เมื่อเย่โม่กำลังลากร่างทั้งสองข้างไปในป่าพร้อมกับค้นตัวพวกนั้น แต่ไม่พบอะไร มีเพียงแค่เงินประมาณ 1000 เหรียญกับบัตรประจำตัวเท่านั้น เย่โม่ไม่ต้องการมันเลย แต่ยังไงซะมีดพกนั้นดูคมมาก เย่โม่จึงหยิบเอาไปด้วย ถือซะว่าเป็นรางวัลของเขา
เมื่อใช้ทักษะบอลอัคคี เพียงไม่กี่ลูกเขาก็สามารถเผาทั้งสองคนนั้นได้ทันที แต่ก็ยังไม่สามารถเผาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เย่โม่ถอนหายใจทักษะบอลอัคคีของเขาต่ำเกินไป ถ้าเขาอยู่ในขั้นที่ 3 ลูกไฟหนึ่งดวงจะเพียงพอที่จะทำให้มันหายไปได้อย่างสมบูรณ์
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นระเบียบของฝ่ามือของเขา เขาทำหลุมขนาดใหญ่และเตะทั้งสองงไปในนั้น แ้วเเขาก็ใช้ฝ่ามือดันดินหรือสิ่งสกปรกมาฝั่งศพไว้อีกครั้ง ในครั้งนี้เขาได้เงินมาด้วยไม่กี่พันเหรียญซึ่งมันดูเหมือนกับเขาถูกว่าจ้าง
หลังจากที่เย่โม่จัดการโจรสองคนนี้แล้ว เขาก็ไม่ได้กลับไปที่เดิม และจะเดินตรงไปยังภูเขาทันที
"นาย รอก่อน..." ผู้หญิงคนนั้นรออยู่ที่ถนน แต่เนื่องจากเธอยังไม่เห็น
เย่โม่กลับมา เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปในป่าและพบว่าเย่โม่เดินเข้ไปไกล มากแล้วเธอแทบจะมองไม่เห็นหลังเขาแล้วถ้าเธอช้าอีกนิดละก็คงจะไม่เห็นเย่โม่อีกแล้ว
เย่โม่ ได้ยินเสียงตะโกนของหญิงสาวคนนั้นและหยุดทันที เมื่อเห็นเขาหยุด ผู้หญิงคนนั้นก็ตกใจไม่น้อย ในสายตาของเธอ เย่โม่ทิ้งเธอไปเพราะเขากลัวเธอ ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินเสียงของเธอเขาควรจะหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้กระนั้นเขาก็หยุดลง เธออยากจะเชื่อว่าเย่โมหยุดเดินเพราะเขากลัวเธอ แต่เธอรู้ว่าเย่โม่ไม่ได้กลัวเธอเลย
"นาย ไม่กลัวฉันหรอ?" ผู้หญิงคนนั้นเดินไปหาเย่โม่และถามออกมา เย่โม่กระชับกระเป๋าบนบ่าและยิ้มอย่างชัดเจนว่า "เธอจะฆ่าฉันหรอ?"
"ไม่ นายไม่ได้มายุ่งวายกับฉัน ฉันไม่ได้ชอบฆ่าคน" เธอส่ายหัวทันที
"โอ้ เธอไม่ได้จะฆ่าฉัน แล้วทำไมฉันต้องกลัวเธอละ?" เย่โม่ถามราวกับว่าทุกอย่างดูแปลกๆ สำหรับเขา เธอมองไปที่เย่โม่อีกครั้ง ก็สังเกตเห็นว่าเขาเป็นคนธรรมดาที่ดูดี ดูสะอาดและผิวขาว เขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยและดูเหมือนนักเรียน เขาน่าจะอายุน้อยกว่า 20 และไม่ได้ส่งสัญญาณอันตรายใดๆออกมาเลย เธอรอดพ้นจากความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน ซึ่งทำให้เธอหลงใหลในสัญชาติญาณแต่เย่โม่ไม่ได้แสดงใดๆออกมาเลยเขาเหมือนคนปกติ
"นายเป็นที่คนกล้าหาญมาก แต่ถ้านายไม่กลัวฉัน ทำไมนายถึงได้วิ่งขึ้นไปบนภูเขาละ?"
"ภูเขานี้เป็นบ้านของเธอหรอ? ฉันถึงเข้าไปข้างในไม่ได้น่ะ?"
.....
