MS บทที่ 18 เพื่อรอส่งเจ้า
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นเฟิงหยวนซิงก็หน้าซีด
ผู้พิพากษาคนนี้ไร้หนทางจัดการกับสองทรราชนี้แล้วเหรอ? หรือว่าเขากำลังขอความช่วยเหลือผิดคน?
โชวหวูและเฉิงหลงซิงเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีและหัวเราะ
จากนั้นหลีมู่ก็พูดต่อ “ให้ข้าไปส่งพวกท่านนะ”
ตู้ม!
เสียงสายธนูดังสนั่นราวกับระเบิด
เฉิงหลงซิงหวาดกลัวกับเสียงที่เกิดขึ้น ร่างกายของเขารู้สึกได้ถึงแรงกระแทกจากด้านหลังพร้อมกับแรงส่งให้ร่างกายของเขากระเด็นไปติดกับกำแพงถ้ำพร้อมกระอักเลือดออกมา
“เจ้า...” ใบหน้าของเขาจุ่มลงไปในกำแพงไม่สามารถหันกลับมาได้ สีหน้าของเขาน่าจะโกรธน่าดู
เฉิงหลงซิงสัมผัสได้ถึงลูกธนูที่ปักอยู่หลังเขาและเริ่มตกใจสุดขีด เขาพยายามจะดึงมันออกมาแต่ก็ทำไม่ได้
“ข้า... เจ้า... หลีมู่ เจ้าเป็นใครกันแน่?”
เฉิงหลงซิงกู่ร้องออกมา
พลังของลูกธนูนั้นทรงพลังมาก มันปักกระแทกหลังของเขาทะลุหัวใจพร้อมกับทำลายเครื่องในจนแหลกเหลว ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้แล้วในจังหวะนี้
หลีมู่ไม่ได้คิดจะตอบคำตอบของเขา
เด็กหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับมองไปที่ธนูด้วยแววตาเปล่งประกายราวกับว่าไม่ได้เป็นคนยิงไปก่อนหน้านี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคือสมาชิกของจันทราโลหิต... เจ้าฆ่าข้าไป... พวกจันทราโลหิตจะต้องตามล่าเจ้าแน่...” เฉิงหลงซิงพูดด้วยแรงเฮือกสุดท้ายก่อนจะสิ้นลมบนกำแพงถ้ำ
“เจ้ามาจากจันทราโลหิตงั้นเหรอ?”
หลีมู่รู้สึกคุ้นกับชื่อนี้ แต่ก็พยายามทำเป็นไม่รู้จักมาก่อน
“เจ้าธนูนี่เยี่ยมไปเลยนะเนี่ย”
เขาแค่ง้างมันออกมาด้วยกำลังเพียงเล็กน้อยก็สามารถสังหารผู้ใช้ปราณร่วมได้แล้วในนัดเดียว ถ้าเขาง้างมันออกมาอย่างสุดแรงจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ?
ธนูนี้ช่างเป็นของหายากยิ่ง ฉีกงจิ้งนี่ก็ยังสรรหามันมาได้นะ
ในขณะที่คนอื่นกำลังกลัวในพลังอันมหาศาลของธนูนี้
นี่เขา...ฆ่าเฉิงหลงซิงจริงๆเหรอ?
ไม่มีใครคาดคิดว่าหลีมู่จะฆ่านายทวารประตูได้ด้วยธนูเพียงดอกเดียวแบบนี้ แถมยังไม่ลังเลเลยซักนิด
คนที่เขาเพิ่งจะฆ่าไปมีตำแหน่งถึงบุคคลสำคัญในประเทศเชียวนะ แต่เขาก็ฆ่าได้อย่างเลือดเย็นและโหดเหี้ยม ราวกับว่าเชือดหมู...
