ตอนที่ 23 เมื่อสุนัขคลืบคลาน
"ฉันถามว่า...พวกเราจะหนีกันไปทำไมล่ะ?" ซ่งเจิงถามทั้งสองคนออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ลิงผอมกรอกตาใส่ซ่งเจิง "เจ้าโง่ มีซอมบี้ตามมาด้านหลังพวกเราอีกเพียบ ถ้านายอยากไปสู้ก็ไปคนเดียวสิ!" พี่ชายกุ้ยกัดก้นบุหรี่เบาๆ แล้วพูดเรื่องน่าสับสนออกมา "นี่มันเรียกว่าสงครามล่าถอย !"
ซ่งเจิงมองไปยังทั้งสองคนนั้นอย่างดูถูก หนีก็หนีไปสิ ยังจะทำมาเป็นใช้คำสวยหรูอยู่อีก ความเร็วเท้าของซ่งเจิงนั้นไม่ได้ช้าไปกว่าทั้งสองคนนั้นเท่าไหร่ ที่ด้านหลังพวกเขาคือซอมบี้นับสิบตัว รวมถึงแมวและสุนัขกลายพันธุ์จำนวนหนึ่ง
ลิงผอมนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาพาทั้งสองคนเข้าไปในซอยเล็กๆ แต่น่าเสียดาย ตอนนี้ทั้งสามคนได้ออกมาจากบริเวณของเมืองลิตเติลร็อคแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่นอกป่าแล้ว บริเวณที่โล่งกว้างขนาดนี้ไม่มีสิ่งกำบังใดๆที่ทั้งสามคนจะสามารถเอามาใช้กำบังได้เลย เมื่อทั้งสามคนมองไปยังกองหญ้ากองเดียวที่มีแล้วก็หัวเราะออกมา พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางไปยังเขาเล็กๆลูกหนึ่ง
ในช่วงเวลาสั้นๆ แววตาของพวกเขาก็เปล่งประกายออกมา เมื่อเห็นที่ห่างออกไปไม่ไกลนั้นเป็นรูปปั้นสิงโตที่ผุพังสองตัว ด้านหลังสิงโตคือตึกขนาดสองชั้นที่ถูกรอบล้อมด้วยกำแพง แม้จะมีจำนวนห้องไม่มาก แต่ก็มีข้าวของเครื่องใช้พร้อมอยู่ ส่วนด้านหลังบ้านเล็กๆหลังนั้นเป็นฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ รอบๆปศุสัตว์นั้นเป็นเส้นทางม้าเดินที่ถูกทำไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งสามคนหันมามองหน้ากัน แล้วรีบควบม้าที่อยู่ตรงฟาร์มไปยังบ้านหลังนั้นทันที ด้านหลังของพวกเขานั้น เหล่าสุนัขกลายพันธุ์ก็ยังไม่ลดความพยายามในการล่า "เหยื่อ" มันเร่งความเร็วในการไล่ล่าเพิ่มขึ้นตามความเร็วของม้า พวกมันส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกัน และดวงตาสีเลือดของมันก็เปล่งประกาย
ทั้งสามคนก็ร้องโวยวายออกมา ตอนนี้พวกเขารู้สึกอยากจะกลับไปเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น
ซ่งเจิงพูดออกมาว่า "ให้ตายเถอะ ! บรรพบุรุษฉันไปติดหนี้อาหารกระป๋องพวกนายรึไง ถึงได้ตามมาแบบนี้ !?"
พี่ชายกุ้ยพูดออกมาว่า "ที่บรรพบุรุษเคยพูดไว้น่ะถูกแล้ว อย่าเข้าป่าโดยไม่เตรียมตัว ให้ต่อสู้ตรงๆคงจะไม่ได้แล้วแบบนี้ !"
ลิงผอมนั้นถุยน้ำลายลงพื้นก่อนจะพูดว่า "หากไม่อยากเข้าป่าพวกนายก็ไปรวมญาติกับเจ้าพวกนั้นเถอะ จำนวนของพวกมันก็มีไม่เยอะนะ!"
ซ่งเจิงตอบกลับทันทีว่า "ไปรวมญาติก็บ้าแล้ว เตรียมตัวข้ามกำแพงเร็วเข้า !"