ผู้หญิงคนนี้ตกใจในคำพูดของเย่โม่ แม้ว่าคำพูดของเขาจะดูก้าวร้าวเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้โกรธอะไร แต่เธอยิ้มแล้วพูดออกมาว่า
"โอเคๆ นายพูดถูก มาทำความรู้จักกันเถอะ ฉันเหวินดง เหวินได้ยิน ดงฤดูหนาว"
"เย่โม่" เย่โม่เพียงแค่พูดชื่อของเขา เขาไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรกันแน่
"นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเรียกนายและอยากจะรู้จักนาย?" เหวินดงถาม อย่างไรก็ตามเธอไม่รอให้เย่โม่ตอบ เธอก็บอกออกมาเองว่า
"เพราะฉันชอบนายอยู่ไม่น้อย นายเห็นฉันไหม ฉันไม่ใช่คนธรรมดา ถ้านายต้องการเป็นเหมือนฉัน ฉันสามารถแนะนำนายได้นะ"
เย่โม่โบกมือและพูดว่า "ไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไร...ถ้าเธอไม่มีอะไรแล้วฉันไปละนะ"
"อย่ารีบร้อนสิ ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้ว่าคนที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกนี้แข็งแกร่งขนาดไหน ในกรณีนี้เราจะพูดกันภายหลัง ฉันมีธุรกิจที่ต้องทำในตอนนี้ นายสนใจที่จะไปกับฉันไหม แน่นอนว่ามีค่าตอบแทนมากกว่าการฝังขยะ 2 ตัวอีกนะ" หญิงสาวไม่สนใจเย่โม่ที่ปฏิเสธความปรารถนาดีของเธอและยังคงพูดออกมาอย่างช้าๆ
ค่าตอบแทน? เย่โม่คิดว่าการช่วยให้ผู้หญิงคนนี้ดูแลขยะ 2 ตัวทำให้เขาได้เงินหลายพันเหรียญ เนื่องจากเขาต้องการเงินมากในตอนนี้
ถ้าผู้หญิงคนนี้สามารถให้เขาได้มากกว่านี้ละก็คงไม่สำคัญหรอกถ้าเขาจะช่วยเธออีกสักหน่อย นอกจากนี้เขายังอยู่ในขั้นที่ 2 ของขั้นรวบรวมลมปราณ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะพยายามทำอะไรกับเขา ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อเขาเริ่มบ่มเพาะอีกครั้งเขาจะไม่มีเวลาหาเงินอีกแล้ว
"บอกฉันมาว่ามันคืออะไรและจ่ายเงินเท่าไหร่?" เย่โม่ต่องการรู้เรื่องเงินที่เขาจะได้รับมากที่สุด ถ้าเงินมากพอเขาจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเงินมากนัก
"ถ้านายเดินไปทางเหนือจากที่นี่ประมาณ 10 กิโลเมตร มันจะมีถนนที่ตรงไปยังจุดท่องเที่ยวในหุบเขาเซียงจาน จะมีโรงแรมขนาดเล็กที่จุดท่องเที่ยว ไปที่นั่นแล้วนายแค่ต้องช่วยฉันทำงานและมากับฉันเพื่อจัดการธุรกิจนิดหน่อยน่ะ”
"และไม่ต้องกังวล ไปกับฉันนายจะปลอดภัยแน่นอน ในตอนนั้นนาย
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ส่วนค่าจ้าง ฉันจะให้นาย 50,000 เหรียญดีไหม"
50k เงินนี้มันได้ง่ายเกินไป เย่โม่อยากทำงานนี้ทันทีเพราะว่าเขามี
รายได้เพียงไม่ถึงหมื่น หลังจากที่ขายยาเสน่ห์และรักษาโรคในโอกาสพิเศษต่างๆ ส่วนเรื่องเหวินดงอาจจะหลอกเขานั้น เขาก็ไม่กลัวอะไรเลยเพราะเขาไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถฆ่าเขาได้และแม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่าเขาก็ตาม ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้หากเขาต้องการไป
"ดี ฉันจะทำ แต่เราจะไม่ไกลเกินไปนะ ฉันยังต้องไปที่อื่น" เย่โม่พยักหน้าและตกลงกันโดยไม่คิดอะไรมาก เหวินดงพยักหน้าเมื่อเห็นความมั่นใจของเย่โม่ เธอกล่าวว่า "ไม่เลว นายตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วจริงๆ เป็นนิสัยของคนที่ทำงานใหญ่ได้ ฉันชอบมัน! สถานที่ที่ฉันกำลังจะไปทำข้อตกลงนี้อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง บางทีหลังจากจัดการเสร็จแล้ว ก็ไม่มีอะไรรบกวนนายต่อแล้วละ"
