px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 44 ฉายาเทพธิดาแห่งรถที่เป็นเรื่องหลอกลวง


ตอนที่ 44 ฉายาเทพธิดาแห่งรถที่เป็นเรื่องหลอกลวง

 

ฉินห้าวตงมองไปที่เขาพร้อมกับถามว่า “นายอยากจะเดิมพันกับฉัน? จะเดิมพันอะไร?”

 

“นายแน่ใจไม่ใช่เหรอว่าสาวน้อยคนนี้จะชนะอย่างแน่นอน? ถ้าเธอชนะแล้วล่ะก็ ฉันจะให้นายหนึ่งแสนหยวน “

 

“ถ้าแพ้หล่ะ?” ฉินห้าวตงมั่นใจว่า เจ้าหนุ่มนี่จะต้องไม่ให้เงินหนึ่งแสนหยวนอย่างง่ายๆ แน่นอน

 

เป็นไปตามที่เขาคิดไว้จริงๆ ตงฟางเหลียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าหากสาวน้อยคนนี้แพ้ นายจะต้องถอดเสื้อผ้าของนายออกให้หมด แล้ววิ่งไปรอบๆ ยอดเขาแห่งนี้!”

 

คิดไม่ถึงว่าเขาจะเสนอเดิมพันแบบนี้ออกมา ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างส่งเสียงหัวเราะ

 

“เป็นไง? กล้าเดิมพันไหม?”

 

ตงฟางเหลียงถามอย่างลำพองใจ นายต่อสู้เก่งไม่ใช่เหรอ? แล้วอย่างไรล่ะ? ในฐานะราชาทหาร เขามีความเชี่ยวชาญในทุกด้านและเขามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในทักษะการขับรถของเขา

 

ฉินห้าวตงเข้าใจว่าเจ้าหนุ่มคนนี้พยายามจะทำให้เขาขายหน้า จึงยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา “เดิมพันสิ แต่เงินเดิมพันมันน้อยเกินไป ถ้าพวกเราจะเล่นก็ต้องเล่นใหญ่หน่อยสิ”

 

เขาผายมือชี้ไปที่ Lamborghini Centenario ของเขาเอง “นี่คือรถของฉัน ถ้าหากนายชนะพวกเราได้ รถคันนี้เป็นของนาย แถมฉันยังจะวิ่งรอบยอดเขานี่อีกหนึ่งรอบด้วย”

 

ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลในฝูงชน ตอนแรกทุกคนต่างก็คิดว่ารถคันนี้เป็นของน่าหลันอู๋ชวง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นของเด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อผ้าธรรมดาตรงหน้านี้ แถมเขายังกล้าเดิมพันหนักด้วย แต่นี่เป็นรถราคา 40 กว่าล้านหยวนเชียวนะ พอจะพูดว่าเดิมพันก็เดิมพันอย่างหน้าตาเฉย นี่เขาไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?

 

ตงฟางเหลียงค่อยๆ ตกตะลึงเช่นกัน เดิมทีเขาแค่อยากจะทำเจ้าหนุ่มนี่ขายหน้า คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าเดิมพันใหญ่โตเช่นนี้

 

ฉินห้าวตงยังพูดต่ออีกว่า “นายน่าจะรู้ว่ารถคันนี้ราคาเท่าไหร่ ถ้านายแพ้ล่ะก็จ่ายฉันมา 40 ล้านหยวน จากนั้นก็วิ่งรอบยอดเขานี่หนึ่งรอบ เป็นไง กล้าเดิมพันไหมล่ะ

 

“เอ่อ....” ใบหน้าของตงฟางเหลียงเต็มไปด้วยความลำบากใจ , ใบหน้าของเขาแดงก่ำพลางพูดหน้าเจื่อน

 

ถึงแม้ว่าเขาจะเรียกตัวเองว่าราชาทหาร แต่อันที่จริงแล้วเขาเป็นเพียงทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมาจะเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง แต่เงินเก็บในมือมีไม่ถึง 40 ล้านหยวนหรอก

 

เขาเป็นคนเสนอการเดิมพันรอบนี้ขึ้นมา ผลสุดท้ายตนเองก็ไม่สามารถจ่ายเงินเดิมพันได้ มันน่าขายหน้าเสียจริง

 

ฉินห้าวตงวางแผนที่จะสร้างบริษัทรักษาความปลอดภัยซึ่งกำลังต้องการเงิน เดิมทีเขาคิดว่าจะฟาดกำไรมหาศาลจากตงฟางเหลียง แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าหนุ่มคนนี้จะปลิ้นปล้อนได้มากขนาดนี้ ที่จริงเป็นแค่คนจนคนหนึ่ง แต่เขาไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไป ดังนั้นจึงถามว่า “งั้นนายมีเงินเท่าไหร่?”

