px

เรื่อง : คุณพ่อยอดเชฟที่ต่างโลก Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World
Chapter 25 : หนูได้ยินเสียงท้องพี่ร้อง


Chapter 25 : หนูได้ยินเสียงท้องพี่ร้อง

 

 

แซลลี่ถูกทำให้ประหลาดใจ เธอนิ่งไปชั่วขณะและมีความรู้สึกที่ผสมปนเปเกี่ยวกับพวกเขา เธอมองไปที่การแสดงออกอย่างจริงใจของแม็กซ์และสีหน้าที่คาดหวังของสาวน้อย

 

 

ครึ่งเอลฟ์ตัวน้อยเป็นลูกสาวของแม็กซ์ ซึ่งหมายความว่าเขามีภรรยาเป็นเอลฟ์

 

 

อายุขัยของเอลฟ์นั้นยาวนาน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยผูกมิตรกับมนุษย์  การมีชีวิตอยู่อย่างยาวนานหลังจากที่ต้องดูเพื่อนของตัวเองตายจากไปนั้น มันรู้สึกเจ็บปวดมากเกินไป

 

 

มันหายากที่เอลฟ์จะมาแต่งงานกับมนุษย์ เพราะความเจ็บปวดนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตามความรักนั้นทำให้คนตาบอด ดังนั้นจึงมีลูกครึ่งเอลฟ์ที่มีสายเลือดมนุษย์และสายเลือดเอลฟ์อย่างละครึ่งเกิดขึ้นมาในโลกนี้

 

 

พวกเอลฟ์นั้นภูมิใจในสายเลือดของตัวเองมาก พวกเขาจึงตัดสินว่าลูกครึ่งเอลฟ์นั้นมีสายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นศัตรูกับลูกครึ่งเอลฟ์ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมให้ลูกครึ่งเอลฟ์เข้าไปในป่าลม เพราะพวกเขาไม่เห็นว่าลูกครึ่งเอลฟ์นั้นเป็นพวกเดียวกัน

 

 

ลูกครึ่งเอลฟ์นั้นเป็นที่ยอมรับได้สำหรับมนุษย์ เพราะพวกเขามีอายุขัยอยู่เพียง 200 ปีเท่านั้นและใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น อย่างไรก็ตามหูที่แหลมของพวกเขาก็ยังคงต่างจากมนุษย์

 

 

สามารถพูดได้ว่าลูกครึ่งเอลฟ์นั้นมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่ที่พวกเขาเกิดมา นอกซะจากว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องพวกเขาจากทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้ แต่มันก็ยังไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ

 

 

แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นและถามคำถามนี้กับเธออย่างจริงใจตั้งใจที่จะทำแบบนั้น เธอสัมผัสได้ถึงความแน่วแน่ในสายตาของเขา

 

 

เด็กน้อยข้างๆเขาในชุดหมีที่น่ารักกำลังมองมาที่เธอด้วยความคาดหวัง ผมสีเงินของเธอนั้นเป็นประกาย มันเป็นสิ่งที่ราชวงศ์เอลฟ์เท่านั้นที่จะมีได้ ซึ่งมันทำให้เธอนึกถึงเอลฟ์คนหนึ่งที่เธอไม่ได้พบมานาน แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเกี่ยวข้องกันได้

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็เป็นเด็กที่น่ารักและได้ส่วนที่ดีมาจากพ่อและแม่ของเธอ แซลลี่ยิ้มให้เอมี่หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่ หนูจะสวยเหมือนฉันเมื่อหนูโตขึ้น”

 

 

“จริงเหรอ ? พ่อ หนูจะสวยแบบพี่สาวเอลฟ์ตอนที่หนูโตขึ้นงั้นเหรอ ?” ใบหน้าของเอมี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความสงสัย เธอยกมือเล็กๆขึ้นมาปิดปากและมองไปที่แม็กซ์ราวกับว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งจะได้ยิน

 

 

“แน่นอน พี่สาวเอลฟ์เป็นคนพูดเอง เอมี่จะสวยมากเมื่อหนูโตขึ้น สวยยิ่งกว่าหงส์ซะอีก” แม็กซ์พยักหน้าในขณะที่มองเข้าไปในตาของเธอ

 

 

“ใช่ ฉันเองก็รู้สึกเหมือนกัน หนูจะสวยยิ่งกว่าเอลฟ์ซะอีกเมื่อหนูโตขึ้น” โมไบพูดขึ้นและมองไปที่เอมี่ด้วยรอยยิ้มทั้งๆที่เขายังคงถือช้อนเอาไว้ในมือ

 

 

“ดีเลย ! เอมี่มีความสุขจังเลย ! หนูอยากโตขึ้นเร็วๆและสวยเหมือนกับพี่สาวเอลฟ์ !” เอมี่เชื่อพวกเขาอย่างสนิทใจเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของทุกคน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอจะได้เป็นสาวสวยไม่ใช่สัตว์ประหลาดอย่างที่เด็กคนอื่นๆพูดเอาไว้ เธอกางแขนออกแล้ววิ่งไปรอบๆร้านอย่างมีความสุข

 

 

เมื่อแม็กซ์เห็นเอมี่วิ่งไปทั่วร้านอย่างมีความสุขเขาก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของเอมี่ เขาหวังว่าเขาจะชดเชยให้กับสิ่งที่เธอต้องอดทนมาตลอดโดยการทำให้เธอมีความสุข เขาหันกลับไปหาแซลลี่แล้วพูดขึ้น “ขอบคุณ”

 

 

“ด้วยความยินดี” แซลลี่มองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งคู่และพบว่าเธอรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่พ่อที่แย่ เธอพยักหน้าให้กับแม็กซ์แล้วพูดต่อ “ฉันเองก็อยากได้ข้าวผัดหยางโจวด้วยเหมือนกัน”

