ตอนที่ 4: เก็บทารกเอาไว้
วันนี้อารมณ์ของฟางเถียนค่อนข้างดีเป็นพิเศษ เพราะว่าในที่สุดสวะที่ลูกชายคนที่สองทิ้งไว้ให้กับตระกูลก็ได้ถูกกำจัดออกจากบ้านไปจนหมดสิ้น การลงโทษในคราวนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
ความผ่อนคลายถูกปลดปล่อยออกมาผ่านสีหน้าที่ชื่นมื่น จะว่าไปแล้วเสียงจ้อยแจ้วน่ารำคาญตลอดสองสามวันมานี้ได้หายไปแล้ว ไม่มีอะไรเกะกะสายตา ไม่มีความรู้สึกปวดเอวปวดขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าผลกำไรนี้มันน่าเหลือเชื่อและเป็นที่น่าพึงพอใจยิ่ง !
นางรู้สึกว่ามันช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สามารถขับไล่คนเหล่านั้นออกไปได้เสียที
แม้ในค่ำคืนนั้นจะเต็มไปด้วยพายุหิมะและอากาศที่หนาวเย็นเช่นนั้น ฟางเถียนก็ไม่ได้สนใจเลยว่าเด็กทั้งสามจะจัดการกับชีวิตตนเองอย่างไร
ความมืดบอดในจิตใจของนางมีมากเสียจนยังแอบคิดให้เด็กพวกนั้นทั้งหมดตายตกไปเสีย เรื่องราวทุกสิ่งจะได้จบสิ้นเสียที
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ฟางเถียนได้ให้กำเนิดบุตรชาย 3 คนและบุตรสาว 1 คน การที่ยังมีชีวิตรายล้อมไปด้วยลูกหลานนับว่าเป็นพรสูงสุดของพระเจ้าที่แท้จริง
ทว่าฟางเถียนกลับไม่คิดเช่นนั้น
นั่นเป็นเพราะนางเกลียดชังฟางฉางเกิ่ง ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สองมาก
ขณะที่ฟางเถียนกำลังตั้งท้องฟางฉางเกิ่งบุตรชายคนที่สอง มีแม่หม้ายจากทางใต้ของหมู่บ้านซึ่งไม่ค่อยจะมีสัมพันธ์ที่ดีกับนางเท่าไหร่นักมาหาที่บ้านเนื่องจากว่านางท้อง ทั้งหมดนี้เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเด็กทารก แม้ฟางเถียนจะไม่ค่อยชอบหน้าของแม่หม้ายคนนั้น แต่นางก็ต้องยอมรับว่าครรภ์ของนางไม่ค่อยจะสู้ดี หมอบอกให้นางดูแลเด็กในท้องให้ดีและไม่ควรจะลุกจากเตียงบ่อย ๆ ฟางเถียนเบื่อหน่ายกับการอยู่บ้านเฉย ๆ แต่นางก็ยังลังเลที่จะทำตัวสนิทสนมกับแม่หม้ายคนนั้น นางคิดว่าแม่หม้ายคนนี้คงจะไม่ได้จะมากอบโกยผลประโยชน์อะไรจากนาง และการได้พูดคุยกับคนอื่นมันคงดีกว่าการนั่งเย็บปักถักร้อยอยู่บนเตียงทั้งวัน
วันที่อากาศค่อนข้างแจ่มใส ฟางเถียนรู้สึกว่าท้องของนางใหญ่และหนักมาจนทำให้การลุกจากเตียงเป็นเรื่องที่ยากเย็น นางเดินออกมาจนถึงลานบ้านและได้พบกับหญิงชราหลายคนกำลังจับกลุ่มเคี้ยวหมากกันอย่างเพลิดเพลิน คนเหล่านั้นไม่ได้ทำงานแต่กลับอยู่นินทาชาวบ้านไปวัน ๆ เท่านั้น บังเอิญฟางเถียนได้ยินที่พวกเขาพูดคุยกันว่าสามีของนางใช้ประโยชน์ในช่วงที่นางตั้งท้องไปผูกสัมพันธ์กับสาวแม่หม้ายท้ายหมู่บ้าน อีกทั้งเขายังวางแผนที่จะเอาแม่หม้ายคนนั้นเข้าบ้านอย่างถูกต้องอีกด้วย !
