px

เรื่อง : บุรุษที่ถูกทิ้ง
บทที่ 2 ตระกลูหนิงต้องการถอนหมั้น


เย่โม่มองไปที่ผู้หญิงด้านหน้าของเขาอย่างอัศจรรย์ เธอผมสั้นและแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยสวย แต่เขาค่อนข้างคุ้นเคยใบหน้าของเธอ แต่เขาไม่สามารถจำเธอได้ ความทรงจำจากเย่โม่คนก่อนเริ่มเลือนลางหลังจากที่ตัวเขาเข้ามาอยู่อยู่ในร่างนี้ที่ชั้นเรียน แต่เขามีความทรงจำเกี่ยวกับอดีตชาติค่อนข้างชัดเจน

 

“ฮืมม… เย่โม่ฉันให้นายยืมเงินไปค่อนข้างมาก แต่นายกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉัน นายมันน่ารำคาญจริงๆ!! ” เธอพองแก้มขึ้น

 

เย่โม่จู่ๆก็จำบางอย่างได้ขึ้นมา เธอคนนี้ชื่อหวังยิ๋ง คนในตระกลูหวังจากเมืองหลวง เธอเป็นคนที่เข้มแข็งคล้ายผู้ชาย เธอพูดกับคนอื่นและไม่หวงเนื้อหวงตัวมากนัก เธอเป็นคนดี และเช่นเดียวกับเย่โม่เธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาลัยหนิงไห่

 

เย่โม่มาที่มาเมืองหลวงครั้งแรกได้รับการตอนรับที่ไม่ได้ดีนัก และเขาก็ไม่ค่อยรู้จักใครนักหลังจากที่ถูกขับไล่จากตระกลูเย่มา เหตุผลเดียวที่เขาคุ้นเคยกับเธอก็เพราะหวังยิ๋งและน้องสาวของเขาเย่หลิ่งเป็นเพื่อนรวมชั้นกัน พวกเธอมักจะมาเล่นที่บ้านบ่อยๆ

 

อย่างไรก็ตามเย่โม่ที่ถูกขับไล่จากตระกลูเย่ จากเดิมมีหลายคนที่รู้จักเย่โม่แต่คนเหล่านี้ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขา แต่ทว่าหวังยิ๋งก็ยังสดใสเหมือนเดิมและทำเป็นไม่รู้อะไร เธอไม่ได้แสร้งทำเป็นว่าไม่รู้จักเขา กลับกันเธอให้เขายืมเงินเมื่อเขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต

 

“อืมม…หวังยิ๋งฉันขอโทษ ฉันเพียงแค่ตาลายนิดหน่อยและฉันก็ไม่ได้ลืมเธอ” เย่โม่กล่าว เขาคิดถึงความเป็นจริงตอนนี้เขาไม่มีเงินที่จะซื้อกิน บางทีเขาควรจะถามเธอเรื่องนี้?

 

ในขณะที่เย่โม่คิดถึงวิธีการที่จะยืมเงิน หวังยิ๋งกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน “เย่โม่นายรู้ไหมว่าใครมีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองหลวง? ไม่สิฉันพูดผิด...ไม่ใช่มีชื่อเสียงแต่น่าหัวเราะมากที่สุดตังหาก”

 

หวังยิ๋งเหมือนจะไม่สนใจที่คำพูดเธออาจทำร้ายความรู้สึกของเย่โม่ เธอยังพูดต่อไปอย่างมีความสุข

 

เธอไม่คาดหวังให้เย่โม่ตอบ เธอยิ้มอย่างมีเลศนัย... “ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตระกลูหนิงไปเยือนตระกลูเย่เพื่อยกเลิกงานหมั้น ลุงของนายได้บอกนายรึยัง? ”

 

เย่โม่พูดด้วยความนิ่งเฉย “ฉันเย่โม่ และฉันก็ไม่มีลุง”

“โอ้...ใช่ฉันขอโทษ ฉันลืมไปว่านายไม่ได้อยู่ตระกลูเย่อีกแล้ว ไม่เลวๆ… อ้ะฉันหมายถึงนายจะไม่มีวันกลับไปที่ตระกลูเย่อีกแล้วสินะ สำหรับงานแต่งฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังนาย ฉันได้ยินมาว่าเขาอยู่มหาวิทยาลัยหนิงไห่ ถ้านายต้องการคุยกับเขานายสามารถทำได้ที่หนิงไห่”

