px

เรื่อง : ทุ่งรวงทอง (นิยายแปล)**จบแล้ว**
Re-new ตอนที่ 40  ผลผลิตสูง


ตอนที่ 40  ผลผลิตสูง

 

[ ข้าบอกเจ้ากี่คราแล้ว ? สิ่งที่ข้าดูดไปนั่นคือพลังวิญญาณที่มนุษย์ไม่สามารถดูดซับมันได้ มันไม่ส่งผลต่อสมุนไพรเลยด้วยซ้ำ ! เจ้าก็ยังมิยอมเชื่อข้า พลังวิญญาณของสมุนไพรบ้านหมอโหยวน้อยจะตายไป ! ] หินศักดิ์สิทธิ์เริ่มต่อรอง

 

“ก็ได้ ! ถ้าหากข้าได้เข้าเมืองคราหน้า ข้าจะไปที่ร้านยาถงเหรินแล้วให้เจ้าดูดซับพลังวิญญาณมากเท่าที่เจ้าต้องการเลยเป็นเยี่ยงไร ! ” เสี่ยวเฉาเจอมันเทศอีกหัวหนึ่งแล้ว นางจึงใช้สมาธิอยู่กับการจัดการมันเทศหัวใหญ่และตอบเจ้าหินศักดิ์สิทธิ์ไปส่ง ๆ ใครจะรู้ได้ว่าเมื่อใดนางถึงจะได้เข้าเมืองอีก

 

นางหลิวที่ไม่เคยเลี่ยงงานหรือหนีจากหน้าที่ความรับผิดชอบก้มลงขุดมันเทศไปเรื่อย ๆ นางแอบคิดว่า ‘ปีที่แล้วมันเทศที่ใหญ่ที่สุดใหญ่ก็ไม่เกินฝ่ามือ แต่ปีนี้ราวกับว่ามันเทศพองลมขึ้นเสียอย่างนั้น ยิ่งขุดก็เจอกับมันเทศหัวใหญ่’

 

เดิมทีนางคิดว่ามันเทศที่ลูกสาวคนเล็กของนางขุดขึ้นมาก็นับได้ว่าใหญ่ที่สุดแล้ว  แต่ก็ไม่คาดคิดเลยว่ามันเทศที่นางขุดก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ามันเทศที่ลูกสาวนางขุด บางอันก็ใหญ่เกินขนาดของราชามันเทศไปเสียแล้ว

 

“ท่านแม่ มันเทศปีนี้ใหญ่กว่าปีที่แล้วตั้งหลายเท่า เหมือนว่าปีนี้เราจะเก็บได้มากขึ้นอีกด้วยเจ้าค่ะ ! ” หยูเสี่ยวเหลียนรู้สึกว่านี่ไม่น่าเชื่อเอาเสียเลย ที่ดินก็แปลงเดิมกับปีที่แล้ว ท่อนพันธุ์ก็มาจากมันเทศของปีที่แล้ว แต่เหตุใดดูเหมือนการเก็บเกี่ยวมันเทศในปีนี้ราวกับพวกมันกำลังแข่งกันอยู่เลย ?  ยิ่งขุดยิ่งหัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ !

 

นางหลี่ที่เพิ่งเริ่มลงมือขุดก็นั่งลงนั่งเช็ดเหงื่อเสียแล้ว นางก้มหน้าลงมองขนาดของมันเทศที่ขุดได้แล้วก็ยิ้มจนเนื้อบนหน้าเบียดกัน นางจึงได้เอ่ยออกมาว่า “น้องสะใภ้  ปีนี้มันเทศได้ผลผลิตดีมากเลย เจ้าคิดเหมือนข้าหรือไม่ เจ้าว่าท่านแม่จะให้เราเอามาย่างกินบ้างหรือไม่ ? ”

 

