ในช่วงนี้หยุนปิงไม่ได้เข้ามหาลัยเลย คืนนั้นเธอจำได้ว่าหลังจากเธอออกมาจากมหาลัย เธออยากจะไปซื้อของสักหน่อย ในระหว่างทางเธอก็ได้พบกับเพื่อนสมัยเรียน ซึ่งเขาก็ได้ซื้อเครื่องดื่มมา 2 ขวดแล้วให้เธอกินขวดนึง แม้ว่าเธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขามากนัก แต่เธอก็เกรงใจเขามากจนไม่กล้าปฏิเสธ และยังช่วยเขาเปิดขวดอีกด้วย พอเธอดื่มได้สักพักเธอก็พูดอะไรสักอย่างก่อนที่จะออกไป แต่แล้วเธอก็รู้สึกเวียนหัว หยุนปิงไม่ใช่คนไร้เดียงสาแต่อย่างใด เนื่องจากว่าเธอได้ทำงานเป็นข้าราชการมาแล้วหลายปี แต่สถานการณ์แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี เธอรู้ทันทีเลยว่ามันเกิดจากเครื่องดื่มขวดนี้ที่เพื่อนสมัยเรียนเอามาให้เธอดื่ม หยุนปิงอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่เธอก็รู้สึกว่ากำลังหน้ามืดและตะโกนออกมาไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอต่อจากนั้น แต่ทำไมเธอถึงตื่นมาพบกับเย่โม่ได้ล่ะ? หรือว่าเย่โม่จะร่วมมือกับเพื่อนสมัยเรียนของเธอ?
ความคิดแรกของหยุนปิงคือ ไปแจ้งตำรวจให้จับเย่โม่ เธอตรวจร่างกายตัวเองแล้ว พบว่าเธอไม่ได้ถูกข่มขืนและก็ไม่มีของอะไรหายไปจากบ้านเธอด้วย สิ่งที่เห็นชัดเลยก็คือประตูพัง เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเย่โม่ที่ยังเด็กอยู่ เธอถอนหายใจแล้วปล่อยเขาไป ยังไงซะเธอก็เกียจชังเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอไม่รู้ว่าเย่โม่ไปรู้จักกับเพื่อนสมัยเรียนของเธอได้ยังไง อย่างไรก็ตาม ตอนที่หยุนปิงได้ตรวจสอบอย่างละเอียด เธอพบกับร่องรอยการต่อสู้และกล้องตัวนึงที่แตกเป็นเสี่ยงๆ พวกเขาสู้กันโดยที่ไม่สนใจเลยหรอ? พอเธอคิดได้แบบนี้ หยุนปิงก็รู้สึกโกรธและอายในเวลาเดียวกัน เธอตัดสินใจว่าจะไปมหาลัยเพื่อไปถามเย่โม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ข่าวที่เธอได้รู้ในวันต่อมา มันทำให้เธอตัดสินใจไม่ไปถามเยโม่
นั้นเพราะว่าในวันต่อมาเธอได้เห็นข่าวของชาย 2 คนถูกแก้ผ้าและโดนทุบตีจนกลายเป็นคนปัญญาอ่อน ซึ่งถูกทิ้งไว้ในสี่แยก แม้ว่ามันจะเป็นแค่ตัวหนังสือ แต่หยุนปิงก็ยังรู้สึกแปลกๆกับสิ่งนี้ และแล้วหยุนปิงก็ได้ไปค้นหาข่าวในอินเตอร์เน็ตและเธอก็พบเว็บๆ หนึ่งที่มีข่าวชาย 2 คนถูกแก้ผ้านั่นก็คือเจิงเหวินเชียว และเพื่อนสมัยเรียนที่เป็นคนวางยาเธอเอง หยุนปิงก็นึกถึงเย่โม่ทันที เธอคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือของเย่โม่ ยังไงซะ หยุนปิงก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่เพื่อนสมัยเรียนคนนี้ถูกทุบตีจนปัญญาอ่อน เธอไม่แน่ใจว่าเย่โม่เป็นคนทำเรื่องนี้รึเปล่า แต่ถ้าหากเขาทำ เธอก็จะไม่ไปเปิดโปงเขาแน่นอน แต่เย่โมก็ใช้ประโยชน์จากการที่เธอโดนวางยาอยู่ดี ซึ่งมันทำให้เธอเกียจเขา
สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าทำไมเย่โม่ถึงไม่ทำอะไรกับเธอ เธอรู้อยู่แล้วว่าเย่โม่ทำเรื่องบนเตียงไม่ได้ แต่ว่าทำไมเย่โม่ถึงไปอยู่ในห้องเธอได้ล่ะ แล้วเย่โม่จะไปทุบตีเพื่อนสมัยเรียนของเธอจนกลายเป็นคนปัญญาอ่อนได้ไง? เธอก็ไม่คิดถึงมันอีกต่อไป แล้วปล่อยวางมันไป
หลังจากวันนั้น หยุนปิงก็ใช้เวลาไปครึ่งเดือนถึงจะกลับมาทำงานที่มหาลัยได้ เธอไม่คิดว่าหลังจากเธอกลับมาทำงานที่มหาลัย คนแรกที่เธอจะได้พบก็คือเย่โม่
