ตอนที่ 14 สายตาพันลี้
ในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย ตามปกติแล้วบุคคลอย่างหลินหลิน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีหยกชนิดนี้ เมื่อวานเขายังไม่ได้ใช้ทักษะ จึงไม่ได้ดูข้อมูลอย่างละเอียด เพียงแค่มองเห็นมันแค่ชั่วพริบตาจึงไม่สามารถรู้ได้ แต่ว่าตอนนี้ที่เพิ่งจะเอามาวางไว้บนมือและสังเกตอย่างละเอียด กลับคิดไม่ถึงว่ามันจะมีมีคุณค่าที่สูงขนาดนี้
ในความเป็นจริงด้วยตาเปล่าของซ่งลุ่ยนั้นมองไม่ออกหรอก แต่ว่าเขาได้แอบใช้พลังพิเศษของเขาเพื่อดูข้อมูลของหยกชิ้นนี้ ดังนั้นข้อมูลรายละเอียดของหยกก็เหมือนกับแจกันใบก่อนหน้านี้ก็โผล่ขึ้นมาในรูปแบบของหน้าต่าง
เดิมที่หยกนี้มาจากราชวงศ์ชาง มีชื่อว่าวงแหวนมังกรหยก สีของมันออกเทาๆเขียวๆ พื้นผิวเป็นทรายเล็กน้อย วัสดุมีน้ำหนักมาก ทั้งสองด้านของหยกถูกแกะสลักเป็นหัวรูปมังกรและหางขดเชื่อมต่อกันเป็นรูปวงกลม
ขดมังกรทั้งสองมุมคล้ายรูปเห็ด ดวงตาแคบและยาว ในเวลาเดียวกันเขี้ยวมังกรก็ปรากฎออกมาลายเส้นของตัวมังกรนั้นถูกแกะสลักด้วยลายคลื่น กระดูกสันหลังอยู่ด้านหลังถูกดึงขยายออกมาจากคอ ลายเส้นนั้นดูคุ้นเคยราบรื่นและเป็นเครื่องประดับรูปมังกรทั่วไปในช่วงปลายราชวงศ์ชาง
คิดไม่ถึงเลย ครั้งนี้ซ่งลุ่ยคิดไม่ถึงจริงๆว่าหยกที่หลินหลินใส่จะมีคุณค่ามากมายขนาดนี้! ในขณะที่คิ้วของซ่งลุ่ยขมวดเป็นปมยับย่นมากขึ้นเรื่อย ๆ สายตาก็มองไปที่หลินหลินซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร ส่วนในใจก็กำลังติดสินบางอย่างอยู่เงียบๆ
ไม่ว่าชีวิตของหลินหลินจะเป็นเช่นไร เธอจะมีความลับอะไรซุกซ่อนอยู่ ฉันไม่สนใจ ฉันรู้แค่ว่าฉันควรจะใช้ตลอดชีวิตที่เหลือของฉันดูและและปกป้องให้ชีวิตของเธอมีแต่ความสุข
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ หยกอันล้ำค่าในมือของเขาก็ถูกโยนทิ้งไปที่ด้านข้าง เขายื่นมืออกไปโอบกอดไหล่ของหลินหลินและลูบไล้เบาๆ เมื่อมองไปด้านนอกท้องฟ้าก็สว่างแล้ว หลินหลินกลับไม่มีท่าทางที่ว่าจะตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าตัวเขาต้องออกไปแล้ว อีกไม่นานพนักงานก็จะเริ่มทำงาน ถ้าออกไปในเวลานั้นแล้วถูกคนอื่นเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี
ซ่งลุ่ยจูบไปที่หน้าผากของหลินหลินและกระซิบไปที่ข้างๆหูของหลินหลิน ไม่ว่าเธอจะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็ตาม
“หลินหลิน ฉันต้องไปแล้ว หลังจากนี้ไม่ว่าตะเกิดเรื่องยากลำบากอะไรขึ้น ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือของฉันเพื่อชดใช้ให้เธอ ” หลังจากพูดจบ ก็จูบไปที่หน้าผากของหลินหลินอีกครั้งอย่างยาวนาน เขาพลิกตัวลงจากเตียงและไม่ได้กล่าวถึงเรื่องหยกแม้แต่น้อย