 

 “15 ล้านหยวน”

 

ตงฟางเหลียงบอก นี่คือเงินทั้งหมดที่เขามีแล้ว

 

ฉินห้าวตงจึงพูดขึ้น “งั้นก็ได้  15 ล้านหยวนก็ได้ แล้วก็เพิ่มรถของนายเข้ามาด้วย ฉันจะเดิมพันกับนายก็แล้วกัน”

 

ผู้คนที่เฝ้าดูความสนุกต่างทำตาโต ภายในใจต่างตะโกนขึ้นว่าเจ้าหนุ่มนี่โง่หรือเปล่า? เอาเงิน 40 ล้านหยวนมาพนันกับเงินที่ไม่ถึง 20 ล้านหยวนเนี่ยนะ ถ้าไม่ใช่มีความมั่นใจว่าตนเองจะชนะก็คงจิตมีปัญหาแล้วล่ะ

 

ตงฟางเหลียงฟังจบหัวใจก็หึกเหิมขึ้นมา การเดิมพันแบบนี้ถือว่าตัวเขาได้เปรียบกว่ามาก เขารู้ว่า Lamborghini รุ่นนี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ดังนั้นจึงรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว “งั้นก็ดี ฉันตกลงเดิมพันกับนาย!

 

พูดจบ เหมือนกับกลัวว่าฉินห้าวตงจะเปลี่ยนใจ เขาจึงรีบหันไปบอกกับลูกน้องตนเองว่า “ทำสัญญาเดิมพันทันที”

 

ลูกน้องของเขาต่างก็มีอุปกรณ์ที่ครบครัน ในไม่ช้าก็นำแล็ปท็อปกับเครื่องปริ้นออกมา ปริ้นสัญญาออกมาสองฉบับ เนื่องจากเขาไม่รู้ชื่อของน่าหลันอู๋ชวง ดังนั้นฝ่ายคู่สัญญาจึงใช้ Lamborghini Centenario กับ Porsche 911มาแทน

 

ตงฟางเหลียงยื่นหนังสือสัญญาไปตรงหน้าฉินห้าวตง “ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกเราก็เซ็นชื่อกันเถอะ”

 

ฉินห้าวตงอ่านหนังสือสัญญา หนังสือสัญญานับว่ามีมาตรฐานและก็ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรด้วย จึงเซ็นชื่อตนเองลงไป

 

น่าหลันอู๋ชวงเริ่มอ่านหนังสือสัญญา หลังจากนั้นจึงเริ่มเซ็นชื่อ

 

ริมฝีปากของตงฟางเหลียงปรากฏรอยยิ้มของความพึงพอใจออกมา ราวกับได้เห็นฉากชัยชนะของตนเอง หลังจากเซ็นชื่อเสร็จเขาแบ่งสัญญาเป็นสองชุด อีกชุดให้ฉินห้าวตง อีกชุดพับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อของตนเอง

 

ฉินห้าวตงชำเลืองมองตงฟางเหลียงแวบนึงแล้วหัวเราะกับตัวเองอย่างเงียบๆ มีเขาอยู่ที่นี่ทั้งคนยังไงก็ไม่แพ้หรอก

 

หลังจากจัดการหนังสือสัญญาเสร็จ ฉินห้าวตงกับน่าหลันอู๋ชวงขึ้นไปนั่งบน Lamborghini ส่วนตงฟางเหลียงเองก็พาผู้หญิงที่ตัวเองพามาขึ้นไปนั่งบน Porsche 911จากนั้นการแข่งขันจึงเริ่มต้นขึ้น

 

เมื่อรถสองคันอยู่ในแนวเส้นเดียวกัน ผู้ตัดสินจึงเริ่มยิงปืนในมือเขา ตงฟางเหลียงและน่าหลันอู๋ชวงทั้งสองฝ่ายต่างก็เหยียบคันเร่งจนมิด รถสองคันต่างพุ่งทะยานออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากสาย

 

