จะบ้า ! นี่ยังไม่หลับอีกรึ ? แล้วเมื่อกี้กรนทำไมซ้ำยังจับได้อีกว่าเธอกำลังจะย่องหนี อย่างนี้จะต้องนวดไปถึงเมื่อไรกันนี่ ?
ชีชีจำต้องลงนั่งนวดขาให้อีกฝ่ายจนแสนจะเบื่อหน่าย เรื่องไร้สาระเช่นนี้ดำเนินต่อไป กระทั่งหญิงสาวค่อย ๆ ส่งเสียงกรนตามมาด้วยอีกคน สวรรค์เท่านั้นที่ล่วงรู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร เมื่อเธอฟุบหลับลงกับท่อนขาของหลิวจ่งเทียน
โดยปกติหลิวจ่งเทียนเป็นคนรู้สึกตัวเร็ว แม้ยามหลับใหลเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นเขาก็จะรู้สึกตัวตื่นทันที แม้ยามต้องปราบปรามซุยงหนู เขาก็สามารถรับศึกได้สองสามวันอย่างต่อเนื่องโดยไม่หลับไม่นอน เพียงงีบพักสักชั่วยาม (2 ชั่วโมง) ก็สามารถปลุกตนให้รู้สึกตัวตื่นได้ทันที
ทว่าในวันนี้เขากลับหลับตลอดทั้งวัน กว่าจะรู้สึกตัวอีกคราก็ค่ำมืดดึกดื่น ครั้นเมื่อลุกขึ้นจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเว่ยชีชีกำลังกอดก่ายขาเขาหลับอุตุชนิดไม่รู้เรื่องรู้ราว
เดิมทีท่านอ๋องหนุ่มคิดจะกระตุกขาดีดเว่ยชีชีให้รู้สึกตัวสักที ทว่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับลึก กระทั่งส่งเสียงกรนเต็มที่เช่นนั้น เขาก็อดมิได้ ที่สุดกลับอุ้มเธอขึ้นไปนอนบนเตียงตน ก่อนจะเดินออกไปยืดเส้นยืดสายด้านนอก
วันนี้เกิดอันใดขึ้นกับเขากันนี่ ? ไยวันนี้เขาจึงหลับสนิทไม่รู้ตัวเช่นนี้ ได้หลับลึกยาวนานเพียงนี้ช่วยให้รู้สึกกระปี้กระเปร่ามีพลังอย่างเต็มที่
เห็นที จะหลับลึกอีกเมื่อไร คงต้องตามตัวเว่ยชีชีมาช่วยนวดขาให้เสียแล้ว
เว่ยชีชีรู้สึกตัวขึ้นมาอีกคราก็เมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่าสนั่น หญิงสาวตื่นตกใจรีบกระโดดลงจากเตียง จึงเห็นฟ้าแลบแปลบปลาบ สายฟ้าฟาด เสียงกระหึ่มก้องอยู่นอกกระโจม หรือสวรรค์จะเป็นใจให้เธอจริง ! ต้องรีบไปที่ต้นไม้ใหญ่นั่นให้เร็วที่สุด
ชีชีกระโจนลงจากเตียงรีบวิ่งพรวดพราดออกไปทันที หากทว่ากลับถูกหลิวจ่งเทียนยึดตัวไว้ “ด้านนอกพายุกรรโชก เจ้าจะทำอันใด ?”
“ข้าต้องไป ! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ !” เธอจ้องเขม็งอยู่กับสายฟ้าด้วยท่าทีร้อนรนใจ พร้อมสะบัดมือออกจากฝ่ามือของหลิวจ่งเทียนอย่างเต็มแรง “บ้าชะมัด ! ปล่อยเดี๋ยวนี้ หากสายฟ้าหมดไปคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว !”
“พูดกันให้รู้เรื่องเสียก่อน เปิ่นหวางจึงจะยอมปล่อยเจ้าไป !”
“Ok บอกท่านก็ได้ ข้ากำลังล่อสายฟ้าอยู่ !”
“เพื่อการใด ?” เขาเอ่ยถามทันที “เจ้าล่อสายฟ้าได้ด้วยกระนั้นรึ ?”
“เรื่องนี้คงต้องอธิบายยาว ข้าต้องรีบไปแล้ว !” เธอจ้องอีกฝ่ายตาเขียวปั้ด อีกฝ่ายดูท่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ เมื่อถึงตาจนย่อมไม่มีทางเลือก ชีชีกัดแขนท่านอ๋องหนุ่มอย่างเต็มแรง !
ความเจ็บทำให้อีกฝ่ายปล่อยแขนเธอทันใด หญิงสาวหมุนตัววิ่งไปทางประตูกระโจมในทันที ทว่าหลิวจ่งเทียนกลับยังไม่ยอมให้เธอไป เขารีบเข้ามาคว้าตัวเธอรัดทั้งร่างเธอไว้ในอ้อมแขนตน เพื่อมิให้เธอสบโอกาสแอบกัดเขาอีก ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมคางเธอแน่น
“นี่เจ้ากล้ากัดเปิ่นหวางกระนั้นรึ ?”
“ก็ผู้ใดใช้ให้ท่านมาขวางข้าเล่า ! เจ้าอ๋องชั่ว”
“นี่เจ้ากล้าด่าเปิ่นหวางกระนั้นรึ !” เขายกมือขึ้นตีบั้นท้ายเธอ
อูย ! เจ็บซ้ำเจ็บซากเสียนี่กระไร !
