px

เรื่อง : Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
ตอนที่ 2 : เจียงซูหลัน


ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าของมือถือก็ดังขึ้นจนทำให้จิตใจของเฉินฟานหลุดออกจากภวังค์

 

เขาเหลือบมองไปยังหมายเลขผู้ที่โทรเข้ามา: แม่

 

“ฟานน้อย? ลูกเกือบจะไปถึงเมืองซูโจวแล้วใช่ไหม? ตอนนี้ป้าถังน่าจะไปรอลูกอยู่หน้าสถานีขนส่งแล้วนะ แม่ได้ขอให้ป้าถังช่วยหาที่พักสำหรับลูกในเมืองชูโจว และป้าถังจะเป็นคนที่คอยช่วยแม่ดูแลลูกในขณะที่ลูกอยู่ที่นั่น อย่าโทษแม่ที่ต้องใจร้าย และส่งลูกไปที่นั่นเลยนะ ลูกก็รู้ว่าเกรดของลูกนั้นย่ำแย่มากแค่ไหน ถ้าลูกไม่เรียนให้หนักขึ้น ลูกจะไม่สามารถเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยดีๆได้ ดังนั้นแม่จึงต้องส่งลูกไปยังโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองซูโจว ลูกต้องฟังป้าถังในขณะที่ลูกอยู่ในเมืองซูโจว ลูกได้ยินที่แม่พูดใช่ไหม? ป้าถังเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนธุรกิจของแม่ในช่วงที่แม่เคยไปทำงานที่เมืองซูโจวมาก่อน ป้าถังเป็นคนดีมาก! แม่ขอคอนเฟิร์มเลย!”

 

เมื่อได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของแม่เป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมาหลายร้อยปี กระแสความอบอุ่นก็ไหลผ่านไปทั่วทั้งร่างกายของเฉินฟาน น้ำตาได้เอ่อคลออยู่ที่มุมตาของเขา

 

“แม่ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะเรียนให้หนักขึ้น ผมสัญญา” แม้จะมีน้ำตาคลอ แต่เขาก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใส

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงของแม่นับตั้งแต่ที่เธอล่วงลับไปเมื่อ 500 ปีก่อน

 

แม่ของเขานั้นต้องทำงานยังที่ที่ห่างไกล และยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานอยู่เสมอ เฉินฟานจำเธอได้เพียงเลือนรางเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาไม่ค่อยมีโอกาสมากนักที่จะได้พบหน้ากัน

 

แม่ของเขา หวังเสี่ยวหยุนเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ หลังจากถูกตระกูลของเธอเยาะเย้ย เธอก็ได้สาบานว่าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคิดผิด ด้วยความโกรธเธอจึงพาอันย่าน้องสาวของเฉินฟานไปที่เขตนานาชาติตงไห่ และสร้างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่างบริษัทความงามขึ้นมา ตอนที่เฉินฟานไปเรียนที่วิทยาลัย บริษัทความงามได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตงไห่ และหวังเสี่ยวหยุนก็ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม ‘ราชินีแห่งอสังหาริมทรัพย์’ อีกด้วย

 

ดังนั้นเฉินฟานจึงไม่สามารถจดจำเธอได้มากนักในช่วงเวลาที่ผ่านมาในชีวิตของเขา เขาจดจำเธอไม่ได้จนเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในที่สุดเฉินฟานก็รู้ว่าแม่ของเขามีความหมายต่อเขามากแค่ไหน

 

เธอเป็นกระดูกสันหลังของครอบครัว ต่อจากนั้นเฉินฟานก็นึกขึ้นได้ว่าเส้นผมของพ่อได้เปลี่ยนเป็นสีเทาหลังจากที่ได้รับรู้ถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับแม่ ราวกับว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้สูบเอาวิญญาณของพ่อเขาไปจนหมดจนทำให้เหลือแต่เพียงเปลือกนอกที่ว่างเปล่า

 

