px

เรื่อง : ดวงตาเทพเหนือโลก
ตอนที่ 22 อาหารเช้าเป็นเรื่องสนุก


ตอนที่ 22 อาหารเช้าเป็นเรื่องสนุก

 

ในขณะเดียวกันหลินหลินเองก็ตอบสนองอย่างดุเดือด ลิ้นทั้งสองได้ตวัดรัดเกี่ยวสู้รบกับฝ่ายตรงข้ามในปากของกันและกัน ยังไม่ทันที่จะรู้ผลแพ้ชนะของสงครามลิ้นนี้ ซ่งลุ่ยก็ได้ยินเสียงของระบบดังแว่วขึ้นมาในหูของเขา

“ระบบตรวจพบว่ามีการหลั่งฮอร์โมนตามปกติ กำลังชาร์จแบต คำเตือน! อย่าหยุดหลั่งฮอร์โมน!”

ระบบตรวจพบว่ามีการหลั่งฮอร์โมนตามปกติ กำลังชาร์จแบต คำเตือน! อย่าหยุดหลั่งฮอร์โมน!

ซ่งลุ่ยเมื่อได้ยินเสียงนี้ในใจก็เปลี่ยนไปมีความสุขขึ้นมาทันทีทันใด แต่ว่าการเคลื่อนไหวของปากเขายังคงไม่หยุด ยังคงจูบหลินหลินอย่างต่อเนื่อง หลินหลินเองก็โต้ตอบกลับอย่างดุเดือดเช่นกัน มือของซ่งลุ่ยที่กำลังจูบกับหลินหลินอยู่นั้นกลับอยู่ไม่สุข ค่อยๆลูบคลำ ไปจนสัมผัสกับบริเวณที่หลินหลินไวต่อความรู้สึก เธอจึงส่งเสียง “ฮึ!”ออกมา ราวกลับว่าร่างกายโดนสูบพลังไปจนหมด ในเวลานั้นทั่วทั้งตัวก็อ่อนปวกเปียกไปหมดไม่สนใจที่จะตอบกลับจูบของซ่งลุ่ยอย่างทันทีทันใด เธอซบลงไปในอ้อมแขนของซ่งลุ่ยและไม่เงยหน้าขึ้นมาอีก   

เมื่อซ่งลุ่ยเห็นท่าทางของหลินหลินแบบนี้  ในทันใดนั้นหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความเร่าร้อน เขาแนบปากไปกับหูของหลินหลินแล้วพูดว่า

“พวกเราไปนอนกันเถอะ!” พูดจบก็ขบที่ติ่งหูของหลินหลิน

ฟังคำพูดของซ่งลุ่ยก็รู้สึกได้ถึงการกระทำของซ่งลุ่ย หลินหลินที่ร่างกายอ่อนปวกเปียกก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าว! เธอส่งเสียง “อืม”ออกมา เสียงนั้นเบามากจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ว่าดันได้ยินไปถึงหูของซ่งลุ่ย เหมือนกับว่าเสียงของสายฟ้าผ่าในวันมีพายุฝนฟ้าคะนองที่สร้างความฮึกเหิมให้กับเขา!

ซ่งลุ่ยทำตามคำสั่งนั้น เขารีบลุกขึ้นและอุ้มหลินหลินไปที่ห้องนอน พลางเดินอุ้มหลินหลินไปด้วยและมองเธอในอ้อมแขนไปด้วย หลินหลินที่ซบอยู่บนหน้าอกเขาทำให้ใบหน้าของเขาแดง รวมถึงหูที่เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยเช่นกัน ฝีเท้าก็อดไม่ได้ที่จะเร่งความเร็วขึ้น

ซ่งลุ่ยเดินไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว เขาวางหลินหลินลงบนเตียงอย่างเบา ๆ แล้วจูบปากของหลินหลินอีกครั้ง เป็นการจูบอีกครั้งที่ยาวนาน   หลังจากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกและวางไว้ข้างๆ แล้วเอนตัวลงนอนข้างๆหลินหลินและทำขั้นตอนต่อไปให้สำเร็จ!