แต่ก่อนตอนที่พืชผลไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ มันเทศจะถูกนำมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆแล้วเอาไปตากแดด หลังจากนั้นก็นำมาป่นเป็นผงละเอียดแล้วนำไปรวมกับเมล็ดธัญพืชหยาบชนิดอื่น ๆ ตลอดช่วงฤดูหนาว แผ่นแป้งที่ทำจากผงมันเทศจะหวานและเหนียวนุ่มเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรสชาติดีกว่าแผ่นแป้งที่ทำจากแป้งข้าวฟ่างหยาบและแป้งถั่วที่มีกลิ่นแปลก ๆ อยู่อีกด้วย

 

ทุกปีมันเทศที่เหลือจะถูกนำมาต้มเป็นบางครา มันเทศต้มรสชาตินุ่มและหวานเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถกินเยอะ ๆ ได้เพราะจะทำให้ท้องอืดได้ง่ายเป็นอย่างมาก มันเทศที่นำไปเผารสชาติจะอร่อยยิ่งกว่ามาก แต่นางจางคิดว่านั่นเป็นการสิ้นเปลืองมากจนเกินไปเมื่อจะต้องทิ้งส่วนที่ไหม้ไป

 

“ท่านป้าใหญ่ ท่านป้าพักนานเกินไปแล้ว ลุกขึ้นขุดเร็ว ๆ สิเจ้าคะ ยังมีมันเทศอีกตั้งเยอะ ถ้าหากวันนี้ขุดไม่เสร็จท่านย่าต้องโมโหเป็นแน่ ถ้าเป็นเยี่ยงนั้นแม้แต่เปลือกมันเทศพวกเราก็คงมิได้กิน ไม่ต้องพูดถึงมันเผาเลยเลยเจ้าค่ะ ! ”

 

หยูเสี่ยวเฉารู้สึกเหยียดหยามป้าใหญ่ที่ทั้งโลภและขี้เกียจ ทั้งที่นางและเสี่ยวเหลียนขุดมันเทศมาได้เป็นกองแล้ว แต่ป้าใหญ่กลับขุดมาได้เพียงแค่ 2 หัวก่อนจะนั่งลงและหยุดทำงาน แล้วเยี่ยงนี้ผู้ใดจะห้ามปากตนเองไม่ให้แขวะนางได้ !

 

นางหลี่หยิบมันเทศหัวเล็กขึ้นมาเช็ดดินออกด้วยแขนเสื้อที่อธิบายสีไม่ถูก จากนั้นก็เอาปากใหญ่ ๆ นั่นแทะเปลือกมันเทศเสียงดัง ขณะที่แทะเปลือกออกนางก็ไม่ลืมพูดแก้ตัวด้วยว่า

 

“ก็แค่ที่ดิน 3 แปลง ขุดเพียงวันเดียวก็เสร็จแล้วมิใช่หรือไง พักนิดพักหน่อยไม่ทำให้ช้าหรอก มันเทศปีนี้มิใช่เพียงแค่หัวใหญ่อย่างเดียวแต่มันยังหวานมากอีกด้วย อร่อยกว่ามันเทศของปีที่แล้วเสียอีก ! ”

 

หยูเสี่ยวเหลียนมองไปยังทิศที่นางหลี่นั่งอยู่ นางรู้ว่าพวกเขาไม่เคยพึ่งพานางหลี่ได้เลยเวลาที่มาเก็บเกี่ยวมันเทศทุก ๆ ปี หยูเสี่ยวเหลียนเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวฝาแฝดของนางแล้วอดที่จะเอ่ยออกมาไม่ได้ “เสี่ยวเฉา เจ้าพักสักหน่อยเถอะ แล้วค่อยเริ่มขุดใหม่ เจ้าจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป”

 

นางหลิวยืดตัวขึ้นแล้วเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก นางกล่าวเสริมเสี่ยวเหลียนด้วยน้ำเสียงห่วงใยว่า “เฉาเอ้อร์ ลูกมิเคยทำงานในไร่ ไปนั่งพักหาอะไรเล่นก่อนดีหรือไม่ แม่กับพี่รองทำกันเองได้”

