px

เรื่อง : บัญญัติครองสวรรค์
บทที่ 4 : จอมโจรคนที่สิบ (1)


สำนักชิงหยุนของนิกายเต๋าอันมีชื่อเสียงในเขตแดนอาณาจักรฉู่ ที่ได้รับการสืบทอดยืนยงอย่างสง่าผ่าเผยมาร่วมสามพันปี

 

ในดินแดนฉู่เฟิ่ง แม้บรรดาลูกศิษย์ระดับต่ำต้อยของสำนักชิงหยุนก็ได้รับการยกย่องจากคนในเมืองหนานตันราวกับเป็นเทพเจ้า โดยเฉพาะศิษย์เอกของสำนักชิงหยุน เสี่ยวเจี้ยนหมิงผู้ใช้ดาบดาบเดียวเด็ดชีพ 9 หัวหน้ากองโจรแห่งเทือกเขากุ๋ยหยาน (ควันปีศาจ) จนเกือบหมด เมื่อสามเดือนที่ผ่านมา

 

เสี่ยวเจี้ยนหมิงตัดคอหัวหน้าจอมโจรทั้งเก้าแล้วแขวนประจานไว้ที่ปากทางเข้าเทือกเขากุ๋ยหยาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเก่งกล้าสามารถของเขา อย่างไรก็ตามหัวหน้าโจรคนสุดท้ายที่ลึกลับที่สุดหนีรอดไปได้ โจรคนที่สิบนี้ทุกคนได้ยินเพียงแต่ชื่อ แต่ไม่มีใครเคยเห็นรูปร่างหน้าตาของเขามาก่อนเลย ......

 

เสี่ยวเจี้ยนหมิงมุ่งมั่น และปฏิญานว่าจะตามหาจอมโจรที่เหลือรอดคนนั้นจนพบให้ได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนั้น 3 เดือนจอมโจรคนที่ 10 ได้กลายมาเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของเขา...ถ้านักพรตน้อยคนนั้นจะถูกนับว่าเป็นศิษย์ในสำนักชิงหยุนน่ะนะ

 

ทุก ๆ สิบปีสำนักชิงหยุนจะมีพิธีการรับนักพรตน้อย ว่าไปแล้วจำนวนนักพรตของสำนักชิงหยุนก็มีประมาณ หมื่นคน บรรดานักพรตน้อยของสำนักชิงหยุนจะแตกต่างจากศิษย์ทั่วไปของสำนัก พวกเขาเป็นศิษย์ชิงหยุนแต่เพียงในนามเท่านั้น พวกเขาจะไม่ได้รับการถ่ายทอดวิชาใด ๆ จากรุ่นพี่ และไม่ได้รับหินจิตวิญญาณ ทั้งยังต้องทำงานหนักไม่ต่างจากกรรมกรจนแทบไม่ได้พักผ่อน มีวันหยุดแค่เดือนละวันเท่านั้น

 

เพื่อแลกกับหนังสือเล่มเล็กที่เรียกว่า “ตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุน”

 

หลังจากศิษย์พี่หลิงหยุนพาเสี่ยวหมั่นจากไป ฝางซิงก็ถูกนักพรตนำมายังกระท่อมไม้หลังหนึ่ง ภายในกระท่อม มีชายหนุ่มอายุประมาณ 18-19 ปีมีไฝดำใหญ่บนใบหน้า ชายคนนั้นยิ้ม พร้อมกับส่งชุดสีเทาตุ่น ๆ พร้อมหนังสือเล่มบาง ๆ และป้ายไม้ขนาดเล็กแกะสลักชื่อให้กับฝางซิง

 

"ฝึกวิชางั้นเรอะ เจ้าก็แค่ก้อนอึเท่านั้น ศิษย์พี่หลิงหยุนให้เจ้าเข้าสำนัก ทั้งที่เจ้าไม่มีจดหมายแนะนำ ไม่มีเงิน และไม่มีคุณสมบัติพิเศษใด ๆ ดังนั้นเจ้าก็ฝึกจากระดับต่ำสุดนี่ล่ะ นี่คือ “ตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุน” วิชาลับของสำนักชิงหยุน ไม่ใช่ใครก็จะมีโอกาสได้ศึกษา เจ้าจงฝึก “ตำราเสริมสร้างพลังลมปราณของสำนักชิงหยุน” ให้ดี เมื่อผ่านขั้นแรกได้ ก็อาจจะก้าวไปเป็นศิษย์นอกชิงหยุนได้.."

 

นักพรตอ้วนเดินจากไปแล้ว ฝางซิงมองไปยังชายหนุ่มที่มีไฝดำ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราวกับผู้ใหญ่ "เจ้าฝึกถึงขั้นไหนแล้วล่ะ ?"

 

ชายหนุ่มที่มีไฝดำยกนิ้วหัวแม่มือไว้ตรงหน้าของเขาแล้วกล่าวว่า "ข้าเริ่มรับรู้การเคลื่อนไหวของพลังลมปราณนั่นแล้ว แต่คนอื่นยังทำไม่ได้ !"

 

ฝางซิงพยักหน้าเอ่ยถามต่อว่า "เจ้าอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้ว ?"

 

ชายหนุ่มหน้าไฝกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ เขาพูดว่า “ข้าอยู่มา 6 ปีแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ ก็ประมาณ 3 ปี !"