ฟางเถียนได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะหมดสติในทันที
ในฤดูหนาว ฟางเถียนที่กำลังท้องโตยืนคั่นกลางระหว่างสามีของตนกับแม่หม้ายคนนั้น ปากของนางด่าทอจนน้ำลายกระพือไปทั่วสารทิศ การก่นด่าของนางในคราวนี้ลามปามไปถึงผู้ให้กำเนิดและบรรพบุรุษของสาวหม้ายอย่างจัดจ้าน นอกจากนี้นางยังสาปแช่งให้แม่หม้ายผู้นั้นตายตกไปอย่างทรมานและชีวิตหลังความตายก็ไม่มีผู้ใดที่อยากจะจุดธูปขอขมา กลายเป็นผีสางที่อ้างว้างไปชั่วนิรันดร์
ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ยืนดูสถานการณ์อย่างสอดรู้สอดเห็น ทุกคนพากันชี้และเรียกให้บุคคลใกล้เคียงมารับชม แม่หม้ายสุดแสนอับอายและไม่สามารถเงยหน้ามองสภาพแวดล้อมได้เลย
ในที่สุดแม่หม้ายก็ทนต่อกระแสด่าทอไม่ไหว นางตะเบ็งเสียงออกมาจนสุดปอดด้วยความโกรธ “เจ้าคิดว่าเด็กที่อยู่ในท้องเป็นลูกของเจ้าคนเดียวงั้นหรือ ! ท่านพี่พูดไปแล้วว่าเมื่อเด็กคนนี้คลอดออกมา เขาจะเอาเด็กคนนี้มาให้ข้าเลี้ยง ! ”
ประโยคนี้ทำให้ฟางเถียนแทบจะเป็นลมอีกครั้ง นางคิดไม่ถึงเลยว่าลูกในท้องของนางยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก สามีตัวดีของนางก็ยกเขาให้เป็นลูกหญิงอื่นเพื่อประจบเอาใจนางเสียแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้หญิงหม้ายพยายามจะมาที่บ้านและหยิบสิ่งของติดไม้ติดมือมาด้วยเสมอ !
ฟางเถียนโกรธจนตัวสั่นเทา หายใจถี่จนจุกอก “ได้ ข้าจะยอมให้เจ้าเลี้ยงมัน ! ข้าจะคลอดมันออกมาเดี๋ยวนี้ ! ”
หลังจากหมดคำ มือของนางพลันฟาดลงที่หน้าท้องของตนอย่างหนักหน่วง
เหล่าบรรดาผู้ชมมากมายต่างพากันตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ตรงหน้า แม้พวกเขาจะชื่นชอบในการยุ่งเรื่องคนอื่น แต่ไม่มีใครชอบเหตุการณ์นองเลือด บุคคลใกล้เคียงตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขารีบเข้าหยุดความโกลาหลอย่างพัลวัน
แต่การเคลื่อนไหวของฟางเถียนนั้นค่อนข้างเร็วมาก บุคคลที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ทันแน่ มันไม่มีอะไรจะใกล้นางไปมากกว่าตัวนางอีกแล้ว
หลังจากนั้นนางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับหมดสติไป โลหิตไหลเป็นทางยาวออกมาจากหว่างขาของนาง
ผู้คนในหมู่บ้านที่เห็นภาพนั้นหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด ทั้งหมดรีบเรียกหมอตำแยที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านมาอย่างรวดเร็ว
แม้หญิงหม้ายคนนี้จะฉลาดแกมโกง แต่นางก็ไม่คิดที่จะฆ่าแกงอีกฝ่าย โลหิตที่ไหลออกมามากมายทำให้ดวงตาของนางเบิกกว้างและมันทำให้นางตกอยู่ในสภาวะฝันร้ายตลอดค่ำคืน เสียงพร่ำเพ้อของนางดังพร้อมกับมีไข้สูงตลอดเวลา “ลูก... ลูกของข้า ! ”
ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้าง ทำให้ฟางจงโยว่ ตัวการของเรื่องนี้รู้สึกหวาดกลัวต่อสถานการณ์อย่างหนัก
ฟางเถียนนอนอยู่บนเตียงอยู่ตลอดทั้งคืน ยังไม่มีเงาของเด็กทารกเลยสักคน หม้อที่เต็มไปด้วยเลือดถูกสาดทิ้งออกมาจากในตัวบ้านอย่างต่อเนื่อง
เสียงของฟางเถียนแหบพร่าเป็นสัญญาณบอกว่าสัญญาณชีวิตของนางอ่อนแอมาก
หมอตำแยเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับปาดเหงื่อบนใบหน้า สายตาพลันเหลือบมองที่ห้องข้าง ๆ ของห้องโถงใหญ่พร้อมกล่าว “ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีเลย แม่ของเด็กไม่ค่อยสู้ดีนัก อีกทั้งตำแหน่งของทารกนั้นยังไม่พร้อมจะคลอด วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองแม่และเด็กด้วยเถิด ข้าจะพยายามให้ดีที่สุดเช่นกัน แต่ถ้าหากต้องเลือกใครสักคน...”
“เขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?” ฟางจงโยว่ถามอย่างลังเลใจ
“แปดในสิบเป็นผู้ชาย”
วิญญาณชั่วร้ายในร่างกายของเขาพลันตื่นขึ้นมา เหงื่อเย็นเฉียบหลั่งออกมาทั่วร่างกายพร้อมกับกระซิบกับอีกฝ่าย “ปกป้องเด็กเอาไว้ หากถามนาง ข้าเชื่อว่าก็นางต้องเลือกเช่นนี้แน่นอน”
“อ้อ งั้นหรือ ! ” หมอตำแยส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมเดินกลับเข้าไป
ผู้คนส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเด็กมากเท่าแม่ของเด็ก อย่างไรแล้วเมื่อทารกหายไป ยังสามารถทำใหม่ได้ แต่ถ้าหากภรรยาตายจากไป การจะแต่งงานใหม่สำหรับครอบครัวยากจนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
โดยเฉพาะตอนนี้ฟางเถียนได้ให้กำเนิดบุตรชาย ซึ่งถ้าหากคนในหมู่บ้านได้พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ แปดในสิบล้วนแต่ต้องเลือกปกป้องภรรยาเอาไว้
ก่อนที่ผู้ช่วยหมอตำแยจะมาถึง เขาก็ได้ยืนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน มีการกล่าวว่าฟางจงโยว่มีสัมพันธ์กับแม่หม้ายท้ายหมู่บ้าน เด็กที่อยู่ในท้องของฟางเถียนจะถูกเลี้ยงโดยแม่หม้ายคนนั้นด้วยเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้แม่ของลูกตายเพื่อจะหลีกทางให้กับสาวหม้ายคนนั้น !
หมอตำแยมิใช่เด็กน้อยที่จะไม่เข้าใจเรื่องราว หญิงสาวมากมายในหมู่บ้านคลอดลูกโดยผ่านการช่วยเหลือของนางทั้งสิ้น นางไม่ได้เห็นเรื่องราวที่น่ารื่นรมย์สักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยพบเจอกับบุคคลที่น่ารังเกียจมากเช่นนี้มาก่อน !
หมอตำแยไม่อาจอดทนต่อสถานการณ์นี้ได้ นางแอบกระซิบกับฟางเถียนอย่างแผ่วเบา “หลานสาวข้า… เจ้าต้องอดทนให้มากกว่านี้ มิฉะนั้นสามีของเจ้าจะวิ่งออกไปหาผู้หญิงคนอื่น…”
ฟางเถียนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบ แต่นางได้ยินคำพูดนั้นอย่างชัดเจน มันกลับกลายเป็นพลังและความโกรธอย่างถึงที่สุด ความคับแค้นในจิตใจกลายเป็นพลังสนับสนุนเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
หมอตำแยเดินออกมาอีกครั้งอย่างมีความสุขพร้อมกล่าว “ฟางเถียนกำลังต่อสู้อย่างหนัก เด็กกำลังจะคลอดแล้ว ! ”
เมื่อฟางฉางเกิ่งถูกคลอดออกมา แม่หม้ายที่มีไข้สูงจัดได้ปิดตาลงและหลับใหลไปตลอดกาล
ฟางจงโยว่ได้ยินอย่างนั้นรู้สึกดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน เขาไม่สามารถอธิบายความเศร้าภายในใจของตนได้เลย เพียงแต่ต้องยอมรับความจริงเท่านั้น ในใจของเขาคิดถึงภาพที่ฟางเถียนรอดตายและกลับมายืนทุบตีเขาอย่างทารุน… เพียงแค่นั้นในใจก็เต็มไปด้วยความหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
ผ่านไปไม่นานนัก ฟางเถียนยกโทษให้กับฟางจงโยว่… แต่สำหรับฟางฉางเกิ่ง นางเกลียดลูกคนนี้นับตั้งแต่วินาทีที่เขาเกิดมา !
นางรู้สึกว่าฟางฉางเกิ่งเกิดมาเพื่อทำร้ายนาง เขามาอาศัยในท้องของนางและยังทำร้ายนางปางตาย
นางเกือบจะตายในวันที่เขากำลังจะเกิด !
ฟางเถียนรู้สึกเกลียดชังฟางฉางเกิ่งมากขึ้นทุกวัน อีกทั้งคิ้วของลูกคนนี้ยังไม่เหมือนกับนางแม้แต่น้อย มันค่อนไปทางแหลมเรียวละม้ายคล้ายแม่หม้ายคนนั้น แม้ทุกคนจะบอกว่าเขาคือลูกของนางอย่างแท้จริง แต่นางกลับรู้สึกไม่เชื่อ ! นับวันนางยิ่งรู้สึกว่านี่คือลูกของแม่หม้าย เขาเพียงยืมท้องของนางมาเกิดและฆ่านางให้ตาย จากนั้นจะเปิดทางให้แม่หม้ายเข้าสู่บ้านหลังนี้ได้อย่างสบายใจ !
ฟางฉางเกิ่งและฟางเถียนต่อสู้กันมานับตั้งแต่วันที่เขาเกิด ฟางจงโยว่อ่อนแอเกินกว่าจะต่อต้านอะไรได้ ไม่ว่าอย่างไรฟางฉางเกิ่งก็เป็นบุตรของเขาอยู่ดี ความลับนั้นมีราคามากมายสักเท่าไหร่... มันก็มากพอที่จะทำให้ฟางฉางเกิ่งถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ได้