 

ชาติก่อนหยูเสี่ยวเฉาทำงานในไร่จนชินแล้ว ถึงครอบครัวของนางจะไม่เคยปลูกมันเทศ แต่การขุดมันเทศไม่ได้มีวิธีที่ซับซ้อนอันใด ดังนั้นเพียงครู่เดียวนางก็เริ่มลงมือขุดมันเทศต่อ หลังจากดูแลร่างกายมา 4 - 5 เดือนและออกกำลังด้วยการปีนภูเขาและไปทะเล นางก็มิใช่หยูเสี่ยวเฉาคนเดิมที่เดินสองก้าวก็หมดแรงอีกต่อไป นางยิ้มให้กับผู้ที่เป็นแม่แล้วทำงานต่อโดยไม่ยอมชักช้าให้เสียเวลาเปล่า

 

“น้องสะใภ้ ปีนี้พวกเจ้าใช้อะไรเป็นปุ๋ยรึ ? มันเทศทุกหัวถึงได้ใหญ่เพียงนี้ ดูสิ ! มันเทศหัวนี้อย่างน้อยน่าจะหนัก 7 - 8 ชั่งเลยมิใช่รึไง ! ” หลังจากหยูเจียงขุดมันเทศในไร่ของครอบครัวตัวเองเสร็จ เขาก็เข้ามาช่วยนางหลิว แต่เมื่อเห็นมันเทศขนาดเท่าลูกบอลบนพื้นก็ถึงกับตกใจไปชั่วขณะ

 

นางหลิวส่ายหน้าและตอบยิ้ม ๆ ว่า “ปีนี้เราก็ใช้ปุ๋ยเหมือนกับปีก่อน ๆ ที่ทำจากมูลสัตว์จากบ้านเราเหมือนเดิมเจ้าค่ะ บางทีที่ปีนี้ได้ผลผลิตดีคงเป็นเพราะอากาศเหมาะกับการปลูกพืช”

 

หยูเจียงหยิบจอบที่นางหลี่โยนทิ้งไว้บนพื้น เขาเริ่มลงมือขุดมันเทศอย่างชำนาญและตอบกลับไปว่า “ถ้าเป็นเพราะอากาศ งั้นเหตุใดผลผลิตของบ้านข้าถึงได้เหมือนกับปีที่แล้วเล่า ? เยี่ยงนั้นมันก็มิได้เป็นเพราะอากาศมิใช่รึ น้องสะใภ้ หากเจ้ามีวิธีลับเพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้เยอะ ๆ ก็บอกข้าด้วย อย่าปิดไว้ล่ะ ! ”

 

หยูเสี่ยวเหลียนรู้ว่าลุงสามชอบพูดเล่นไปทั่ว นางจึงเอ่ยว่า “ท่านลุงสาม ถ้าพวกเรามีวิธีลับอยู่จริง พวกเราจะไม่บอกครอบครัวของท่านลุงได้เยี่ยงไรล่ะเจ้าคะ ปุ๋ยที่เราใช้ปีนี้ข้ากับท่านแม่เป็นคนทำขึ้นมาเอง มันเหมือนกับปุ๋ยเมื่อปีที่แล้วอย่างแน่นอน แต่ข้าก็มิเข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดผลผลิตในปีนี้ถึงได้หัวใหญ่ถึงเพียงนี้ พวกเราเองก็มิรู้เช่นกันเจ้าค่ะ”

 

‘ท่านพี่ไม่รู้แต่ข้ารู้ ! ’ หยูเสี่ยวเฉาคิดอยู่ในใจ นางก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปและเอ่ยว่า “ท่านแม่เคยกล่าวมิใช่รึว่าการทำไร่นั้นขึ้นอยู่กับสวรรค์ บางทีสวรรค์คงเห็นใจครอบครัวพวกเรา เลยบันดาลให้ผลผลิตของเราสูงในปีนี้”