 

ฝางซิงถอนหายใจ เหวี่ยงหนังสือเล่มเล็ก ๆ นั่นไปข้าง ๆ "ให้ตาย ! นังผู้หญิงคนนั้นหลอกข้า !"

 

ชายหนุ่มมีไฝถามด้วยความสงสัย "ผู้หญิงที่เจ้าพูดถึงคือใคร ?"

 

ฝางซิงตอบว่า "จะมีใคร ? นังหลิงหยุนไง นางบอกว่าจะรับข้าเข้าสำนัก ใครจะรู้ว่า นางจะให้ข้าเข้ามาทำงานหนัก เพื่อแลกกับหนังสือนี่” ฝางซิงกำหมัด “ดูพวกเจ้าสิ บางคนเข้ามาในสำนัก 6 ปี บางคน 3 ปี พวกเจ้าฝึกอะไรได้บ้าง ? นี่ไม่เรียกว่าถูกนังนั่นหลอกเอาหรือ ?"

 

“ศิษย์พี่หลิงหยุนหรือ ? " ชายหนุ่มมีไฝตะลึงงัน เขาพุ่งมาคว้าปกคอเสื้อของฝางซิง เอ่ยพูดด้วยท่าทีดุดัน "หุบปากโสโครกของเจ้าซะ.. อย่าว่ากล่าวศิษย์พี่หลิงหยุนอีก ไม่งั้นเจ้าต้องเละเป็นอึ ! จำคำพูดข้าไว้ ในที่แห่งนี้เจ้าต้องเชื่อฟังข้า ข้าบอกให้เจ้าไปตะวันออก เจ้าก็ห้ามไปตะวันตก ข้าให้เจ้าซ้าย เจ้าก็ห้ามไปขวา ทุกคนต้องฟังคำพูดข้า เข้าใจไหม ?”

 

"ถูกต้องแล้ว..จากนี้ไป..เจ้าต้องล้างส้วม ตักอึ และหาบน้ำมาเติมถังน้ำให้เต็มทุกวัน.." เด็กน้อยที่มีกระบนใบหน้าพูด อันที่จริงหน้าที่หาบน้ำ และดูแลห้องน้ำนี่เป็นหน้าที่ของเขา

 

"ฮ่าฮ่า..ซักผ้าด้วย อืม คนมาใหม่ต้องซักเสื้อผ้าให้คนที่อยู่ก่อนจนกว่าจะมีคนใหม่มา !" เด็กชายผิวขาวอีกคนกล่าว ไม่ต้องพูดเลยว่า หน้าที่ซักผ้านี่ก็เคยเป็นหน้าที่ของเขา

 

ฝางซิงมองหน้าคนพวกนั้นทีละคน พยักหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะพูดว่า "นี่...พวกเจ้ากำลังข่มขู่ข้า"

 

"แล้วไง ?" หนุ่มไฝดำหัวเราะ เขากล่าวจบ พร้อมกับทุบกำปั้นลงอีกด้านของโต๊ะ จนเห็นเส้นเลือดดำที่แขนของเขาปูดโปนอย่างน่ากลัว

 

"เจ้ากล้าตีข้า ?" ข้าจะร้อง..." ฝางซิงแสดงท่าทางหวาดหวั่นต่อหน้าคนพวกนั้น ดูเหมือนแค่แตะปลายนิ้ว เขาก็ร้องไห้ได้แล้ว

 

เห็นท่าทางขลาดกลัวของฝางซิง ชายหนุ่มหน้ามีไฝก็ยิ้ม เอ่ยกล่าวว่า "ไม่ต้องกลัว เราจะไม่ทำอะไรเจ้าในตอนนี้ แต่พอตกดึกเมื่อประตูสำนักปิดลง รัศมีสิบลี้มีเพียงพวกเราเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าเจ้าจะร้องจนคอแตก ก็ไม่มีใครสนใจเจ้า ...... "

 

"ถูกต้องแล้ว ทุก ๆ สามเดือนจะมีศิษย์พี่ผู้ควบคุมสวนโอสถเข้ามาตรวจสอบ ส่วนเวลานอกเหนือจากนั้น ที่นี่คือโลกของเรา ศิษย์พี่พวกนั้นไม่มีทางสนคนอย่างเจ้า และเมื่อเจ้าเข้ามาเป็นนักพรตน้อยแล้ว กว่าจะลงจากเขาได้ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี..."

 

เด็กที่ใบหน้าตกกระพูดข่มขู่ด้วยท่าทางตื่นเต้นมาก ดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาข่มขู่คนอื่น จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นนั้นได้

 

"โอ้..พี่ชายทั้งหลาย อย่าทำอะไรข้าเลย น้องชายคนนี้จะเป็นคนว่านอนสอนง่าย ทำตามที่ท่านบอกทุกอย่าง...... "

 

ฝางซิงอ้อนวอนอย่างน่าสงสารต่อหน้าผู้ที่มาก่อนเหล่านี้เพื่อขอความเมตตา

 

"ฮ่าฮ่า...รู้จักอ้อนน้อมถ่อมตนดี” ชายหนุ่มหัวเราะด้วยท่าทีข่ม ๆ

 

***จบตอน จอมโจรคนที่สิบ (1)***

 

รีวิวผู้อ่าน