px

เรื่อง : บัญญัติครองสวรรค์
บทที่ 16 : หัวเสียเล็กน้อย (1)


"ขอข้าดูเหรียญของเจ้าหน่อย !"

 

น้ำเสียงเย็นชาเรียกร้อง คำพูดนั้นมาจากศิษย์พี่คนที่นำฝางซิงมา และยังคงรออยู่หน้าห้องใต้หลังคา เขาแค่สะบัดชายแขนเสื้อเพียงครั้งเดียวป้ายชื่อไม้ก็ลอยเข้ามาสู่มือของเขา

 

"ระดับ D รึ ? มีพวกไร้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว !"

 

ชายหนุ่มพลิกป้ายชื่อ ก่อนจะมองฝางซิงอย่างดูถูก เขาชี้ทางให้ฝางซิงก่อนจะจากไป “ข้าบังเอิญมีธุระด่วน เจ้าไปที่ศาลาชิงมู่เองก็แล้วกัน”

 

“นี่หรือผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้มีคุณธรรม” ฝางซิงพึมพำด้วยความโกรธแค้นในใจ เห็นได้ชัดว่า ศิษย์พี่หน้าตายคนนั้นต้องนำฝางซิงไปยังสถานที่ที่เรียกว่า ศาลาชิงมู่ แต่เมื่อเขาเห็นระดับที่ฝางซิงได้รับไร้ซึ่งความสำคัญใด ๆ เขาก็ทิ้งฝางซิงให้หาทางไปศาลานั่นด้วยตนเอง

 

"ข้าจะจำเจ้าไว้ สักวันหนึ่งเถอะ คอยดู !"

 

ฝางซิงเดินลงเนินเขาไปตามทางที่ศิษย์พี่หน้าตายชี้ด้วยความหงุดหงิด ก่นด่าสาปแช่งศิษย์พี่ผู้นี้ทุกลมหายใจเข้าออก “ข้าจะไปรู้ได้ไงว่าไอ้ศาลาชิงมู่นั่นมันอยู่ที่ไหน ? เมื่อทุกอย่างที่นี่เหมือนกันไปหมด !”

 

"เอ่อ...นั่นเจ้า ? ศิษย์น้องฝางซิงใช่ไหม ?" ฝางซิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ตามมาด้วยร่างอ้วน ๆ ที่วิ่งมาหยุดห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว

 

เป็นนักพรตอ้วนที่ฝางซิงดื่มด้วยในคืนก่อน คืนนั้นเขาสัญญาว่าจะรอฝางซิงที่ระฆังสังสารวัฏในตอนเช้า เพื่อช่วยชี้แนะ หากแต่คืนนั้นเขาดื่มเข้าไปมาก จนเผลอลืมนัดหมาย เขาหลับสนิทไม่ตื่นจนกระทั่งได้ยินเสียงระฆังดังขึ้น จึงรู้ตัวว่าสายแล้ว เขารีบวิ่งไปที่ระฆัง จนเกือบจะชนฝางซิงเมื่อสักครู่

 

"ศิษย์พี่จูนี่เอง ! ข้ารอเจ้าตั้งนาน เจ้าไปอยู่ไหนมา ?" ฝางซิงยิ้มรับทันที ด้วยเข้าใจในความคิดของหยู

 

"อา...อะแฮ่ม.. ข้าแซ่หยูไม่ใช่ จู..." ครั้นเห็นว่าฝางซิงยังรู้สึกดีกับตนหยูซานเหลียงก็คลายความกังวลใจ เขายิ้มตอบ "ขอโทษที่ทำให้เจ้ารอ ศิษย์น้องฝางซิง"

 

"ว่าแต่...ทำไมเจ้าถึงมาคนเดียวล่ะ ? ศิษย์พี่ที่จะต้องช่วยชี้แนะเจ้าอยู่ที่ไหน ?

 

"เอ่อ..ก็มีศิษย์พี่หน้าตายคนหนึ่งนะ แต่เขาเกิดอาการท้องร่วง จึงวิ่งไปห้องน้ำ แต่ข้าไม่อยากรออีกต่อไป เลยตัดสินใจที่จะไปด้วยตนเอง"

 

"ผู้ฝึกวิชาท้องร่วง ... ?"

 

"ใครจะรู้ ? บางทีลำไส้ของเขาอาจจะเน่าก็ได้" ฝางซิงสาปแช่งศิษย์พี่หน้าตายอีกครั้ง ก่อนที่จะกอดคอที่พอกพูนไปด้วยไขมันของหยูซานเหลียงอย่างดีใจ เขาเตี้ยกว่าหยูซานเหลียงเล็กน้อย ดังนั้นมันจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก แม้ว่าหยูซานเหลียงจะต้องก้มตัวเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เขาเข้าถึงก็ตาม

 

"เจ้าได้ระดับใด ?"

