บทที่2 หวนกลับ
เมื่อเย่ปิงได้ยินว่าแม่ของเธอกำลังจะมาเปิดประตู ใบหน้าของเธอก็กลายเป็นซีดลง ถ้าแม่เข้ามาและเห็นว่าฉันล่อนจ้อน แล้วก็ยังนอนร่วมกับเพื่อนนักเรียนชายอีก แม้ลงไปว่ายในแม่น้ำหวงเหอ(แม่น้ำสีเหลือง)ก็คงยังไม่พอที่จะล้างมลทินของฉัน เย่ปิงเมื่อได้โอกาสเธอขบฟันของเธอ “ปิดตาของนายซะ ฉันจะใส่เสื้อผ้าของฉัน”
(ในตอนก่อนหน้าที่เขียนไว้ว่า “สวมเสื้อผ้าอย่างว่องไว” คงจะหมายถึงเอาผ้าห่มมาพันตัวไว้ มันเป็นการเล่นคำจากภาษาจีน ซึ่งผมแปลจากอิงอีกที ก็จะงงๆหน่อย)
เจียงซิ่วสั่นสะท้าน เขาส่ายหน้า!
เย่ปิงเต็มไปด้วยโทสะและรู้สึกอับอาย “นายมะ-นายมันไม่มีเหตุผล”
เจียงซิ่วหัวเราะเยาะ ใบหน้าของเขาเฉยเมยเหมือนน้ำ “เธอคิดว่าเทพคนนี้อายุ3ปี? จะเป็นยังถ้าเธอกระซวกฉันเมื่อฉันหลับตา?”
ตั้งแต่ฉันสูญพลังของฉันไป แน่นอนว่าจะจะไม่หลับตา ฉันจะเบิกมันให้กว้างกว่านี้... ใช่! ฉันจะจ้องหญิงสาวคนนี้กว่าจะตาย! จ้องเธอให้ตายไปเลย!!
“นาย...”
ผิวของเย่ปิงเปลี่ยนสี เธอต้องการที่จะกัดเขาให้ตาย เธอรู้สึกรังเกียจเขา
ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม ฉันไม่สามารถเสียเวลาให้กับเจียงซิ่วได้ ถ้าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกำลังมา ก็ปล่อยให้มันมา มันคงจะดีกว่าการที่ติดอยู่ในนี้กับ... อยู่กับเตียงนอนแบบนั้น ในชั่วพริบตา ร่างกายที่สมบรูณ์แบบและสวยงามหลุดออกมาจากผ้าปูเตียง และเท้าที่คล้ายหยกของเธอก็สัมผัสพื้น นิ้วเท้าของเธอดูเล็กและละเมียดละไม น่ารักที่สุด
เธอมุ่งหน้าไปที่ตู้เสื้อผ้าและรีบหยิบเสื้อผ้าของเธอออกมา แค่คิดถึงความจริงที่ว่ามีผู้ชายอยู่บนเตียงนอนด้านหลังเธอ มันก็ทำให้หูของเธอแดงขึ้น
แผนประเภทไหนอีก? เจียงซิ่วงงไปหมด (ตื่นจากนิทราซะเถอะเพื่อนเอ๋ย)
ไม่ว่าอะไรก็ตาม มันเลวร้ายมาก
เหมือนสุภาษิตที่ว่า ‘ออกอุบายให้มากมายเพื่อซ้อนจุดประสงค์ที่แท้จริงของคุณ’ ความชั่วร้ายในจิตใจของศัตรู มันปรารถนาจะเห็นความตายของเทพคนนี้ พวกมันถึงกับต้องใช้แผนการที่มีเหยื่อแบบนี้ สร้างแผนการที่มีความเสี่ยงน้อยขึ้นมาและก็ค่อยซ้อนร่างกายอยู่ในมุม ไม่เพียงแต่มีแค่นั้น ที่แย่ไปกว่าความชั่วร้ายพวกนั้นคือเจียงซิ่วไม่กล้าปิดตาและไม่กล้าที่จะถอนความสนใจไปมองสิ่งอื่น เขาจ้องมองเธออย่างหนักแน่น… ใช่... จ้องมองเธออย่างใกล้ชิด
เย่ปิงรีบสวมใส่เสื้อผ้าของเธอในขณธที่พูด “เจียงซิ่ว ฉันไม่รู้ว่านายเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไงและแม้แต่... มันไม่สำคัญว่านายจะทำได้ยังไง แต่ถ้าพ่อแม่และเซียวหยิ่นจับนายได้ ชื่อเสียงของฉันจะต้องพังลงแน่ๆ ถึงแม้ว่ามันจะน่าอายยิ่งกว่าการเสียชื่อเสียง... แม้ว่ามันจะเป็นชั้น2 แต่ได้โปรด นายช่วยกระโดดลงไป...”