ลิงผอมกัดฟันพลางควบม้าไปที่กำแพงอย่างรวดเร็ว เขาจับมือของตัวเองแน่น ซ่งเจิงนั้นใช้เท้าถีบม้าอย่างแรง แล้วกระโดดข้ามกำแพงไป เขาลอยตัวกลางอากาศด้วยท่าปกติ—แต่หน้าของเขากลับกระแทกพื้นแทน...
พี่ชายกุ้ยร้องออกมา เขากำลังพุ่งตรงไปยังเจ้าลิงผอม ทันใดนั้นเขาก็เกิดสีหน้าไม่สู้ดีทันที เมื่อเห็นว่าพี่ชายกุ้ยที่มีขนาดตัวใหญ่เหมือนกับรถถังนั้นกำลังพุ่งมาทางเขา ขาข้างหนึ่งของพี่ชายกุ้ยเท่ากับขาอันเล็กทั้งสองข้างของเจ้าลิงผอมถ้ารวมกัน ในตอนที่พวกเขาล้มลงกับพื้น "....ออกไป !" {ไอ้หมูอืด !}
ใบหน้าของลิงผอมนั้นปรากฏขึ้นเป็นสีแดง เขาโมโหพี่ชายกุ้ยเป็นอย่างมาก "ดึงขึ้น" พี่ชายกุ้ยจับมือทั้งสองข้างของเขา แล้วดึงเขาขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ เจ้าลิงผอมมองไปยังเหล่าซอมบี้ทั้งสิบตัวที่อยู่ข้างนอก เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วข้ามกำแพงไปอย่างสบายๆ
เมื่อซ่งเจิงลุกขึ้นมาจากพื้นดิน เขาก็ได้กลิ่นเหม็นของอะไรบางอย่างข้างหน้าของตัวเอง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น มันคือกลิ่นปากของสุนัขกลายพันธุ์ตัวหนึ่งที่กำลังแยกเขี้ยวใส่เขาอยู่ ดวงตาสีแดงของมันมองมายังซ่งเจิงอย่างดุร้าย เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ยิ้มกว้างอย่างสดใสให้มันกลับไป
แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงท้องร้องของตัวเอง ก็มีเสียงเตือนดังขึ้นมาในหัวของเขาทันที {ซวยแล้ว!} หรือว่าเขาต้องกลับไปสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นในโลกเดิมแล้ว นี่มันอาจจะ...อาจจะ...อาจจะไม่ได้อ่อนโยนขนาดนั้นก็ได้...
พี่ชายกุ้ยที่พึ่งจะข้ามกำแพงมานั้น ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาปล่อยร่างกายอันเหนื่อยล้าของเขาทิ้งลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก แล้วถอนหายใจออกมาอีกรอบ {เฮ้อ...ทำไมดินมันนุ่มแบบนี้นะ} เมื่อคิดดังนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนทันที ตอนที่พี่ชายกุ้ยรีบลุกขึ้นอยู่นั้น
เขาก็เห็นซ่งเจิงที่กำลังจะโดนสุนัขกลายพันธุ์ที่แทบจะ "กอด"กัน แถมสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นแทบจะใช้ลิ้นของมันเลียหน้าของซ่งเจิงจนสะอาดอยู่แล้ว ซ่งเจิงพยายามที่จะอดทนต่อเสียงท้องร้องอันทรยศของเขาอยู่ จนร่างกายของเขาสั่นไหว......