“อ๊ะ! แม่เกือบลืมไปเลย ตระกูลถังมีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง เธอมีชื่อว่าเจียงซูหลัน เธอไม่เหมือนกับลูก เธอเป็นนักเรียนดีเด่น เธอนั้นฉลาด และเพรียบพร้อม ป้าของลูกกระตือรือร้นที่จะแนะนำให้ลูกทั้งสองคนรู้จักกัน แต่แม่ต้องเตือนลูกว่า ในตอนนี้การศึกษาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของลูก! เข้าใจใช่ไหม?” หวังเสี่ยวหยุนพูด

 

เฉินฟานหัวเราะอยู่ภายในใจ ‘แม่ประเภทไหนที่อนุญาตให้ลูกสาวของเธอออกเดทในโรงเรียนมัธยมกัน?’

 

เฉินฟานหยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูด “แม่ครับ แม่ไม่ต้องกังวล ผมจะเรียนให้หนักขึ้น แต่แม่ต้องสัญญากับผมนะว่า ในขณะที่แม่อยู่ที่ตงไห่แม่จะให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความปลอดภัยของตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่แม่ขับรถ ว่าแต่น้องสาวของผมจะได้รับใบขับขี่เร็วๆนี้ใช่ไหม? ถ้าน้องได้รับใบขับขี่แล้ว จะดีที่สุดถ้าแม่ปล่อยให้น้องเป็นคนขับรถให้แทน ผมไม่ไว้วางใจทักษะในการขับรถของแม่เอาซะเลย ถ้าแม่ยังฝืนขับรถอีกต่อไป ในอีกไม่ช้าก็เร็วแม่จะต้องประสบอุบัติเหตุอย่างแน่นอน!”

 

“โอเค โอเค ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ลูกเรียนรู้ที่จะเทศนาแม่ตัวเอง? เอาล่ะ ตอนนี้แม่ต้องไปก่อนนะ แม่ได้โอนเงินไปให้ลูกแล้ว แต่ลูกก็พยายามอย่าใช้เงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ล่ะ” หวังเสี่ยวหยุนกดวางสายโทรศัพท์

 

เฉินฟานรู้ดี ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะเป็นนักธุรกิจหญิงที่เก่ง และมีความสามารถ แต่เธอก็ไม่ใช่คนละเอียด และรอบคอบมากที่สุด หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอันย่าน้องสาวของเขา บริษัทของเธอก็จะประสบกับคราวเคราะห์ และความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอ

 

เมื่อคิดถึงอันย่าน้องสาวของเขา ความเจ็บปวดก็แล่นไปสู่หัวใจของเขาอีกครั้ง

 

นอกเหนือจากเสี่ยวเชว่แล้ว น้องสาว และแม่ของเขาก็เป็นอีกสองความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตก่อนหน้านี้

 

“ฉันเป็นหนี้เธอครั้งใหญ่ และฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตอบแทนเธออย่างไรดี” เฉินฟานนิ่งเงียบ ท้ายที่สุดแล้วเขาจะตอบแทนความสัมพันธ์ของครอบครัวอย่างไรดี

 

ในขณะที่เฉินฟานกำลังหมกมุ่นอยู่กับภาพสะท้อนชีวิตในอดีตของเขา รถบัสก็มาถึงปลายทาง

 

เมื่อมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาที่สถานีรถบัส ในที่สุดความจริงก็ทำให้เขาหลุดจากภวังค์ เขากลับมาแล้ว เขาอายุ 17 ปี เขายังเป็นชายหนุ่ม และรู้สึกดีกว่าที่เขาเคยเป็นมาในอดีต

 

“อีกหนึ่งชีวิต อีกหนึ่งเรื่องราว” เฉินฟานยิ้ม จากนั้นเขาก็เดินตามฝูงชนไปยังทางออก

 

ในขณะเดียวกันด้านนอกของสถานีขนส่งเมืองซูโจว มีบางสิ่งได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนอย่างรถยนต์นำเข้า Audi - A6 สีแดง  (รถยนต์ออดี้)

 

