"เจ้า... เจ้ากล้าดียังไงมาตำหนิข้า ?"
ชายหน้าคล้ายหนูผีเต้นเร่า ๆ ด้วยความโมโห ตำแหน่งของพวกเขาในศาลาอุปกรณ์เวทนี่ สูงกว่าในแผนกธุรการที่หยูซานเหลียงทำงานอยู่มากนักเมื่อเทียบกันแล้ว ในฐานะของผู้ดูแลที่ต้องเกี่ยวข้องกับการจัดสรรอุปกรณ์เวทอันมีความสำคัญ เหล่าศิษย์ต่าง ๆ ที่พบเจอพวกเขาใครบ้างจะไม่เคารพ ? สิ่งนี้พิเศษมาก เพราะด้วยอุปกรณ์เวทเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการฝึกฝนทักษะต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองมากยิ่งขึ้น
แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า วันนี้ศิษย์ใหม่ซึ่งเป็นเพียงเด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง จะกล้าพูดกับพวกเขาเช่นนี้ เด็กคนนี้กล้าตำหนิติเตียนพวกเขาทั้งที่เจอกันเป็นครั้งแรก เขากล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร ?
ท่ามกลางสถานการณ์ร้อนระอุ บรรดาผู้ดูแลศาลาพร้อมใจกันเดินไปข้างหน้าทีละก้าวเพื่อจะตบหน้าฝางซิงสักฉาดให้กระเด็น
เห็นท่าทีเช่นนั้น ฝางซิงก็รู้ได้ในทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาหวนกลับไปยังเรื่องราวที่คุยกันค้างไว้ เอ่ยกระซิบว่า “พวกเจ้าต้องการสินบนจากข้าอย่างนั้นใช่ไหม ? พอไม่ได้พวกเจ้าก็จะทุบตีข้าเช่นนั้นหรือ ? นี่เป็นกฎของสำนักหรือไม่ ?
ชายพวกนั้นต่างหยุดชะงักในทันที
ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเขียนไว้ในกฎของสำนัก หากแต่บรรดาศิษย์ ต่างก็ยินยอมมอบหินจิตวิญญาณแก่พวกเขาอย่างลับ ๆ โดยที่ไม่มีใครรู้เห็น
ชายพวกนั้นต่างจ้องมองศิษย์ใหม่คนนี้ แล้วก็หันมองหน้ากันไปมาอย่างเข้าใจในความคิดของกัน และกัน พวกเขากลัวความลับเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยออกไป
"ฮ่า ๆ ๆ ทำไมเราต้องมาโต้เถียงกันทั้งที่เพิ่งพบกันเช่นนี้" คนที่หน้าคล้ายหนูผีหันไปทางฝางซิง และยิ้มอย่างเสแสร้งกว้างขึ้นเรื่อย ๆ "น้องชายข้ายังหนุ่ม เขาเป็นคนขี้เล่น ก็เลย แกล้งหยอกล้อเจ้าเล่นนิดหน่อย เจ้าคงไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยนี้ใช่ไหม ? เชิญเข้ามาเลือกอาวุธที่เจ้าต้องการ แล้วก็เลือกดูให้ดี ๆ ล่ะ... "
"ขอบใจ, ศิษย์พี่" ฝางซิงตอบพร้อมป้องมือของเขาแสดงการขอบใจ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าชายมีหนวดไม่ได้มีเจตนาดีอย่างที่พูด แต่ฝางซิงก็ไม่ใส่ใจ
เมื่อเข้าไปด้านใน ฝางซิงมองไปรอบ ๆ แล้วก็รู้สึกอึ้ง นี่มันศาลาอุปกรณ์เวทหรือร้านขายของชำกันแน่ !