ตอนที่เริ่มสตาร์ทรถ Lamborghini Centenario ก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพสมรรถนะเครื่องยนต์ของมัน ทิ้งห่าง Porsche 911ไปร้อยเมตร

 

แต่ว่าภูเขางูลูกนี้มีสมญานามว่าเป็นเขาที่มีความโค้งลาดชันเยอะมาก ทางตรงมีน้อย ถนนส่วนใหญ่เป็นทางโค้ง ตอนที่เข้าโค้งแรก ความเหนือชั้นทางฝีมือของตงฟางเหลียงก็แสดงออกมา Porsche 911 ดริฟต์เข้าโค้งไปอย่างสวยงาม แถมยังทิ้งห่าง Lamborghini อีกด้วย

 

ฉินห้าวตงจึงมองออกว่าแม้ฝีมือของน่าหลันอู๋ชวงจะดีกว่าคนทั่วไปมาก  แต่เมื่อเปรียบกับตงฟางเหลียงผู้เล่นแบบนี้ยังถือว่ามีความห่างชั้นอยู่ โดยเฉพาะตอนที่เข้าโค้ง จะเห็นได้ชัดมากถึงแม้ว่าประสิทธิภาพของเครื่องยนต์จะดีแต่พวกเขาก็ยังตามหลังอยู่

 

“นี่เจ๊ เธอแน่ใจนะว่าไม่ได้ใช้เงินซื้อฉายาเทพธิดาแห่งรถมาน่ะ?”

 

“ไม่ใช่แน่นอน!

 

เมื่อเห็นว่าเริ่มถูกตงฟางเหลียงทิ้งห่างออกป น่าหลันอู๋ชวงเองก็เริ่มหงุดหงิด เธอจึงรีบเร่งเครื่องตามหลังไปติดๆ

 

แต่ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยโค้ง รอบด้านก็เป็นหน้าผาสูงชัน ถ้าประมาทเพียงนิดเดียวได้ตกลงไปตายยกคันแน่ เธอจึงไม่กล้าที่จะเต็มที่มาก

 

 “แต่เธอบอกได้ไหมว่าฉายาของเธอได้มายังไง?”

 

ฉินห้าวตงชักจะรู้สึกว่าฉายาเทพธิดาแห่งรถของน่าหลันอู๋ชวงเป็นเรื่องหลอกลวง

 

 “เพราะว่าฉันชนะเทพเจ้าแห่งรถในการแข่งครั้งก่อน ดังนั้นทุกคนจึงเรียกฉันว่าเทพิดาแห่งรถ”

 

“เธอมั่นใจนะว่าเทพเจ้าแห่งรถคนนั้นไม่ใช่คนพิการ?”ฉินห้าวตงมองมอง Porsche 911ข้างหน้าที่ยิ่งนานไปยิ่งทิ้งระยะ

 

“คนพิการอะไร? เค้าหล่อมากเลยนะ ตอนหลังยังตามจีบฉันอยู่นาน แต่ฉันแค่ไม่ได้ตอบตกลง”

 

ในที่สุดฉินห้าวตงก็เข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าหนุ่มเทพเจ้าแห่งรถคนนั้นตั้งใจจะจีบน่าหลันอู๋ชวง ดังนั้นจึงได้แกล้งแพ้ ทำเอาซะแม่สาวน้อยคนนี้คิดว่าไม่มีใครมีฝีมือเทียบตนเองได้

 

คนเหล่านี้ต่างก็ยินดีที่จะมาภูเขางู ก็เพราะว่าที่นี่คือสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการแข่งรถ ผู้คนที่ยืนอยู่บนยอดภูเขางูต่างก็สามารถมองเห็นการแข่งขันที่อยู่ด้านล่างได้

 

ตอนแรกเหล่าแฟนคลับของน่าหลันอู๋ชวงต่างก็ให้กำลังใจเธอ แต่ผ่านไปไม่นานพวกเขาต่างก็เห็นว่าระยะห่างของรถทั้งสองคันต่างก็เยอะขึ้น พวกเขาต่างก็พากันหุบปากของตนเอง แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าทั้งสองคนอยู่คนละระดับกัน

 

 “ทั้งหมดต้องโทษนายคนเดียว ทำไมต้องให้ฉันมาเดิมพันอะไรแบบนี้ด้วย?”

