px

เรื่อง : บุรุษที่ถูกทิ้ง
บทที่ 5 เช่าบ้าน


“คุณทั้งสองออกไปเถอะ ฉันไม่ขายของๆฉันให้คุณตั้งแต่ไอ้คนที่แต่งตัวประหลาดนี้ทำให้ฉันโกธร” เย่โม่ชี้ไปที่หวังเผิ่งและกล่าวกับฉูจิงเหวิน

 

ฉูจิงเหวินได้รับความทุกข์ใจจากสภาพของแม่เธอฉะนั้นเธอจึงมีสภาพจิตใจที่เหนื่อยมากๆ เธอเสียความหวังไปแล้วสำหรับโรงพยาบาล เธอได้ยินจากใครบางคนว่าแม่ของเธออาจถูกผีสิงและตราบเท่าที่เธอซื้อสิ่งประดิษฐ์ที่ขับไล่วิญญาณได้ มันก็สามารถขับวิญญาณออกและอาจทำให้แม่ของเธอตื่นขึ้นมา เธอซื้อสิ่งประดิษฐ์จำนวนมาก แต่แม่ของเธอยังไม่ได้มีอาการเล็กน้อยของสัญญาณที่จะตื่นขึ้นมา ตอนนี้มีคนบอกว่ายันต์ของเขาจะทำให้แม่ของเธอตื่นขึ้นมาจะให้เธอปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร?

 

แม้ว่าคนนี้กำลังหลอกเธออยู่ แต่มันก็เป็นเพียงแค่หลายหมื่นเหรียญ จริงๆแล้วจำนวนนี้มันไม่ค่อยมากนักสำหรับตระกลูฉูของเธอ ตราบเท่าที่มีเศษของความหวังเธอจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าในลึกๆของหัวใจเธอรู้ว่าคำพูดของคนๆนี้อาจเป็นของปลอมถึง 99% แต่เธอยังคงต้องการที่จะลองไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

 

ได้ยินเย่โม่พูดแบบนั้น เธอจะไม่กังวลได้อย่างไร? เธอรีบพูดกับเย่โม่ทันทีว่า “ขอโทษค่ะคุณเจ้าของร้าน ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับคนๆนี้” หลังจากที่เธอพูดจบประโยค ฉูจิงเหวินถลึงตาไปที่หวังเผิ่งและกล่าวว่า “คุณหวัง คุณมีอิสระที่จะออกไปและกรุณาหยุดตามฉันได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะโทรหาตำรวจ!”

 

เมื่อได้ยินถ้อยคำที่ฉูจิงเหวินกล่าวออกมา หวังเผิ่งลอบมองไปที่เย่โม่ด้วยความมืดมน เขาสาบานด้วยความเจ็บแสบที่เขาได้รับนี้ว่า ถ้าเจอกับเย่โม่ครั้งต่อไปมันจะต้องเผชิญกับทำนองแห่งหลอกลวงของตัวมันเองแน่นอน เมื่อเขากลับมาที่นี่เขาจะเรียกคนมาทำลายแขนขาของชายผู้นี้ซะ

 

แต่เนื่องจากฉูจิงเหวินกล่าวไว้แล้ว เขาก็คงไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป เขาหันไปทางออกและเดินออกไป เย่โม่มองเห็นดวงตาของหวังเผิ่งเขารู้ทันทีว่ามันต้องการอะไร อย่างไรก็ตามเขาจะทำธุระกิจถึงแค่ช่วงสองสามวันนี้ และทันทีที่เสร็จเขาจะจากไป เพื่อจะได้มีเวลากับสิ่งอื่นๆมากขึ้นดังนั้นเขาจึงไม่กลัวหวังเผิ่งเลยแม้แต่น้อย

 

“ฉันต้องการยันต์ชำระจิตวิญญาณพวกนี้ทั้งหมด พวกมันราคาเท่าไหร่?” เมื่อเห็นหวังเผิ่งได้จากไปแล้ว ฉูจิงเหวินถามออกมาด้วยความหวัง

 

เย่โม่จับไปที่ยันต์ชำระจิตวิญญาณทั้งสองและกล่าวว่า “ฉันทำงานด้วยหัวใจสำหรับสิ่งนี้ ดังนั้นแน่นอนมันมีอะไรไม่มากมายนักโดยเฉพาะสองชิ้นนี้ แต่คุณต้องการอันดีๆแค่อันเดียวเท่านั้นเพื่อเอาไปให้คนๆหนึ่ง คุณสามารถเก็บไว้ในขวดหยก และในสถานการณ์ปกติคุณจะสามารถใช้งานมันได้เหมือนเดิมแม้ผ่านไป 10 ปี มันมีราคาทั้งหมด 30,000 เหรียญสำหรับสองชิ้นนี้”

 

ในขณะที่เขาพูด เย่โม่หยิบยันต์ชำระจิตวิญญาณทั้งสองและให้กับฉูจิงเหวิน แล้วแสดงอันที่ใกล้เคียงกับระดับ 1 ให้เธอดู

 

