px

เรื่อง : Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
ตอนที่ 12 : ปัญหาที่ยุ่งเหยิง


ใบหน้าของเจียงซูหลันแข็งค้าง และเธอก็รู้ดีว่าตัวเองกำลังพบเจอปัญหาที่ยุ่งเหยิง

 

อย่างไรก็ตามเธอไม่กลัว

 

พ่อของเจียงซูหลัน เจียงไห่ซานอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของอิทธิพลของเมืองซูโจว เธอจึงคิดว่าโจวเทียนฮ่าวคงไม่กล้าทำร้ายเธอ อย่างไรก็ตามเธอก็คาดว่าเขาคงจะไม่ปล่อยให้เธอออกไปได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

 

บอดี้การ์ดของโจวเทียนฮ่าวกำลังจะเรียกสาวๆให้มานั่งกับเจ้านายของเขา แต่ก็มีบางคนยื่นมือออกมาขวางเขาไว้

 

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

 

พวกเขามองดูในขณะที่เฉินฟานยืนเคียงข้างเจียงซูหลัน และซูหรงเฟย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า และอีกมือเอื้อมมาปิดกั้นบอดี้การ์ด เขาหันกลับ และพูดกับโจวเทียนฮ่าว “คุณโจว พวกเธอทั้งสองคนเป็นเพื่อนของฉัน ไว้หน้าฉันหน่อย และปล่อยพวกเธอไป”

 

“นายบ้าไปแล้วงั้นเหรอ?” เจียงซูหลันดึงเฉินฟานกลับมาแล้วกระซิบ

 

มันอาจเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการก็ตาม เธอเพียงแค่ต้องไปนั่งกับชายที่น่าขยะแขยงเหล่านี้ และดื่มกับพวกเขานิดหน่อย และทนการหยอกล้อที่ไร้เหตุผล จากนั้นพวกเธอก็จะเดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตามการกระทำของเฉินฟานได้กลายเป็นการกวนน้ำให้ขุ่นมากยิ่งขึ้น

 

“โอ้ แกเป็นใคร? ทำไมฉันต้องไว้หน้าแกด้วย?” โจวเทียนฮ่าวถามอย่างเย็นชา ความอดทนของเขาเริ่มจะหมดลง ครั้งแรก หนึ่งในแขกของเขาถูกทำร้าย และตอนนี้ไอ้เด็กเปรตนี่ก็กล้าพูดกับเขาราวกับว่าเขาทั้งคู่เท่าเทียมกัน หรือเป็นเพราะฉันใจดีมากเกินไป?

 

“ฉันเป็นใคร?” เฉินฟานเอียงหัวไปด้านข้างแล้วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง

 

“ฉันเป็นใครบางคนที่คุณไม่ต้องการสร้างปัญหา”

 

ชายหนุ่ม และหญิงสาวจ้องมองไปที่เฉินฟาน พวกเขาส่วนใหญ่เชื่อว่าเฉินฟานคงกินเหล้ามากเกินไป

 

“ไอ้งี่เง่าบัดซบเอ๊ย! เขากำลังจะฆ่าพวกเราทุกคน!” หยางเฉาตกใจกับความโง่เขลาของเฉินฟาน เขารู้ดีว่าเขาไม่ควรพาเฉินฟานมาที่ KTV

 

เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความยุ่งเหยิงทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตจนกระทั่งเฉินฟานลุกขึ้นมาท้าทายโจวเทียนฮ่าว

 

ขาของติงจุนเฟยเริ่มสั่นเทา เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าโจวเทียนฮ่าวจะทำอะไรกับพวกเขาอีกต่อไป

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” โจวเทียนฮ่าวหัวเราะเสียงดัง “ฉันไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับแกได้งั้นเหรอ?”

 

เขายิ้ม และชี้ไปที่เฉินฟาน คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความทรนง

 

“มันจบแล้ว” เมื่อรู้ว่าสถานการณ์ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป เจียงซูหลันก็หลับตาราวกับว่าเธอกลัวเกินกว่าจะทนเห็นได้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

 

“เชี่ย! นี่มันงี่เง่ามาก! แม้แต่หยางเฉาก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับโจวเทียนฮ่าวได้ ทำไมเขาต้องเข้าไปแทรกแซงด้วย? นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเล่นบทฮีโร่ เขาจะทำให้เราทุกคนเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น!”

