px

เรื่อง : โปรดเรียกผมว่า “วีรบุรุษรีไซเคิล”
RC:บทที่ 16 ผลฮั๋วหยาง


RC:บทที่ 16 ผลฮั๋วหยาง

เติ้ง เทียนฝู เจ้าของร้านผลไม้ที่เพิ่งจะเปิดประตูนั้นก็เห็นหลิน เฟิงขี่มอเตอร์ไซต์มาและเพิ่งจะจอดที่หน้าร้าน เขาก็รู้สึกประหลาดใจ

“ใช่ครับ พี่เติ้ง ดูเหมือนผมจะมาได้ถูกเวลาพอดีสิเนี่ย” หลิน เฟิงเอ่ยพลางยิ้มๆ

“งั้นมานี่เลย เช้านี้ออกจะหนาวสักหน่อย เข้ามาก่อนสิ” 

“ไม่จำเป็นหรอก พี่เติ้ง เดี๋ยวผมมีอะไรบางอย่างต้องทำอีกสักพัก พี่อยากจะมาดูองุ่นที่ผมส่งไปให้ไหม พี่พอใจหรือเปล่า”

หลิน เฟิงชี้ไปที่องุ่นก่อนจะว่าขึ้น องุ่นแต่ละลูกนั้นใหญ่เหมือนไข่ ทั้งกลมและเต็มลูกทั้งยังมีหยดน้ำค้างทำให้มันดูเป็นองุ่นที่สดใหม่มาก

“ว้าว สดมากเลย แถมยังมีหยดน้ำค้างอยู่ด้วย นี่เพิ่งจะเก็บมาเลยสิท่า”

เติ้ง เทียนฝูถามขึ้น ก่อนจะหยิบมากินถึงสองลูกด้วยท่าทางน่าอร่อย 

“ครับ ผมตื่นแต่เช้า พี่คิดว่ามันใช้ได้ไหมครับ ถ้าคิดว่าได้ ก็เอาไปได้เลย เพราะถ้ามีอะไรที่บ้านอีก ผมจะรีบกลับไปเอาให้เลย” 

เพราะว่าในตอนนั้น หลิน เฟิงจำไก่และเสี่ยว เฮ่ยของเขาขึ้นมาได้ นี่เขายังไม่รู้เลยว่าเสี่ยว เฮ่ยตื่นแล้วหรือยังหรือไก่นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้หรือไม่

“ดีกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ ไม่มีลูกเสียเลย เอาเข้ามาเลย”

เติ้ง เทียนฝูมองลูกองุ่นของหลิน เฟิงด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนั้นหลิน เฟิงจึงขนตามเข้าไป

ไม่กี่นาทีนั้นเอง หลิน เฟิงก็เตรียมองุ่นไว้พร้อมแล้ว ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซต์กลับบ้านไป

แต่ทว่าขี่ไปได้ไม่นาน หลิน เฟิงก็หยุดรถเพราะเขาได้มาถึงสถานที่ที่โรงเก็บขยะขนาดใหญ่ซึ่งผ่านไปเมื่อวานนี้ โดยในตอนนี้ ขยะที่อยู่ในโรงเก็บขยะขนาดใหญ่นี่ถูกแบ่งเอาไว้เป็นสามกอง

กองหนึ่งเป็นผักผลไม้เน่าเสีย ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือผักและผลไม้ หลิน เฟิงประเมินเอาไว้ว่าน้ำหนักน่าจะราวๆสิบตันเลยทีเดียวซึ่งน้อยกว่าหน้ากระดาษหนังสือจำนวนหนึ่งตัน รวมถึงกระเป๋าพลาสติกและเสื้อผ้าจำนวนห้าหรือหกตัน

“ติ๊ง คุณเจอขยะแล้ว คุณอยากจะทำความสะอาดมันไหม”

“ติ๊ง คุณเจอขยะแล้ว คุณอยากจะทำความสะอาดมันไหม”

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลิน เฟิงตู๋ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เขาหยุดรถกะทันหัน จากนั้นจึงเปิดมือถือขึ้นมาพลางชี้ไปที่กองขยะพวกนั้น แล้วทันใดนั้นเองก็ปรากฏการแจ้งเตือนขึ้นมามากมายในทันที

“ติ๊ง เศษผักและผลไม้จำนวนสิบเอ็ดตันนั้นสามารถสกัดเป็นผลฮั๋วหยางได้ ให้ทำความสะอาดเลยไหม”

