“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นได้ชัดว่า เป็นศิษย์พี่ที่มีชื่อว่า หยู เดินผ่านสวนโอสถของเรา และตัดสินใจที่จะลงดู..." ได้ยินดังนี้ สีหน้าแปลกใจ และขมขื่นพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหวังจื้อ
โดยปกติ จะไม่มีใครมารบกวนพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเขายังคงรักษาสวนโอสถของพวกเขาได้ดี
ทุกสามเดือน บางคนจากแผนกโอสถจะมา และตรวจสอบนักพรตน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการอู้งาน และทำทุกอย่างตามคำสั่ง หากพวกเขาพบสิ่งผิดปกติในระหว่างการมาตรวจสอบ ค่าจ้างที่นักพรตน้อยจะได้รับก็อาจถูกลดทอนลง ขึ้นอยู่กับ 'ปัญหา' ที่เกิดขึ้นจริงว่ามีมากน้อยเพียงไร อาจรวมถึงการลงโทษทางร่างกายด้วย และศิษย์พี่ผู้โลภมากเหล่านี้ มักจะใช้โอกาสนี้ข่มขู่เอาเงินจากนักพรตน้อยระหว่างที่พวกเขาเข้าตรวจสอบ
วันนี้ไม่ใช่วันหยุดของใครในบรรดาพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ออกไปที่ภูเขาด้านหลังเพื่อล่าสัตว์ นี่อาจทำให้เกิดปัญหาจนมีคนมาที่นี่เพื่อตรวจสอบเร็วกว่ากำหนด
เจ้าหน้าตกกระกลัวมากจนเห็นผิวของเขาซีดขาวพอ ๆ กับเจ้าหน้าผี
"พวกเจ้ากลัวอะไรกัน ? ข้าจะไปดูเอง !" ฝางซิงขัดจังหวะ เขากล่าวขณะถ่มรากหญ้าที่เขากำลังเคี้ยวออกจากปาก ก่อนที่จะสั่งหวังจื้อให้ห่อเนื้อกระต่ายปรุงสุกของพวกเขาไว้ในใบไผ่
หน้าสวนโอสถระดับ C ของพวกเขา นักพรตเต๋าสามคนยืนหน้าเขียวจ้องมองมาอย่างเย็นชา เมื่อนักพรตน้อยทั้งสามคนมาถึงพร้อมกับเจ้าหน้าผี
“ไอ้นี่เองรึ ?” ฝางซิงหัวเราะกับตัวเอง ขณะที่เห็นผู้นำของคนในกลุ่มนั่น ไอ้คนม่อต้อตาหยีที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่คนดี
ชายอ้วนเตี้ยคนเดียวกับนักพรตเต๋าอ้วนที่ฝางซิงได้เยาะเย้ยเขาต่อหน้าคนนับแสนในระหว่างพิธีคัดสรรศิษย์เข้าสำนัก เขาคือศิษย์นอก หยูซานเหลียง ส่วนอีกสองคนที่ตามหลังเขา ก็แค่ผู้ติดตามเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของเขาให้ดูดีเท่านั้น
“เหอะ จับได้คาหนังคาเขาทีเดียว ! ในเวลางาน พวกเจ้าทั้งหมดกลับอู้งานเข้าไปในป่า หากข้ากลับไปรายงานเรื่องนี้ต่อแผนกโอสถ พวกเขาจะต้องหวดก้นของพวกเจ้าทั้งฝูงจนแหลก !" เมื่อเขาเห็นฝางซิงจากที่ไกล ๆ ไขมันบนใบหน้าของนักพรตอ้วนก็กระเพื่อม “อ้อ..โดยเฉพาะเจ้า ! เจ้ามาอยู่ที่นี่กี่วันกัน ? ทำไมถึงกล้าทำผิดกฏ เจ้าอยากถูกโยนออกจากสำนักเร็ว ๆ ใช่ไหม ? "
นักพรตอ้วน หยู ไม่ได้อยู่ในแผนกโอสถ จริง ๆ แล้ว เขาทำงานอยู่ที่แผนกธุรการ แผนกธุรการนี้แค่ชื่อของมันก็บอกเป็นนัย ๆ ว่าดูแลตามล้างตามเช็ดทุกเรื่องในสำนักชิงหยุน เรียกอีกอย่างว่า พวกเขาเป็นขี้ข้าของทุกแผนก
หยูซานเหลียงลงมาที่สวนโอสถเพื่อจัดการเรื่องบางอย่าง แล้วเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าเขาได้ส่งเด็กน้อยมายังสวนโอสถเกือบสามเดือนแล้ว เขาตัดสินใจที่จะลงมาดูว่า เด็กน้อยนั่นอยู่ในสภาพทรทุกข์ทรมานเพียงใดจากการโดนนักพรตน้อยคนเก่า ๆ จัดการ ... แต่ใครจะคิดว่าเมื่อเขามาถึงสวนโอสถแห่งนี้ กลับไม่เห็นตัวฝางซิง ไม่รู้ฝางซิงไปอยู่ที่ใด ? นี่เป็นโอกาสที่ดีในการแก้แค้นที่รอคอยมานานถึงสามเดือน
"ท่านคือ ศิษย์พี่จู นาน ๆ ท่านจะมาเยี่ยมเยือนถึงที่นี่ ! โปรดนั่งลงก่อน" ฝางซิงยิ้มกว้าง แสร้งสั่งการคนอื่น ๆ ให้หาที่นั่งสำหรับนักพรตอ้วน