ในปี 2007 มูลค่าของรถคันนี้คือเจ็ดแสนหยวน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นรถยนต์หรูหราที่หาได้ยากบนท้องถนนของเมืองซูโจว อย่างไรก็ตามรถยนต์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้คนกำลังมองดู แต่เป็นผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ารถต่างหาก

 

ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าอีกคนดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ในช่วงวัย 30 ปี เธอมีใบหน้าที่สวยงาม เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และสวมชุดสีดำที่เข้ากับส่วนโค้งเว้าของเธอ และรองเท้าส้นสูง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอต้องเป็นนักธุรกิจหญิงระดับไฮคลาสอย่างแน่นอน

 

ผู้หญิงอีกคนมีอายุราวๆ 16 ปี เธอสูง และสวยงามเหมือนกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง

 

พวกเธอทั้งสองคือป้าถัง และลูกสาวของเธอ เจียงซูหลัน เจียงซูหลันสำรวจทางออกของสถานีขนส่งอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด

 

“แม่คะ เขาจะมาถึงเมื่อไหร่? นี่เราต้องโทรไปหาเขาไหมคะเนี่ย?” เจียงซูหลันถามอย่างหงุดหงิด

 

“เราเพิ่งจะมารอเขาได้เพียง 10 นาทีเองนะ” ป้าถังตอบกลับ

 

แม่ของเฉินฟานเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอที่เมืองซูโจว และเธอไม่สามารถทำให้เพื่อนของเธอคนนี้ผิดหวังได้ หวังเสี่ยวหยุนเชื่อใจเธอ และเธอต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อดูแลเด็กๆเหล่านี้

 

“เฉินฟานเป็นเด็กที่ดีมาก ลูกต้องดีกับเขามากๆนะ! ลูกทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน ดังนั้นแม่หวังว่าลูกจะพาเขาไปเที่ยวชมดูโน่นดูนี่ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่ซูโจว ดังนั้นเขาจึงไม่คุ้นเคยกับชีวิตในเมืองเช่นนี้ ลูกจะต้องดูแลเขาด้วย” ป้าถังพูด

 

“หนูรู้แล้ว... หนูรู้แล้วค่ะแม่! นี่เป็นครั้งที่สิบสามที่แม่บอกหนูเกี่ยวกับเรื่องนี้!” เจียงซูหลันบ่น

 

เนื่องจากเขาเป็นชายหนุ่มในชนบทที่โง่เง่า เธอจึงคิดว่าเธอต้องเสียช่วงเวลาทั้งบ่ายอยู่ข้างนอกสถานีขนส่งโง่ๆภายใต้ดวงอาทิตย์โง่ๆนี่ ถ้าเป็นวันอื่นตอนนี้เธออาจจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆของเธอที่สตาร์บัคส์ และกินเค้กฟักทองพร้อมกับดื่มลาเต้ในมือของเธอไปแล้ว แต่นี่มันอะไรกัน เธอต้องมาอยู่ที่นี่อย่างน่าสังเวช

 

จะมีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกไหมเนี่ย เธอสังเกตเห็นวิธีที่แม่ของเธอพูดถึงชื่อของเขากับเธอ แม่ของเธอพยายามจะจัดให้เธออยู่กับชายหนุ่มคนนั้น ‘เฮ้อ ฉันอยากจะบ้า!’ เจียงซูหลันคิดกับตัวเอง

 

ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อแม่ของเธอ

 

“ผมต้องขอโทษที่ทำให้ป้าต้องรอนะครับป้าถัง” ชายหนุ่มยิ้มทักทายแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

 

“นายคือเฉินฟานงั้นเหรอ?” เจียงซูหลันมองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้าในขณะที่ยืนอยู่ด้านหลังแม่ของเธออย่างเงียบๆ

 

เขามีความสูงโดยเฉลี่ยราวๆห้าฟุตเจ็ดนิ้ว ความสูงของเขาไม่ต่างไปจากเธอมากนัก

 