แถวของชั้นวางเป็นชั้นไม้ เรียงรายไปด้วยอาวุธต่าง ๆ มีทั้งดาบบิน, เครื่องราง, อาวุธ ...มากมายหลากหลายชนิด ดูละลานตา ของแต่ละชิ้นดูแล้วน่าประทับใจมาก บางอันมีโน้ตเล็ก ๆ อยู่ข้างใต้เขียนชื่อ และวิธีการใช้งานของพวกมันไว้ บางอันก็เรียงซ้อน ๆ กันอยู่บนชั้นวางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ ดาบบิน เครื่องราง เข็มทิศที่ไม่อาจรู้ได้ชัดว่าพวกมันยังคงใช้งานได้หรือไม่
ถึงตอนนี้ ฝางซิงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพวกศิษย์ที่มาที่นี่จึงยินดีที่จะจ่ายหินจิตวิญญาณ อาวุธ และเครื่องรางมากมายเช่นนี้ ใครจะไปรู้ว่าอันไหนใช้ได้อันไหนใช้ไม่ได้ หากไม่ได้รับคำชี้แนะ หากเลือกได้ของไม่ดีมา ก็เท่ากับผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต
ชายหน้าหนูผี และเพื่อนอีกสองคนของพวกเขา เห็นท่าทีเช่นนั้นของฝางซิง ทั้งสามคนก็หัวเราะเยาะ
พวกเขาไม่ใช่ไม่เคยเจอคนที่ไม่ยอมจ่ายสินบน แต่คนเหล่านั้นก็กลับออกไปโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา หมายถึงพวกนั้นก็ไม่ได้สิ่งดี ๆ หรือมีประโยชน์ใด ๆ เลย
ศาลาอุปกรณ์เวทมีอาวุธ และเครื่องมือเวทต่าง ๆ มากมายที่เหมาะสำหรับผู้อยู่ขั้นจิตวิญญาณระดับต้น ๆ และศิษย์ใหม่ แต่ละคนจะได้รับโอกาสให้เลือกอาวุธหรือเครื่องมือเวทเพียงครั้งเดียว สำนักชิงหยุนเพิ่งสรรหาศิษย์ครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เครื่องมือดี ๆ ส่วนใหญ่ก็ถูกเลือกไปโดยบรรดาศิษย์ใหม่เหล่านี้ และของดี ๆ ที่ยังเหลือก็ถูกซ่อนไว้โดยชายทั้งสามเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาเชื่อว่า หากปราศจากการชี้แนะจากพวกเขาแล้ว เด็กชายคนนี้ก็ยากที่จะสามารถเลือกสิ่งที่ดีมีประโยชน์ได้
‘ฮึ่ม ! ไอ้สารเลวสามคนนี่ ขุดหลุมพรางวางกับดักข้า เปิดตาให้กว้าง ๆ ข้าจะแสดงให้เจ้าดูเอง !' ฝางซิงเดินวนไปวนมา แล้วหัวเราะกับตัวเอง เขาเดินช้า ๆ ไปที่ด้านหลัง
"ทุกคนได้รับอนุญาตให้ใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูป เพื่อเลือกอาวุธของตน สำหรับศิษย์น้อง นี่คือเวลาที่เหลือ"
ชายหน้าหนูผียิ้ม ให้สัญญาณกับชายอีกสองคนที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อคอยเฝ้าดูธูปกำหนดเวลาที่ไหม้ไปเรื่อย ๆ
ชายพวกนั้นมองหน้ากันอย่างพึงพอใจ อันที่จริงแล้วเมื่อพวกเขาจุดธูป ธูปนั่นก็ถูกหักออกไปบ้างแล้ว และโยนเข้าเตาเผาธูป มันจึงเหลือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ระยะเวลาที่ธูปไหม้เร็วมาก บวกกับธูปที่โดนลอบหักออกไปบางส่วน ฝางซิงรู้ว่าเขามีเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป แต่จริง ๆ คือ 2/3 ของเวลาจริงเท่านั้น เกรงว่ายังไม่ทันเจอก็หมดเวลาแล้ว จะเลือกได้ยังไงกัน ?
แน่นอนถ้าศิษย์ใหม่ยอมจ่าย เรื่องบางอย่างเช่นกำหนดเวลาก็อาจจะลืม ๆ ไปได้ ส่วนคำแนะนำเกี่ยวกับคุณภาพของอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณหินจิตวิญญาณที่เสนอมา
ฝางซิงเปิดใช้งานตำราวิวรณ์ เพื่อดูรายชื่อ วิธีการใช้งาน และสถานะปัจจุบันของรายการอาวุธทั้งหมดเหล่านี้
'ดาบบินเกรดต่ำ ทำจากโลหะธรรมดา มีคาถากำกับหนึ่งบท... '
'วงแหวนมิติ ใช้จัดเก็บสิ่งต่าง ๆ ทำจากทอง... '
“ดาบบินทำจากทองแดง ประกอบด้วยคาถากำกับสามบท หัก”
ฝางซิงไม่สนใจความเคลื่อนไหวของคนทั้งสาม เขาแค่พยายามเลือกดูเพียงคุณภาพ และสภาพของสิ่งของเหล่านั้น
***จบบท หน้ากากปีศาจว่านลั่ว (1)***