“ใช้เป็นสิบเอ็ดตันเพื่อผลิตผลไม้ขึ้นมาผลหนึ่งเนี่ยนะ มันเป็นยังไงวะเนี่ย เจ้าผลฮั๋วหยางเนี่ย” 

หลิน เฟิงรู้สึกงุนงง ก่อนจะเอามือถือชี้ไปที่กองอีกกองหนึ่งซึ่งเป็นกองกระดาษหนังสือ

“ติ๊ง กระดาษห่อของกับกองหนังสือจำนวน 0.7 ตัน มีน้อยเกินไปกว่าที่จะสกัดออกมา คุณต้องการทำความสะอาดมันไหม”

“สกัดออกมานี่ต้องใช้ถึงสิบตันเลยงั้นหรือ”

หลิน เฟิงพูดอะไรไม่ออก แล้วจากนั้นเขาจึงเอามือถือชี้ไปยังขยะอีกกอง

“ติ๊ง ของในขยะกองนี้ปนกันไปหมดจนกว่าจะสกัดออกมาได้ ต้องการจะทำความสะอาดหรือไม่”

“เอ่อ ช่างเถอะ ฉันขอจัดการกองผักกับผลไม้ก่อนก็แล้วกัน”

จากนั้น หลิน เฟิงก็จับจมูกของตนก่อนจะชี้มือถือไปที่กองผักผลไม้ที่เน่าเหม็นนั้นแล้วทำความสะอาด

เป็นอีกครั้งแล้วที่ผมเห็นพลังการดูดกลืนของมือถือนี้ เพียงแค่แวบเดียว มันก็กลืนขยะไปมากกว่าสิบตัน

“ติ๊ง  ทำความสะอาด ดำเนินการ”

หลิน เฟิงรออยู่เงียบๆเกือบสามนาที

“ปิ๊ง หลังจากดำเนินการแล้ว สกัดได้ผลฮั๋วหยาง  คุณต้องการรับมันเลยหรือไม่”

มีเสียงดังขึ้นมาจากในมือถือ แล้วจากนั้นก็มีผลไม้โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอของหลุมดำนั้น ผลของมันเป็นสีแดงเหมือนลูกพีช ส่งแสงวิบวับออกมา

“นี่คือฮั๋วหยางงั้นหรือ เวทย์มนต์อะไรกันนี่”

หลิน เฟิงใช้นิ้วจิ้มลงไป ในเวลาต่อมา ก็ปรากฏข้อความขึ้นมาบนหน้าจอนั้น

“ทำไมถึงมีการใช้งานนี้ด้วยล่ะ”

หลิน เฟิงเองไม่เคยเห็นว่าหลุมดำจะมีการใช้งานแบบนี้มาก่อน และจากการสำรวจมาเรื่อยๆ หลิน เฟิงก็เริ่มเข้าใจลึกขึ้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการใช้งานหลุมดำนี้

แต่หน้าจอกลับแสดงแค่ว่า : ผลฮั๋วหยาง ผลไม้จิตวิญญาณขั้นต่ำ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างร่างกายและกำลังของผู้ใช้ให้แข็งแรงหลังจากกินเข้าไปแล้ว

“ไม่ใช่สิ แค่คำแนะนำสั้นๆงั้นหรือ” หลิน เฟิงอึ้งไปชั่วครู่

“ติ๊ง หลังจากประมวลแล้ว สกัดได้ผลฮั๋วหยาง คุณต้องการรับมันหรือไม่” เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว

“ยืนยัน” หลิน เฟิงว่าขึ้นในทันที

“ติ๊ง เก็บเข้าคลังสำเร็จ”

จากนั้น ผลไม้ผลแดงจัดจึงไหลออกมาจากรูสีดำจากในหลุมดำก่อนจะวางลงนิ่งๆบนมือของเขา และในตอนนั้นเอง มันก็ส่งแสงอุ่นๆออกมา

“นี่คือผลฮั๋วหยางงั้นหรือ”

เมื่อเห็นผลไม้ในมือ นอกเหนือจากที่ปล่อยแสงอุ่นๆออกมาก็ยังมีแสงวิบวับประกายออกมาด้วย

“ถ้ากินนี่จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งงั้นหรือ พลังชีวิตกับพละกำลังก็จะดีขึ้นด้วย งั้นฉันจะลองดู”

หลังจากนั้น หลิน เฟิงจึงกัดเข้าไปคำหนึ่งในทันที แต่เวลาต่อมา เขากลับรู้สึกแย่กับมันสุดๆ

“เชี่ย นี่มันผลไม้อะไรเนี่ย รสชาติโคตรแย่เลย”