 

“ตระกลูหนิงกำลังโกธรมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน… นี่เย่โม่ ตระกลูหนิงได้มาหานายบ้างรึเปล่า? ฉันได้รู้มาอีกว่าตระกลู ’ซง’ ส่งคนไปที่ตระกลูหนิงเพื่อที่จะขอ หนิงฉิงซู หมั้นกับ ซงซาวเหวิ่น ฮี่ๆ แต่นายไม่สามารถจิตนาการได้เลยว่าคู่หมั้นของนายพูดว่าอะไร” เมื่อพูดถึงตรงนี้หวังยิ๋งมองไปที่เย่โม่อย่างพอใจ เธอต้องการเห็นปฏิกิริยาของเย่โม่

 

เย่โม่ส่ายหัวอย่างช้าๆ ด้วยสัจจะธรรมเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับหนิงฉิงซู แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้และยังเป็นคู่หมั้นของเขา เขาไม่เหมือนเย่โม่คนก่อนและไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับตระกลูเย่อีกด้วย หนิงฉิงซูจะพูดอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว และเธอยังแต่งงานกับใครก็ได้ตามที่เธอต้องการ เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย

 

ถึงแม้ว่าเธอจะงดงามขนาดไหนก็ตาม แต่เธอจะมาสู้กับหัวหน้าของเขาได้หรอ? ก่อนหน้านี้EQของเขาต่ำเกินไป หัวหน้าดีกับเขาและมักกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเขา แต่หลังจากพ้นจากความตายมา ถ้าเขายังไม่เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของหัวหน้าลั่วหญิงของเขาอีก เขาสมควรตายไปอีกสักครั้ง! แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าลั่วหญิงได้เกิดใหม่เหมือนกับเขาหรือเปล่า

 

(จาก EQ แปลว่า ความฉลาดทางอารมณ์)

 

 เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เย่โม่รู้สึกกังวลใจ… เมื่อมองดูเย่โม่ หวังยิ๋งคิดว่าเขากำลังไตร่ตรองและกำลังลังเลที่จะปล่อยหนิงฉิงซู หรือไม่ก็คิดเรื่องที่เขาถูกไล่ออกจากตระกูลมา... เธอพูดเสริม “เย่โม่ แม้ว่าเธอจะงดงามแค่ไหน แต่เธอก็ยังมาจากตระกลูหนิง แต่นายไม่ได้เป็นนายน้อยตระกลูเย่อีกแล้ว เพราะฉะนั้น…”

 

แน่นอนว่าเย่โม่เข้าใจว่าหวังยิ๋งต้องการที่จะสื่ออะไร เย่โม่ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “หนิงฉิงซู? อืมม… ฉันลืมเกี่ยวกับเธอไปแล้วละ” เขาพูดความจริง เขาไม่สามารถจำเกี่ยวกับหนิงฉิงซูได้ทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาอาจต้องพูดให้หวังยิ๋งเชื่อเขามากขึ้น

 

 หวังยิ๋งกรอกตา แต่เธอก็ยังพูดต่อไป “ถ้านายพูดแบบนี้มันจะกระทบกับหนิงฉิงซูมากที่สุดนะ นายรู้ไหมเกี่ยวกับคำถามที่ว่าใครน่าหัวเราะมากที่สุดในเมืองหลวง? มันเป็นเธอ…”



 

เย่โม่ตกใจ มันเป็นไปได้ด้วยหรือที่เธอจะถูกหัวเราะ เขาเป็นคนที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ถูกไล่ออกจากตระกลู ถ้าตระกลูหนิงยกเลิกงานหมั้นนั้นจะถูกต้องที่สุด เขาอยู่คนเดียวได้ แต่จะให้เขาไปขอมือเธอแต่งงานงั้นหรือ?