 

“เฮ้ ! ลุงมิคิดว่าเสี่ยวเฉาของเราจะเจริญรอยตามลุงสามเลยนะ เราสองคนชอบพูดเล่นกันว่า สวรรค์จะลำเอียงได้เยี่ยงไร ? แต่เทพเจ้าน่าจะเห็นว่าแม่ของเจ้ากับพี่น้องของเจ้าไม่เคยมีอาหารพอกินเลย มันก็สมเหตุสมผลอยู่หรอกนะถ้าสวรรค์จะเพิ่มอาหารให้กับพวกเจ้า”

 

หยูเจียงรู้สึกไม่พอใจภรรยาคนที่ 2 ของลุงรองมานานแล้ว แต่เขาเป็นเพียงเด็กรุ่นหลังและไม่ใช่คนของบ้านลุงรองจึงพูดอะไรมากมิได้ เขาทำได้เพียงแค่คอยช่วยสะใภ้รองที่น่าสงสารกับลูก ๆ ของนางทำงานหนักบางอย่างให้ได้มากเท่าที่จะช่วยได้เพียงเท่านั้น

 

“ครอบครัวของเจ้าน่าจะเก็บเกี่ยวได้อย่างน้อย 2,000 ชั่ง มากกว่าครอบครัวอื่นตั้งหลายเท่า ! ถ้าไร่ของข้าทำผลผลิตได้ครึ่งหนึ่งของที่นี่ ข้าจะหัวเราะให้สะใจไปเลย ! ”

 

  แม้ว่าคำพูดของเขาจะแสดงให้เห็นว่าเขาอิจฉา แต่มือของเขาก็ไม่หยุดทำงานเลย พอเป็นเรื่องใช้แรงงานเขาเป็นมืออาชีพมากเสียทีเดียว ความเร็วของเขาเร็วยิ่งกว่านางหลิว, เสี่ยวเหลียน และเสี่ยวเฉารวมกันเสียอีก

 

หยูต้าชานกับหยูไห่ตามมาช่วยในตอนบ่ายหลังกลับจากหาปลา พอมีผู้ช่วยเพิ่มรวมกับลุงสามที่เป็นแรงงานที่มีประสิทธิภาพแล้ว พวกเขาก็เก็บเกี่ยวมันเทศได้เสร็จก่อนฟ้ามืด มันเทศทั้งหมดถูกขุดขึ้นมาใส่รถเข็นและขนกลับบ้าน

 

เมื่อนางจางเห็นมันเทศที่กองเป็นภูเขาเลากาในลานบ้าน นางก็ได้ยิ้มกว้างออกมา ผลเก็บเกี่ยวมันเทศของปีนี้คาดว่าคงจะถึง 3,000 ชั่ง นี่มากกว่า 2 เท่าของปีที่แล้วเสียอีก

 

เมื่อเก็บเกี่ยวมาได้มากถึงเพียงนี้ นางจางจึงยอมผ่อนปรนและให้แบ่งมันเทศหัวเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งในห้องใต้ดินมานึ่งหรือต้มกินในฤดูหนาวได้ พวกเขาใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ในช่วงต้นฤดูหนาวตากมันเทศที่หั่นเป็นชิ้น ๆ จนแห้ง เมื่อต้องใช้ก็สามารถเอาไปป่นเป็นผงมันเทศได้

 

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพรของฮ่องเต้” เฒ่าหยูมองมันเทศกองโตอย่างพอใจ  ราวกับว่าเขาจะไม่มีวันกลัวสิ่งใดทั้งสิ้นตราบใดที่มีอาหารอยู่ในมือ “ตอนเป็นเด็กในช่วงข้าวยากหมากแพง ข้าต้องกินเปลือกไม้กับรากหญ้า เวลาที่หิวถึงขีดสุดข้าถึงขั้นต้องกินดิน ตอนนั้นมีคนมากมายที่ต้องอดตาย ! ”