 

น่าหลันอู่ซวงพยายามจัดการรถตรงหน้า ปากก็พลางโทษฉินห้าวตง

 

“นี่โทษฉันได้เหรอ? ก่อนหน้านี้เธอบอกฉันเองว่าต้องชนะอย่างแน่นอน” ฉินห้าวตงพูด

 

“อีกอย่างถ้าฉันแพ้ต้องเสียรถหรูคันนี้ไปเลยนะ มันคือการสูญเสียที่ใหญ่มาก เธอชดใช้ให้ไม่ไหวหรอก”

 

 “ไร้สาระ ถ้าฉันแพ้ก็ยังต้องใส่แค่ชุดชั้นในไปหาไอ้โรคจิตนั่นเลยนะ”

 

 “แล้วยังไงล่ะ ฉันยังต้องวิ่งล่อนจ้อนเหมือนกัน!”

 

ถึงแม้ว่าฉินห้าวตงจะทะเลาะต่อปากต่อคำกับน่าหลันอู๋ชวง แต่ภายในใจเขากลับผ่อนคลาย ราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจการแพ้หรือชนะเดิมพันเท่าไร

 

“นายกล้ายังโทษฉันอีกเหรอ ถ้าไม่ใช่นาย ฉันก็ไม่ตอบตกลง”

 

เมื่อนึกถึงว่าตนเองแพ้แล้วต้องสวมแค่ชุดชั้นใน น่าหลันอู๋ชวงก็หัวเสียไม่หยุด ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าฉินห้าวตงแล้วล่ะก็ เธอจะวางเดิมพันแค่ห้าแสนด้วยซ้ำ เงินแค่นี้ถือเป็นเงินเล็กน้อยมาก จะได้ไม่ต้องรู้สึกอับอายอย่างนี้

 

เมื่อเริ่มเห็นว่ารถเข้าสู่ช่วงล่างของภูเขา แสดงว่าการแข่งขันผ่านไปครึ่งทางแล้ว ตอนนี้พวกเขามองไม่เห็นแม้แต่ไฟท้ายรถของตงฟางเหลียง ขนาดตัวเธอเองยังสูญเสียความมั่นใจไป

 

 มองดูน่าหลันอู๋ชวงที่เกือบจะสิ้นหวัง ฉินห้าวตงก็หัวเราะอย่างสนุกออกมาพร้อมกับอกว่า “ฉันสามารถช่วยให้เธอชนะในการแข่งครั้งนี้ได้ แต่ของเดิมพันทั้งหมดทั้งของเธอและก็ไอ้หมอนั่นจะต้องยกให้ฉัน”

 

น่าหลันอู๋ชวงถลึงตาใส่ฉินห้าวตง “ถ้านายทำให้ฉันชนะได้ล่ะก็ ฉันจะเพิ่มเงินให้นายอีกห้าแสนเลย

 

ฉินห้าวตงมองไปที่หน้าอกของเธอพร้อมกับหัวเราะออกมาว่า “ที่ฉันพูดถึงไม่ใช่ของเดิมพันของไอ้หมอนั่น แต่หมายถึงของที่เธอใช้เดิมพันต่างหากล่ะ”

 

 “นาย...อย่าเพ้อเจ้อ!” น่าหลันอู๋ชวงคิดไม่ถึงว่าฉินห้าวตงเองก็ต้องการชุดชั้นในของเธอ

 

“เธอลองคิดดูสิ เธอจะต้องถอดชุดชั้นในให้หมอนั่นต่อหน้าสาธารณะชนน่าขายหน้าจะตายไป แต่ถ้าแอบๆ เอาให้ฉันรับรองว่าไม่มีใครรู้แน่นอน แบบนี้เธอจะได้คุ้มค่าไงล่ะ...”

 

ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังขับรถอยู่ น่าหลันอู๋ชวงคงถีบหน้าของฉินห้าวตงด้วยสองเท้าแน่นอน เธอคิดว่าบางทีเขาอาจจะเตรียมการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วก็ได้ ดังนั้นจึงให้ตนเองเดิมพันกับตงฟางเหลียง

 

“ถ้านายแพ้ก็ต้องวิ่งล่อนจ้อน แถมยังต้องเสียรถหนึ่งคัน ไม่เชื่อหรอกว่านายจะมีวิธี”

 

ฉินห้าวตงพูดอย่างไม่สนใจว่า “ฉันเป็นผู้ชาย เปลือยก็เปลือยสิ ไม่เห็นต้องสนใจอะไร แถมรถคันนี้เดิมทีก็เป็นรถที่คนตระกูลน่าหลันของเธอให้มา ถึงแพ้ฉันก็ไม่เสียใจ”

 

“นายนี่มัน...”