เขาดูแบบว่า... เป็นชายหนุ่มแบบบ้านๆที่ดูดีขึ้นมานิดนึง และรสนิยมแฟชั่นของเขา... เอ่อ... ก็เห็นได้อย่างชัดเจนล่ะนะ

 

เธอส่ายหัวเล็กน้อย ‘เขาดูธรรมดามากเกินไป และดูไม่เท่ห์แบบหลี่อี้เฉินเลยแม้แต่นิด’

 

หลี่อี้เฉินเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ เขาเป็นประธานสภานักเรียน และเป็นลูกชายของรองนายกเทศมนตรีเมืองซูโจว

 

หลี่อี้เฉินมีทั้งรูปลักษณ์ และตระกูลที่ดี เขาเป็นหนึ่งในผู้ไล่ตามของเจียงซูหลัน และเป็นหนึ่งในคนที่เจียงซูหลันชื่อชอบ ทั้งสองได้รับการยกย่องให้เป็นคู่ที่เหมาะสมในโรงเรียน

 

ป้าถังยิ้มให้เฉินฟาน เธอพอใจมากกับความสุภาพของเฉินฟาน

 

“เสี่ยวฟาน นี่คือลูกสาวของป้า เจียงซูหลัน”

 

“เธอจะเริ่มต้นปีสุดท้ายในโรงเรียนมัธยมปลายในภาคการศึกษาถัดไป และเธอก็ยังเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนของเธอด้วยนะจ๊ะ ลูกสาวของป้ามีอายุน้อยกว่าเสี่ยวฟาน 3 เดือน เสี่ยวฟานสามารถเรียกเธอว่าหลันหลันก็ได้นะจ๊ะ เสี่ยวฟานต้องดูแลลูกสาวของป้าเป็นอย่างดีด้วยนะ รู้ไหม?”

 

เฉินฟานพยักหน้า และยิ้ม “ไม่ต้องกังวลครับป้าถัง ผมจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนกับเป็นน้องสาวของตัวเองเลยครับ”

 

หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองผู้หญิงที่ดูราวกับเกลียดชังเขา และในที่สุดเขาก็นึกย้อนไปยังเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของเขา

 

เธอชื่อเจียงซูหลัน

 

เธอไม่เพียงแต่เป็นลูกสาวของป้าถัง แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย และผู้หญิงคนแรกที่เขาชอบ

 

เฉินฟานเตือนตัวเองอยู่ภายในใจว่า ปี 2007 เป็นปีก่อนที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนทำให้แม่ของเธอมีอำนาจขึ้นมาอย่างฉับพลัน ดังนั้นในสายตาของแม่ลูกคู่นี้ เขาจึงเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มบ้านนอกเท่านั้น

 

‘ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันออกจากเขตชนบทมายังเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างซูโจว ฉันยังเด็ก และโง่เขลานัก แล้วฉันจะไม่ตกหลุมรักสาวงามระดับสูงอย่างเจียงซูหลันได้อย่างไร?’

 

เรื่องราวความหลังทำให้เฉินฟานขบขันในตัวเอง เขาเป็นเด็กผู้ชายที่โง่มาก!

 

เขาน่าจะรู้ตัวดีกว่านี้ ไม่มีทางที่เจ้าหญิงอย่างเจียงซูหลันที่เกิดมาพร้อมกับช้อนเงินช้อนทองจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา เฉินฟานส่ายหัว

 

‘ฉันจำได้ว่าท้ายที่สุดแล้วเธอก็ตกหลุมรักกับชายหนุ่มที่โด่งดังที่สุดในเวลานั้นอย่างหลี่อี้เฉิน เขาเป็นลูกชายของรองนายกเทศมนตรีเมืองซูโจว ต่อมาทั้งสองก็ได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยตงไห่ และเริ่มออกเดทกันอย่างเป็นทางการ ฉันได้รับความเสียหายค่อนข้างมากจากการพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเขาในครั้งนั้น’

 

ตอนนี้เฉินฟานไม่ใช่คนที่เขาเคยเป็นเหมือนกับ 500 ปีก่อน ในเวลานี้เขาจะทำอย่างไรดี? เขาควรจะเลิกหลงเสน่ห์ในตัวของสาวน้อยคนนี้ดีหรือไม่?