 

เฒ่าหยูหยุดชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อว่า “หลังจากมันเทศถูกนำเข้ามา พวกเราก็เจอกับช่วงข้าวยากหมากแพงอีกครา มันเทศให้ผลผลิตสูงและสามารถเก็บไว้ได้นาน ทั้งมันเทศ, แป้งมันเทศ, รวมถึงเถาของมันเทศได้ช่วยให้เรารอดชีวิตจากช่วงภาวะข้าวยากหมากแพงใน 3 ปีนั้น มันช่วยให้เราไม่ต้องอดตายได้”

 

นางจางพยักหน้าและกล่าวเสริมว่า “ถูกต้อง มันเทศเป็นพืชที่ดีมากจริง ๆ แต่กินมันเทศกับแป้งมัน 2 ครั้งต่อวันจะทำให้ท้องอืด กินมากเกินไปก็จะทำให้อาหารไม่ย่อย นอกจากนี้มันเทศจะทำให้ผายลมและจุกเสียดแน่นท้องอีกด้วย คงดีนะถ้ามีพืชที่ให้ผลผลิตสูงและไม่ทำให้เสียดท้อง ! ”

 

“จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ! เจ้ามีของกินแล้วยังจะคิดโน่นคิดนี่อยู่อีกงั้นรึ ! ”  เฒ่าหยูมองหญิงชราแล้วหันไปมองพวกเขาที่หั่นมันเทศเป็นชิ้นบาง ๆ ต่อ

 

ที่บ้านมีมีดทำครัวไม่มากนัก ดังนั้นแม้แต่เคียวและใบจอบก็ถูกนำเอามาใช้ แต่เครื่องมือก็ยังไม่พอให้ทุกคนใช้อยู่ดี นอกจากนั้นความเร็วในการหั่นก็ยังต่ำ แล้วนี่พวกเขาจะหั่นมันเทศ 3,000 ชั่งเสร็จเมื่อใดกัน ?

 

หยูเสี่ยวเฉาจำได้ว่าเมื่อชาติก่อนตอนที่เพื่อนบ้านของนางหั่นมันเทศ เครื่องมือที่นางใช้คือใบมีดคมกริบที่ติดอยู่ตรงกลางแผ่นไม้ เวลาใช้ก็เอามันเทศมาขูดตรงใบมีด  เท่าเพียงเท่านี้มันก็จะถูกหั่นเป็นแผ่น ๆ ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อีกด้วย

 

หยูเสี่ยวเฉาคุยกับพ่อของนางอยู่สักพัก วันต่อมาเมื่อพ่อของนางกลับมาจากในเมือง เขาก็ได้ซื้อใบมีดอย่างที่นางขอกลับมาด้วยหลายอัน หลังจากทำอยู่ตลอดบ่าย ในที่สุดพ่อของนางก็สร้างมีดสำหรับหั่นมันเทศได้สำเร็จ

 

หยูเสี่ยวเฉาใช้เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้วมาทำเป็นถุงมือหนาหลายคู่ เมื่อมีถุงมือก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนบาดแล้ว

 

นางหลิวใส่ถุงมือและยกกระดานไม้ขึ้นมา จากนั้นนางก็หยิบมันเทศขึ้นมาหนึ่งลูกและวางมันบนใบมีด เมื่อขูดแรง ๆ มันเทศขนาดกลาง ๆ นั่นก็ถูกหั่นเป็นแผ่นหล่นลงด้านล่าง

 

นางจางเองก็ลองใช้เครื่องมือใหม่ด้วย และเอ่ยปากชมอย่างที่หาได้ยากว่า “เครื่องมือนี้ใช้สะดวกดีจริง ๆ นอกจากหั่นได้เร็วแล้ว ยังมิต้องใช้แรงมากอีกด้วย ดีมากจริง ๆ ! ”