"จู..บ้านเจ้าสิ ข้าแซ่หยู !" ไขมันบนใบหน้าของเขากระเพื่อมขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่เขาส่งเสียงสาปแช่งดังลั่น (จู :猪 :zhū แปลว่าหมู ฝางซิงจงใจเรียก Yu ว่า "Shixiong Pig = ศิษย์พี่หมูตอน" แต่ หยู คิดว่า ฝางซิง จำชื่อของเขาผิด)
ฝางซิงยิ้มกว้างยิ่งขึ้น นั่นเป็นเพราะ หยูซานเหลียง ไม่รู้ตัวว่าเขาเพิ่งถูกล้อเลียน ทันใดนั้น คำพูดบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจของเขา
'ระดับลมปราณขั้นแรก กายภาพอ่อนแอ ปริมาณพลังลมปราณที่มีอยู่ในเส้นลมปราณของมันคือ ... '
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับระดับการฝึกฝนของนักพรตแซ่ หยู และระดับพลัง รวมถึงข้อบกพร่องของเขาค่อย ๆ ไหลเข้ามาในจิตสำนึก
'เดี๋ยวนะ...หนังสือเล่มนั้นสามารถประเมินคนได้ด้วยหรือ ?' ฝางซิงประหลาดใจ จนไม่อาจควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้
เห็นการแสดงออกทางสีหน้าของฝางซิง นักพรตเต๋าอ้วนเชื่อว่าคำพูดของเขาจะต้องสร้างความสะพรึงกลัวให้แก่เด็กชายอย่างแน่แท้ ความพึงพอใจ และความภาคภูมิใจในตัวเองทำให้เขาหัวเราะอย่างเย็นชา "กลัวเหรอ ? ถ้าเช่นนั้นจงคุกเข่าลง หากข้ารู้สึกพอใจเมื่อไหร่ ข้าอาจอภัยให้เจ้าในเรื่องครั้งนี้ ... "
ฝางซิงมองวนเวียนไปที่นักพรตอ้วนนั่นสองรอบ เพื่อจับใจความสำคัญที่เหลือ
เมื่อไม่รู้ว่าเจ้าลิงน้อยนั่นกำลังวางแผนอะไรในหัว นักพรตอ้วนแซ่หยูก็เริ่มตะโกนว่า "เจ้ามองหาอะไร เจ้าเด็กสารเลว ! ข้าจะเตะเจ้าให้ลอยอีกครั้ง หากเจ้ายังคงมองข้าเช่นนี้"
"เจ้ามาจากแผนกโอสถหรือ ?" ฝางซิงขัดจังหวะ
"ไม่..แล้วไง ?
ศิษย์พี่แผนกโอสถขอให้เจ้ามาที่นี่เพื่อตรวจสอบหรือไม่ ?" ฝางซิงถามต่อ
"ไม่..ข้าแค่เดินผ่านมา แล้วคิดอยากเข้ามาตรวจสอบพวกเจ้าทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอู้งาน ... "
"อู้งานบ้านมารดาเจ้าสิ !" ฝางซิงเป็นเด็กอายุเพียงสิบปี ไม่ได้สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่โตเต็มที่เช่นนักพรตอ้วน แต่เขาก็สามารถที่จะกระโดดไปถึงใบหน้าของนักพรตอ้วนแล้วตบแก้มของนักพรตอ้วน จนฝากรอยฝ่ามือชัดเจนทิ้งไว้บนแก้มขวา ทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมาจากรูจมูกของนักพรตอ้วน
"ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ! เจ้ากล้าดียังไง ?" หลังจากงุนงงไปหลายวินาทีที่โดนตบ หยูซานเหลียงก็รู้สึกตัวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น และก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค ขาของเขาก็โดนเตะเต็มแรงจนเข่างอ เมื่อไม่สามารถรักษาสมดุลย์ได้นักพรตตัวกลมก็ร่วงลงบนพื้น โดยมีฝางซิงเหยียบหลังเขาไว้
"ไม่..เจ้าต่างหากที่กล้ามาก ! เป็นคนจากแผนกธุรการกล้าเข้ามายุ่มย่ามกับแผนกโอสถของเราหรือ ?" ฝางซิงกระแทกหมัดลงบนใบหน้าของหยูซานเหลียงครั้งแล้วครั้งเล่า "ใช่..ข้าทุบเจ้าตีเจ้า เจ้ารู้ไหมว่า เจ้าสมควรได้รับการทุบตีแรง ๆ ที่คิดว่าเจ้ามีอำนาจใด ๆ ที่นี่ ! "
ในไม่ช้า นักพรตที่เอาแต่ร้องครวญครางก็เริ่มรู้สึกตัว แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จเพียงขั้นแรกในระดับลมปราณ แต่เขาเองก็เป็นผู้ฝึกฝนพลังลมปราณเช่นกัน เขาพยายามที่จะปัดป้อง และสลัดฝางซิงออก
แต่ใครจะคิดว่าฝางซิงเองก็มาถึงระดับลมปราณขั้นแรกแล้วเช่นกัน เขาใช้พลังลมปราณของตนรับมือกับหยูซานเหลียง จากนั้นเขาก็ยังคงใช้ทั้งหมัด และเท้าเตะต่อยไปทั่วร่างนักพรตอ้วน ทำเอานักพรตน้อยที่เหลือต่างยืนมองด้วยความหวาดกลัว
***จบบท ใช่..ข้ากำลังตีเจ้า (2)***