 

เฉินฟานขับไล่ความคิดทั้งหมดออกไป และยื่นมือออกมา “สวัสดี ฉันชื่อเฉินฟาน ฉันมาจากเมืองซี่ชุ่ย ในอนาคตเราอาจจะได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกฉันได้เลยนะ!”

 

แม้ว่าครั้งหนึ่งในอดีตเจียงซูหลันจะเคยทำร้ายเขา แต่เขาก็ได้สัญญากับป้าถังว่าเขาจะปกป้องเธอ

 

เจียงซูหลันต้องยอมรับเลยว่า แม้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่หล่อเหลาอะไรมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้เลวร้ายจนถึงกับให้เธอไม่อยากจะเหลียวมอง รูปลักษณ์บนใบหน้าของเขาอาจทำให้เธอพึงพอใจขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่นี่ก็ต้องขึ้นอยู่กับมุมที่เธอมองด้วยเช่นกัน

 

‘น่าเสียดายที่ครอบครัวของเขายากจนเกินไป อย่างดีที่สุดเราอาจเป็นได้แค่เพื่อนกัน’ เจียงซูหลันคร่ำครวญในใจขณะที่จับมือกับเฉินฟาน

 

“ขอบคุณ อย่าลืมที่นายพูดเอาไว้ด้วยล่ะ” เจียงซูหลันพูด และยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย

 

พ่อของเธอเป็นข้าราชการระดับสูง และแม่ของเธอก็มีบริษัทที่มีมูลค่านับล้านหยวน เธอไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเฉินฟาน

 

ป้าถังรีบพูดขึ้นมา “เข้าไปในรถได้แล้ว เราจะไปยังที่พักใหม่ของเสี่ยวฟาน และเก็บสัมภาระกันก่อน จากนั้นเราจะไปที่บ้านของป้าเพื่อทานอาหารกลางวัน ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักกับคุณลุงของซูหลันเอง”

 

“ครับ” เฉินฟานพยักหน้า และยิ้ม

 

หลังจากเข้าไปในรถยนต์ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังบ้านใหม่ของเฉินฟานที่หมู่บ้านริมทะเลสาบ

 

ที่นี่เป็นที่พักอาศัยระดับกลางในเมืองซูโจว ทิวทัศน์ของที่นี่นั้นสวยงามมากเนื่องจากหมู่บ้านถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ และอยู่ติดกับทะเลสาบหยานกุ้ย นอกจากนี้ที่นี่ยังอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมัธยมไอวีลีกที่เฉินฟานจะต้องไปเรียนอีกด้วย ที่พักของเฉินฟานมีห้องสวีทหนึ่งห้อง และห้องนอนขนาดใหญ่ที่ได้รับการตกแต่งที่มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อน อ่างอาบน้ำ ทีวี โซฟา และตู้เย็น เห็นได้ชัดว่าป้าถังใช้เวลาเตรียมตัวเป็นอย่างมากในการหาที่พักในเมืองซูโจวให้กับเขา

 

“ขอบคุณมากครับป้าถังสำหรับเรื่องทั้งหมดนี่” เฉินฟานพูดด้วยความจริงใจ ป้าถังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ดีต่อเขาอย่างแท้จริง

 

เธอเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของหวังเสี่ยวหยุน เธอออกมาเปิดบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรม และถือได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ

 

แม่ของเฉินฟานส่งให้เขามาเรียนที่โรงเรียนมัธยมเอกชนที่ดีที่สุดในเมืองซูโจว โรงเรียนมัธยมไอวีลีก และป้าถังก็เป็นคนที่คอยดูแลเขามาตลอด เธอไม่เพียงแต่ช่วยให้เขามีที่พัก แต่เธอก็ยังได้ทำข้าวกลางวันให้เขาเป็นครั้งคราวอีกด้วย

 

เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ป้าถังมักจะมองหาเขาอยู่เสมอ