“อ๋องหน้าเหม็น อ๋องสารเลว !” ชีชีร้องโหวกเหวกโวยวาย
เดิมทีหลิวจ่งเทียนเพียงตีก้นเธออย่างเบามือที่สุด ทว่าเมื่อได้ยินเสียงก่นด่าไม่ขาดปากเขาจึงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาจริง ๆ เช่นนั้นฝ่ามือกว้างจึงยกขึ้นสูง ครั้นกำลังจะตีใส่บั้นท้ายนั้นเป็นครั้งที่สอง แสงจากฟ้าผ่าพลันระเบิดลั่นสั่นสะท้านเป็นวงกว้างอยู่นอกกระโจม ลำแสงเจิดจ้าแปรเปลี่ยนราตรีที่มืดมิดให้สว่างไสวดุจกลางวัน เสียงเปรี้ยงปร้างดังสนั่นกึกก้องจนแก้วหูแทบระเบิด
ชีชีทุบหลิวจ่งเทียนเต็มแรง จบกัน ! ฟ้าผ่าชุดสุดท้ายสิ้นสุดแล้ว !
หลิวจ่งเทียนประหลาดใจยิ่งนัก เขาคลายมือจากชีชี ก่อนจะเดินออกมานอกกระโจม มองตรงออกไปภายนอกค่ายที่สว่างเจิดจ้าดุจกลางวัน และแปรเปลี่ยนเป็นมืดมิดเพียงพริบตา ปาฏิหาริย์ !
เพียงครู่ ท่านรองหลิวก็พรวดพราดเข้ามาคุกเข่าลงตรงหน้าท่านอ๋องสาม
“รายงานท่านอ๋อง ทหารของเราพบที่ตั้งของพวกซุยงหนูแล้วพ่ะย่ะค่ะ !”
“รีบจัดทัพ พร้อมประจันบาน !” หลิวจ่งเทียนเลิกคิ้วสูง
“ไม่จำเป็นแล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกมันพากันล้มตายเกลื่อนกลาด คงเหลือรอดได้เพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ !”
ท่านอ๋องหนุ่มให้รู้สึกฉงนสนเท่ห์ยิ่งนัก เขาหันมาหารองผู้บัญชาการ เพื่อไถ่ถามว่าเหตุใดพวกข้าศึกจึงแตกพ่ายรวดเร็วถึงเพียงนี้ ? รองผู้บัญชาการหลิวชำเลืองมองชีชีคราหนึ่ง ก่อนจะเข้ามากระซิบกระซาบข้างหูท่านอ๋องหนุ่ม
“พวกมันดักซุ่มเตรียมโจมตีพวกเราอยู่ในราวป่า ทว่าสายฟ้าที่ผ่าลงมาด้วยฝีมือน้องเว่ยใช้แท่งเหล็กผูกติดกับต้นไม้ใหญ่เป็นตัวล่อกลับฟาดใส่พวกมันจนล้มตายเกลื่อนพื้นพ่ะย่ะค่ะ ! ทหารเวรรายงานว่า เห็นลูกไฟขนาดยักษ์พุ่งลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นก็เกิดแรงระเบิดครั้งใหญ่ เมื่อพวกเขาเข้าไปดูจึงเห็นซากศพพวกซุยงหนูประมาณ 10 นาย ใกล้บริเวณต้นไม้ที่น้องเว่ยทำการล่อสายฟ้าไว้พ่ะย่ะค่ะ”
“ต้นไม้ข้า !” เว่ยชีชีก้าวออกมาด้านหน้าด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว หลิวจ่งเทียนหันไปมองเธอด้วยท่าทางฉงนสงสัย
“ทั้งหมดเป็นความผิดของท่านที่เข้ามาขัดขวางข้า ต้นไม้นั่น ข้าเตรียมไว้เพื่อตนเอง ! ผู้ใดอยากฆ่าเจ้าพวกซุยงหนูนั้นกันเล่า !” ยามนี้เธอเศร้าเสียใจยิ่งนัก ความหวังจะได้กลับคืนบ้านกลายเป็นฝุ่นผงไปเสียแล้ว
“เจ้าอยากเข้าไปถูกฟ้าผ่าตายกระนั้นรึ ?” หลิวจ่งเทียนเข้ามาจูงมือเธอลากกลับไปที่กระโจมใหญ่ด้วยความเดือดดาล
ท่านรองหลิวยกมือขึ้นเกาหัวแกรก มิรู้จริง ๆ ว่าชีชีกำลังจะทำสิ่งใด ทั้งท่านอ๋องก็ดูจะว้าวุ่นใจมิน้อย เห็นทีหลีกไปก่อนน่าจะเป็นการดี เช่นนั้นรองผู้บัญชาการจึงล่าถอยหลบไปอย่างเงียบเชียบ !
เว่ยชีชีถูกโยนลงบนพรมข้างชั้นหนังสือ ขณะที่หลิวจ่งเทียนยังคงขมวดคิ้วเข้มแทบผูกปมได้ เขาคว้าปอยผมสั้น ๆ ของอีกฝ่ายดึงเข้ามา “เจ้ารู้วิธีล่อสายฟ้าได้เยี่ยงไร ? แท้จริงเจ้าคือผู้ใดกันแน่ ?”
***จบตอน มาเลย ๆ เจ้าสายฟ้า***