 

"แล้วเจ้าล่ะ ?"

 

"โชคร้ายที่ข้าอยู่ในระดับต่ำสุดระดับ D"

 

“ฮะ ! งั้นเราก็เหมือนกัน ! "

 

ร่างสองร่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งสูง อีกคนหนึ่งเตี้ย คนหนึ่งอ้วน อีกคนหนึ่งผอม เดินอย่างเพลิดเพลินไปทางศาลาชิงมู่ด้วยกัน

 

หยูซานเหลียงไม่เคยคาดคิดว่าฝางซิงจะได้อยู่ในระดับเดียวกันกับตน ฝางซิงได้เรียนรู้จากหยูซานเหลียงว่าในบรรดาศิษย์นอก มากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในระดับ D ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในสำนัก อีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ในระดับ C ที่ดีขึ้นเล็กน้อย และมีเพียงแปดคนเท่านั้นที่เป็นศิษย์นอกระดับ B

 

ส่วนระดับ A ที่ดีที่สุดมีเพียงคนไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์ หรือพื้นหลังที่มีคุณสมบัติเหมาะสม พวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นดั่งสมบัติของสำนัก เป็นคนที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุด

 

"คิดในแง่ดี" ฝางซิงคิดกับตัวเอง "อย่างน้อยข้าก็ไม่เลวร้ายที่สุด"

 

เพียงไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึง ศาลาชิงมู่ ซึ่งเป็นอาศรมไม้สูงสามชั้น หากมองเพียงผิวเผินอาศรมหลังนี้ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่หากพิจารณาอย่างใกล้ชิดจนเห็นรายละเอียดการเชื่อมต่อของโครงสร้างทั้งหมด ก็จะเห็นถึงฝีมือ และความชำนาญของช่างได้เป็นอย่างดี อาศรมนี้เรียบง่าย อีกทั้งน่าทึ่ง

 

เมื่อฝางซิง และหยูซานเหลียงเดินขึ้นไปบนอาศรม มีชายชราผอมบางคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับพวกเขา หยูซานเหลียงคว้าแขนฝางซิงให้แสดงความเคารพ เขาแนะนำผู้มาใหม่ว่านี่คือ 'ศิษย์พี่เฉียว' ด้วยความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก ตำราวิวรณ์ ฝางซิงจึงรู้ว่าชายคนนี้อายุเกือบเท่าผู้อาวุโสเกา แต่ประสบความสำเร็จเพียงแค่ขั้นลมปราณระดับสี่เท่านั้น แต่สำหรับฝางซิงกับศิษย์พี่หยูก็ยังห่างระดับกับเขามากนัก

 

หลังจากที่ ศิษย์พี่เฉียว เห็นป้ายไม้ของฝางซิง เขาไม่มีปฏิกริยาใด ๆ เขามอบหมายให้ฝางซิงไปอยู่ในเขตพื้นที่นอกอาศรมของศิษย์นอก ฝางซิงได้รับชุดใหม่ที่ระบุว่าเขาเป็นศิษย์นอกของสำนักชิงหยุน เขาได้ตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุนเล่มใหม่ นอกจากนี้เขายังได้รับหินผลึกสีแดงขนาดเล็กซึ่งเป็นหินจิตวิญญาณเกรดต่ำ จากนั้นฝางซิงก็ถูกส่งไปยังศาลาอุปกรณ์เวท

 

“เจ้าอย่าดูถูก หินจิตวิญญาณก้อนเล็ก ๆ นี่นา มันสามารถใช้แลกเปลี่ยนสิ่งที่เจ้าต้องการ อีกอย่างการฝึกฝนของเราก็ต้องพึ่งพามันด้วย" หยูซานเหลียงเริ่มอธิบายอย่างกระตือรือร้น ขณะที่เขาเห็นฝางซิงใช้มือเดาะหินจิตวิญญาณเล่น" เราจะได้รับหินจิตวิญญาณหนึ่งก้อนทุก ๆ สามเดือน...สำหรับโลกภายนอกนั้น หินขนาดก้อนกรวดเล็ก ๆ นี่มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งร้อยเหรียญทองคำ !"

 

"แค่หนึ่งก้อนต่อสามเดือนงั้นรึ ? ทำไมสำนักจนจัง !" ฝางซิงบ่นไม่พอใจ

 

***จบบท หัวเสียเล็กน้อย (1)***

รีวิวผู้อ่าน