หลังจากจัดการอะไรเสร็จแล้ว ก็เดินไปที่ประตูแล้วเหลียวกลับมามองหลินหลินด้วยความอาวรณ์ก่อนจะเปิดประตูออกไป ผ่านไปครู่นึง หลินหลินที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมามองเพดานด้วยสายตาที่ไร้ชีวิตชีวา
ในความเป็นจริง ตั้งแต่ที่ซ่งลุ่ยตื่นเธอเองก็ตื่นแล้วเหมือนกัน แต่เธอแค่ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องใช้สีหน้าท่าทางแบบไหนเผชิญกับซ่งลุ่ย ดังนั้นเธอก็เลยแกล้งหลับไปเลยแล้วกัน รอตอนที่ซ่งลุ่ยออกไปแล้วเธอจึงลืมตาขึ้น แต่ว่าคำพูดของซซ่งลุ่ยก็ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ
เฮ้อ หลินหลินถอนหายใจยาว นี่อาจเป็นโชคชะตา ตั้งแต่ซ่งลุ่ยช่วยเธอครั้งนั้น จนถึงครั้งนี้ที่เขาช่วยเธออีกครั้ง ราวกับว่าชะตาชีวิตได้ถูกกำหนดไว้แล้ว หรือนี่อาจเป็นบุพเพสันนิวาสกันแน่นะ
หลินหลินลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงและไม่อยากคิดอะไรให้มากมายอีกต่อไป แต่การกระทำทั้งหมดในคืนที่ผ่านมาทำให้ร่างกายส่วนล่างของเธอเจ็บปวดราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ หลินหลินคิดในใจดูท่าแล้วเช้าวันนี้เธอคงไปทำงานไม่ไหวแล้ว
ไม่ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดมากมายเท่าไหร่ก็ต้องยอมปล่อยให้เขาทำไป หลินหลินหลับตาและเริ่มคิดย้อนกลับไป เมื่อคืนเธอเกือบจะนอนไม่หลับและมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะข่มตานอนได้ในช่วงเช้า แต่เธอกลับถูกปลุกโดยซ่งลุ่ย ตอนนี้ ในเมื่อข่มความเจ็บปวดลงแล้วก็พยามนอนหลับให้ได้สักทีเถอะ!
ซ่งลุ่ยที่เพิ่งออกมาจากห้องหลินหลิน บนใบหน้าก็มีแต่ความสุขใจ ! คิดไปถึงความรู้สึกเมื่อคืนนี้ที่ได้อยู่ด้วยกันมันดีมาก ไม่เลวเลยทีเดียว! เหอะเหอะเหอะ ในใจของซุงลุ่ยยิ้มแย้มราวกับดอกไม้บาน จากนั้น ระบบก็ส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอแสดงความยินดีกับลูกค้าที่ทำภารกิจสำเร็จเป็นครั้งแรกและจะได้รับรางวัลของภารกิจ!”
"สุ่มรางวัลจากระบบ! ติ้ง, ติ้ง, ติ้ง, ติ้ง, สุ่มเลือกได้สำเร็จ!"
“ขอแสดงความยินดีกับทักษะที่ลูกค้าได้รับ ทักษะสายตาพันลี้!”
เมื่อซ่งลุ่ยได้ยินระบบพูดในหูของเขาอย่างนี้ ก่อนอื่นเขาตกตะลึง! จากนั้นฉันก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความปิติยินดี หัวเราะออกมา เข้าก้าวเท้าเร็วขึ้นเพราะอยากจะรีบไปให้ถึงห้องทำงานเร็วๆ เพื่อศึกษาทักษะนี้ให้ละเอียด!