 

นางหลี่ที่สนใจเครื่องมือใหม่เช่นกันก็กลายเป็นคนขยันขึ้นมาถึง 2 วันและหั่นมันเทศได้ถึง 20 - 30 ชั่งเลยทีเดียว

 

ขอบคุณเครื่องหั่นมันเทศที่ทำให้พวกเขาสามารถหั่นมันเทศ 3,000 ชั่งได้ในเวลาไม่ถึง 10 วัน เดิมทีจะทำให้เสร็จใน 1 เดือนยังยาก แต่ด้วยการร่วมแรงกันทั้งผู้หญิงและผู้ชายในบ้าน รวมกับเครื่องมือหั่น พวกเขาก็สามารถทำงานเสร็จได้อย่างรวดเร็ว

 

ในตอนที่พวกเขาหั่นมันเทศ ชาวบ้านสองสามคนได้แวะมาที่บ้านและเห็นเครื่องมือหั่นมันเทศของพวกเขา หลังจากถามหยูไห่เรื่องเครื่องมือนี้แล้ว พวกเขาก็ได้กลับไปที่ร้านตีเหล็กในเมืองและสั่งทำใบมีดเช่นเดียวกับหยูไห่ จากนั้นพวกเขาก็ขอให้หยูไห่ช่วยพวกเขาทำเครื่องหั่นมันเทศตอนที่เขาว่าง แล้วมีครอบครัวใดบ้างเล่าที่ไม่มีญาติในหมู่บ้านอื่น ๆ ? ไม่นานการใช้เครื่องหั่นมันเทศก็ได้แพร่จากหมู่บ้านตงชานไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ อย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า

 

ในอนาคตทุกครั้งที่เป็นช่วงเก็บเกี่ยวมันเทศ ผู้คนจะพูดถึงเรื่องตระกูลหยูจากหมู่บ้านตงชาน หยูเสี่ยวเฉาไม่คาดคิดเลยว่าของประดิษฐ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่นางขโมยแนวความคิดมาจากผู้อื่นจะสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลหยูให้ดังไปทั่วหมู่บ้านในแถบนั้นได้ นางเพียงแค่อยากจะทำเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับครอบครัวของนางเท่านั้น  และตอนนี้นางกำลังครุ่นคิดถึงอาหารอร่อยที่นางสามารถทำได้จากแป้งมันเทศนี้

 

หยูเสี่ยวเฉาเอาประสบการณ์ในชาติก่อนมารวมกับการทดลองทำในชาตินี้ สุดท้ายนางก็สามารถคิดสูตรอาหารที่ใช้เมล็ดธัญพืชหยาบเป็นวัตถุดิบพื้นฐานได้หลากหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น มีวิธีทำก๋วยเตี๋ยวมันเทศหลากหลายวิธี

 

 

วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวก็คือใช้ที่ขูดอันใหญ่ (ผู้แต่ง : หยูเสี่ยวเฉาขอให้พ่อของนางสั่งทำที่ขูดนี้กับช่างตีเหล็กตอนที่เขาไปซื้อใบมีด) ขูดแป้งมันเทศที่นวดเสร็จใหม่ ๆ เหนือหม้อต้มที่มีน้ำเดือด เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำด้วยวิธีนี้จะหนาเท่านิ้วเด็ก

 

แต่ถ้าจะกล่าวไป หากไม่มีเครื่องปรุงกับน้ำมัน ถึงจะเป็นก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ก็กินไม่อิ่มหรอก  กินไปได้เพียงไม่นานก็จะรู้สึกหิวขึ้นมาอีก

 