ไม่มีคำพูดใดๆต่ออีกในคืนนั้น ภายในห้องอบอวลเต็มไปบรรยากาศของกามารมณ์

ในตอนเช้าของวันถัดไป ทั้งสองตื่นขึ้นมาเกือบจะในเวลาเดียวกัน พวกเขาต่างมองหน้ากันและกัน เห็นเพียงหลินหลินฝังตัวอยู่ในอ้อมแขนของซ่งลุ่ยอย่างแนบชิด มีเพียงแค่หัวที่โผล่ออกมาเท่านั้น ดวงตาคู่หนึ่งมองไปรอบ ๆ เมื่อซ่งลุ่ยเห็นก็รู้สึกน่าสนใจมากขึ้นมาในทันที ดังนั้นเขาจึงกระชับอ้อมกอดของเขาให้แน่นกว่าเดิม แต่หลินหลินกลับดันออกและพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“นายหิวแล้ว ฉันจะไปทำข้าวให้นายกิน!” พูดจบ เธอก็เตรียมตัวที่จะลุกออกจากเตียงและปิดปากเงียบกับเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น

ซ่งลุ่ยที่ได้ยินว่าหลินหลินกำลังจะไปทำอาหารให้ตัวเอง ในเวลานั้นเขาก็พูดเพื่อหยุดเธอ

“ช่างมันเถอะ ให้ฉันเป็นคนทำเองเถอะ! ร่างกายของเธอยังคงเจ็บอยู่ หยุดพักเถอะ!” พูดจบแล้วก็โอบกอดหลินหลินและเตรียมตัวที่จะลุกออกจากเตียง

หลินหลินได้ยินซ่งลุ่ยพูดเธอก็ยิ้มหวานให้ซ่งลุ่ยแล้วพูดว่า

“นั่นมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรแล้วหล่ะ ตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บแล้ว นายไม่สามารถให้ฉันอยู่บนเตียงได้อีกแล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องขยับร่างกายเพื่อทำความเคยชินกับมัน ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากนี้ฉันยังต้องไปทำงานอีก!”

ซ่งลุ่ยได้ยินหลินหลินพูดแบบนี้และลองคิดดูแล้วซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอว่า ดังนั้นเขาจึงพูดเล่นกับหลินหลินว่า “งั้นก็ได้ งั้นเธอไปเถอะ เธอห้ามใส่ยาพิษลงไปหล่ะ!”

หลังจากที่หลินหลินได้ยินก็ตอบว่า “ฉันจะใส่และดูว่านายกล้าที่จะกินหรือเปล่า!” หลังจากที่ได้ยินซ่งลุ่ยก็หัวเราะและไม่พูดอะไรอีก หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งก็มีเสียงเจื้อยแจ้วออกมาจากห้องครัว!

เมื่อซ่งลุ่ยได้ยินเสียงนี้ใบหน้าเขาก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา ทันใดนั้นท่าทางเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเพลียก็ทำให้เขาหาวออกมา เขาหาตำแหน่งที่จะนอนหลับได้อย่างสบาย เขาหลับตาลงและหลับไป ในขณะที่เขากึ่งหลับกึ่งตื่น เสียงของหลินหลินก็ดังออกมา

“รีบตื่นขึ้นมากินข้าวเร็ว! เร็วเข้า ถ้านายไม่รีบมาฉันจะกินของนายให้หมดเลย!” ซ่งลุ่ยที่ได้ยินเสียงนี้ก็รีบลุกขึ้นจากเตียง แต่งตัวยังไม่ทันเรียบร้อยดีก็รีบเดินไปที่โต๊ะอาหาร

หลินหลินมองดูการกระทำของซ่งลุ่ยและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอพุดกับเขาว่า “นายจะรีบไปทำไม ฉันบอกว่าหลังจากกินอิ่มแล้ว ฉันจะสามารถกินได้อีกจริงเหรอ?”

เมื่อซ่งลุ่ยได้ยินคำพูดของหลินหลิน เขาก็ลูบหัวด้วยความเขินอายและพูดกับหลินหลินว่า “แหะ แหะ แหะ ฉันชินละ ฉันชินละ”หลินหลินที่เห็นท่าทางชองซ่งลุ่ยก็ไม่พูดอะไร รีบเรียกซ่งลุ่ยให้นั่งลงและเตรียมตัวกินข้าว ในตอนแรกซ่งลุ่ยไม่ได้รู้สึกหิวอะไรมาก แต่ว่าพอเห็นกับข้าวที่หลินหลินทำ จมูกได้รับรู้กลิ่นของอาหารก็พาลทำให้นึกถึงคนทำอาหาร ท้องก็ร้องออกมาด้วยความหิว    