เย่โม่ที่พึ่งจะบ่มเพาะเสร็จ ก็พร้อมจะไปหาซือชุย ซึ่งเป็นตอนที่หยุนปิงเดินเข้ามาในมหาลัยพอดี เมื่อเห็นหยุนปิง เขาก็ไม่สามรถหยุดตัวเองไม่ให้คิดถึงคืนนั้นได้ มันคือคืนที่หยุนปิงเปลือยล่อนจ้อนและเขายังจำหน้าอกอันแสนยั่วยวนของเธอได้ดี
เมื่อเห็นเย่โม่ เธอก็รู้สึกโกรธขึ้นทันทีราวกับคนโดนต้ม และพบว่าเย่โม่ยังกำลังจ้องเธออยู่ มันยิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้น พอนึกไปถึงเรื่องที่เธอถูกหมอนี่เห็นร่างอันเปลือยเปฃ่าของเธอ มันทำให้เธอโกรธมาก
“เย่โม่ มานี่เดี๋ยวนี้” แม้น้ำเสียงของหยุนปิงจะดูสงบ แต่ความโกรธที่ซ่อนอยู่ภายในน้ำเสียงก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้ เย่โม่ไม่คิดว่าคืนนั้นหยุนปิงจะเห็นเขา เขาก็เลยเดินไปข้างหน้าเธออย่างใจเย็นแล้วพูดว่า “ อาจารย์หยุน มีอะไรรึเปล่าครับ?”
หยุนปิงที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ก็พาเขาเดินออกมาห่างจากมหาลัย หลังจากเดินมาได้สักพักเย่โม่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง หรือว่าคืนนั้นเธอจะเห็นเขา? เป็นไปไม่ได้หรอก หยุนปิงไม่รู้สึกตัวสักหน่อย อีกอย่างเขาก็สวมหน้ากาก เธอจะรู้ว่าเป็นเขาได้ไง?
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ หยุนปิงก็ถามเย่โม่ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “ดูดีมากไหมล่ะ?”
“อะไรหรอที่ดูดี? ผมว่าวิวตรงนี้ก็ปกตินะ?” จู่ๆ เย่โม่ก็รู้สึกไม่ดี เลยรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
ทันใดนั้น หยุนปิงก็ยกมือขึ้นตบใส่หน้าเย่โม่โดยไม่มีการเตือนใดๆ ถ้าหากว่าเย่โม่ไม่ได้ช่วยหยุนปิงไว้ เธอคงจะไม่ได้มาตบเขาอยู่ตรงนี้หรอก
เย่โม่จับข้อมือของหยุนปิง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อาจารย์หยุน ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูด ผมจะได้ไป ถ้าคุณกล้าจะตบผมอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน ผมจะทำให้แม่น้ำของมหาลัยหนิงไห่กลายเป็นที่อาบน้ำของคุณแน่” หลังจากที่เขาตอบสนองต่อการกระทำของเธอ เย่โม่ก็หันหน้าเดินออกไป
“เย่โม่ แกมันไอ้คนไร้ยางอาย!” พอเห็นว่าเย่โม่หันหน้าเดินออกไปอย่างไม่ลังเล หยุนปิงก็ด่าออกมา มันต่างจากนิสัยเย็นชาตามปกติของเธออย่างสิ้นเชิง เย่โม่ไม่ได้สนใจเธอมากนักเพราะเดี๋ยวสักพักก็จะไม่ได้เจอเธออีก แม้ว่าหยุนปิงจะถูกเรียกว่ายัยปิงเลือดเย็น มันก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะร้องไห้พลางคิดถึงสิ่งที่เย่โม่ทำกับเธอ หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็เช็ดน้ำตาแล้วเดินจากไป
หลังจากหยุนปิงเดินออกไป ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมาไม่ไกลมากนัก เธอจ้องมองไปที่หยุนปิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในขณะที่พึมพำกับตัวเองว่า “ฉันไม่คิดว่าเย่โม่จะทำเรื่องไร้ยางอายกับอาจารย์ได้ขนาดนี้เลย เขานี่มันช่างโสโครกเข้ากระดูกดำเลยจริงๆ”
เย่โม่นั้นโกรธมากจนไม่มีอารมณ์เข้าชั้นเรียนไปตามหาซือชุย เขาก็เลยออกไปจากมหาลัยแทน เขาไม่ควรจะไปช่วยหยุนปิงเลยจริงๆ เขาอุตส่าห์ช่วยเธอ แต่เธอกับตอบแทนเขาแบบนี้เนี้ยนะ
…….