หลิน เฟิงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กินผลบ๊วยไม่สุกซึ่งทั้งเปรี้ยวและรสชาติแรงจนทำเอาเขาเกือบอ้วก

“เอาน่า ทนหน่อย” หลังจากพูดจบ หลิน เฟิงก็รีบเคี้ยวมันก่อนจะกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

พูดตรงๆเลยว่า นี่เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่หลิน เฟิงเคยกินมาในชีวิต ทั้งเปรี้ยวและกลิ่นแรงจนทำเอาน้ำตาเขาเกือบจะไหล

โชคยังดีที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ผลไม้นี้ไม่มีแกน หลิน เฟิงจึงกลืนลงไปพลางหลับตาปี๋

“ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนเลย ไม่ใช่ว่ามันช่วยให้ร่างกายกับพละกำลังของผู้ใช้แข็งแกร่งหรอกหรือ” หลินเฟิงงุนงง

 “เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น คอฉันร้อนไปหมด” ในขณะที่กำลังสับสนอยู่นั้นเอง เขาก็รู้สึกร้อนคอขึ้นมา

และก็ไม่ใช่มีแค่ที่คอ แต่เป็นทั่วร่างกาย ในตอนนี้ หลิน เฟิงรู้สึกว่าร่างทั้งร่างของเขากำลังถูกไฟแผดเผา

ความเจ็บปวดทำให้เขาทนไม่ไหวอยู่ช่วงหนึ่ง เขากลิ้งไปมาหลายรอบก่อนจะสลบไปในทันที

เมื่อหลิน เฟิงตื่นขึ้นมา ก็ผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว ในตอนนั้นเอง  หลิน เฟิงก็รู้สึกเปลี่ยนไป

“บัดซบ เกิดอะไรขึ้น นี่ฉันเป็นลมงั้นหรือ”

หลิน เฟิงตื่นขึ้นก่อนจะเห็นว่าตัวเขานั้นนอนกองอยู่กับพื้น ถัดจากมอเตอร์ไซต์โกโรโกโสของตน

เขาดูจะแข็งแรงมากขึ้นมากๆ รูปร่างที่อ้วนเล็กน้อยนั้นยุบหายไป แต่กลายเป็นหนุ่มที่หุ่นกระชับเอามากๆราวกับคนที่ออกกำลังกายมาหนึ่งถึงสองปี กล้ามเนื้อทั่วทุกส่วนของเขาเผยออกมา

แต่หุ่นที่ว่าก็ดูไม่ได้เว่อร์จนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงพลัง

“พระเจ้า ผลไม้นั่นทำให้ฉันเปลี่ยนไปงั้นหรือ ทั้งหล่อทั้งสง่า เทียบกับอู๋ หนายซู่แล้ว การปล่อยเขาไปคงไม่ง่ายแล้วล่ะ”

หลิน เฟิงมองรูปร่างของตนผ่านกระจกมอเตอร์ไซต์ ใบหน้าอวบๆของเขาดูผอมลงแล้วในตอนนี้ อีกทั้งยังดูเห็นได้ถึงรูปร่างและมุมเป็นขอบสัน ทั้งหล่อและองอาจรวมถึงผิวที่ขาวนุ่มและดูดี

“คนขี้แพ้อย่างเราถึงคราวได้เป็นหนุ่มหล่อแล้วหรือเนี่ย โคตรเจ๋ง” หลิน เฟิงตื่นเต้นมากจนกลั้นไว้ไม่อยู่

และในตอนนี้ หลิน เฟิงยังรู้สึกอีกด้วยว่าร่างทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังงานไม่รู้จบ รวมถึงแรงกระตุ้นบางอย่างที่อยากจะหาใครมาสู้ด้วยสักคน แต่ทว่าแรงกระตุ้นตรงนี้ก็ถูกเขาสยบไปเรียบร้อย

ตอนนี้ หลิน เฟิงรู้สึกว่าความฟิตของร่างกายนั้นดีขึ้นอย่างน้อยสามเท่ารวมถึงพละกำลัง ความเร็ว ฯลฯ ร่างทั้งร่างในตอนนี้ราวกับถูกไฟแผดเผาที่เผาผลาญไขมันเขาออกไป จึงทำให้เขารู้สึกตัวเบาหวิวราวกับจะบินได้

“เฮ้ย ใจเย็นๆ ฉันก็คิดไม่ถึงว่าจะหลับยันเที่ยงแบบนี้ กลับบ้านก่อนดีกว่า” 

รีวิวผู้อ่าน