เมื่อหนิงฉิงซู ออกจากห้องเก็บของและไม่เห็นชูเหว่ย เธอรู้ว่าชูเหว่ยรู้สึกแย่กับเธออีกทั้งยังโกรธเธออีกด้วย "นี้ฉันเเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีงั้นหรอ?" หนิงฉิงซูถามตัวเองแต่หาคำตอบไม่ได้
เธอนอนไม่หลับและเมื่อเธอลุกขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ชูเหว่ยไปทำงานแล้ว ฉิงซูรีบเก็บสัมภาระไว้ก่อนที่จะจ้องที่หม้อที่มุมห้องคิดถึงตัวเอง เย่โม่มักจะใช้หม้อที่ปรุงอาหารสมุนไพรบางอย่าง เขาใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อหลอกลวงผู้คนที่ถนนบูชิ่งหรอ? จากนั้นเธอก็วางสายตาลงบนที่ถุงสีดำ เธอรู้ว่ากระเป๋ามีหน้าอกเล็กๆ ของเย่โม่อยู่ข้างใน ทุกอย่างที่เขาใช้ในการขายยาปลอม เมื่อหนิงฉิงซูยกกระเป๋าขึ้นมาก็มีเสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้น เธอเปิดประตูและเห็นว่ามันเป็นลีมู่เหม่ยที่มา
ลีมู่เหม่ยสำรวจบ้านและไม่พบเย่โม่ ดังนั้นเธอจึงถาม "เย่โม่อยู่ไหนละ?"
"เขาออกไปเมื่อวานและยังไม่ได้กลับมาเลย" หนิงฉิงซูตอบออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"โอ้ ฉันเอาบัตรATMมาด้วยแต่ไม่รู้ว่าเขาต้องการรึเปล่า เรายังให้เขามีสทธิ์ใช้เง่นใช่ไหม? เพราะเราใช้เขามานานแล้ว พ่อแม่ของเธอกำลังมาหาเธอที่รัฐยู่ พวกเขาจะไม่มาหาเธอที่นี้ดังนั้นเราต้องไปที่รัฐยู่แทน เพื่อเจอพวกเขา" ลีมู่เหม่ยพูดออกมาอย่างไม่เป็นทางการนัก
หนิงฉิงซูส่ายหัวและพูดว่า "ไม่ต้องจ่ายเงินให้เขาหรอก ฉันให้เขาไป 500,000 เหรียญแล้ว ฉันคิดว่าเพียงแค่นั้นก็น่าจะพอแล้วละ"
"เธอไปเอา 500,000 เหรียญมาจากไหน?" ลีมู่เหม่ยมองหนิงฉิงซูด้วยความประหลาดใจและถาม
"ก็เมื่อตอนที่เราออกมาจากปักกิ่งไง!" หนิงฉิงซูตอบ
"หือ บัตรนั้นไม่มีประโยชน์เลย มันกดไม่ได้แล้วพอเราออกมาจากปักกิ่ง ฉัรเพิ่งมารู้ทีหลังแล้วลืมบอกเธอไปเลย" ลีมู่เหม่ยมองหนิงฉิงซูอย่างหมดหนทาง หนิงฉิงซูงงอยู่นานก่อนที่จะพึมพำออกมา "บัตรไร้ประโยชน์? งั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันใช้เงินของเขาหรอ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงขี้เหนียวแบบนั้น…."