"ปัง !" เมื่อเห็นว่าเจ้าลิงผอมนั้นถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาจนทำให้ซ่งเจิงน้ำตาไหลออกมาแทบจะเป็นสายเลือด เป็นอีกครั้งที่ร่างกายของเขาแทบจะหลอมรวมกับร่างของสุนัขกลายพันธุ์และผืนดิน
เจ้าลิงผอมนั้นได้เหยียบลงไปบนตัวของซ่งเจิงเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเหยียบคนอยู่จริงๆ เขาเหยียบย่ำไปมา เมื่อเห็นว่าปากของซ่งเจิงนั้นกำลังจะประทับอยู่กับสุนัขกลายพันธุ์ที่น่ารังเกียจตัวหนึ่งอยู่นั้น เขาก็ปิดปากเงียบ แล้วแทงดาบของตัวเองไปที่ดวงตาของสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นทันที เขาไม่ได้หันไปมองซ่งเจิงเลย เพราะเขาไม่สามารถเห็นสภาพอันน่าเวทนาของซ่งเจิงได้เลย
ตอนนั้นเองที่ปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากที่รอดมาได้ในใจของซ่งเจิงคงเกิดเป็นแผลทางใจขนาดใหญ่อย่างแน่นอน
เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ทั้งสองคนก็มองซ่งเจิงที่ถุยน้ำลายออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน พวกเขาอยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็ไม่กล้า ใบหน้าของทั้งสองคนนั้นบิดเบี้ยวเพราะกลั้นขำเอาไว้ ซ่งเจิงเช็ดปากของตัวเองไปมา พลางมองไปยังทั้งสองคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอยู่ "พวกนายอยากหัวเราะก็หัวเราะออกมา...ฉันไม่ได้บอกให้พวกนาย..."
พี่ชายกุ้ยหัวเราะออกมาอย่างหนักหน่วงทันทียังไม่ทันให้ซ่งเจินพูดจบ แต่ซ่งเจิงกลับหัวเราะออกมาอย่างไม่เต็มใจ ซ่งเจิงเอาความหวังทั้งหมดฝากไว้ที่ลิงผอมว่าเขาจะไม่หัวเราะ แต่พอเขาหันตัวไปมองเจ้าลิงผอมนั้น ที่ตอนนี้ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง เจ้าลิงผอมมองไปยังซ่งเจิงด้วยแววตาสงสาร พอมาคิดๆดูแล้ว ซ่งเจิงเจอแต่เรื่องแย่ๆมาทั้งนั้น
ในที่สุดเขาก็ยกนิ้วโป้งให้ซ่งเจิง มันจึงทำให้ซ่งเจิงมีสีหน้าดีขึ้น
แต่เจ้าลิงผอมนั้นกลับหัวเราะออกมา "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ! น้องซ่งนายนี่มันลูกผู้ชายชัดๆ ! ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ไหว....ไม่ไหวแล้ว..ฮ่าฮ่า" แต่สุดท้ายเขาก็เป็นเหมือนคนประเภทเดียวกันกับพี่ชายกุ้ยอยู่ดี
ซ่งเจิงทำหน้าเคร่งขรึมมองไปยังคนนิสัยเสียทั้งสองคน เขาหยิบกระทะขึ้นมาแล้วนั่งคิดถึงเรื่องการลงมือต่อจากนี้ไปคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน
เวลาผ่านไปอย่างยาวนาน หลังจากที่เจ้าลิงผอมมองไปยังซ่งเจิงที่ถือกระทะเหล็กขึ้นมา เขาก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ "ตอนนี้ พวกเรามาตกลงกันเถอะ พวกเราอยู่ที่นี่...เฮ้..น้องซ่ง นายจะให้พวกเราหัวเราะ...ฮ่าฮ่า..ฉันอดไม่ได้จริงๆ..."
ซ่งเจิงหัวเราะตอบกลับไปว่า "..เหอเหอ"
....
เจ้าลิงผอมชี้ไปยังแผนที่ แล้วมองไปยังบริเวณรอบๆ เขาเปรียบเทียบทั้งสองอย่างอยู่สองสามครั้ง "ตอนนี้พวกเราจากหมู่บ้านที่มาครั้งที่แล้วประมาณวันครึ่ง ตอนนี้ก็สิบโมงกว่าแล้ว ฉันแนะนำว่าเราควรจะพักผ่อนเสียหน่อยแล้วค่อยไปต่อจะดีกว่า"
ทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วย ซ่งเจิงเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาว่า "แล้วพวกที่อยู่นอกประตูพวกนั้นจะจัดการกับมันยังไง ใครจะเป็นคนไปจัดการพวกมัน ?"
พี่ชายกุ้ยและเจ้าลิงผอมมองตากัน แล้วมองไปยังซ่งเจิงอย่างพร้อมเพรียงกัน ซ่งเจิงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ยกนิ้วชี้เข้าหาตัวเอง "ห้ะ ฉันงั้นเหรอ ?"
