืนนิ่ง เขารู้สึกงุนงงและมองไปที่ซากปรักหักพังอันมืดมิด ราวกับว่าเขาติดอยู่ในฝันร้าย… และเขาก็ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้เลยไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหนก็ตาม

 

บ้านของข้าเพิ่งจะหายไปหรือ? ทุกคนในบ้านตายหมดแล้วหรือ?

 

ชินเหวยก้าวขึ้นไปบนกระเบื้องและไม้ที่แตก ซึ่งมันยังคงอบอุ่นเนื่องจากการถูกไฟเผา เขาได้มองไปที่ห้องต่าง ๆ ของบ้านราวกัลว่าผนังยังคงอยู่ปกติ

 

มันคือการสังหารหมู่! ศพทุกศพถูกทิ้งไว้บ้านที่ถูกเผาจนแทบจำไม่ได้ ถึงอย่างนั้นชิรเหวยก็ยังคงจดจำคนเหล่านั้นได้จากตำแหน่งที่ศพถูกทิ้งไว้

 

ท่านพ่อนอนเคียงข้างอยู่กับท่านแม่ ทว่าหัวของทั้งคู่ถูกตัดขาด ชินเหวยต้องเดินผ่านอิฐและไม้ที่พังยับเยินเพื่อตามหาเศษกระดูกของพวกเขา กู๋หลุนปรมาจารย์แห่งวิถีกังฟูผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาของลูกชายมาโดยตลอด เขาจะไม่เคยสังเกตเห็นศัตรูได้อย่างไร?

 

พี่ชายทั้งสองก็นอนเป็นศพและถูกตัดหัวไปด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขานอนตายเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้แสดงฝีมือกังฟูที่ฝึกฝนกันมากว่าสิบปี

 

คนรับใช้ในคฤหาสน์กลายเป็นศพเต็มไปหมด ซึ่งพวกเขาไม่มีใครโดนตัดหัว ดูเหมือนว่านักฆ่าจะสนใจแต่นายตระกูลกู๋

 

ทว่าพี่สาวของเขายังคงหายตัวไป ไม่เจอศพ ในห้องนอนของนางมีเพียงศพสาวใช้ทั้งหมดสามคน ถึงแม้ร่างเหล่านั้นจะถูกไฟคอกไปหมดแล้วแต่ชินเหวยก็มั่นใจว่าศพทั้งหมดนั่นไม่ใช่พี่สาวของเขา!

 

 

……

 

 ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V

รีวิวผู้อ่าน