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับฉากนี้
ตรรกะความนึกคิดทุกอย่างพังทลายไปหมดแล้ว และโชวหวูคือคนแรกที่ตอบสนองกลับมา
ความกลัวถาโถมเข้ามาหาเขาราวกับคลื่นยักษ์บีบให้เขาร้องไห้ออกมา
หลีมู่อาจจะฆ่าเขาเมื่อไหร่ก็ได้ ในเมื่อเขาสามารถฆ่าเฉิงหลงซิงได้อย่างไม่ลังเลแบบนี้
ความกังวลและตื่นตระหนกก่อขึ้นในใจของเขา
ในฐานะของผู้นำตระกูลโชวแห่งไถไป๋มานานหลายสิบปี เขาสัมผัสได้ถึงความตายได้ใกล้ชิดขนาดนี้เป็นครั้งแรก
เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าหลีมู่มันจะกลายเป็นฆาตกรโรคจิตน่ากลัวได้ขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขาต้องพึงพาพลังของตระกูลเพื่อจัดการกับเด็กคนนี้ด้วยซ้ำ
ตู้ม!
เสียงสายธนูถูกยิงออกไปอีกครั้ง ราวกับเสียงร้องแห่งความตาย
ละอองเลือดกระจายรอบตัวโชวหวู
“อ่า...ไม่...” ร่างของเขาล้มลงและครางโอดโอยราวกับหมู
ขาซ้ายของโชวหวูถูกธนูปักตามมาด้วยแรงส่งที่มหาศาลจนทำให้ขาของเขากระเด็นหลุดออกไป เลือดพุ่งกระจายปนไปในอากาศ
หลีมู่ส่ายหัว “โทษทีนะ นัดนี้พลาดไปหน่อย”
เขาไม่เคยใช้ธนูมาก่อนและไม่ได้เล็งได้แม่นยำขนาดนั้น แต่เขาก็ยังยิงได้ด้วยประสาทสัมผัสที่ลับมาด้วยพลังเชียนเถียน
แล้วหลีมู่ก็รู้สึกได้ว่าธนูอันนี้ช่างเหมาะกับเขาเสียจริง
ถ้ามีธนูอยู่ก่อนหน้าเขาก็ไม่ต้องใช้การต่อสู้ประชิดตัวบ่อยๆหรอก ถ้าเขาได้ลองฝึกมันนิดๆหน่อยๆก็น่าจะใช้เป็นแล้ว
หลีมู่คงไม่ทำอะไรที่มันดูอันตรายแบบนี้แน่ๆเพราะความปลอดภัยส่วนตัวของเขาต้องมาก่อนเสมอในชีวิตของเขา ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่อันตรายถึงชีวิตล่ะก็เขาก็คงไม่ต้องเสี่ยงทำอะไรแบบนี้
แต่สำหรับทักษะการใช้ธนูแล้ว เขาพบว่ามันช่างง่ายเหมือนกับการเล็งปืนไรเฟิลก็ไม่ปาน แถมยังเท่อีกต่างหาก
เขาตัดสินใจได้แล้วว่าจะขยันฝึกยิงธนูหลังจากวันนี้เป็นต้นไป
“ขาข้า... ขาของข้า!” โชวหวูกรีดร้องอย่างโหยหวน ความเจ็บปวดแล่นผ่านไปทั่วร่างของเขาทันที
ถ้าหากว่านัดที่ฆ่าเฉิงหลงซิงทำให้ผู้คนหวาดกลัว นัดที่ทำให้โชวหวูกรีดร้องออกมมาก็ทำลายโสตประสาททุกคนได้เลย
แต่ก็ยังไม่มีใครจะหาทางทำอะไรเลย
ทหารธรรมดาเองก็ยังกลัวกับสภาพของที่นี่ซึ่งเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณทั้งนั้นไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก
ข้ารับใช้ของโชวหวูและเฉิงหลงซิงกลัวจนหัวหดไม่กล้ารับมือกับหลีมู่ซักคน หรือแม้แต่จะพยายามทำตัวให้เป็นที่สนใจก็ตาม
ทั้งสาวกที่ตายกองรวมกันและชายร่างใหญ่ทั้งสองที่ถูกหลีมู่เดินไปถึงลูกธนูออกมา ไม่มีอะไรที่ผู้พิพากษาคนนี้ทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ใครจะกล้าเผชิญหน้ากับเขากันล่ะ?
