หลังจากนั้นพวกอันธพาลก็วิ่งหนี วูชิน ไปซึ่งวูชินไม่มีเหตุผลที่จะตามไป..
"ขอบคุณครับ..."
แจมินโค้งขอบคุณ ถึงแม้คนนี้จะแปลกแต่เขาก็ได้ช่วยเเจมินไว้
"อ๊าา..ไม่เป็นไร...ขอถามหน่อยสิ"
แจมิน คิดว่าเขาคงจะถามคำถามเกี่ยวกับว่า”ทำไหมคุณถึงถูกตี” แต่นั้นคือคำถามสำหรับคนปกตินะน่ะ
"วันนี้วันที่เท่าไหร่เดือนอะไร"
"ห๊ะ....."
"ฉันถามว่าวันนี้ วันที่เท่าไหร่เดือนอะไร"
"อ๊ะ..วันนี้วันที่ 10พฤศจิกายน"
"ปีนี้ปีอะไร"
" ปี 2015 นะ"
"อะไรนะ"
วูจิน รู้สึกตกใจมาก เขาพูดไม่ออก เขาถูกเชิญไปโลกโน้นตั้งแต่ปี 2010
"อ๊า..เกิดอะไรขึ้นรึป่าว" 20 ปีที่เขาใช้เวลาที่อีกโลกนั้นเท่ากับ 5 ปีบนโลกที่เขาอยู่ "นี่อาจจะดีแหะ"
สำหรับเวลา 20ปีที่ผ่านมาถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงไม่ตามหาครอบครัวของเขาแล้วแต่นี่ผ่านมาแค่ 5 ปีเองอาจจะเป็นไปได้ว่าครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่เดิม ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายสำหรับเขานัก
เขามองไปที่กระจกรอบๆเขาและมองกลับไปที่แจมิน "เฮ้...นายว่าฉันอายุประมาณเท่าไหร่"
"อะไร" สถานการณ์นี้ค่อยข้างเข้าสำนวน 'ออกจากกระทะทองแดงเข้าสู่กองไฟ' ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาหนีจากพวกอันธพาลได้แต่กลับพบกับคนบ้าคนนี้
แจมิน คิดถึงสิ่งที่จะพูดแต่เขาก็ตัดสินใจที่จะพูดตามที่เขาเห็น
"ประมาณยี่สิบสอง"
' ร่างกายที่ฉันได้รับอายุยังน้อย ,ขนาดร่างกายยังเป็นเด็กได้แล้วทำไมเขาถึงเสียเวทย์มนต์ของเขาไปละ'
เขาค่อยๆแก้ปัญหานี้ไปทีละเปราะละกันเพราะตอนนี้มีเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาเร่งด่วนกว่า
เขาไม่ได้จากไป 20 แต่เขาจากไปเพียงแค่ 5 ปี
ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนที่สุดของเขาคือการค้นหาครอบครัวของเขา เขาไม่สามารถจำหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้านของเขาและแน่นอน เขาไม่สามารถจดจำหมายเลขโทรศัพท์ของครอบครัวของเขาได้แต่โชคดี เขาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมที่นี่มีข้อมูลของครอบครัวของเขาอยู่ซึ่งมันใช้สำหรับกลับบ้านได้
ถ้าพวกเขาไม่ได้ย้ายไปไหน เขาก็สามารถกลับได้บ้าน
ปัญหาคือ วิธีจะเขากลับบ้าน
ระยะทางขนาดนี้ไม่สามารถเดินได้ ระยะทางขนาดนี้เท่ากับนั่งรถไฟใต้ดินไป 7 สถานีในขณะที่ตาของวูชินส่อแววไม่ค่อยแน่ใจ
"ให้ฉันยืมเงินหน่อยสิ"
"อะไรนะ"
"ขอฉันยืมค่าเดินทางหน่อย"
แจมินรู้สึกเสียใจมากที่ไม่วิ่งออกไปกับพวกอันธพาลพวกนั้น เขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธวูชิน ถ้าเขาปฎิเสธ เขาอาจจะเจอรังแกอีกก็ได้
แจมิน เปิดกระเป๋าของเขาออกมา แล้วเอาเงินทั้งหมดของเขาให้วูชิน 7300 วอน
"ขอบคุณ ผมสัญญาว่าผมจะจ่ายคุณคืน"
"ไม่... นายไม่ต้องคืนหรอก"
"หืม นายเห็นฉันชอบขู่กรรโชกทรัพย์จากเด็กรึไง เหอะ..เดียวฉันจ่ายคืน "
วูชินค้นหาของในกระเป๋าของเขา ซึ่งเขาคิดว่าเขาได้ลืมบางสิ่งบางอย่าง
"โอ้..ใช่ เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือนี่หว่า งั้นนายเขียนหมายเลขโทรศัพท์มาบนกระดาษให้ที"
