px

เรื่อง : บัญญัติครองสวรรค์
บทที่ 8 : พลังชี่แรก (1)


ฝางซิงคว้าหญ้าฮั่วจิงเฉ่า 3 ต้นนั่นใส่เข้าปาก เขากลืนพวกมันลงไปในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ขณะที่เจ้าหน้าตกกระ และเจ้าหน้าผี จ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา คนทั้งสองต่างรู้สึกสยองพองขน

 

"ห้ามรบกวนข้าโดยไม่มีเหตุผล !" ฝางซิงตาแดง หันหลังกระแทกประตูปิด เขาเก็บตัวอยู่ภายในกระท่อมไม้ เด็กชายทั้งสองหันมองหน้ากันพวกเขาคิดว่าฝางซิงต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ วัชพืชนั่นเรียกว่า ฮั่วจิงเฉ่า หากผู้ชายโตเต็มวัยกินฮั่วจิงเฉ่าเข้าไปเพียงต้นเดียว เขาก็สามารถทำให้ผู้หญิงร้องครวญครางอย่างมีความสุขได้ตลอดทั้งคืน แต่ฝางซิงเป็นเพียงเด็กชายอายุ 10 ขวบ เขากลับคว้าไปกินทั้งกำ โดยไม่พูดไม่จา...

 

“นี่..เขาต้องการจะไปจัดการสาวอย่างถึงพริกถึงขิงที่ไหนกัน ?

 

ครั้นฝางซิงเข้ามาในกระท่อม เขาก็ลงนั่งขัดสมาธิ ทันทีที่หญ้าฮั่วจิงเฉ่าออกฤทธิ์ ก็เกิดแรงกระตุ้นที่ไม่อาจต้านทานได้ มันเพิ่มขึ้นจากบริเวณช่องท้องส่วนล่างของเขา และที่เป้าน้อย ๆ นั่นก็พองโต มันยื่นออกมาจากเป้ากางเกงบริเวณด้านหน้าอย่างเห็นได้ชัด
 

ฝางซิงนึกถึงคำแนะนำในตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุน เขาพยายาม ใช้พลังลมปราณจับพลังแก่นชีวิตเพื่อซึมซับ และไหลเวียนผ่านไปตามกระแสเลือดของตน เขาทำซ้ำแล้วซ้ำอีกผลักดันมันไปทั่วร่างกาย ก่อนจะวนกลับเข้ามาที่จุดตันเถียน (จุดตันเถียน คือ จุดหนึ่งในร่างกายที่พลังลมปราณมีความเข้มข้นมากตั้งอยู่ใต้สะดือ เป็นจุดสำคัญสำหรับทักษะการฝึกสมาธิ และการออกกำลังกาย) เขาพยายามที่จะบีบอัด และบังคับเปลี่ยนพลังแก่นชีวิตให้เปิดรูขุมขนเพื่อรับพลังลมปราณ

 

พลังแก่นชีวิตจำนวนมหาศาลปั่นป่วนทรมานฝางซิงอย่างมาก ในขณะที่เขาเองก็พยายามยับยั้งพลังงานอันเกรี้ยวกราดรุนแรงที่อยู่ภายในร่าง นัยน์ตาของเขาแดงซ่านไปด้วยเส้นเลือด ริมฝีปากของเขาแตกระแหงเป็นริ้ว ๆ จากความตึงเครียด

 

'ข้าต้องทำให้ได้ !' ฝางซิงบอกกับตัวเอง เมื่อรับรู้ได้ถึงความร้อนเร่าทั่วทั้งร่างกาย เขาพุ่งจุดสนใจไปที่การประคองพลังแก่นชีวิตไปตามเส้นทางที่ถูกต้อง

 

ยี่สิบนาทีผ่านไป

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

 

ฝางซิงยังคงนั่งอยู่ ณ ตำแหน่งเดิมใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงผิดปกติ บางสิ่งบางอย่างในร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับการรักษาพลังแก่นชีวิตให้เป็นไปตามทางที่เขาต้องการ เขาก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความสดชื่น มันก้าวหน้าขึ้น หากแต่ความร้อน และพลังงานที่มีความรุนแรงก็เข้ามาแทนที่ มันคุกคาม จนเส้นลมปราณของเขาเกิดอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมาน (การแพทย์แผนจีนมีความเชื่อพื้นฐานที่ว่าพลังชี่ (Chi หรือ พลังลมปราณ) จะไหลเวียนผ่านไปทั่วร่างกายโดยใช้เส้นทางที่เรียกว่า “เส้นลมปราณ”)