พี่ชายกุ้ยยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร ส่วนลิงผอมนั้นตบไหล่ซ่งเจิงสองสามที ดวงตาทั้งสองคู่มองไปยังกระทะเหล็ก "ครั้งนี้นายอย่าใช้พลังของตัวเองในการจัดการ ให้ใช้พลังของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่จัดการซะ"
ซ่งเจิงอ้าปากค้าง จะปิดก็ปิดไม่ได้ ทั้งสองคนพยักหน้าให้ซ่งเจิงอย่างหมายมั่นปั้นมือ
เมื่อมองไปยังแววตาของทั้งสองคนที่เต็มไปด้วยกำลังใจและเข็มแข็งแล้วนั้น ท้ายที่สุดซ่งเจิงก็พยักหน้าอย่างหมดทางเลือก......
เมื่อมาถึงที่ประตูใหญ่ ซ่งเจิงก็กลืนน้ำลายไปหลายอึก เขามองไปยังกลุ่มซอมบี้ที่กำลังเดินไปมาอยู่นอกประตู และก็หันหลังกลับไปมองทั้งสองคนที่ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่ {ให้ตายสิ ! ต้องสู้ได้สิวะ !}
ซ่งเจิงเปิดประตูไปตัวสั่นไป "ครืด..." เสียงของมันบ่งบอกได้ว่าประตูใหญ่นี้ไม่ได้มีคนดูแลและหยอดน้ำมันมานานหลายปีแล้ว เมื่อเหล่าซอมบี้ที่อยู่ใต้เงาต่างๆได้ยินเสียงนี้ต่างก็พากันหันหน้ามามองพร้อมกับดวงตาสีแดงเข้มของพวกนั้นจ้องมองไปยังซ่งเจิงอย่างสนใจและไม่สนใจบ้าง
{ซ้าย 5 ตัว ขวา 3 ตัว ไปจัดการทางขวาก่อนดีกว่า}
เท้าของซ่งเจิงเปลี่ยนเส้นทางในการเดิน แต่ไม่ได้ถอยกลับ เขาเดินไปทางขวา ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เหล่าซอมบี้มันก็ยิ่งได้กลิ่นของซ่งเจิงมากขึ้น พวกมันก็ส่งเสียงขู่เตรียมโจมตีขึ้นมาทันที ซ่งเจิงเตรียมก้อนอิฐที่หยิบติดมือมาก็โยนไปข้างหน้าเหล่าซอมบี้พวกนั้น ตอนนั้นซอมบี้ที่อยู่ด้านหลังตัวหนึ่งก็ล้มลงไป
เมื่อมาถึงระยะห้าเมตร ซ่งเจิงก็หยิบกระทะขึ้นมา
ในระยะสามเมตร ซ่งเจิงกลั้นลมหายใจของตัวเองเอาไว้
ในระยะหนึ่งเมตร ซอมบี้ตัวหนึ่งก็ถูกตีเข้าที่หัว และซอมบี้อีกตัวก็พึ่งเข้ามาหาซ่งเจิง เขาย่อตัวหลบทันที "ปัง !" ก้อนอิฐถูกปาขึ้นจากระนาบเดียวกันกับตอนที่จมูกของซ่งเจิงไปกระแทกกับหัวของซอมบี้ ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไร เขาก็รีบหยิบกระทะเหล็กขึ้นไปจัดการซอมบี้ตัวสุดท้ายทันที
วินาทีต่อมา ซ่งเจิงก็หมุนตัวหนีออกมา ให้ตายเถอะ นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะทำได้นะ ไม่อยากให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือไง !
{แบบนี้จัดการไม่ไหวแน่ๆ!}
เมื่อเขาเห็นพี่ชายกุ้ยและลิงผอมหยิบอาวุธออกมา แถมใบหน้าของทั้งสองคนเคร่งขรึมขึ้นมากอีกด้วย และพวกเขาก็พุ่งไปหาซ่งเจิง เมื่อเขาเห็นทั้งสองคนพุ่งเข้ามาซ่งเจิงก็มีสีหน้าตกใจ สัญชาตญาณของคนขี้เกียจอย่างเขาบอกได้ว่า ยากที่เขาจะหลบการโจมตีของทั้งสองคนได้พร้อมกัน
"พวกนาย !"