"ท่านนักพรต ข้าขอร้องท่านโปรดรับข้าเข้าสำนักด้วย ข้าเคยมีครอบครัวที่มีความสุข และมั่งคั่ง แต่เนื่องจากคนชั่วช้าสามานย์ ทำให้คนในตระกูลข้าทั้งหมดสามร้อยกว่าชีวิตต้องตาย เหลือเพียงข้ากับน้องสาวไม่เหลือใครที่พอจะพึ่งพาได้อีก หลังจากเดินทางมาทั่วโลก ข้าได้ยินชื่อเสียงอันเกรียงไกรของสำนักท่านจากผู้คนที่เคยมาพึ่งพาท่านก่อนหน้านี้ ว่าสำนักท่านนั้นเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ข้าเพียงต้องการที่จะเรียนรู้พลังลมปราณ และความสามารถอันยิ่งใหญ่ของสำนักชิงหยุน โปรดรับข้า ข้าจะ ... "
ณ เมืองหนานตัน แห่งอาณาจักรฉู่เฟิ่งดินแดนสำคัญหนึ่งในเก้าของโลก เชิงเขาไถ้ฮ่าง บริเวณด้านหน้าของประตูสำนักชิงหยุน มีชายหนุ่มหลายร้อยคนกำลังยืนรอเป็นแถวยาว เฝ้ารอคอยจะพบนักพรตอ้วนฉุผู้อุดมไปด้วยไขมัน ในเวลานั้นมีเด็กชายอายุประมาณสิบขวบยืนรอด้วยน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้า ดวงตาสดใส แลดูน่าสงสาร ของเขาสร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็น
นักพรตอ้วนมองเด็กชายอย่างเบื่อหน่าย เขาถามว่า
"เจ้ามีหนังสือแนะนำมาหรือไม่"
"ไม่ ... " เด็กชายตอบ
"เจ้ามีสมบัติอะไรที่จะเสนอ ?"
“ไม่ ......”
"เจ้ามีร่างกายที่หายากหรือเปล่า ?"
“ไม่ ......”
นักพรตอ้วนถาม แล้วเด็กชายก็ตอบ และเมื่อคำถามสามข้อจบลง นักพรตอ้วนก็หรี่ตาลง เขาเตะเด็กชายพร้อมกล่าวว่า "หนังสือแนะนำก็ไม่มี หมายความว่า เจ้าเป็นคนต่ำต้อย ไม่มีสมบัติมาหมายความว่าเจ้าเป็นคนยากจน ไม่มีร่างกายพิเศษหรือพรสวรรค์ใด ๆ หมายความว่าเจ้าเป็นคนไร้ค่า คนไร้ค่าเหมือนอึ เช่นเจ้ายังกล้าที่จะมาขอเข้าสำนักชิงหยุนที่ยิ่งใหญ่อีกรึ ? ที่นี่ไม่ใช่โรงทานนะ ออกไปไกล ๆ เลย !”
คนที่รอต่อแถวอยู่ด้านหลังเริ่มหัวเราะ ทุกคนมองเด็กชายคนนี้เป็นตัวตลก เขาไม่มีอะไรสักอย่างแต่คิดจะเข้าสำนักชิงหยุน ตลกสิ้นดี !
โปรดทำความเข้าใจก่อนว่า สำนักชิงหยุนดำรงอยู่มานานกว่าสามพันปีแล้ว นับได้ว่ามีรากฐานมั่นคง และมีความน่าเชื่อถือในระดับสูงภายในอาณาจักรฉู่เฟิ่ง ด้วยปูมหลังที่มีความแข็งแกร่ง ลูกศิษย์ทุกคนในสำนักจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด อย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้ ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักร มีกลุ่มโจรร้ายที่เหี้ยมโหดและเชี่ยวชาญอย่างหาตัวจับยาก จนแม้แต่เจ้าหน้าที่จากทางการก็ไม่สามารถทำอะไรโจรกลุ่มนี้ได้ หากแต่โจรกลุ่มนี้กลับถูกทำลายโดยเสี่ยวเจี้ยนหมิงศิษย์เอกของสำนักชิงหยุน เขาแทรกซึมเข้าไปในกองโจรใหญ่ด้วยดาบเล่มเดียว เขาสามารถฆ่าหัวหน้าโจรร้าย 9 ใน 10 ได้ นำความยินดีมาสู่พวกชาวบ้าน และทางการเป็นอย่างยิ่ง เพียงชั่วข้ามคืนชื่อเสียงของเขาก็เป็นที่ร่ำลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน
