px

เรื่อง : ดวงตาเทพเหนือโลก
ตอนที่ 47 ตามหา


ตอนที่ 47 ตามหา

 

ซ่งลุ่ยได้ยินฮงเหมยพูดเช่นนั้น เขาก็รู้สึกยิ้มในใจอย่างเบิกบาน ฮงเหมยหนอฮงเหมย คิดไม่ถึงเธอก็มีวันมาขอร้องฉัน! มันช่างรู้สึกฟินจริงๆ!

เวลาโดนคนขอร้องทีไรมันทำให้รู้สึกฟินทุกที โดยเฉพาะเธอ ฮงเหมย เวลาเธอมาขอร้องฉันมันยิ่งรู้สึกฟิน! ตอนนี้ซ่งลุ่ยกำลังตะโกนมันขึ้นในใจที่แสนจะเงียบงันของตัวเอง แต่ใบหน้าที่แสดงออกยังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ดวงตาทั้งสองข้าง ค่อยๆเหลือบมองไปที่ฮงเหมย จากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีใส่เธออีกครั้ง

   

เมื่อฮงเหมยเห็นเขาทำกับตัวเองแบบนั้น ใจเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโห ฉันฮงเหมยคนนี้เป็นใครกัน! ตัวเองเป็นลูกน้องอันดับหนึ่งของท่านประธานจางเชียวนะ ตอนนั้นฉันถึงกับยอมก้มหัวขอร้องนายขนาดนั้น นายกลับกล้ามาปฏิเสธฉันคนนี้! เฮอะฉันก็ไว้หน้านายแล้วนะ! แต่เมื่อเธอคิดย้อนกลับไป แม้ว่าตัวเองจะเป็นคนโปรด แต่สุดท้ายก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แบบนั้นท่านประธานจางจะมาคิดพึ่งพาตัวเองได้ยังไง

เธอยังคิดว่าในใจของประธานจางยังคิดว่าเธอเป็นผู้หญิง ไม่อาจพึ่งได้เหมือนพวกผู้ชาย แม้ว่าตัวเองจะติดตามสั่งสมประสบการณ์ร่วมกับท่านประธานจางมาหลายปีก็ตาม แต่จากท่าทีของประธานจาง เห็นได้ชัดว่าเขาคิดจะชุบเลี้ยงซ่งลุ่ยเพื่อเอามาแทนที่ตัวเอง เฮ้ยแล้วแบบนี้ตัวเองจะทำยังดีล่ะ! แถมความไม่ชัดเจนของการเอาใจแบบนี้กำลังใกล้เข้ามาแล้วด้วย!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮงเหมยก็กัดฟันตัวเอง ถ้าไม่เห็นแก่อนาคตของแก ฉันจะปล่อยให้แกไปตาย ฮงเหมยถอนหายใจออกมายาวๆ เฮ้ยต่อไป ฉันก็คงได้แต่อดทน!

ฮงเหมยจัดการอารมณ์ของตัวเอง และยังจัดการกับคำพูด ขณะที่ฮงเหมยอยู่ในอ้อมแขนของซ่งลุ่ยเธอเงยหน้าขึ้น และพูดกับซ่งลุ่ยว่า “เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะนาย เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ที่ท่านประธานจางฝากให้ฉันบอกกับนายน่ะ เรื่องนั้นพวกเราลงทุนมากเกินไป ฉันกลัวว่าตัวเองจะลืม ถึงยังไงพวกเราก็ต่างทำงานให้ท่านปรธานจางใช่ไหมล่ะ”

 “ถ้าทำเรื่องของเขาออกมาแย่ พวกเราแค่เดินออกไปก็ทำไม่ได้แน่ และถ้าพูดอีกอย่างฉันเองก็หนีเอาตัวรอดไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นนายคิดว่าเวลาไหนควรทำยังไงก็ทำเลยนะ ได้ใช่ไหมละ”

ที่จริงเมื่อครู่ซ่งลุ่ยไม่ได้โกรธเลยสักนิด เขาแค่อยากจะสัมผัสกับความรู้สึกที่ถูกฮงเหมยขอร้องตัวเองสักพักเท่านั้น เมื่อกี้ท่าทางของฮงเหมย ไม่รู้ว่าเธอคิดว่าตัวเองเล่นแรงเกินไปรึป่าว เมื่อคิดให้ละเอียดเกี่ยวกับการกระทำทั้งหมดของตัวเองเมื่อครู่ ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเองเขาก็คงรับท่าทีแบบนั้นไม่ไหวเหมือนกัน

ตอนที่ฮงเหมยเตรียมจะขอโทษอย่างจริงจังนั้น ฮงเหมยก็พูดสิ่งเหล่านั้นออกมาก่อน มันอดไม่ได้ที่จะทำให้ซ่งลุ่ยมองว่าฮงเหมยนั้นเป็นคนมีความสามารถ ดูเหมือนการที่เธอมาถึงตำแหน่งนี้ก็คงไม่ใช่เพราะการพึ่งพาความสามารถปลอมๆพวกนั้น การที่เธอสามารถอดกั้นอารมณ์นี้ไว้ได้ มันทำให้ตัวเองอยากจะยกนิ้วให้เธอเลยจริงๆ!