เมื่อเห็นว่าเย่โม่ไม่ได้พูดอะไรอีกแล้ว เหวินดงก็ไม่ได้พูดคุยอะไรต่อและเริ่มนำทาง ถึงแม้ที่นี่จะเป็นเทือกเขา แต่เหวินดงก็ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็วและดูเหมือนจะไม่ใช่ความเร็วที่แท้จริงของเธอ เพราะเธอกลัวว่า เย่โม่จะตามเธอไม่ทัน เธอเลยตั้งใจเดินทางช้าๆ อย่างไรก็ตามเธอค้นพบว่าความแข็งแกร่งของเย่โม่ไม่ธรรมดาเลย เขาไม่มีร่องรอยความเหนื่อยใดๆเลย ในการตามตัวเธอซึ่งทำให้เธอประหลาดใจ เย่โม่ไม่ได้มีลักษณะเหมือนคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้และเขามีมือขาวที่เรียวงาม เหวินดงอาจจะสงสัยด้วยซ้ำว่าเย่โม่เป็นคนแบบเดียวกันกับเธอ
การคาดการณ์ของเหวินดงถูกต้อง หลังจากที่พวกเขาเดินขึ้นไปบนภูเขาเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่าพวกเขาก็เห็นภูเขาที่อยู่ข้างหน้า ถนนสายนี้ได้รับความนิยมมากกว่าถนนที่พวกเขาออกไป อย่างน้อยพวกเขาสามารถมองเห็นรถบ่อยขึ้น เหวินดงและเย่โม่ไม่ได้รอนานนักก่อนที่จะมีรถบัสมาจอดมุ่งหน้าไปทางหุบเขาเซียงจาน
หุบเขาเซียงจาน เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ชื่อเสียงของมันก็เท่ากับห้าเทือกเขายูย อย่างไรก็ตามเนื่องจากนักท่องเที่ยวจะหายไปในแต่ละปีและมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนถนนบนภูเขาที่สูงความนิยมของมันจึงน้อยกว่าเทือกเขายูยและเทือกเขาอื่นๆ
ทันทีที่เย่โม่มาถึงหุบเขาเซียงซาน เขารู้สึกทันทีว่าจิตวิญญาณที่นี่ยิ่งใหญ่กว่าในหนิงไห่ ถ้าสถานที่นี้ไม่ใกล้กับหนิงไห่ เขาก็อยากจะอยู่ที่นี่และบ่มเพาะที่นี่เลย ป้ายจอดรถหยุดมีที่จอดรถตรงทางขึ้นภูเขา
เหวินดง บอกให้เขารอที่นี่ในขณะที่เธอไปเอารถมา เย่โม่ไม่ได้รอนานเท่าไรก่อนที่เหวินดงจะขับรถมา
"ไปกันเถอะ ขึ้นรถมา" เหวินดงหยุดรถก่อนที่เย่โม่และพูดลวกๆ แม้ว่าจิตวิญญาณของเย่โม่สามารถรับรู้ได้ไกล 5 หรือ 6 เมตร แต่ก็เพียงพอที่จะตรวจสอบรถคันนี้ได้ เขาตรวจสอบด้วยความรู้สึกของจิตวิญญาณของเขาและไม่พบอะไรผิดปกติ ยกเว้นว่ามีกล่องอยู่ที่เบอะหลัง
เย่โม่เปิดประตูและนั่งลงที่เบาะหลัง ในขณะที่ใช่จิตวิญญาณของเขาตรวจสอบกล่อง หนึ่งในนั้นมีปืนไรเฟิลจู่โจมอยู่ด้านใน เย่โม่ไม่ได้มีความเข้าใจเรื่องปืนมากนักและไม่รู้ว่าปืนรุ่นนี้เป็นอย่างไร แต่มันดูคล้าย AK series ส่วนกล่องอื่นๆ มีแผ่นข้อมูลและแบบแปลกๆ
เหวินดงมีความสุขมากกับเย่โม่ที่นั่งอยู่ด้านหลังโดยไม่มีคำถามอะไร อย่างไรก็ตามเธอก็สงสัยท่าทีของเย่โม่ เพราะเขาเป็นคนที่กล้าหาญหรือถ้าเขาไม่รูู้จักโลกมากพอ ถ้ามันเป็นว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์พอแล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาทำบางอย่างที่น่าสงสัยขึ้นมา? ความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้เหวินดงพูดออกมาว่า "เย่โม่ เมื่อเราเข้าไปด้านในถ้ามีคนจ้องมองเราที่ด้านข้าง นายไม่จำเป็นต้องกังวล นายเพียงแค่ต้องฟังคำแนะนำของฉัน และให้ฟังพวกเขาในบ้างกรณีเท่านั้นเอง"
"ฉันรู้" เย่โม่คิดว่าคงไม่มีอะไรมันก็แค่กล่องแบบจำลองและแผ่นกองข้อมูล เหวินดงรู้สึกสงบหมายความว่าไม่มีอันตรายใดๆ นอกจากนี้ เธอคิดว่าคงไม่เป็นไรแล้ว หลังจากที่ได้ยิน เย่โม่ พูดแบบนี้เธอก็โล่งใจ