ฉูจิงเหวินรับยันต์ทั้งสองมา เธอให้เช็คราคา 50,000 เหรียญกลับไป ด้วยว่าเย่โม่ไม่ใช่คนที่ชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่น เขาจึงหยิบยันต์ป้องกันอื่นๆ และยันต์ลูกไฟมอบมันให้กับฉูจิงเหวิน เขาพูดว่า “เนื่องจากคุณให้เกินมา 20,000 ฉันจะให้ทั้งสองชิ้นนี้กับคุณเช่นกัน”

 

“อันนี้เป็นยันต์สำหรับป้องกัน เมื่อคุณกลับไป ใส่มันลงกระเป๋าเล็กๆและสวมมันไว้ที่ร่างกายของคุณ ส่วนอีกอันคือลูกไฟเอาไว้สำหรับป้องกันตัวเอง ถ้าเจอคนที่พยายามทำร้ายคุณ เพียงแค่โยนมันและพูดว่า ’ปรากฎ’ ”

 

เมื่อเห็นว่าเย่โม่ไม่ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากเธอ ขณะนั้นเธอรู้สึกมีความหวังมากขึ้นหรับยันต์ทั้งสองและเย่โม่ดูไม่เหมือนคนชอบโกงแต่อย่างใด หลังจากได้ยินคำพูดของเย่โม่ เธอรีบถาม “คุณเจ้าของร้านและฉันจะใช้ยันต์ชำระจิตวิญญาณได้ยังไง?”

 

เย่โม่หยิบเช็คและพูดว่า “เหมือนกับชิ้นอื่นๆ เพียงแค่โยนยันต์ไปที่ผู้ป่วยและพูดว่า’ปรากฎ’ ”

 

 

 

“อืมม คุณแซ่อะไร และคุณจะไปเจอแม่กับฉันได้ไหม? ฉันจะเพิ่มเงินให้มากกว่าในเช็คนั้นเป็นสองเท่า” พูดถึงยันต์ชำระจิตวิญญาณ จิงเหวินรู้สึกว่าจิตใจที่ร้อนรุมของเธอเมื่อกี้ดูเหมือนจะค่อยๆสงบลง ยิ่งไปกว่านั้น ที่กระดาษของยันต์นี้น้ำหนักช่างเบาบาง มันทำให้เธอมั่นใจเย่โม่มากขึ้น และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เธอคิดถึงการชวนเขา

 

แต่เห็นได้ชัดว่า เย่โม่คงจะไม่ไปกับเธอฉูจิงเหวิน เขาก็โบกมือให้เธอ “ฉันไม่จำเป็นต้องไป ยันต์ชิ้นนี้มันช่วยคนได้แน่นอน!” เมื่อพวกเธอเห็นว่าเย่โม่ไม่ต้องการที่จะไปกับพวกเธอ ฉูจิงเหวินและหญิงที่เรียกว่าเซี่ยวหยี่จึงแค่สามารถนำยันต์สองชิ้นนี้กลับไปทดลองด้วยตนเองเท่านั้น

 

เมื่อหญิงสาวทั้งสองได้จากไปเรียบร้อย เย่โม่หันมาห่อสัมภาระของเขาเพื่อจะไปเอาเงินสดออกจากธนาคาร เขาต้องการเงินในตอนนี้

 

…….

 

“น้องจิง คนนั้นสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่และมันทำให้เราไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้ คำพูดที่หวังเผิ่งพูดออกมาก็ดูมีเหตุผล ฉันคิดว่าเขาอาจจะเป็นพวกหลอกลวง” แม้ว่าเธอคิดอย่างเปิดเผยว่าเย่โม่เป็นพวกหลอกลวง แต่เซี่ยวหยี่ก็แสดงออกมาด้วยความนิ่งที่สง่างาม

 

ฉูจิงเหวินถอนหายใจ เธอก็คิดว่าเย่โม่เป็นพวกหลอกลวงเหมือนกัน แต่ถึงแม้จะรู้สึกแบบนั้น เธอก็ยังคงพยายามจะไม่รับรู้มันอยู่ดี แม้เธอรู้ว่าเธอจะถูกโกง เธอก็ยังต้องการที่จะลองมัน

 

เมื่อเห็นฉูจิงเหวินถอนหายใจและปราศจากคำพูดใดๆ เซี่ยวหยี่ซึ่งเป็นผู้คุ้มกันของเธอ ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดเธอไม่มากก็น้อย ใบหน้าเธอเศร้าลง แต่เธอก็ไม่ได้พูดใดๆเพิ่มขึ้นอีก

 

สิ่งแรกที่เย่โม่ทำหลังจากได้เงิน 50,000 เหรียญก็คือการหาสถานที่ที่จะอยู่เพราะต้องการสมุนไพรบางอย่างเพื่อที่จะทำเซรั่มบางตัว และมันก็ไม่สะดวกสำหรับเขาในมหาลัย มันคงจะดียิ่งถ้าเขาเช่าบ้านข้างนอกอยู่ แม้ว่าเขาจะได้เห็นเพื่อนร่วมหอพักของเขาเพียงครั้งเดียวภายในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ก็ตาม สิ่งที่เขาจะทำมันเป็นความลับระดับสูง และเขาไม่ต้องการเปิดเผยมันเช่นนั้น