เจียงซิ่วถามอย่างหวาดระแวง “เธออณุญาตให้เทพคนนี้หนี?”
เย่ปิงรีบวิ่งไปเปิดหน้าต่างหลังจากที่เธอสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว “อ๊า เร็วๆ” เธอกล่าวอย่างกังวล “มีสนามหญ้าอยู่ข้างนอก เนื่องจากฝนตกเมื่อวาน มันคงจะไม่เป็นอะไรมากแม้นายจะกระโดดลงไปก็ตาม”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เจียงซิ่วหัวเราะ “เธอคิดว่าเทพคนนี้เป็นเด็กอายุ3ขวบหรอ? หากเทพคนนี้ไม่ได้คาดเดาผิด ก็คงมีผู้เชี่ยวชาญซ่อนตัวอยู่ข้างนอกหน้าต่างนั้นใช่ไหม? และให้เดา ฉันคิดว่าน่าจะมีผู้เชี่ยวชาญ ระดับก้าวข้ามนภา อยู่ซักหนึ่งหรือสองคน”
ถึงแม้ว่าหัวใจของเขากำลังเต้นอยู่ท่ามกลางความตื่นตระหนก ใบหน้าของเจียงซิ่วก็ยังคงเยือกเย็น เขาเอนตัวลงบนเตียง กอดอก ผู้เชี่ยวชาญแล้วยังไง? จะเป็นแบบไหนผู้เชี่ยวชาญก็จะต้องปรากฏตัวออกมาอยู่แล้ว แม้ว่าภูเขาไท(ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ในประเทศจีน)จะพังทลาย เขาก็จะไม่เคลื่อนย้ายตัวเองออกไปแม้แต่ฟุตเดียว
“ปิงปิง แม้ได้ยินเสียงผู้ชาย...” มันเป็นช่วงเวลาที่ประตูเปิดออก
เย่ปิงรีบวิ่งไปที่โซฟา นั่งลงเพื่อรักษาภาพพจน์ของสาวงาม เธอหมุนผมของตัวเอง ทำให้ตัวเองดูสงบมากที่สุด รอยยิ้มอ่อนโยนปรากกฎขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ มันเหมือนกับว่าที่เธอเคยอยู่บนเตียงกับ... มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
เห็นว่าลูกสาวของเธอปลอดภัย คุณแม่อย่างเธอก็คลายใจ จำได้ว่าเธอได้ยินเสียงเด็กชายเมื่อเธออยู่ข้างนอก เธอปัดสายตามองไปรอบห้อง มีชายหนุ่นคนนึงนอนพิงหลังอยู่บนเตียง แขนของเขากอดอกอยู่ จากสายตาจะมองเห็นร่างที่คล้ายจะเปลือยเปล่าของเขา(มันอยู่ในผ้าห่ม) เธอเดาว่าเขาคงจะไม่ได้สวมชุดใดๆ
เจียงซิ่วทำเหมือนมันเป็นเรื่องตามธรรมชาติ ตาที่ไม่แยแสของเขาพินิจรอบๆ อารมณ์ในปัจจุบันของเขาราวกับไม่ได้อยู่ในฉากที่ดูร้ายแรงอะไร ท่าทางของเขาเหมือนจะพูดว่า ‘ทำสิ่งที่คุณต้องการ ฉันจะเฝ้าดูอยู่เสมอ’
สำหรับคุณแม่เย่นั้น... เธอตกตะลึงโดยสมบรูณ์!
และเซียวหยิ่นที่ยืนอยู่ข้างคุณแม่เย่นั้น ดวงตาของเธอตื่นตระหนกและเบิกกว้าง “เจียงซิ่ว...”
ตกตะลึง... มันราวกับว่าจะไม่สามารถเชื่อได้
“ปิงปิง”
“เธอทั้งคู่...”
จอมขี้แพ้ เจียงซิ่วผู้ที่เชื่อฟังและไม่เคยส่งเสียงในโรงเรียนคนนั้น ได้ทำสำเร็จในเรื่องที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เธอรู้ดีว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอหยิ่งจองหองเป็นที่สุดแต่นั้นก็คือเพื่อนของเธอ ด้วยดวงตาของเธอ เธอมองลงมาจากข้างบนเสมอ เธอไม่เคยมองใครพิเศษเลยซักคน แต่เขาอยู่กับเธอ ออกจากเรื่องนั้นก่อน พวกเขามี กันเรียบร้อยแล้ว... เย่ปิง... อัยย๊า ไม่นึกเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงประเภทนี้เลย เย่ปิง
หลังจากที่หายเธอตกใจ จู่ๆคุณแม่เย่ก็จับไปบริเวณอกตัวเอง หัวใจของเธอดูเหมือนจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็โกรธ มันทำให้เธอตะโกน “ปิงปิง... ชายคนนี้ใคร... ลูก... แม่เลี้ยงดูมาให้หนูมาเป็นแบบนี้หรอ? บอกแม่ สารเลวนี้เป็นใคร?”