เเจมินทำตามคำบอกของ วูชิน และ เขาเอาสมุดโน๊ต จากกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาแล้วฉีกมุมบนของสมุดโน๊ตมาเขียนหมายเลขโทรศัพท์ของเขา...เขาคิดอยู่หลายรอบว่าควรเขียนหมายเลขโทรศัพท์ของเขา หรือถ้าเขาควรเขียนตัวเลขปลอม
' เอ๊ะ-เขาไม่สามารถบอกได้นิว่าจริงหรือปลอม '
แจมิน เขียนหมายเลขโทรศัพท์ปลอมลงไป เขาไม่ต้องการถูกเรียกหรือกรรโชกอีก เขาต้องไปจากที่นี่ก่อนที่คนๆนี้จะตามรังคานเขา
"โอเคร..เดียวพี่ชายคนนี้จะติดต่อคุณไปและคืนเงินให้นะ"
"โอเคร..โชคดีคับ"
แม้คนนี้จะไม่จ่ายเงินคืนให้เขา แจมินก็ต้องการที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ด และเขาไม่ต้องการเห็นวูชินอีกครั้ง เขาเลี้ยวซ้ายออกจากโรงเผาขยะ แล้วรีบเดินออกโรงเรียนไป
ถึงแม้ว่าเขาจะจากไปแค่ 5 ปีแล้ว แต่สำหรับโรงเรียนเเห่งนี้มันผ่านมา 20 ปีแล้ว
"เขาอายุ 24 ปี งั้นพ่อและแม่ควรจะมีอายุมากกว่า 50 ปีแล้วเวลานี้"
เมื่อเขาคิดถึงครอบครัว หัวใจของเขาก็สะเทือนใจอีกครั้ง เวลาที่เขาได้ทนอยู่ในนรก เขาปรารถนาว่าสักวันนึงเขาจะกลับมาหาครอบครัวของเขาอีกครั้ง
"เขาสงสัยว่า โซอา จะโตขึ้นขนาดไหนกันนะ"
เมื่อเขาเดินออกทางหลังโรงเรียน ทุกคนที่เขาพบ มักจะกระซิบลับหลังของเขา บางทีมันเป็นผลของการข้ามมิติ ของสวมใส่ของเขาดูเหมือนจะเป็นระเบียบแต่ร้องเท้าของเขาที่ใส่เป็นรองเท้าหนัง ซึ่งมันดูประหลาดสำหรับสายตาคนอื่น
"ชิ.."
เขารู้สึกอาย..แต่มันจะอายแค่ช่วงนี้เวลานี้เท่านั้นแหละ รอเขาเจอบ้านของเขาก่อนเถอะ
วูชินพยายามอย่างหนักที่จะพยายามไม่ได้ยินเสียงกระซิบที่เล็ดลอดออกมาจากคนที่เขาพบในสถานีรถไฟใต้ดิน
"เฮ้..ทำไมทหารถึงมาที่นี่ ไม่มีอุบัติเหตุไม่ใช่เหรอ"
"ชิ..นี่มันอะไรเนี้ย "
วูชินพูดพึมพำในขณะที่เดินบนทางเท้าอย่างรวดเร็ว
"ขอโทษครับ ผมขอถามคุณหน่อยได้ไหม"
หญิงสาวอายุเยอะเหมือนได้ยินเสียงน่ารำคานเธอจึงรีบเดินหายไปรวดเร็ว
อะไรกัน..มันเเปลกเหรอ วูชินพูดขึ้น
เขาหยุดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็น นักเรียนเดินมา
"ขอโทษคับ"
"อ๊า.ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับศาสนา"
วูชิน รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก แต่เขาก็พยายามอย่างหนักที่จะสงบใจ
"ฉันไม่ได้ถามคำถามเกี่ยวกับความเชื่อในศาสนาของคุณ..พวกทหารเขาทำอะไรที่ตรงนั้น,พวกเขามาฝึกเหรอ"
"แน่นอน..พวกทหารเฝ้าทางเข้าดันเจี้ยนไว้นะ..อ๊าฉันต้องไปแล้ว ได้เวลาเรียนพิเศษแล้ว"
นักเรียนหญิงรีบออกจากวูชินอย่างรวดเร็ว เธอลูบแขนของเธอแล้วบ่นขึ้นว่า
"เฮ้อ..น่าขยะแขยงจิงๆ"
เขาเดาว่าคนเรียกรถไฟใต้ดินว่าดันเจี้ยน เขาคิดว่า 5 ปีที่ผ่านมาเป็นเวลาสั้นๆแต่ตอนนี้คงจะไม่ใช่แล้ว
"มันคงเป็นคำแสลงที่ เด็กๆใช้เรียกกันแหละมั้ง"
"อ๊ะ..มีตรงนั้นไม่มีทหารนิ" เขาข้ามถนนมาและเดินลงบันไดทางเข้าของรถไฟใต้ดิน เขาเห็นเหล็กเส้นและประตูเหล็กที่เหมือนห้องนักโทษ
"หื้ม..อะไรนะ ทำไมพวกเขาปิดสถานที่นี้
ไม่มีใครอยู่ที่นี่สักคน พวกเขาได้ปิดสถานที่แห่งนี้ วูชิน มองข้ามเหล็กเส้นและเขาเห็นแสงมาจากอุโมงค์รถไฟใต้ดิน
ประตูเหล็กถูกล็อค ด้วยตัวล็อคแข็งแรงเขามองไปรอบ ๆ และเขาพยายามเปิดล็อค
คลิก...
"นี่คืออะไร...คนงานเขาหยุดกันเหรอ"
ถ้าสถานีถูกปิดลง ก็คงไม่มีโอกาสที่จะทำงานรถไฟใต้ดินแล้วละ
ในขณะนั้นวูชินเห็นไปอีกรอบ
"อ๊ะ... "นี่คืออะไร ?
BY.Mheezaa มาละสายดำน้ำเรื่องใหม่