 

ง่ายมากที่จะหาสถานที่เช่าในหนิงไห่ตราบเท่าที่มีเงินเพียงพอ แต่เขาไม่สามารถหาสถานที่ที่จะทำให้เขาพอใจได้เลย นี่เป็นเพราะมันไม่ตรงต่อความต้องการของเขา ไม่เพียงแต่ต้องมีสภาพและความเป็นอยู่ที่ดีพร้อม แต่ยังเป็นสถานที่ที่เขาสามารถฝึกศิลปะการต่อสู้ได้

 

ตอนนี้มันยากมากสำหรับการบ่มเพาะในขณะนี้ และเขาก็ไม่อยากจะลืมศิลปะการต่อสู้ของเขาจากชีวิตในอดีตด้วย เขาต้องการความมั่นใจสำหรับการป้องกันตัวเอง

 

เขตหนิงตู้และมหาวิทยาลัยหนิงไห่ที่เย่โม่ไปเรียน บังเอิญอยู่ทางเหนือและใต้ตามลำดับ อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งหมดจะเป็นเมืองเดียวกัน และระยะทางระหว่างทางนั้นมีมากกว่า 30 กิโลเมตร เมื่อเย่โม่เดินทางถึงหนิงตู้มันก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว

 

มีเหตุผลสองอย่างที่ทำให้เขาต้องหาที่อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัย อย่างแรกเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้คนในมหาลัยรู้ความลับของเขา และอย่างที่สองก็คือเขาอยากจะวิ่งไปเรียนในอนาคต เพื่อที่จะฝึกร่างกายของเขา

 

เมื่อเย่โม่เริ่มยอมแพ้สำหรับการมองหาบ้านเช่าสำหรับคืนนี้ ที่ลานเล็กๆกลับมีร่องรอยของจิตวิญญาณลมปราณอันเบาบางปรากฎขึ้นต่อหน้าเขา และสิ่งที่ทำให้เย่โม่คาดไม่ถึงก็คือมีป้ายเล็กๆเขียนไว้ว่า ”ให้เช่า” ในลานแห่งนี้

 

ก่อนที่จะเข้าไปในบ้าน เย่โม่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะเช่าสถานที่แห่งนี้ให้ได้ เพราะจิตวิญญาณลมปราณนี่ค่อนข้างดี

 

“คุณกำลังมองหาใคร?” เมื่อประตูที่ถูกเคาะโดยเย่โม่เปิดออก ผู้หญิงคนหนึ่งในวัย 50 สิบออกมาและมองตรวจสอบเขา ในขณะเดียวกันเย่โม่ลืมที่จะตอบป้าคนนี้ เพราะเขาเห็นว่ามันมีหญ้าจิตสีเงินอยู่ที่นี่ ไม่แปลกที่วิญญาณลมปราณมีการล่องลอยออกมา เขารู้สึกแปลกใจที่เห็นสมุนไพรนี้ที่นี่ อย่างไรก็ตามมีเพียงแค่ก้านเดียวของสมุนไพรตัวนี้ซึ่งมันน้อยเกินไป หญ้าจิตสีเงินเป็นส่วนผสมหลักในการทำยาพลังลมปราณ มันมาอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร?

 

 

 

เย่โม่ระงับความตื่นเต้นในใจเขาและเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนึงที่มองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนเขาจะรีบพูดว่า “ป้า ฉันเห็นว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับให้เช่า และฉันต้องการเช่ามัน” ได้ยินคำพูดของเย่โม่ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าเย่โม่มาเพื่ออะไร เจ้านี้ต้องการที่จะเช่าบ้าน ดังนั้นเธอจึงอนุญาตให้เย่โม่เข้ามา

 

หลังจากสนทนากับเธอสุดท้ายแล้วเย่โม่จึงเข้าใจแล้วว่าที่แห่งนี้เป็นอย่างไร บ้านหลังนี้มีสองห้องทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น เจ้าของบ้านไม่ให้เช่าห้องนั่งเล่นและห้องที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกถูกเช่าโดยคนอื่นแล้ว ในขณะที่ห้องด้านทิศตะวันออกเป็นที่ซึ่งเจ้าของบ้านเคยอาศัยอยู่แต่เดิม แต่ว่าเจ้าของบ้านตอนนี้กำลังเดินทางไปยังเขตหนิงเบ่ซึ่งมีลูกชายของเจ้าของบ้านอาศัยอยู่

 

แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกอัศจรรย์ใจ คือการที่เธอตั้งค่าเช่า 1 100เหรียญต่อเดือน แต่เจ้าหนุ่มที่ดูไม่มั่งคั่งอะไรไม่แม้แต่จะพูดอะไร และเขาจ่ายเงินค่าเช่ารายปีให้ทันที

รีวิวผู้อ่าน