บังอาจมาก เธอกล้าจะตำหนิเธอคนนี้ว่าสารเลว
เธอต้องการความตาย?
เดี๋ยวก่อน... เทพคนนี้ไม่มีอำนาจอย่างสิ้นเชิงในขณะนี้ ฉันไม่สามารถแสดงอาการอะไรที่รุนแรงได้
เซียวหยิ่นกล่าวตอบ “คุณป้าค่ะ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นของเรา เขาชื่อว่าเจียงซิ่ว”
“เพื่อนร่วมชั้น!”
ริ่มฝีปากของคุณแม่เย่ขดตัว นี้มันรุนแรงมากเกินไป ดูเหมือนราวกับว่าเธอกำลังจะตายจากอาการหัวใจวาย
“อ๊ะ ใช่คุณป้า บ้านเขาเข็นผลไม้ขาย”
“เข็นผลไม้!”
คุณแม่เย่ดวงตาเกือบจะเหลือกขึ้นไปอีกฝั่ง ร่างกายของเธอปัจจุบันเบาหวิวและเธอแทบจะเป็นลมกับอาการหน้ามืด เซียวหยิ่นสนับสนุนเธอจากด้านข้าง “ปิงปิง เธอ... เธอจะตั้งใจจะฆ่าคุณแม่ของเธอจริงรึไง”
“แม่ค่ะ แม่เข้าใจผิด หนูกับเขา... มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย” เธอกล่าว
คุณแม่เย่ยังคงเชื่อลูกสาวของเธอ แต่เมื่อเธอจ้องมองลงบนร่างกายของเย่ปิง หัวใจเธอพังทลายอีกครั้ง ผมที่ยุ่งเหยิงและเสื้อผ้าที่ถูกติดกระดุมผิด
อาห์ ลูกสาวฉัน วิธีเป็นนี่เป็นสิ่งที่เธอกล่าวมาว่า ‘มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย’?
“แม่ ฟังก่อนให้หนูอธิบาย...”
"หนูก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาปรากฏตัวขึ้นบนเตียงของหนูได้เอง... ภายในห้องของหนู "
หัวใจของคุณแม่เย่กรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง เพื่อชายหนุ่ม เธอถึงกับต้องพูดโกหกแม้จะไม่ถึง3ปีก็ตาม... แค่ถ้ายังสงบอยู่ได้ ฉันจะถูกเรียกได้ว่าเป็นแม่ของปิงปิงได้อยู่หรือไม่? คุณแม่เย่พูดเป็นนัยๆว่าต้องการจะให้เธอหยุดพูด “ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบาย แม่ของหนูไม่ต้องการได้ยินแม้แต่คำเดียวของหนู ไม่ต้องการ... เพื่อให้มันสั้น… หนูต้องเลิกกับเขาเดี๋ยวนี้!”
เย่ปิง “แม่”
“อะไร?” แม่ของเธอถลึงตามอง “หรือว่าหนูไม่ต้องการที่จะทมันอย่างนั้นหรือ?”
“แก! ออกไป!”
คุณแม่เย่สั่งเจียงซิ่ว ในตอนนี้เจียงซิ่วคิดว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเขา แต่ในความเป็นจริง มันเป็นสารชั่วอะไรที่โครตลึกซึ้ง ลึกกว่ามหาสมุทรแปซิฟิกซะอีก(มันเอาสถานการณ์จริงของตัวเองมาเขียนรึเปล่าหว่า 555)
“เทพคนนี้... เอ่อ เทพคนนี้ไม่มีเสื้อผ้า...”
ทันทีที่เขาพูดคำเหล่านั้น เยปิงไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เธอปิดหน้าด้วยมือของเธอ เธอไม่มีหน้าที่จะโชว์ใครแล้วในเวลานี้ หลิวเซียวหยิ่นห้ามให้ตัวเองหัวเราะ มันต้องมีความจริงบางอย่าง
สำหรับคุณแม่เย่ที่น่าสงสาร เธอเกือบจะหยุดหายใจ
ลองดูรอบๆ เธอไม่สามารถหาเสื้อผ้าเด็กผู้ชายคนนี้ได้ภายในห้องของลูกสาว หะ หรือว่า... เขาวิ่งเข้ามาในบ้านของฉันโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า?
“รออยู่นี่...”