 

"ข้าเดาได้ถูกต้องจริง ๆ... "

 

ฝางซิงกล่าวด้วยความรู้สึกสุขล้นในใจ เขาสงบจิตใจเข้าสู่สมาธิ อดทนกับอาการเจ็บปวดที่ไหลเวียนไปทั่วร่าง พยายามประคองลมหายใจให้นิ่งไว้

 

นี่เป็นแค่เพียงการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แม้ไม่ใช่การประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่หัวใจของเขาย่อมตื่นเต้น

 

ความคิดแปลก ๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อเขาเห็นหญ้าฮั่วจิงเฉ่า กับคำพูดจากประโยคในตำราวิวรณ์ เกี่ยวกับตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุน

 

รวมเข้ากับการศึกษาเกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต รายละเอียดได้จากตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุน ฝางซิงก็ผ่านขั้นตอนแรกในการฝึกฝนพลังลมปราณจากการทำสมาธิ

 

สำหรับคนโชคดีที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่หายาก พลังลมปราณก็สามารถสะสมได้ทีละเล็กทีละน้อยจากลมหายใจ และการเคลื่อนไหวทุกอย่างที่พวกเขาทำ ส่วนคนธรรมดาสามัญอย่างเช่นหวังจื้อ และพรรคพวกตัวน้อยของเขาที่ไม่มีร่างกายพิเศษแต่อย่างใด ก็ยากที่จะรับรู้ถึงมัน แม้จะพยายามมาแล้ว 3 - 7 ปี คนพวกนี้อาจจะตายไปพร้อมกับความพยายามโดยไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลย อีกหนทางที่คนธรรมดา ๆ มักใช้ก็คือการพึ่งพาพลังงานภายนอก เพื่อบังคับพลังลมปราณให้เข้าสู่ร่างกายของตน แต่ถึงกระนั้นเส้นทางแห่งการฝึกฝนก็ไม่ยาวไกล คนส่วนใหญ่จะไปได้เพียงระดับล่างของการดำรงลมปราณเท่านั้น

 

พลังแก่นชีวิต..ที่ได้รับการบีบอัดจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังลมปราณที่ไม่มีใครรับรู้ และอยู่สงบนิ่งภายในร่างกาย

 

คนส่วนใหญ่ไม่อาจรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของพลังแก่นชีวิตนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีมันอยู่กับตัว แต่จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาในตัวฝางซิง หรือจะเรียกว่าไหวพริบปฏิภาณทำให้เขาได้คิด และกล้ากระทำทันทีโดยไม่ลังเลโชคดีที่ผลที่ได้รับคุ้มค่ากับความเสี่ยงสมความตั้งใจ แต่ในความเป็นจริง จะมีคนโชคดีอย่างเขาสักกี่คนกัน

 

การที่มันไม่อาจรับรู้ได้เกิดจากมันมีปริมาณน้อยเกินไป เช่นนั้นก็ต้องเพิ่มปริมาณมันให้เพียงพอ !

 

หญ้าฮั่วจิงเฉ่าสามต้นเมื่อครู่ทำให้มันเพิ่มปริมาณจนถึงระดับสูงสุด

 

ความรู้สึกเร่าร้อนเป็นปฏิกิริยาแท้จริงที่เกิดจากพลังแก่นชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากหลังจากนั้นมันก็ถูกฝางซิงใช้ความพยายามในการกลั่น และแปรรูป ผสานเข้ากับคำแนะนำในตำรา ทำให้เกิดพลังลมปราณเบาบาง

 

แม้จะไม่มากแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

 

หากปราศความมุ่งมั่น และความเข้มแข็งในการควบคุมตนเอง ด้วยวิธีการนี้อาจส่งผลให้ร่างกายของผู้ฝึกเกิดความไม่เสถียรภาพจนก่อให้เกิดอันตรายได้ มันอาจจะทำให้อวัยวะภายในเกิดความเสียหาย หรือแม้กระทั่งลุกลามไปถึงสภาพจิตใจเสียหาย แม้ฝางซิงจะเป็นเด็ก แต่เขาก็ไม่ยอมเลิกล้มกลางครัน ด้วยความเป็นคนใจหิน ทรหด ไม่ย่อท้อของเขาที่มีมาแต่เดิม

 

***จบบท พลังชี่แรก (1)***

รีวิวผู้อ่าน