 

หวังยิ๋งไม่รอให้เย่โม่พูดแทรก “เมื่อตระกลูซงขอเธอหมั้น เธอประกาศกับทุกคนว่า ‘ฉันเป็นผู้หญิงของเย่โม่และฉันจะไม่แต่งงานกับคนอื่นอีก เว้นแต่ว่า…’ หลังจากที่เธอพูด ‘เว้นแต่ว่า’ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ฉันไม่รู้เธอว่าเธอต้องการอะไร แต่หลังจากเธอพูดเช่นนั้นออกมา พ่อของเธอโกรธก็มากจริงๆ และก็ขังเธอเอาไว้ในที่สุด แต่ฉันก็ไม่รู้ว่านี้เป็นความจริงหรือหลอกลวงกันแน่

 

“มันเป็นเพราะเธอพูดแบบนั้น ทุกคนในเมืองหลวงจึงหัวเราะเธอ แม้ว่าทุกคนรู้ว่าเธอจะใช่นายเป็นข้ออ้างในการปฎิเสธข้อเสนอ แต่นายรู้ไม่ว่าทุกคนพูดยังไง? พวกเขาเหล่านั้นบอกว่าเป็นเพราะเธอนั้นยังไม่เคยลิ้มรสผู้ชายคนไหน เธอจึงไม่รู้ว่าการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของนายมันเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเมื่อเธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อไหร่…”

 

 

 

“อ้ะ…ฉันขอโทษที่พูดถึงนายไม่ดี แต่พวกเขาทุกคนพูดมาแบบนี้” ความเป็นจริงหวังยิ๋งรู้ตัวดีว่าที่พูดก็หมายถึงคนตรงหน้า ใจจริงๆของเธอต้องการถอดกางเกงของเขาออกเพื่อตรวจสอบสิ่งต่างๆ

 

ในทางกลับกันเย่โม่คิดว่าหวังยื๋งนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ เธอพูดแบบถั่วๆและไม่คิดถึงผลกระทบของคำพูดเธอ โชคดีที่ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไรจริงๆ เพราะความเป็นจริงนั้นเขาไกลจากความว่าเสื่อมทางเพศมากๆ ตราบใดที่เขาถึงขั้นที่ 3 ของการบ่มเพาะพลังลมปราณ เส้นชีพจรที่ปิดก็จะเปิดขึ้นเอง แม้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะถึงขั้นที่ 3 แต่ทว่ามันก็ยังมีความหวังอยู่

 

สำหรับหนิงฉิงซูแน่นอนว่าเขาไม่ได้เชื่อคำพูดของเธออย่างจริงจัง แม้ว่าเย่โม่ยังไม่เคยเห็นเธอแต่จากชื่อเสียงอันเลื่องลือของเธอ เธอก็ควรที่จะสวย และเธออาจจะไม่ชอบไอ้เจ้าซงซาวเหวิ่นอะไรนี่ จึงได้ใช้เขาเป็นโล่ แต่อย่างไรก็ตามเข้าไม่เข้าใจทำไม่เธอต้องป่าวประกาศบอกกับทุกๆคนด้วย? มันจะไม่ดีกว่าหรือถ้าบอกแค่ตระกูลซง

 

แต่แล้วเย่โม่ก็เข้าใจทันที หนิงฉิงซูอาจไม่ต้องการที่จะหมั้นกับใครในขณะนี้ ดังนั้นเธอจึงประกาศกับทุกๆคน ไม่ใช่เพราะเธอจะไม่แต่งงานกับคนอื่นนอกจากเย่โม่ คำที่เธอพูดว่า ‘เว้นแต่ว่า’ มันน่าจะหมายถึง ‘เว้นแต่เธอจะต้องการแต่งงานกับใครบางคน’ ผู้หญิงคนนั้นฉลาด

 

“และนี่… สำหรับนาย” หวังยิ๋งหยิบซองจดหมายออกมาและมอบมันให้กับเย่โม่

 

เย่โม่แกะซองจดหมายและพบเงินจำนวนมากอยู่ภายใน เขามองไปที่หวังยิ้งด้วยความประหลาดใจเขายังไม่ได้ขอเธอแต่เธอกลับให้มันด้วยความใจกว้าง

 

“นี่มากจากพี่ชายของนาย อืม..น่าจะมาจากเย่ชิเฟิ้ง เขาขอให้คนอื่นนำมันมาให้นาย เขาบอกว่าไม่ต้องให้นายรู้ว่าเขาให้ แต่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเขาที่นำมา” คำพูดของหวังยิ๋งเตือนเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของพี่ชายและน้องสาวของเขา

 

ดูเหมือนว่าเย่หลิ่งไม่ค่อยชอบเขา แต่พี่ชายของเขาเย่ชิเฟิ้งค่อนข้างใจดีกับเขา ตอนนี้เขาต้องการเงินจึงไม่สามารถปฎิเสธได้ แต่เขาจะหาทางตอบแทนกลับในอนาคต

 

รีวิวผู้อ่าน