 

น่าหลันอู๋ชวงโกรธฉินห้าวตงจนกัดฟันแน่น

 

“ฉันบอกเธอให้นะ อีกพักหนึ่งก็จะถึงครึ่งทางแล้ว ถ้าถึงด้านล่างของภูเขาแล้วเธอยังไม่ตัดสินใจอีก ฉันก็ไม่มีวิธีแล้วนะ”

 

ระหว่างที่พูด  รถทั้งสองคันต่างก็ถึงบริเวณตีนเขาแล้ว Porsche 911 ของตงฟางเหลียงมาถึงจุดที่กำหนด จากนั้นก็ขับวนผ่านจุดที่กำหนดขับขึ้นเขาไป

 

น่าหลันอู๋ชวงเห็นว่าจะไม่ทันแล้วจึงกัดฟันตะโกนขึ้นมาว่า “ฉันตกลงกับนาย!

 

ฉินห้าวตงหัวเราะออกมาราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน

 

 “เตรียมตัวพร้อมแล้ว พวกเราก็สลับที่กันเถอะ”

 

พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปจับน่าหลันอู๋ชวง  ถึงแม้ว่าทั้งสองคนอยูในพื้นที่แคบ แต่ก็สามารถสลับที่กันได้อย่างรวดเร็ว

 

“นาย...ไอ้บ้าเอ้ย!  น่าหลันอู๋ชวงนั่งอยู่ที่เบาะนั่งข้างคนขับ แล้วหันมาจ้องฉินห้าวตงอย่างไม่พอใจ

 

หมอนี้อาศัยช่วงที่กำลังสลับที่แอบลวนลามเธอ ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลานั้นๆ แต่รู้สึกว่าหน้าอกและก้นของเธอจะร้อนเหมือนไฟเผา นำมาซึ่งความรู้สึกบางอย่าง

 

“แบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้นะ ก็มันยื่นออกมาเอง ส่วนอื่นมันจับไม่เหมาะมือ เธอก็เห็นว่าตรงนี้มันอันตรายมาก ถ้าเปลี่ยนช้าเพียงนิดเดียวก็จะทำให้เราตายได้” 

 

ฉินห้าวตงพูดอย่างมีเหตุมีผล

 

 “ถ้านายไม่สามารถชนะได้ นายได้เห็นดีกับฉันแน่” น่าหลันอู๋ชวงเรียกสติตัวเองกลับมา จากนั้นจึงรีบถามเขา “นายไม่ใช่เคยบอกว่าไม่เคยแข่งรถมาก่อนเหรอ?”

 

“ใช่ เดิมทีฉันก็ไม่เคยแข่งกับคนมาก่อน แต่ฉันคิดว่าของแบบนี้มันง่ายมากเลย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกของฉัน แต่รับรองว่าขับได้ดีกว่าเธอแน่นอน!

 

น่าหลันอู๋ชวงแทบบ้าแล้ว เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าไอ้ที่มันอยู่ในสมองของฉินห้าวตงคืออะไร ไม่เคยแข่งมาก่อนแต่กลับมาแข่งกับคนมีฝีมือสูงอย่างตงฟางเหลียง ดูเหมือนเธอจะเห็นภาพความพ่ายแพ้ลอยมาแต่ไกล

 

 “เธอนั่งดีๆ นะ ฉันจะเพิ่มความเร็วแล้ว!

 

ฉินห้าวตงพูดจบเท้าก็เหยียบไปที่คันเร่ง Lamborghini Centenario คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว  ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนพายุ

 

น่าหลันอู๋ชวงรีบคาดเข็ดขัดทันที ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะสำคัญ แต่ชีวิตของเธอสำคัญยิ่งกว่า

 

Lamborghini Centenario ขับรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ มันแสดงศักยภาพของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ ทันใดด้านหน้าปรากฏทางโค้งลาดชัน ส่วนด้านล่างคือเหวที่มองไม่เห็นก้น

 

น่าหลันอู๋ชวงจึงรีบตะโกนขึ้นมาว่า “ลดความเร็ว นายรีบลดความเร็วเดี๋ยวนี้”

 

แต่ทว่าความเร็วของฉินห้าวตงกลับไม่ลดลงซักนิด เขารขับถพุ่งตรงเข้าไปในโค้ง

 

จบตอน

รีวิวผู้อ่าน