"ฉิงซูเธอพูดถึงอะไร?" ลีมู่เหม่ยเห็นหนิงฉิงซูดูท่าทางกำลังอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองและเสียงของเธอไม่ดังมากนัก ดังนั้นเธอจึงรีบพูดออกมา "ฉัน..." หนิง ฉิงซูเหมือนคิดอะไรบางอย่างและเดินไปทางอื่นทันที เธอหยิบกระเป๋าของ เย่โม่ออกมา และหยิบของเล็กๆ น้อยๆ ออกมาพร้อมกับเปิดออกอย่างรวดเร็ว
มีขวดยา 7-8 ขวด เข็มเงินและบัตรประจำตัวประชาชน บัตรที่เธอให้เขาอยู่ในนั่น นอกจากนี้ยังมีภาพวาดแปลกๆ ที่ดูมีเสน่ห์บางอย่างอยู่ด้วย สุดท้ายก็มีจดหมายที่ไม่มีชื่อผู้รับ
หนิงฉิงซูหยิบบัตรขึ้นขณะที่มือของเธอเริ่มสั่น ถ้ามีหลุมในดินที่เธอสามารถคลานเข้าไปได้เธอจะทำอย่างนั้นโดยไม่ลังเลเลย เธอคิดเสมอว่าเย่โม่กำลังใช้เงินของเธอ ขณะที่เธอได้ใช้เงิน 2,000 เหรียญจากเขาโดยไม่ลังเล เธอกินและอาศัยอยู่ที่นี่โดยไม่มีภาระหนักใจ วันนี้เธอรู้แล้วว่าเธอมันน่าขันแค่ไหน เธอใช้เงินของเย่โม่อยู่เสมอ แต่ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลยละ?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในวันนั้นเขาลังเลที่จะไปกินอาหารหรู เมื่อเขาจ่ายเงินเขาก็ออกแค่ 5-10 และสิ่งที่ไร้สาระมากคือการที่เธอตั้งใจสั่งไวน์ 2,000 เหรียญ นอกจากนี้ยังมีใบเสร็จรับเงินที่ด้านล่างของในนี้อีก หนิงฉิงซูหยิบใบเสร็จรับเงินที่พับเก็บไว้และรู้สึกว่าหัวของเธอหมุนติ้วใบหน้าของเธอซีดลงและเกือบจะล้มลงกับพื้น
"ฉิงซูเกิดอะไรขึ้น?" ลีมู่เหม่ยรีบเข้าไปประคองหนิงฉิงซูขึ้นทันที หนิงฉิงซูหยิบเอาใบเสร็จรับเงินและยัดเก็บอย่างรีบร้อน จากนั้นเธอก็หันมาพูดกับลีมู่เหม่ยว่า "มู่เหม่ย เธอรอฉันอยู่ข้างนอกได้ไหม?" หนิงฉิงซูวิ่งเข้าไปในห้องและปิดประตูทันที
"ฉิงซูมีอะไรผิดพลาดรึเปล่า? เธอร้องไห้หรอ " ลีมู่เหม่ยยืนอยู่หน้าประตูที่ปิดสนิทและตกตะลึง เธอเห็นน้ำตาของหนิงฉิงซูอย่างชัดเจน ในความทรงจำของเธอ หนิงฉิงซูไม่เคยร้องไห้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากแค่ไหนก็ตาม เธอไม่เคยร้องไห้เลย...ไม่เคย...
อย่างไรก็ตามวันนี้ หนิงฉิงซูร้องไห้ มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
อะไกันรที่ทำให้เธอเศร้าขนาดนั้น?
หนิงฉิงซูนั่งอยู่ข้างเตียงและเปิดซองของเย่โม่อีกครั้ง ภาพของกองเลือดมากมายปรากฎขึ้นมาบนหน้าเธอ ล่าสุดคือเมื่อสองสามวัน ก่อนที่เพื่อนร่วมห้องของเธอจะมาถึง
เย่โม่ขายเลือด แต่เธอขอเงิน 2,000 เหรียญและยัดเหยียดให้เขากินอาหารมื้อละ 3,000 เหรียญที่ Glamorous Cuisine อาหารมื้อหนึ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะมากและเขาเอาเลือดไปขายทุกครั้ง แต่เธอกลบหัวเราะเขาที่ว่าเขาขี้เหนียวและแม้กระทั่งบ่นว่าอาหารที่เขาเตรียมไว้แย่มาก
ทำไมเขาไม่เคยบ่นเลย? นั้นเพราะเขาหยิ่งหรือว่าไม่อยากพูดกันแน่? เขาเป็นคนแบบไหน? คนแบบไหนที่จะทำแบบนี้? เขาเป็นคนดีมากจริงๆ แล้วทำไมเขาถึงโดนไล่ออกจากตระกูลเย่ละ?