คุณแม่เย่นำเสื้อกีฬาที่คุณพ่อเย่มักจะสวมใส่มาให้และโยนมาให้เขา
“ใส่มันให้ถูกต้องแล้วลงมา”
มองไปที่ชุดกีฬา มันเป็นชุดแบรน Adidas 1ชุด ความทรงจำของเขาต่อชุดนี้ลึกซึ้งมากเกินไป ในเวลานั้น บ้านของเขายากจนและแม้กระทั่งไม่สามารถที่จะซื้อชุดกีฬาที่เหมาะสม เขาไม่เคยใส่ใจมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เขาเองก็ไม่ได้หวังว่าพ่อของเขาจะเก็บเงินไว้เพื่อซื้อของแท้ให้เขา
เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าพวกนี้จึงถูกใส่เข้าไปในความทรงจำของเขาตลอดไป
เขารู้สึกไม่ชอบมาพากล ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจริงเกินไป ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้หวนกลับมายังที่เคยอยู่ เป็นเวลาช่วงที่เขายังเด็กอยู่
เขาออกจากห้องหลังจากนั้น
บ้านของเย่ปิงมีขนาดใหญ่มาก มันเป็นวิลล่า ตกแต่งภายในได้ตระหง่านและทันสมัย จากทางเดินของชั้น2 เขาสามารถมองไปที่ห้องโถงที่ชั้น1ได้ คุณแม่เย่ได้นั่งอยู่บนโซฟา ขุ่นเคืองไปด้วยความโกรธ ทีวีกำลังทำงานอยู่ และคนที่อยู่ตรงนั้นกำลังพูดถึงบทสนทนาของเขานั้นๆ
“เทพคนนี้... หวนกลับมา?”
“กลับมายังบ้าน?”
“กลับมาในช่วงที่เยาว์วัย?”
เย่ปิงยืนอยู่ตรงข้ามจากคุณแม่เย่ ลดศีรษะลงเหมือนเด็กที่กระทำผิด เธอเดินลงไปนั่งใกล้ๆคุณแม่เย่ หลิวเซียวหยิ่นอธิบายบางอย่างให้เธอ
เมื่อคุณแม่เย่เห็นเจียงซิ่วเดินลงมา เธอค่อยๆเพ่งพินิจนักเรียนชายคนนี้อย่างรอบครอบ หน้าตาของเขาดูหล่อมากๆ แต่อย่างอื่นปิงปิงก็ไม่ควรลดตัวลงไปเพื่อเขา “ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร นี่คือกระดาษและปากกา เขียนคำมั่นสัญญา... ที่เธอจะตัดการติดต่อกับลูกสาวของฉันหลังจากนี้”
“แม่ ทำไมไม่เชื่อหนู? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเราจริงๆ” เย่ปิงกระแทกเท้าโดยความโกรธ แม่แบบไหนที่กันอยากจะทำลายชื่อเสียงของลูกสาวด้วยมือของตัวเอง?
“หนูไม่รู้ว่าเขาปรากฏตัวที่บ้านของเราได้อย่างไร”
“หนูสาบาน!”
เจียงซิ่วมองออกไปจากห้องโถงชั้น1 แสงแดดส่องสว่างภายนอก ถนนที่คุ้นเคยเหล่านี้มาพร้อมกับเสียงแตรของรถที่กำลังเร่งรีบ ทำให้เขาตระหนักดีว่าเขาได้กลับมาแล้วเรียบร้อย หัวใจของเจียงซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมาก แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาของเขามันก็ทำให้รู้ว่าเขากลับมาแล้วจริงๆ
“คุณเข้าใจผิดจริงๆ เทพคนนี้ได้ถูกเคลื่อนย้ายร่างกลับมาจากโลกแห่งการบ่มเพาะเพื่อความอมตะ และบังเอิญเข้ามาอยู่ในห้องของเพื่อนร่วมชั้นเย่ปิง” เขากล่าว
“แม่ เห็นไหม ฟังเขาพูดสิ...” เย่ปิงคิดเหมือนกับเขาแต่แล้วก็รู้สึกแปลกๆ เคลื่อนย้ายร่าง? เขาไม่สามารถหยุดการพ่นขยะออกมาจากปากใช่หรือไม่?
หลิวเซียวหยิ่นหัวเราะขณะที่นำมือของเธอมาปิดปาก
“เธอบอกว่าบ่มเพาะเพื่อความอมตะและเคลื่อนย้ายร่าง... ดี... ดี...
“หญิงที่ไม่รู้อะไร ลองดูนี่ เทพคนนี้จะทำให้น้ำในถ้วยนที่อยู่บนโต๊ะแช่แข็ง”
“เอาล่ะ เธอทำมัน ถ้าทำได้ฉันก็จะเชื่อเธอ”