   

ซ่งลุ่ยเห็นว่าไหนๆฮงเหมยก็พูดออกมาแล้ว และมันยังเป็นการสร้างบันไดให้กับตัวเองได้เดินลงมา ถ้าตัวเองยังฝืนทำแบบนี้ต่อไปมันก็เหมือนกับการที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับเธอ แต่ตัวเองจะตอบตกลงได้อย่างไร ตอนนี้เขายังต้องคิดให้ดีๆก่อน และจะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังควบคุมเธออยู่ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องทำให้มันออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้นก่อนที่เขาจะพูดออกมามันต้องถูกเรียบเรียงให้ดีซะก่อน

   

ขณะที่ซ่งลุ่ยกำลังเรียบเรียงคำพูดของตัวเอง เขาก็แสดงท่าทางเข้าใจออกมาอย่างฉับพลัน จากนั้นเขาแสดงสีหน้าขอโทษออกมา และพูดกับฮงเหมยอย่างเป็นธรรมชาติ “ยังไงก็เป็นฮงเหมยที่คิดกาลไกล! ไม่เหมือนกับฉัน ที่คิดอย่างครึ่งๆกลางๆอย่างกับพวกสัตว์ เมื่อกี้เป็นฉันเองที่ทำตัวเย็นชาใส่เธอ!”

 “ต้องขอโทษจริงๆ ดูเหมือนฉันต้องหาเวลาตอบแทนเธอให้ดีๆบ้างแล้ว เธอว่าฉันพูดถูกไหม แล้วก็นะ จะตอบแทนยังไงนั้น เธอรู้ใช่ไหม ฮิฮิฮิ” เมื่อพูดจบ เขาก็หัวเราะแบบแปลกๆให้กับฮงเหมย

ฮงเหมยเห็นซ่งลุ่ยแสดงท่าทางแบบนั้นออกมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขยะแขยง ไม่มีความรู้สึกกระตือรือร้นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว บาทีเธออาจรู้สึกขยะแขยงซ่งลุ่ยจริงๆ!

แค่ความคิดครึ่งๆกลางๆงั้นหรอ ไม่เข้าใจจริงๆทำไมประธานจางถึงมองเขาด้วยสายตามีค่าแบบนั้น ถ้าให้ประธานจางมาเห็นท่าทางของซ่งลุ่ยในตอนนี้ เขาจะต้องเห็นตัวตนของซ่งลุ่ย และเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาแน่!

การแสดงของซ่งลุ่ยสร้างปัญหาให้กับฮงเหมย ในตอนนั้นเธอไม่มีอารมณ์มาเล่นกับเขาอีกต่อไป อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ไม่มีแล้ว หวังว่าต่อไปคงมีละมั้ง ตอนนี้ฮงเหมยเพียงอยากคุยเรื่องที่ประธานจางมอบหมายให้ชัดเจน และสมบูรณ์ จากนั้นเธอก็จะรีบเดินจากไป เพราะตอนนี้ตัวเองไม่อยากจะเห็นท่าทีแบบนั้นของเขาอีกต่อไป!

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เป็นธรรมดาที่ฮงเหมยจะลุกขึ้นมาจากอ้อมแขนของซ่งลุ่ย และกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆอีกครั้ง เธอพูดกับซ่งลุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้นายฟังให้ดีนะ ฉันจะทวนสิ่งที่ท่านประธานจางบอกอีกครั้ง นายจะต้องตั้งใจฟังมัน ถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วอย่ามาบ่นว่าฉันพูดไม่ชัดเจนนะ!”

   

เมื่อซ่งลุ่ยเห็นฮงเหมยออกไปจากอ้อมแขนแล้วยืนขึ้น ใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เมื่อกี้เธอยังทำหน้าหนาวหว่านเสน่ห์ใส่เขาอยู่เลย ทำไมตอนนี้เธอถึงเปลี่ยนไปเคร่งขรึมได้ขนาดนี้ล่ะ ตัวเองได้เห็นเทคนิคการแปลงโฉมหน้าที่ยอดเยี่ยมของผู้หญิงอีกแล้ว! ครั้งที่แล้วก็ทำให้ตัวเองแปลกใจไปครั้งหนึ่ง!