 

ใบหน้าของซูหรงเฟยกลายเป็นซีดเซียว เธอผลักเจียงซูหลัน และเร่งเร้า “เราควรทำอย่างไรดี? เราต้องช่วยเขา!”

 

“ยังไงล่ะ? โจวเทียนฮ่าวอาจไม่ทำอันตรายต่อเราเพราะพ่อของฉัน แต่เฉินฟานไม่มีครอบครัวหนุนหลังในเมืองนี้ นอกจากนี้เขายังได้ท้าทายโจวเทียนฮ่าวอย่างเปิดเผย โจวเทียนฮ่าวจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปอย่างง่ายๆแน่นอน” เจียงซูหลันพูด “ตอนนี้พวกเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่โครตเลวร้าย!”

 

บอดี้การ์ดที่ชื่ออาเปียวตะโกนไปที่เฉินฟาน “เด็กน้อย แกร้องขอสิ่งนี้เองนะ!” จากนั้นเขาก็ชกไปที่เฉินฟานด้วยแขนที่หนากว่าต้นขาของเฉินฟาน หมัดของเขาส่งเสียง ‘หวือ’ ในอากาศ และเล็งไปที่หน้าอกของเฉินฟาน ถ้าหมัดนี้ถูกเป้าหมาย กระดูกซี่โครงของเฉินฟานจะต้องหักอย่างน้อยสองถึงสามซี่อย่างแน่นอน

 

เฉินฟานหันกลับมา และเห็นการโจมตีที่จู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหัน วัยรุ่นหนุ่มสาวจำนวนมากถอยห่างออกมาเพื่อให้ตนเองรอดพ้นจากอันตราย

 

ซูหรงเฟยกรีดร้อง “ระวัง!”

 

ทันใดนั้นเฉินฟานก็หันกลับมา และส่งยิ้มให้เธออย่างชั่วร้าย “ไม่ต้องกังวล เขาเป็นเพียงแค่เค้กที่นุ่มนิ่ม”

 

เขายื่นมือออกไปเพียงมือเดียว และหยุดหมัดที่พุ่งเข้ามาของอาเปียว

 

จากนั้นเฉินฟานก็ตวัดขาเตะอย่างรุนแรงจนส่งอาเปียวลอยกระเด็นกลับไป

 

ภายใต้การเฝ้ามองของดวงตาที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อมากมาย ร่างกายของอาเปียวลอยกระเด็นกลับไปถึง 6 เมตร และหล่นกระแทกลงบนพื้นตรงหน้าของโจวเทียนฮ่าว

 

“อาเปียว นายเป็นยังไงบ้าง?” โจวเทียนฮ่าวโน้มหน้าเข้ามา

 

อาเปียวรู้สึกราวกับว่าเขาถูกรถมอเตอร์ไซค์ชน และแรงปะทะได้ส่งผลมาถึงอวัยวะภายในของเขา ทันใดนั้นคลื่นของความเจ็บปวดอันทรงพลังก็พุ่งผ่านร่างของเขาจนทำให้เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก

 

“ขะ เขาชนะผู้ชายคนนั้นได้จริงๆงั้นเหรอ?” ดวงตาของจางหยูเมิ่งเปิดกว้างอย่างไม่เชื่อราวกับว่าเธอเพิ่งเห็นผี

 

ในระหว่างที่เธอพบกับเฉินฟานเพียงชั่วครู่ เธอไม่สามารถหาอะไรที่พิเศษจากตัวของชายหนุ่มคนนี้ได้เลย แต่เธอก็มั่นใจเช่นกันว่าเขาจะจมอยู่ที่ก้นบึ้งของสังคมไปตลอดชีวิตของเขา อย่างไรก็ตามเธอคิดผิด

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้พลิกกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับว่ารายการทีวีกำลังฉายภาพยนต์ต่อหน้าเธออยู่

 

หยางเฉารู้สึกพ่ายแพ้ ความคิดที่ว่าเฉินฟานจะตอบโต้เขาจากความอัปยศครั้งก่อนทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจ

 

เฉินฟานหันไปมองโจวเทียนฮ่าวแล้วเดินไปนั่งตรงหน้าเขา

 

“ฉันหวังว่าสิ่งนี้จะเพียงพอสำหรับคุณ”

 

ทันใดนั้นห้องก็เริ่มเงียบลง

 

โจวเทียนฮ่าวมองชายหนุ่มด้วยความโกรธ และหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

 

เขาเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้ความรู้สึกของเขาแสดงออกมาบนใบหน้า “ใช่ ฉันเห็นแล้วว่าแกเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่แกอาจต้องการถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อผู้ฝึกยุทธ์เช่นแกมาหาเรื่องคนอย่างฉัน ตอนนี้เขายังคงติดอยู่ในคุก และเราก็อยู่ในสังคมที่เจริญแล้ว แกไม่สามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้เพียงแค่พลังจากกล้ามเนื้อหรอกนะ ตอนนี้เพียงแค่ฉันโทรศัพท์ไปหาทนาย ฉันก็สามารถทำให้แกติดคุกได้ไปตลอดชีวิต!” โจวเทียนฮ่าวเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาถอยกลับไปนั่งบนโซฟา

 

“คุณพล่ามอะไร?” เฉินฟานหงุดหงิด และขมวดคิ้วอีกครั้ง ความอดทนของเขาเริ่มจะหมดลง

 

“ปล่อยให้พวกเขาออกไป และฉันจะอยู่ที่นี่เอง เรายังมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันอีกมาก” เฉินฟานพูดออกมา

 

เฉินฟานวางแผนที่จะให้เจียงซูหลัน และคนอื่นๆออกจากที่นี่ไปก่อน เขาจะแก้ปัญหาด้วยวิธีแบบเก่า

 

โจวเทียนฮ่าวมองดูใบหน้าของเฉินฟานชั่วครู่ จากนั้นก็มองไปที่กลุ่มวัยรุ่น

 

“แน่นอน ทำไมจะไม่ล่ะ? คนสวย (หญิงสาวที่สวมชุดแดง) พาไอ้เด็กเหลือขอเหล่านี้ออกไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว ก็อย่างที่แกพูด... เรายังมีเรื่องที่ต้องพูดกันอีกมาก”

 

หยางเฉาถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบออกจากห้องโดยเร็วที่สุด

 

สถานการณ์อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาคาดหวังคือการไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา

 

ซูหรงเฟยไม่ต้องการที่จะไป แต่เธอถูกลากออกไปโดยจางหยูเมิ่ง

 

เจียงซูหลันเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกจากห้อง เธอหันไปมองเฉินฟานด้วยความเป็นกังวลก่อนที่เธอจะหายลับไปจากประตู เธอคิดว่าชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดว่าเขาเป็น

 

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงดูผ่อนคลายมากนัก แต่ฉันหวังว่าเขาจะรู้ว่าโจวเทียนฮ่าวจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆกับการท้าทายเช่นนี้”

 

อย่างไรก็ตามเธอคิดว่าถ้าเธอยังคงอยู่ เธออาจเป็นเพียงภาระแทนที่จะช่วยเหลือเฉินฟานได้ แม้ว่าเธอจะกังวล และรู้สึกผิด แต่เธอก็ยังเดินตามเพื่อนๆของเธอออกไปจากห้อง

 

เฉินฟานยังไม่ผ่อนคลายจนกว่าจะเห็นว่าทุกคนออกไปจากห้องแล้ว ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาไม่ต้องการให้เจียงซูหลัน และซูหรงเฟยมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ คนหนึ่งคือลูกสาวของป้าถังที่เขาสัญญาว่าจะปกป้องดูแลเป็นอย่างดี และอีกคนหนึ่งเป็นคู่รักในชีวิตที่ผ่านมาของเขา

 

เฉินฟานเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา และกำลังจะใช้คาถาเพื่อทำให้โจวเทียนฮ่าวตกใจ แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

-----------------------------------------------------------------------------------------

ติชมกันได้ที่  Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator  ไลคฺ์เยอะจะรีบแปลให้เด้อ ขอบคุณครับ

รีวิวผู้อ่าน