กำลังเดินๆอยู่ ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามียุงตัวหนึ่งบินอยู่ข้างหน้าเขา จิตใต้สำนึกสั่งว่าให้หลบแต่มันก็ไม่ได้อยู่ใกล้เขา เขาจึงยังคงเดินต่อไป แต่เดินไปได้ไม่นาน ยุงก็บินเข้ามาอีก ห่างไปแค่ไม่กี่เมตร คาดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งปีกมันก็มองเห็น นี่มันบ้าไปแล้ว!
ในใจของซ่งลุ่ยอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมเมื่อก่อนเขาถึงมองไม่เห็น หรือว่าจะเป็นเพราะทักษะสายตาพันลี้ แต่ถ้าจะให้พูดก็คือเขาเพิ่งจะได้รับมันมา ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นกับตัวเองเขายังไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่นัก มันก็ติดอยู่ในดวงตาเขาอย่างกะทันหันไปแล้ว!
ในเวลานี้ซ่งลุ่ยรู้สึกสงสัยและอยากรู้อยากเห็นมาก แต่ลางสังหรณ์บอเขาว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร! บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่สะดวกสบายสำหรับตัวเขาเองก็เป็นได้!
เมื่อซ่งลุ่ยคิดถึงตรงนี้ก็รีบเร่งฝีเท้าไปที่ห้องทำงานของเขา ตลอดทางไม่หยุดพูดคุยกับใครๆ หลังจากที่เดินไปถึงห้องทำงานก็รีบเปิดประตู แล้วเข้าไปข้างในและล็อคประตูอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามารบกวน หลังจากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงาน สูดลมหายใจลึกๆสองทีและทำให้จิตใจของตัวเองมั่นคงแน่วแน่ และมองออกไป
เนื่องจากแต่ละทักษะจะมีไอคอน “รายละเอียด” อยู่ข้างๆ ซึ่งมันเป็นการแนะนำคุณสมบัติพื้นฐานของทักษะและยังมีวิธีการใช้งาน แค่นี้ก็นับว่าเป็นการแนะนำโดยสังเขปแล้ว เขารำพึงเบาๆอยู่ในใจ
“เปิดใช้งานทักษะสายตาพันลี้ รายละเอียด!”
ในเวลานี้กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของซ่งลุ่ย ภายในเป็นการแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับทักษะสายตาพันลี้ มีรายละเอียดดังนี้
ความหมายของ สายตาพันลี้ ในช่วงระดับสูงสุดสามารถมองเห็นได้ไกลในระยะหนึ่งพันลี้ ในระดับแรกๆอาจจะมองเห็นแค่ตารางนิ้ว แต่ว่ายิ่งสิ่งของขนาดเล็กมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมองเห็นรายละเอียดมันมากขึ้นเท่านั้น สามวันสามารถใช้ทักษะได้หนึ่งครั้ง หนึ่งครั้งสามารถมองได้ไกลหนึ่งพันลี้ แต่ถ้าหากอยากบรรลุถึงการมองพันลี้แบบตามใจนึก จำเป็นต้องฝึกฝนให้เยอะขึ้น ถึงแม้ว่าปกติจะไม่ได้เปิดการใช้งานสายตาพันลี้ แต่สายตาพันลี้ก็จะปรากฏอยู่ในสายตาอยู่ดี ก็คือจะมีสายตาดีขึ้นนั่นเอง
หลังจากที่ซ่งลุ่ยอ่านดูคำแนะนำสายตาพันลี้แล้ว ในใจก็หลีกเลี่ยงอาการจิตตกไม่ได้ เฮ้อ ดูเหมือนว่าเขาจะคาดหวังกับทักษะนี่สูงเกินไป! ทักษะนี้ไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก สายตาดีขึ้นมานิดหน่อย สายตาพันลี้ ชื่อก็ฟังดูไม่เลว ไม่งั้นเขาคงไม่ตั้งความหวังสูงหรอก แต่ก็ยังดี ถึงในจะไม่ได้แข็งแกร่ง ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ซ่งลุ่ยปลอบใจตนเองและออกจากหน้าของระบบ เขาหลับตาแล้วนวดขมับของตัวเองก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างแล้วบิด ยืดเอวของเขาไปมา การทำงานวันนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!