เป็นความสมบูรณ์แบบที่สุดยอด! แม่งโครตสุดยอดจริงๆ! แต่ถ้าพูดอีกอย่าง หรือว่าหลังจากที่ฮงเหมยพูดจบเธอก็จะไม่ทำกับตัวเองแล้วหรอ ลองดูท่าทีของฮงเหมยก่อนก็แล้วกัน ซ่งลุ่ยไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุผลคืออะไร แต่ซ่งลุ่ยสัมผัสได้ว่าเธอหมายความว่าแบบนี้ แบบนี้ก็ดีลดปัญหาให้ตัวเองได้เยอะ!

ซ่งลุ่ยมองสีหน้าของฮงเหมยที่นั่งอยู่ ตอนนี้ตัวเองจะทำเป็นเล่นต่อไปอีกไม่ได้ จากนั้นเขาก็ปรับตำแหน่งการนั่งของตัวเองเล็กน้อย เขาเปลี่ยนเป็นท่านั่งตัวตรงขาทั้งสองข้างเกือบชิดกันแบบผู้ดีที่มีสง่าราศีทำ ในเวลาเดียวกันเขาก็ทำหน้าจริงใจใส่ฮงเหมยเช่นกัน และเขายังไม่หยุดเพียงเท่านั้นในใจของเขากำลังคิด เธอทำสีหน้าเคร่งขรึมแบบนั้นใส่ฉัน งั้นฉันเองก็ทำมันใส่เธอได้เช่นกัน จะให้ตัวเองเสียความสง่างามไปไม่ได้!

ฮงเหมยเองก็เห็นซ่งลุ่ยนั่งตัวตรงเหมือนกับตัวเอง ในตอนนั้นรูปร่างของเขาสูงขึ้นมาเล็กน้อย เธอกำลังคิด ดูเหมือนซ่งลุ่ยก็รู้แล้วว่าตัวเองกำลังหมายถึงอะไร งั้นก็ดี พอดี ฉันพูดจบจะได้หาเหตุผลและเดินออกไปเลย ฉันจะรอดูนายจะมีหน้ามาทำเป็นขอร้องอะไรฉันได้อีก ฉันจะรอดูนายจะขอร้องอ้อนวอนฉันยังไง!

แม้ว่าใจของฮงเหมยจะคิดแบบนี้ก็จริง แต่ปากของเธอเหมือนจะยังไม่หยุดพูด เมื่อเห็นซ่งลุ่ยนั่งตัวตรง จากนั้นเธอก็อ้าปากพูดกับซ่งลุ่ยอีก “ท่านประธานจาง ให้ฉันมาบอกนายว่า เรื่องของการเก็บค่าเช่านี้นายจะเจอปัญหาบ้าง แต่มันจะยุ่งยากมาก พวกมันจะเป็นเพียงปัญหาเล็กๆแค่นั้น ไม่ต้องรีบร้อนร้องขอความช่วยเหลือจากทางบริษัท เพราะทางบริษัทไม่ใช่ที่กำจัดขยะ!”

   

หลังจากฮงเหมยพูดจบ เธอก็จ้องเขม็งไปที่ซ่งลุ่ย แน่นอนตอนนี้เธอมองเห็นปัญหาบางอย่างจากการแสดงออกทางสีหน้าของซ่งลุ่ย ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สงสัยอะไร แต่ถ้าเขามีปัญหา นั้นก็ถึงตาที่เธอจะเป็นฝ่ายควบคุมเขาบ้างล่ะ! ตัวเองจะทำให้เขาต้องเสียใจที่กล้ามาขัดใจตัวเอง!

ทางฝั่งของซ่งลุ่ย หลังจากฟังที่ฮงเหมยพูดจบ ตอนนั้นเขาก็แสดงสีหน้าที่ครุ่นคิดออกมา แต่เดิมเขาคิดว่าที่ประธานจางตั้งใจให้ตัวเองทำเรื่องมากมายเหล่านี้ แต่เขากลับให้ฮงเหมยมาพูดกับตัวเองเพียงแค่นี้เนี่ยนะ

   

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างเผยให้เห็นถึงความสงสัย เขาถามฮงเหมยว่า “พูดจบแล้วงั้นหรอ ท่านประธานจางให้คุณมาพูดแค่เนี่ย อะไรมันจะจบเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่แล้วมั้ง มันควรจะยาวกว่านี้อีกหน่อยซิ เธอกำลังพลาดอะไรไปรึป่าว!”

ฮงเหมยได้ยินซ่งลุ่ยพูดแบบนั้น เธอจึงแกล้งทำเป็นตอบกลับแบบโมโห “ทำไม แม้แต่ฉันนายก็ไม่เชื่อแล้วหรอ ถ้านายไม่เชื่อที่ฉันพูด นายก็ไปถามท่านประธานจางด้วยตัวเองเลยซิ!”

รีวิวผู้อ่าน