 

 

แม็กซ์พยักหน้า “ได้เลย รอสักเดี๋ยวนะ” จากนั้นเขาก็หันไปขอบคุณโมไบ

 

 

โมไบโบกมือแล้วพูดขึ้นด้วยความอิจฉา “อย่าใส่ใจเลย ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้น นายโชคดีที่มีลูกที่น่ารักแบบนี้นะแม็กซ์”

 

 

แม็กซ์ยิ้มและพยักหน้า “กินให้อร่อยนะ” จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อทำข้าวผัดอีกจาน  เขารู้สึกว่าตัวเขาเองโชคดีเช่นกัน ไม่งั้นแล้วเขาคงจะไม่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้

 

 

เอมี่วิ่งไปรอบๆร้านสองรอบอย่างมีความสุขและทักทายโมไบ “สวัสดีปู่คนแคระโมไบ” จากนั้นเธอก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับแซลลี่แล้วเอามือเท้าคาง และถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พี่สาวเอลฟ์ พี่ชื่ออะไร ? พี่มาจากไหน ?”

 

 

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่สาวน้อยถามคำถามนี้ สิ่งแรกที่เธอจะทำก็คือน้าวสายธนูของเธอ แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็กๆน่ารักของเอมี่ เธอก็อดที่จะตอบไมได้ว่า “พี่ชื่อแซลลี่ มาจากป่าลม”

 

 

“พี่แซลลี่ หนูชื่อเอมี่ ป่าลมคือที่ที่มีเอลฟ์อาศัยอยู่ใช่มั้ย ?” ตาของเอมี่เป็นประกายขึ้นมา เธอถามด้วยความคาดหวัง “จะต้องมีพี่สาวเอลฟ์ที่สวยเหมือนกับพี่อยู่ที่นั่นเยอะเลยใช่มั้ย ?”

 

 

แซลลี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่ มีเยอะเลยล่ะ” เธอรู้สึกดีเมื่อได้ยินคำชมจากปากของเด็กน้อยคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ

 

 

แม็กซ์ฟังทั้งคู่คุยกันอยู่ในครัวและยิ้มออกมา ดูเหมือนว่าสาวน้อยจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเอลฟ์มาก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยแสดงมันออกมาก็ตาม

 

 

แซลลี่ไม่ได้รำคาญอะไรและตอบคำถามอย่างมั่นใจ เธอตอบคำถามทุกข้อของเอมี่อย่างอดทน ไม่ว่าพวกมันจะเป็นคำถามที่ไร้เดียงสาหรือเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับป่าลม

 

 

แม็กซ์เดินออกมาพร้อมกับจานข้าวผัด เขาวางมันลงตรงหน้าแซลลี่และยิ้ม “ข้าวผัดหยางโจวของคุณได้แล้ว”

 

 

“ขอบคุณ” แซลลี่ตอบกลับอย่าสุภาพ ตอนนี้เธอสนใจแต่ข้าวผัดหยางโจวโดยสิ้นเชิง กลิ่นหอมของไข่และวัตถุดิบต่างๆนั้นเตะจมูกของเธอและมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เธอกลืนน้ำลาย เธอหมกมุ่นอยู่กับมันจนไม่สนใจมารยาทที่เธอเคยเรียนรู้มา

 

 

อาหารของเอลฟ์นั้นค่อนข้างเรียบง่าย หลักๆแล้วพวกเขาจะกินผลไม้วิญญาณต่างๆ แม้แต่ตอนที่ทำอาหารพวกเขาก็ยังปรุงวัตถุดิบแยกกัน พวกเขาจะไม่ปล่อยให้รสชาติของวัตถุดิบแต่ละอย่างมาผสมรวมกัน

 

 

เธอไม่เคยกินอาหารที่ใส่วัตถุดิบหลายอย่างเข้าด้วยกันและปรุงด้วยน้ำมันมาก่อน เธอไม่เคยกินน้ำมันอย่างอื่นนอกจากน้ำมันที่มาจากเนื้อสัตว์

 

 

ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงเลยเมื่อเธอมองไปที่ข้าวผัดหยางโจวที่มีน้ำมันอยู่

 

 

แซลลี่รู้สึกทึ่งกับทักษะการหั่นของแม็กซ์มาก วัตถุดิบทุกอย่างถูกหั่นให้มีขนาดเท่ากับเม็ดข้าวรวมถึงถั่วเขียวด้วย มันไม่สามารถทำแบบนี้ได้ถ้าเขาไม่เคยฝึกมันมาเป็นพันๆครั้ง

 

 

เธอมองข้าวผัดตรงหน้าด้วยความคาดหวัง เธอไม่เคยเห็นใครที่สามารถทำอาหารที่ประณีตและดูเข้ากันได้ดีแบบนี้มาก่อน

 

 

“ลองกินดูเลยพี่แซลลี่ ข้าวผัดสายรุ้งของพ่อน่ะดีมากๆ” เอมี่มองไปที่แซลลี่ด้วยความคาดหวัง จากนั้นก็กระซิบต่อ “หนูได้ยินเสียงท้องพี่ร้องด้วย “

 

 

ใบหน้าของแซลลี่แดงขึ้นมา มันน่าอายมาก ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักข้าวเข้าปาก รสหวานของข้าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งปากของเธอในทันที เธอหลับตาลงโดยไม่รู้ตัวและส่งเสียงครางออกมา “อื้อ...”

รีวิวผู้อ่าน

piyaman515
1384 วันที่แล้ว

ห้า


  แสดงความคิดเห็น