ซ่งลุ่ยนั่งลงและมองดูอาหารที่วางไว้เต็มโต๊ะอาหาร ซ่งลุ่ยกล่าวชมเชยหลินหลิน

“ไม่เลวใช้ได้เลย ดูแล้วน่าอร่อย” หลินหลินในเวลานี้พูดด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง

 “แน่นอน ฉันเป็นมือโปรในการทำอาหาร” ซ่งลุ่ยที่ได้ยินหลินหลินพูดอย่างนี้ เขาก็ไม่เชื่อ และล้อเลียนหลินหลินกลับไป “ถ้าเธอเป็นมือโปรจริงๆ งั้นหม้อและกระทะเปื้อนฝุ่นก่อนหน้านี้เธอจะอธิบามันว่าอย่างไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซ่งลุ่ย ใบหน้าของหลินหลินก็แดง แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ อย่างไรก็ตามมันคือเรื่องจริง เธอจึงยกมือขึ้นด้วยความอายจนแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแล้วตีไปที่ซ่งลุ่ย เขารีบชูมือทั้งสองข้างยอมรับความพ่ายแพ้ ในเวลาเดียวกันเขาก็ตอบกลับว่า

“เอาหล่ะ ฉันยอมแพ้แล้ว กินข้าวเถอะ ไม่อย่างงั้นกับข้าวจะเย็นหมด!”

แต่หลินหลินกลับไม่ยอม ยังคงไม่ยกโทษให้ซ่งลุ่ยและรู้สึกรำคาญเขา ซ่งลุ่ยหันกลับมามองและจับหลินหลินมาไว้ในอ้อมอกและจูบเธออย่างรวดเร็ว

หลินหลินอยู่ในอ้อมแขนของเขาเบิกตากว้าง รู้สึกเหลือเชื่อและโบกมือของเธอไม่หยุดแต่ไม่ได้ตีซ่งลุ่ย แต่กลับกอดซ่งลุ่ยแทนและได้ตอบโต้กลับอย่างกระตือรือร้น

ทั้งสองคนจูบกันอยู่ครู่หนึ่ง ซ่งลุ่ยก็ปล่อยหลินหลินและหลินหลินที่กำลังฟุ้งซ่าน เขากระซิบด้วยเสียงต่ำๆว่า "ฉันรักษาเธอไม่ไหวแล้วนะนางฟ้าตัวน้อย" หลังจากนั้นหน้าของซ่งลุ่ยก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา

ในเวลานี้หลินหลินก็รู้สึกว่าท่าทางของเธอไม่เหมาะสม เธอเตรียมที่จะดิ้นออกจากอ้อมอกของซ่งลุ่ย แต่ว่าเขาควบคุมไม่ให้เธอดิ้น ทันใดนั้นใบหน้าของหลินหลินก็เปลี่ยนเป็นสีแดง กระซิบเบาๆที่ข้างหูของซ่งลุ่ยว่า

“นายมันคนเลว! รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลย ไม่อย่างนั้นกับข้าวจะเย็นหมด!”

ซ่งลุ่ยก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันดังนั้นเขาจึงประคองหลินหลินขึ้นและพูดกับหลินหลินว่า

 “ระวังนะ ฉันยังไม่ได้หายโกรธ!” พูดจบ เขาก็ยกกำปั้นไปทางที่หลินหลิน แต่หลินหลินกลับไม่เห็นยังคงตักข้าวให้เขาเหมือนเดิม ซ่งลุ่ยก็รู้สึกว่าโอเคแล้วและไม่คิดเล็กคิดน้อย เขาจึงเริ่มกินข้าว

"เอิ๊กกก ~"

เสียงเรอของซ่งลุ่ยที่กินข้าวจนอิ่ม เขาลูบท้องของเขาที่เต็มไปด้วยอาหารและมองไปที่หลินหลิน

“ถ้าเธอทำอาหารแบบนี้ ไม่ต้องรอให้ถึงหนึ่งเดือน ฉันต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ”

หลินหลินที่ได้ยินซ่งลุ่ยพูดแบบนั้นก็ยิ้มหวานออกมาแล้วพูดกับเขาว่า

“ถ้านายชอบก็โอเคแล้ว ฉันจะทำให้นายกินทุกวันเลย”

รีวิวผู้อ่าน