“ไม่ ไม่ นายท่าน ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย ให้ข้ามีชีวิตอยู่เถอะ ไว้ชีวิตข้าด้วย”
โชวหวูครางขอชีวิตด้วยสภาพที่น่าเวทนาบนพื้น
เสียงร้องพวกนั้นดั่งค้อนที่ตอกย้ำลงไปในจิตใจคนที่คิดคตทรยศต่อบ้านเมืองด้วยความกลัว
หลีมู่ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เฟิงหยวนซิง “เฮ้อ เสียงดังน่ารำคาญชะมัดเลย”
เขารู้ตัวทันทีว่านั่นหมายความว่ายังไง ชายคนนี้รีบคว้าดาบและเดินเข้าไปหาโชวหวูทันที
“เจ้า... เฟิงหยวนซิง เจ้าจะทำอะไรน่ะ... หยุดนะ... ท่านหลีได้โปรด ข้าสาบานว่าจะภักดีต่อท่านตลอดไป... ได้โปรดเถิด...” โชวหวูคลานไปมาบนพื้นเยี่ยงหนูที่ร้องขอชีวิต
แต่หลีมู่ไม่ได้มองเขาแม้แต่น้อย
“ถ้าเจ้าอยากจะลงมือเอง ก็ต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วยนะ”
เฟิงหยวนซิงไม่ลังเลที่จะเข้าไปสังหารโชวหวูทันที ดาบถูกแทงลงไปพร้อมกับเลือดที่กระเซ็นขึ้นมาเปรอะเขา
จากนั้นเขาจึงหันกลับมาคุกเข่าต่อหน้าหลีมู่ “นายท่านขอรับ ข้าราชการที่คตโกงเหล่านี้ถูกประหารเรียบร้อยแล้ว”
หลีมู่พยักหน้า
ทหารทั้งหลายต่างก็ก้มตัวลงคุกเข่าทั้งนั้น พวกเขาตอนนี้กลายเป็นข้ารับใช้ภายใต้หลีมู่เป็นที่เรียบร้อย
และแล้วก็ถึงช่วงปิดม่าน
หลีมู่ถอนหายใจแรงขยับร่างกายไปมา
เลือดไหลออกมาจนเปื้อนผ้าพันแผลของเขา
แม่งเอ้ย นี่สินะคือราคาที่ต้องจ่ายหากเขาอยากจะเล่นบทนี้
ตอนที่เขาดึงธนูออกมานั้นจริงๆแล้วแม่งโคตรเจ็บสุดๆ แต่เพราะพิษงูนั่นมันทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรไปเลย
แต่ตอนนี้พิษงูนั่นได้หายไปแล้ว เขาก็เริ่มรู้สึกปวดขึ้นมาทันที
หลีมู่ย่อตัวลงแต่ก็ไม่ส่งเสียงร้องออกมา พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่เริ่มผุดมาจากใบหน้าของเขา และข้างในเส้นเลือดของเขาก็ร้อนระอุดั่งมีลาวาไหลปนไปข้างในนั้น
หลีมู่เดาไว้ว่าน่าจะเป็นเพราะเลือดงูเขียวตัวนั้นที่กำลังหลอมละลายเลือดของเขาอยู่
เขาพลาดท่าในตอนที่สู้กับฉีกงจิ้งครั้งสุดท้ายและเกือบถูกงูนั่นกลืนกินลงไป แต่เขาก็กลับพลิกผันและใช้กระบวนท่าลับจากนิยายเรื่อง มังกรหยก ที่เป็นการดูดกลืนเลือดงูและฆ่าเจ้างูนั่นจนมันตายลง
เด็กหนุ่มใช้พลังเชียนเถียนในการห้ามพิษอยู่ในร่างของเขา แต่ในตอนนี้พิษของมันหายไปแล้ว เลยกลายเป็นว่ามีแต่เลือดงูกำลังไหลเวียนในร่างของเขาแทน
อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็สำเร็จไปได้ด้วยดีในวันนี้
หลีมู่ยืนขึ้นและเดินออกจากถ้ำ ตรงกลับไปยังห้องของเขาโดยเร็วที่สุดเพื่อผสานเลือดของงูในร่างกายเข้ากับเลือดของเขาเอง