ถ้าสิ่งที่กว้างที่สุดในโลกนี้คือมหาสมุทร ตอนนี้ในสายตาของหนิงฉิงซู หัวใจของเย่โม่นั้นกว้างใหญ่กว่ามหาสมุทรเสียอีก แต่ในสายตาของเขาตอนนี้เธอกลายเป็นคนแบบไหนไปแล้ว? ใจร้าย? ไม่แยแส? ไม่มีเหตุผล?
น้ำตาของหนิงฉิงซูร่วงลงมาอย่างรวดเร็วในใบเสร็จรับเงินพร้อมกับคำพูดที่เริ่มขาดหาย ราวกับว่าเธอกำลังจะหลั่งน้ำตาเธอตลอด 22 ปีออกมา อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถหยุดความเสียใจ ความสำนึกผิดและความเศร้าจากเงินให้ออกจากหัวใจของเธอได้
"มาดูนี้ส สูตรอาหารที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ! มันสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด ปวดหัวเป็นไข้ อาการบาดเจ็บภายนอกและภายใน สายตาสั้น..คุณนึกไม่ถึงหรอก แต่ไม่มีอะไรที่ฉันรักษาไม่ได้!" เสียงโปรโมเตอร์ของเย่โม่ดูเหมือนจะยังคงอยู่ที่หูของเธอ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ มันน่าขันมากทั้งๆที่เธอมีเค้กทองคำอยู่ในมือ แต่เธอกลับเลือกที่จะทิ้งมัน!
ไร้สาระ? เสียงของเขาฟังไร้สาระในตอนนั้น แต่ตอนนี้เธอรู้สึกแย่มาก บางทีเค้กทองคำในมือของเธอในเวลานั้น อาจซื้อมาโดยใช้เงินที่เย่โม่ขายเลือด อย่างไรก็ตามเธอถือเค้กในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้อง เธอหัวเราะที่ความอับอายและความไม่รู้ของเขา
ไม่รู้? เมื่อเย่โม่จ่ายเงินหลังจากอาหารมื้อค่ำนั้น เธอรู้สึกอับอายที่เย่โม่ ออกแค่ 5-10 แต่ในขณะนี้หนิงฉิงซูรู้สึกเกลียดตัวเองมาก
‘ตึง...ตึง….’ เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของลีมู่เหม่ย แม้กระนั้นหนิงฉิงซูก็ยังไม่ได้ยินอะไร เธอได้ยินเฉพาะคำพูดของเย่โม่ที่สะท้อนอยู่ในใจของเธอว่า "ไม่ อาหารมันแพงเกินไป"
"...เราใช้ไป 1,000 เหรียญที่ร้านนั้น..." นั่นคือคำตอบของเธอในเวลานั้น เพียง 1,000 เหรียญเท่านั้น แต่เย่โม่ต้องไปที่โรงพยาบาลกี่ครั้งกัน? เขาเป็นแค่นักเรียนเท่านั้น นอกเหนือจากการขายเลือดที่โรงพยาบาลแล้วเขาสามารถหาเงินมาจากที่ไหนได้บ้าง?
ในจิตใต้สำนึกของหนิงฉิงซู 2,000 เหรียญ ที่เย่โม่ให้เธอ ตอนนี้มีเหลือเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญเท่านั้น หนิงฉิงซูคิดเสมอว่าเงินนั้นสกปรก นี้เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเงินในมือของเธอ ด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดในใจ
เขานอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ในสนามหลังบ้านและบนพื้น เนื่องจากไม่มีเงินไปนอนที่อื่น ทำไมชูเหว่ยถึงคิดว่าเป็นเพราะเย่โม่พยายามที่จะประหยัดเงินละ แต่เธอกลับทำแบบเขาไม่ได้?
ฉันขอโทษจริงๆ เย่โม่...