 

“เธอสุภาพเกินไปแล้ว แม่ของเธอฝากฝังเธอไว้กับฉัน ดังนั้นฉันจึงต้องดูแลเธอเป็นอย่างดี นอกจากนี้ฉันยังต้องการลูกชายอีกคนอยู่เสมอ” ป้าถังพูดพร้อมกับยิ้มออกมา

 

“ขอบคุณครับ” เฉินฟานพยักหน้า และเขาก็พร้อมที่จะตอบแทนการดูแลอย่างรักใคร่ของป้าถังในชีวิตที่ผ่านมา

 

ป้าถังรับรู้ได้ถึงความจริงใจในคำพูดของเขา และเธอก็ประทับใจในตัวชายหนุ่มคนนี้มากยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับหลี่อี้เฉินชายหนุ่มอวดดีในเมืองคนนั้น ป้าถังอยากใด้เฉินฟานเป็นลูกเขยมากกว่า เงิน และอำนาจไม่ใช่กุญแจสำคัญสำหรับการแต่งงานที่มีความสุข ความจริงใจ และความซื่อสัตย์นั้นสำคัญยิ่งกว่า

 

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ขับรถออกจากหมู่บ้านริมทะเลสาบ และไปยังที่อยู่อาศัยของตระกูลถัง

 

เจียงซูหลัน และเฉินฟานกำลังนั่งเคียงข้างกันที่เบาะหลัง พวกเขาแลกเปลี่ยนคำพูดเพียงไม่กี่คำก่อนที่หญิงสาวจะหมดความสนใจในตัวเฉินฟาน ไม่มีใครพูดอะไรจนนำไปสู่ความเงียบงัน ในที่สุดเฉินฟานก็ดูเหมือนจะเหนื่อยล้า เขาเอนหัวพิงกับหน้าต่าง และแสร้งทำเป็นหลับ

 

แม้ว่าเฉินฟานจะสร้างความประทับใจแก่เธอในระหว่างการพบกันครั้งแรก แต่เธอไม่ต้องการพูดคุยกับคนที่ไม่ค่อยโด่งดังมากไปกว่าเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชายหนุ่มไม่ได้สนใจเธอตั้งแต่แรก

 

เธอรู้สึกว่าเขาชอบทำท่าทางราวกับว่าเขาไม่สนใจเธอ และคิดว่าท่าทางเช่นนี้จะทำให้เธอรู้สึกสนใจ เธอเคยพบเจอชายหนุ่มมากมายที่พยายามจะเล่นเล่ห์กลกับเธอ แต่ก็ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่คนเดียว

 

อย่างไรก็ตามอันที่จริงเฉินฟานนั้นไม่ได้สนใจเธอเลย เขาไม่มีอารมณ์ไปเล่นเล่ห์กลหรือเล่นแง่อะไรกับเธอเลยแม้แต่นิด จิตใจของเขาผูกติดอยู่กับเรื่องของการบ่มเพาะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------

วิทยาลัยคือโรงเรียนที่เฉินฟานเคยเรียนมาก่อนที่จะมาเข้าไอวีลีก บางคนอาจจะงงว่าทำไมบางครั้งถึงใช้โรงเรียนมัธยม บางครั้งถึงวิทยาลัย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พูดคุยติชม และเปลี่ยนกันได้ที่ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ

รีวิวผู้อ่าน

gugew159
1846 วันที่แล้ว

วิทยาลัยสายการเรียนการอาชีพครับแต่ไปคนล่ะสาย คือ โรงเรียนเป็นการเรียนแบบสามัญเช่น ม.4 ม.5 ม.6 ส่วนวิทยาลัยนี่เป็นการฝึกอาชีพครับ จะเป็น ปวช.1 2 3 ปวส. 1 2 ครับ ส่วนตัวชอบครับ


  แสดงความคิดเห็น
pinkbuffy1166
1856 วันที่แล้ว

สนุกดี ชอบนิยายแนวนี้พอดีเลยตามๆ


  แสดงความคิดเห็น