ด้วยเหตุนี้ ชื่อเสียงของสำนักชิงหยุนจึงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปอย่างไม่มีใครเทียบ บัดนี้สำนักชิงหยุนรับสมัครลูกศิษย์ใหม่ในรอบ 10 ปี เหล่าผู้มีฐานะ และฐานันดรสูงส่งหลายคนยอมทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องติดสินบน หรือใช้เส้นสาย พวกเขาก็ยินดีที่จะทำเพียงเพื่อให้บุตรหลานของตนมีโอกาสเข้าสำนัก โดยคาดหวังว่าสักวันจะกลายเป็นพระเอกเหมือนเสี่ยวเจี้ยนหมิง
แต่เด็กคนนี้มามือเปล่า แต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนขอทาน ยังมีหน้ามาขอเข้าสำนัก มันดูงี่เง่าเกินไป
หลังจากเด็กน้อยถูกเตะเขาก็ไม่พูดอะไร เขาเดินออกมาอย่างเงียบ ๆ เขาเดินห่างออกไปประมาณ 10 จ้าง (1 จ้าง = 2 เมตร) ก่อนจะหันกลับมาด่าสาปแช่งอย่างฉับพลันว่า "เจ้ากล้าเตะข้า สักวันหนึ่ง ข้าจะต้องเหยียบหน้าคนเลวทรามอย่างเจ้าให้ได้ ไอ้อ้วนม่อต้อคอย่นเหมือนก้อนอึ เจ้าควรจะขอบคุณข้าที่มาเข้าสำนักชิงหยุน แต่วันนี้เศษสวะโง่เง่าอย่างเจ้ากลับไม่เห็นคุณค่าของข้า สักวันเถอะข้าจะกลับมาเผาสำนักของเจ้าให้ราบ"
"ไอ้เด็กเลว เจ้ากล้าสบประมาทข้า !"
นักพรตอ้วนยกดาบคมขึ้นด้วยความโกรธ เขาเดินตรงไปยังเด็กชาย เด็กชายตัวน้อยเมื่อเห็นอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็หลบหนีเข้าไปในฝูงชน เด็กชายเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ทันใดนั้นนักพรตอ้วนก็เริ่มไล่จับตัวเด็กชาย เขาเริ่มแกว่งดาบอย่างดุร้ายพร้อมกล่าวสาปแช่งไปด้วย
พิธีการอันศักดิ์สิทธิ์ และน่าเคารพของสำนักชิงหยุนกลายเป็นเรื่องตลกให้ทุกคนได้หัวเราะ
"อัจฉริยะเช่นข้ายินดีที่จะเรียนรู้วิชาของสำนักชิงหยุนของเจ้า แสดงว่าข้าให้เกียรติแก่เจ้าแล้ว เจ้าควรจะเชื่อฟัง และยอมรับข้าเข้าสำนักของเจ้า หรือจะปล่อยข้าให้ไปสำนักอื่น และเมื่อข้ากลายเป็นปรมาจารย์ผู้ไร้เทียมทาน ข้าจะกลับมาเตะตูดน่าเกลียดของเจ้าจนต้องคลานร้องไห้ไปหาพ่อหาแม่เจ้า”
หลังจากที่เด็กชายเห็นว่านักพรตอ้วนไม่สามารถจับตัวเขาได้ เขาก็เริ่มแสดงท่าทีอวดดี และยั่วยุนักพรตอ้วน
นักพรตอ้วนเริ่มควันออกหู เขาอยากจะไล่ตามเด็กคนนี้ต่อไป แต่เพราะมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเองก็อ้วนมาก หมายความว่า เขาไม่สามารถฝ่าฝูงชนไปได้อย่างง่ายดาย แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนไป เขาคิดแผนการบางอย่างขึ้นได้จึงตะโกนว่า "ใครก็ตามที่จับไอ้ตัวเล็กนั่นได้ ข้าจะยอมลงทะเบียนให้ก่อน"
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ เด็กชายตัวน้อย รู้สึกตื่นตระหนก เขาหันร่างกลับพยายามเคลื่อนตัวลื่นไหลปรู๊ดปร๊าดไปเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝูงชนได้ยินสิ่งที่นักพรตอ้วนกล่าว พวกที่ไม่อยากรอคอยอีกต่อไปก็พยายามจะไล่จับเด็กน้อย คนเหล่านี้ยืนรอมานานครึ่งวันแล้ว อีกทั้งยังมองเห็นคนอีกหลายพันคนอยู่ข้างหน้า
บางคนแม้จะไม่สนใจเรื่องต่อแถว แต่พวกเขาก็ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักพรตศิษย์เก่าในสำนัก
***จบตอน เข้าสำนักชิงหยุน (1)