ก๋วยเตี๋ยวชนิดที่อร่อยที่สุดคือก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ขั้นแรกจะใช้ตะแกรงร่อนแป้ง  ต่อมาก็เอาน้ำร้อนผสมกับแป้งแล้วนวดแป้งให้เป็นลูกบอล จากนั้นก็ขูดแป้งที่นวดแล้วเหนือหม้อต้ม ปล่อยให้เส้นก๋วยเตี๋ยวหล่นลงในน้ำเดือด และต้องทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเส้นก๋วยเตี๋ยวจะละลายหายไปกับน้ำทั้งหมด

 

แต่การทำเส้นก๋วยเตี๋ยวต้องใช้แรงมาก นางสามารถทำได้แค่ตอนที่ท่านพ่อของนางอยู่บ้านเท่านั้น แม้ว่าหยูไห่จะมีแรงเยอะ แต่ทุกครั้งที่เขาทำเส้นก๋วยเตี๋ยว เหงื่อของเขาจะออกทั่วร่างกายจนเปียกชุ่ม ครอบครัวหยูมีคนอาศัยอยู่ 12 คน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้กิน หยูเสี่ยวเฉาต้องทำก๋วยเตี๋ยวหม้อใหญ่ทุกครั้ง ดังนั้นถึงแม้จะเป็นฤดูหนาว  แต่เสื้อผ้าของหยูไห่ก็ยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

แต่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่สุกแล้วจะใสเป็นเงาวาว เมื่อกินจะลื่นและเหนียวหนึบ พอรวมกับซุปหอย, กระเทียมสับ, และเครื่องเทศเล็กน้อย มันก็น่ากินมากเสียทีเดียว นี่เป็นตัวอย่างของเมนูก๋วยเตี๋ยวมันเทศ

 

อีกวิธีในการทำก๋วยเตี๋ยวก็คือตัดแป้งที่นวดเสร็จใหม่ ๆ ให้เป็นเส้น ๆ หลังจากทำเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ใส่มันลงไปในหม้อต้ม เมื่อสุกแล้วก็สามารถกินได้เลย ก๋วยเตี๋ยวที่ทำด้วยวิธีนี้จะอร่อยและหวาน หรือจะใส่น้ำซุปลงไปด้วยก็ได้ แต่สัมผัสของเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำด้วยวิธีนี้จะไม่เรียบลื่นเท่าอันที่ต้มในน้ำเดือดโดยตรงเลย

 

มีวิธีกินอีกวิธีซึ่งรวมเส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งบางและหนาเข้าด้วยกัน ขั้นแรกแป้งมันเทศจะถูกห่อด้วยแป้งสาลีเพื่อทำเส้นก๋วยเตี๋ยว หลังจากตัดแบ่งครึ่งแล้ว แป้งสีดำและสีขาวจะเห็นได้ชัดเจนเป็นอย่างมาก เมื่อกินแล้วเส้นก๋วยเตี๋ยวจะมีความเหนียวหนืดของแป้งสาลีและความเรียบลื่นนุ่มนวลของแป้งมันเทศ

 

ความชอบของผู้กิน อาหารประเภทนี้มีความละเอียดอ่อน แต่ก็มียายแก่ขี้เหนียวคอยเฝ้าอยู่ที่บ้าน ถ้าท่านอาสามมิกลับมาที่บ้านพร้อมกับครอบครัวของเขา ท่านย่าก็คงไม่ยอมให้นางแตะต้องแป้งสาลีเป็นอันขาด

 

นอกจากนี้ แป้งมันเทศยังใช้ทำขนมปัง, แพนเค้ก, หรือขนมนึ่งได้ อีกทั้งยังทำซาลาเปาผัก, เกี๊ยว, และอื่น ๆ ได้อีกด้วย ความสามารถในการปรุงอาหารจากแป้งมันเทศที่หลากหลายของเสี่ยวเฉานั้น ตระกูลหยูจึงแทบจะไม่ต้องไปซื้ออาหารในฤดูหนาวอีกเลย

รีวิวผู้อ่าน