“เย่โม่ นายกลับมาสักที” เย่โม่เปิดประตูเข้าไปในสวน ซึ่งก็ได้พบกับหนิงฉิงซูที่เดินตรงมาราวกับนกน้อยโผเข้ามากอดเขา เย่โม่ได้เงยหน้าขึ้น หญิงสาวคนหนึ่งที่ทั้งสูงและหุ่นดีซึ่งอยู่ทางด้านหลังของหนิงฉิงซู เธอนั้นมีผมยาวสลวยและอายุพอๆ กับหนิงฉิงซู รวมไปถึงดวงตาของเธอสดใสเป็นอย่างมาก ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังคุยเรื่องของเย่โม่ อีกทั้งท่าทางของเธอก็ดูฉลาดและเป็นผู้ใหญ่อีกด้วย
“เย่โม่ ให้ฉันแนะนำเพื่อนของฉันนะ เธอคือเพื่อนร่วมชั้นตอนสมัยเรียน จั่วเหล่ย เธอมาหนิงไห่เพื่อมาพบนาย จั่วเหล่ยนี่คือสามีฉันเอง เย่โม่จ๊ะ” หนิงฉิงซูแนะนำอย่างยินดี
มีเพียงหนิงฉิงซูที่รู้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเธออยากให้ทุกๆ คนเข้าใจว่าเธอเป็นภรรยาของเย่โม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอก็ไม่อยากจะพบปะพูดคุยกับคนอื่นหรอก จั่วเหล่ยนั้นเป็นนักข่าว แน่นอนว่าหนิงฉิงซูรู้ถึงเป้าหมายของเธอ
“ไง สวัสดี คุณจั่ว” เย่โม่ยื่นมือของตัวเองเข้าไปจับมือกับจั่วเหล่ย
“สวัสดี คุณเย่ นายเรียกฉันว่าจั่วเหล่ยแล้วกัน ฉันก็จะเรียกนายว่าเย่โม่” รอยยิ้มของจั่วเหล่ยนั้นเป็นมืออาชีพมาก จั่วเหล่ยรู้สึกแปลกๆ เธอได้ยินเรื่องของเย่โม่มาแล้ว เธอก็คิดเหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละว่าการแต่งงานนี้ถูกจัดขึ้นก็เพื่อหลบเลี่ยงตระกูลซง นอกจากนี้พอได้เห็นที่อยู่อาศัยของพวกเขาเพิ่มเข้ามาอีกเธอก็เข้าใจ แต่ตอนนี้เธอก็ได้เห็นท่าทางสุขุมของเย่โม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเริ่มสงสัยการตัดสินใจของตัวเอง
“ฉิงซู ตอนที่เพื่อนจะเธอมา เธอควรจะโทรบอกฉันบ้างสิ อ่อใช่จั่วเหล่ย คุณยังไม่ได้กินอะไรใช่มั้ย ไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วกัน จั่วเหล่ย ฉันขอโทษเธอด้วยนะ ที่นี่มันค่อนข้างโทรมไปหน่อย ฉิงซูก็อยู่กับฉัน เธอค่อนข้างลำบากน่ะ แต่ก็แค่ชั่วคราว ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ปล่อยให้เธอลำบากไปมากกว่านี้อีกแล้วละ” เย่โม่ไม่อยากเสียเวลากับเพื่อนสมัยเรียนของหนิงฉิงซู ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี เขาแค่อยากจะกินข้าวแล้วไล่ผู้หญิงคนนี้ออกๆ ไปซะ เหตุผลที่เธอมาที่นี่ก็เพราะเธอต้องการจะมาล้วงเอาความลับเรื่องการแต่งงานระหว่างพวกเขา